นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการประชุมพรรคเพื่อเตรียมพร้อมในการรับมือการประชุมร่วม 2 สภา ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22-23 เม.ย.นี้ เพื่อหารือถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในช่วงเวลาที่ผ่านมาว่า เบื้องต้นจำนวนผู้อภิปรายของพรรคมีทั้งสิ้น 11 คน โดยการอภิปรายวันแรก จะเป็นการเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงการเยียวยา และช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ส่วนวันที่สองจะเป็นการพูดถึงทางออกของประเทศในวิกฤตการเมืองครั้งนี้
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคเป็นห่วงบรรยากาศในการประชุม จึงได้กำชับให้ ส.ส.ไม่ใช้การโต้ตอบ ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย เตรียมนำหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอ ที่บิดเบือนข้อเท็จจริงมาเปิดในที่ประชุมสภานั้น พรรคก็จะนำเสนอเหตุการณ์จริง เพื่อชี้แจง และเปรียบเทียบให้ประชาชนได้เห็นความแตกต่างว่า คลิปวีดีโอของใคร เป็นของจริง และมีการตัดต่อหรือไม่ เนื่องจากการอภิปรายดังกล่าวมีการถ่ายทอดสดตลอดเวลา โดยขณะนี้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายรัฐมนตรี ได้รวบรวมภาพ รวมถึงคลิปวีดีโอ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้หมดแล้ว
สำหรับการอภิปรายทั่วไปนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ชี้แจงหลัก ขณะที่ผู้อภิปรายช่วยเหลือในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เบื้องต้นประกอบด้วย นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.สัดส่วน นายเจะอามิง โต๊ะตาหยง ส.ส.นราธิวาส นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก เป็นต้น
**สุเทพยอมรับประเมินพลาด
แหล่งข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ในที่ประชุมส.ส.ของพรรค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอโทษ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยอมรับว่าตัวเองประเมินสถานการณ์ผิดพลาด และที่ไม่สามารถให้ ส.ส.เข้าไปมีส่วนร่วมในวอร์รูม ของรัฐบาลในช่วงนั้นได้ พร้อมกับชี้แจงแทน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ว่า ทำงานหนักมาตลอดช่วงที่สถานการณ์วิกฤติ ขณะที่นายสาทิตย์ ได้ทำเอกสารมาแจกกับที่ประชุมว่า ได้ทำอะไรไปบ้างเพื่อให้สมาชิกเกิดความเข้าใจ หลังจากที่โดนกดดันอย่างหนัก
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ทั้งเหตุการณ์ที่ถูกล้อมที่ บริเวณสี่แยกไฟแดงที่ พัทยา จนมาถึงการล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน และเหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทย โดยนายกฯ บอกว่า เป็นความพยายามหมายเอาชีวิต และบอกกับ ส.ส.ว่า ถ้ากลุ่มเสื้อแดงเอาตนลงจากรถได้ก็คงไม่โชคดีเหมือน นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกฯ ที่รอดตายมาได้ เพราะบุคคลเหล่านั้นประสงค์ต่อชีวิตนายกฯ และวิเคราะห์ว่า ตำรวจท้องที่ ที่พัทยา มีปัญหา และทุกสิ่งที่ทำให้ตกอยู่ในภาวะความไม่ปลอดภัยล้วนมาจากคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ในท้องที่ อีกทั้งการสกัดกลุ่มคนเสื้อแดง ด้วยการตั้งด่าน เพื่อไม่ให้บุกเข้าล้มการประชุม ก็ไม่ได้ผล โดยตนได้ประเมินกับฝ่ายความมั่นคงไว้ก่อนหน้านี้ว่า ควรเอาตำรวจไปดูแลที่พักของผู้นำอาเซียน แต่ฝ่ายความมั่นคงบอกว่า จะไม่มีการปิดล้อม แต่ในที่สุดก็มีการปิดล้อมจนได้
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงผลการประชุม ส.ส.ว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้แสดงความเป็นห่วงว่า อาจมีการสร้างหลักฐานเท็จ บิดเบือนความจริงกรณีผู้สูญหาย บาดเจ็บและเสียชีวิต มาในระหว่างการประชุมร่วม 2 สภา ซึ่งเท่าที่ตนตรวจสอบข้อมูลวีดีทัศน์ ที่ทางกลุ่มคนเสื้อแดงนำมาฉายที่โรงแรมรัตนโกสินทร์นั้น ปรากฏว่า สื่อต่างประเทศ ทั้งสำนักข่าว โทรทัศน์ และสิ่งพิมพ์ได้ปฏิเสธการเป็นเจ้าของภาพดังกล่าว ดังนั้นที่คนเสื้อแดงอ้างว่าได้จากสื่อต่างประเทศ ว่ามีการรายงานผู้เสียชีวิต จึงไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย โดยที่ประชุมยังเห็นตรงกันว่า วีดีทัศน์ดังกล่าว ยังผ่านการตัดต่อเพื่อให้เกิดความสับสน เข้าใจผิด สร้างความเกลียดชัง การทำงานของทหาร และรัฐบาล อันจะนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ใช้การเคลื่อนไหวผ่านเวทีต่างประเทศ สร้างความไม่สงบภายในประเทศ โดยเห็นว่า บทบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณถูกจำกัดลงอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ขอบคุณผู้ที่เดินทางไปขัดขวางการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและคู่เจรจา ทำให้ผู้นำทั้ง 15 ประเทศ เห็นเจตนาที่แท้จริงของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลทุกคน ใช้เวทีสภาในลดปัญหาความขัดแย้ง และแก้วิกฤตทางการเมืองที่เพิ่งเกิดขึ้น
**แฉ 4 แผนชั่วพรรคเพื่อแม้ว
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายสุเทพ ได้วิเคราะห์สถานการณ์ ว่าขณะนี้ พรรคเพื่อไทยกำลังมีความพยายามดำเนินการ 4 อย่าง คือ 1. ขยายแนวร่วมให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้นในสังคมไทย ด้วยการให้ข่าวว่ามีคนตายจำนวนมากในเหตุการณ์สลายการชุมนุมและใช้สองมาตรฐานในการปราบม็อบ เพื่อให้เกิดความเกลียดชังในสังคม และ 2. พยายามทำให้เกิดความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล และขอให้ระวังว่า จะมีการใช้เงินซื้อพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้เกิดความขัดแย้งและจะทำให้รัฐบาลไม่สามารถอยู่ได้ จนต้องล้มไปในที่สุด
3. ใช้มาตรการกดดันนายอภิสิทธิ์ ให้ลาออก และหาก 3 ข้อนี้ ไม่ได้ผล ก็จะดำเนินการในข้อที่ 4. คือ หมายเอาชีวิตนายกรัฐมนตรี
**วิปรัฐบาลถกแผนรับมือ
นายชินวรณ์ บุญเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) แถลงผลการหารือภายในวิปรัฐบาลว่า จากการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมาวิปรัฐบาลเห็นว่า รัฐบาลตัดสินใจแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างถูกต้อง เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น มีการดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน และระมัดระวังไม่ให้เกิดความเสียหาย ทำให้ไม่มีผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะเป็นมาตรฐานที่จะนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาการชุมนุมต่อไปในอนาคต
นายชินวรณ์ กล่าวว่า สำหรับการประชุมร่วมสองสภานั้น ทางวิปรัฐบาลกำหนดไว้ 2 วัน คือ วันที่ 22-23 เม.ย. เวลา 10.00-22.00 น.รวม 24 ชั่วโมง โดยแบ่งเวลาให้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีได้ชี้แจงตอบข้อสงสัยเพื่อนสมาชิก 4 ชั่วโมง หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน 2 ชั่วโมง ส่วนเวลาที่เหลือจะแบ่งตามสัดส่วนของจำนวน ส.ส. และส.ว. นอกจากนี้ทางวิปรัฐบาลจะเสนอให้มีการถ่ายทอดสด การอภิปรายครั้งนี้ให้ประชาชนได้รับทราบอีกด้วย
นายชินวรณ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ทางวิปรัฐบาล เห็นว่าหลังการอภิปรายครั้งนี้ น่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 3 ชุด เพื่อดำเนิการขับเคลื่อนแก้ไขสถานการณ์ ตลอดจนการดำเนินการปฏิรูปการเมือง เพื่อแก้ปัญหาความแตกแยกของคนในชาติ โดยคณะกรรมการชุดที่ 1 คือ คณะกรรมการประมวลเหตุการณ์ก่อความไม่สงบในการประกาศ พรก.ฉุกเฉิน 2. คณะกรรมที่ร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของประเทศในระยะยาวและระยะสั้น 3. คณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อสถานการณ์ทางการเมือง
เมื่อถามว่า กรณีที่พรรคฝ่ายค้านเตรียมหลักฐานการสลายการชุมนุม และมีผู้เสียชีวิตมาแฉกลางสภา ทางวิปรัฐบาลได้มีการประเมินอย่างไรนายชินวรณ์ กล่าวว่า วันนี้ได้มีการชี้แจงอย่างชัดเจนว่า ยินดีที่ฝ่ายค้านจะนำหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นคลิปวิดีโอ หรือ ภาพถ่าย หากมีผู้ชุมนุมเสียชีวิต จากการดำเนินการของเจ้าหน้าที่จริง ก็มีชี้แจงแถลงในสภาเพราะฝ่ายรัฐบาลสามารถชี้แจงได้ แต่ถ้ามีข้อมูลจริงรัฐบาลก็พร้อมที่จะเยียวยา อย่างไรก็ตามฝ่ายค้านก็ต้องรับผิดชอบข้อมูลที่นำมาเพราะอาจถูกฟ้องร้องจากบุคคลภายนอกได้
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคเป็นห่วงบรรยากาศในการประชุม จึงได้กำชับให้ ส.ส.ไม่ใช้การโต้ตอบ ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย เตรียมนำหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอ ที่บิดเบือนข้อเท็จจริงมาเปิดในที่ประชุมสภานั้น พรรคก็จะนำเสนอเหตุการณ์จริง เพื่อชี้แจง และเปรียบเทียบให้ประชาชนได้เห็นความแตกต่างว่า คลิปวีดีโอของใคร เป็นของจริง และมีการตัดต่อหรือไม่ เนื่องจากการอภิปรายดังกล่าวมีการถ่ายทอดสดตลอดเวลา โดยขณะนี้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายรัฐมนตรี ได้รวบรวมภาพ รวมถึงคลิปวีดีโอ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้หมดแล้ว
สำหรับการอภิปรายทั่วไปนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ชี้แจงหลัก ขณะที่ผู้อภิปรายช่วยเหลือในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เบื้องต้นประกอบด้วย นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.สัดส่วน นายเจะอามิง โต๊ะตาหยง ส.ส.นราธิวาส นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก เป็นต้น
**สุเทพยอมรับประเมินพลาด
แหล่งข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ในที่ประชุมส.ส.ของพรรค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอโทษ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยอมรับว่าตัวเองประเมินสถานการณ์ผิดพลาด และที่ไม่สามารถให้ ส.ส.เข้าไปมีส่วนร่วมในวอร์รูม ของรัฐบาลในช่วงนั้นได้ พร้อมกับชี้แจงแทน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ว่า ทำงานหนักมาตลอดช่วงที่สถานการณ์วิกฤติ ขณะที่นายสาทิตย์ ได้ทำเอกสารมาแจกกับที่ประชุมว่า ได้ทำอะไรไปบ้างเพื่อให้สมาชิกเกิดความเข้าใจ หลังจากที่โดนกดดันอย่างหนัก
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ทั้งเหตุการณ์ที่ถูกล้อมที่ บริเวณสี่แยกไฟแดงที่ พัทยา จนมาถึงการล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน และเหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทย โดยนายกฯ บอกว่า เป็นความพยายามหมายเอาชีวิต และบอกกับ ส.ส.ว่า ถ้ากลุ่มเสื้อแดงเอาตนลงจากรถได้ก็คงไม่โชคดีเหมือน นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกฯ ที่รอดตายมาได้ เพราะบุคคลเหล่านั้นประสงค์ต่อชีวิตนายกฯ และวิเคราะห์ว่า ตำรวจท้องที่ ที่พัทยา มีปัญหา และทุกสิ่งที่ทำให้ตกอยู่ในภาวะความไม่ปลอดภัยล้วนมาจากคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ในท้องที่ อีกทั้งการสกัดกลุ่มคนเสื้อแดง ด้วยการตั้งด่าน เพื่อไม่ให้บุกเข้าล้มการประชุม ก็ไม่ได้ผล โดยตนได้ประเมินกับฝ่ายความมั่นคงไว้ก่อนหน้านี้ว่า ควรเอาตำรวจไปดูแลที่พักของผู้นำอาเซียน แต่ฝ่ายความมั่นคงบอกว่า จะไม่มีการปิดล้อม แต่ในที่สุดก็มีการปิดล้อมจนได้
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงผลการประชุม ส.ส.ว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้แสดงความเป็นห่วงว่า อาจมีการสร้างหลักฐานเท็จ บิดเบือนความจริงกรณีผู้สูญหาย บาดเจ็บและเสียชีวิต มาในระหว่างการประชุมร่วม 2 สภา ซึ่งเท่าที่ตนตรวจสอบข้อมูลวีดีทัศน์ ที่ทางกลุ่มคนเสื้อแดงนำมาฉายที่โรงแรมรัตนโกสินทร์นั้น ปรากฏว่า สื่อต่างประเทศ ทั้งสำนักข่าว โทรทัศน์ และสิ่งพิมพ์ได้ปฏิเสธการเป็นเจ้าของภาพดังกล่าว ดังนั้นที่คนเสื้อแดงอ้างว่าได้จากสื่อต่างประเทศ ว่ามีการรายงานผู้เสียชีวิต จึงไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย โดยที่ประชุมยังเห็นตรงกันว่า วีดีทัศน์ดังกล่าว ยังผ่านการตัดต่อเพื่อให้เกิดความสับสน เข้าใจผิด สร้างความเกลียดชัง การทำงานของทหาร และรัฐบาล อันจะนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ใช้การเคลื่อนไหวผ่านเวทีต่างประเทศ สร้างความไม่สงบภายในประเทศ โดยเห็นว่า บทบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณถูกจำกัดลงอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ขอบคุณผู้ที่เดินทางไปขัดขวางการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและคู่เจรจา ทำให้ผู้นำทั้ง 15 ประเทศ เห็นเจตนาที่แท้จริงของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลทุกคน ใช้เวทีสภาในลดปัญหาความขัดแย้ง และแก้วิกฤตทางการเมืองที่เพิ่งเกิดขึ้น
**แฉ 4 แผนชั่วพรรคเพื่อแม้ว
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายสุเทพ ได้วิเคราะห์สถานการณ์ ว่าขณะนี้ พรรคเพื่อไทยกำลังมีความพยายามดำเนินการ 4 อย่าง คือ 1. ขยายแนวร่วมให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้นในสังคมไทย ด้วยการให้ข่าวว่ามีคนตายจำนวนมากในเหตุการณ์สลายการชุมนุมและใช้สองมาตรฐานในการปราบม็อบ เพื่อให้เกิดความเกลียดชังในสังคม และ 2. พยายามทำให้เกิดความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล และขอให้ระวังว่า จะมีการใช้เงินซื้อพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้เกิดความขัดแย้งและจะทำให้รัฐบาลไม่สามารถอยู่ได้ จนต้องล้มไปในที่สุด
3. ใช้มาตรการกดดันนายอภิสิทธิ์ ให้ลาออก และหาก 3 ข้อนี้ ไม่ได้ผล ก็จะดำเนินการในข้อที่ 4. คือ หมายเอาชีวิตนายกรัฐมนตรี
**วิปรัฐบาลถกแผนรับมือ
นายชินวรณ์ บุญเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) แถลงผลการหารือภายในวิปรัฐบาลว่า จากการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมาวิปรัฐบาลเห็นว่า รัฐบาลตัดสินใจแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างถูกต้อง เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น มีการดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน และระมัดระวังไม่ให้เกิดความเสียหาย ทำให้ไม่มีผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะเป็นมาตรฐานที่จะนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาการชุมนุมต่อไปในอนาคต
นายชินวรณ์ กล่าวว่า สำหรับการประชุมร่วมสองสภานั้น ทางวิปรัฐบาลกำหนดไว้ 2 วัน คือ วันที่ 22-23 เม.ย. เวลา 10.00-22.00 น.รวม 24 ชั่วโมง โดยแบ่งเวลาให้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีได้ชี้แจงตอบข้อสงสัยเพื่อนสมาชิก 4 ชั่วโมง หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน 2 ชั่วโมง ส่วนเวลาที่เหลือจะแบ่งตามสัดส่วนของจำนวน ส.ส. และส.ว. นอกจากนี้ทางวิปรัฐบาลจะเสนอให้มีการถ่ายทอดสด การอภิปรายครั้งนี้ให้ประชาชนได้รับทราบอีกด้วย
นายชินวรณ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ทางวิปรัฐบาล เห็นว่าหลังการอภิปรายครั้งนี้ น่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 3 ชุด เพื่อดำเนิการขับเคลื่อนแก้ไขสถานการณ์ ตลอดจนการดำเนินการปฏิรูปการเมือง เพื่อแก้ปัญหาความแตกแยกของคนในชาติ โดยคณะกรรมการชุดที่ 1 คือ คณะกรรมการประมวลเหตุการณ์ก่อความไม่สงบในการประกาศ พรก.ฉุกเฉิน 2. คณะกรรมที่ร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของประเทศในระยะยาวและระยะสั้น 3. คณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อสถานการณ์ทางการเมือง
เมื่อถามว่า กรณีที่พรรคฝ่ายค้านเตรียมหลักฐานการสลายการชุมนุม และมีผู้เสียชีวิตมาแฉกลางสภา ทางวิปรัฐบาลได้มีการประเมินอย่างไรนายชินวรณ์ กล่าวว่า วันนี้ได้มีการชี้แจงอย่างชัดเจนว่า ยินดีที่ฝ่ายค้านจะนำหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นคลิปวิดีโอ หรือ ภาพถ่าย หากมีผู้ชุมนุมเสียชีวิต จากการดำเนินการของเจ้าหน้าที่จริง ก็มีชี้แจงแถลงในสภาเพราะฝ่ายรัฐบาลสามารถชี้แจงได้ แต่ถ้ามีข้อมูลจริงรัฐบาลก็พร้อมที่จะเยียวยา อย่างไรก็ตามฝ่ายค้านก็ต้องรับผิดชอบข้อมูลที่นำมาเพราะอาจถูกฟ้องร้องจากบุคคลภายนอกได้