“อภิสิทธิ์” ปูดกลางวง ส.ส.พรรค เชื่อเหตุถูกรุมสกรัม ต้นตอตำรวจมีปัญหา เผยทำตามคำแนะนำจนเจอดี ขณะที่ “สุเทพ” ขอโทษพรรค ประเมินสถานการณ์พลาด ปล่อยม็อบเสื้อแดงรุมทุบรถนายกฯ ถึง 2 ครั้ง พร้อมป้อง “สาทิตย์” ทำงานเต็มที่แล้ว ขณะที่เจ้าตัวแจ้นทำเอกสารแจกเพื่อน ส.ส. ย้ำผลงานทำอะไรบ้าง เชื่อเหตุลอบสังหาร “สนธิ” แผนตัดไม้ข่มนามประกาศศักดาเกมป่วนใต้ดิน เผยไม่ระแวง “เนวิน” อยู่เบื้องหลัง
วันนี้ (20 เม.ย.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงผลการประชุม ส.ส.ว่า นายสุเทพได้แสดงความเป็นห่วงว่า อาจมีการสร้างหลักฐานเท็จบิดเบือนความจริงกรณีผู้สูญหาย บาดเจ็บและเสียชีวิต มาในระหว่างการประชุมร่วม 2 สภา ซึ่งเท่าที่ตนตรวจสอบข้อมูลวิดีทัศน์ที่ทางกลุ่มคนเสื้อแดงนำมาฉายที่โรงแรมรัตนโกสินทร์นั้น ปรากฏว่าสื่อต่างประเทศทั้งสำนักข่าว โทรทัศน์และสิ่งพิมพ์ได้ปฏิเสธการเป็นเจ้าของภาพดังกล่าว ดังนั้น ที่คนเสื้อแดงอ้างว่าได้จากสื่อต่างประเทศว่ามีการรายงานผู้เสียชีวิตจึงไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย โดยที่ประชุมยังเห็นตรงกันว่าวิดีทัศน์ดังกล่าวยังผ่านการตัดต่อเพื่อให้เกิดความสับสน เข้าใจผิด สร้างความเกลียดชังการทำงานของทหารและรัฐบาล อันจะนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ใช้การเคลื่อนไหวผ่านเวทีต่างประเทศสร้างความไม่สงบภายในประเทศ โดยเห็นว่าบทบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณถูกจำกัดลงอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ขอบคุณผู้ที่เดินทางไปขัดขวางการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและคู่เจรจา ทำให้ผู้นำทั้ง 15 ประเทศ เห็นเจตนาที่แท้จริงของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลทุกคน ใช้เวทีสภาในลดปัญหาความขัดแย้งและแก้วิกฤตทางการเมืองที่เพิ่งเกิดขึ้น
ส่วนแนวคิดเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญของนายกรัฐมนตรีนั้น ซึ่งให้เวลาพรรคร่วมรัฐบาล 2 สัปดาห์ไปหาแนวทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.สัดส่วนของพรรค เป็นประธานคณะทำงานพิจารณาประเด็นปัญหาการเมืองและแนวทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพได้วิเคราะห์ว่าพรรคเพื่อไทยกำลังทำอะไรกับสังคมไทย โดยเห็นว่ามีความพยายามดำเนินการ 4 อย่าง คือ 1.ขยายแนวร่วมให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้นในสังคมไทย ด้วยการให้ข่าวว่ามีคนตายจำนวนมากในเหตุการณ์สลายการชุมนุมและใช้สองมาตรฐานในการปราบม็อบเพื่อให้เกิดความเกลียดชังในสังคม และ 2.พยายามทำให้เกิดความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล และขอให้ระวังว่าจะมีการใช้เงินซื้อพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้เกิดความขัดแย้งและจะทำให้รัฐบาลไม่สามารถอยู่ได้ จนต้องล้มไปในที่สุด
นพ.วรงค์ กล่าวว่า 3.ใช้มาตรการกดดันนายอภิสิทธิ์ให้ลาออก และหาก 3 ข้อนี้ไม่ได้ผลก็จะดำเนินการในข้อที่ 4 คือ หมายเอาชีวิตนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ประชุมได้พูดคุยกันถึงแนวทางการให้ความเป็นธรรมกับประชาชนโดยนายกฯ และรองนายกฯ ยืนยันว่าประชาชนมีสิทธิที่จะชุมนุม จะไม่มีการจับกุมผู้บริสุทธิ์ ฉะนั้นการที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และ แกนนำ นปช.ระบุว่าจะมีการจับผู้ชุมนุมอีก 3 แสนคนจึงเป็นไปไม่ได้ แต่รัฐบาลยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับคนที่ทำผิดกฎหมายอาญา และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พูดถึงทางออกที่จะเกิดขึ้น โดยรัฐบาลจะใช้เวทีการประชุมร่วมรัฐสภา ในการรับฟังความเห็นและหาทางออก และจะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญบางส่วนซึ่งเป็นความผิดทางการเมือง ไม่เกี่ยวข้องกับความผิดทางอาญา
แหล่งข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์แจ้งว่า ในที่ประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอโทษถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยอมรับว่าตัวเองประเมินสถานการณ์ที่ผิดพลาด และที่ไม่สามารถให้ ส.ส.เข้าไปมีส่วนร่วมในวอร์รูมของรัฐบาลในช่วงนั้นได้ พร้อมกับชี้แจงแทนนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าได้ทำงานหนักมาตลอดช่วงที่สถานการณ์วิกฤต ขณะที่นายสาทิตย์ได้ทำเอกสารมาแจกต่อที่ประชุมว่าได้ทำอะไรไปบ้าง เพื่อให้สมาชิกเกิดความเข้าใจหลังจากที่โดนกดดันอย่างหนัก
นอกจากนี้ นายกฯ ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ทั้งเหตุการณ์ที่ถูกล้อมที่พัทยา บริเวณสี่แยกไฟแดงที่พัทยา จนมาถึงการล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน และเหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทย โดยนายกฯ ถึงกับบอกว่าเป็นความพยายามหมายเอาชีวิต และบอกกับ ส.ส.ว่า ถ้ากลุ่มเสื้อแดงเอาตนลงจากรถได้ก็คงไม่โชคดีเหมือนนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกฯ ที่รอดตายมาได้ เพราะบุคคลเหล่านั้นประสงค์ต่อชีวิตนายกฯ และวิเคราะห์ว่าตำรวจท้องที่ที่พัทยามีปัญหา และทุกสิ่งที่ทำให้ตกอยู่ในภาวะความไม่ปลอดภัยล้วนมาจากคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ในท้องที่ อีกทั้งการสกัดกลุ่มคนเสื้อแดงด้วยการตั้งด่านเพื่อไม่ให้บุกเข้าล้มการประชุมก็ไม่ได้ผล โดยตนได้ประเมินกับฝ่ายความมั่นคงไว้ก่อนหน้านี้ว่าควรเอาตำรวจไปดูแลที่พักของผู้นำอาเซียน แต่ฝ่ายความมั่นคงบอกว่าจะไม่มีการปิดล้อม แต่ในที่สุดก็มีการปิดล้อมจนได้
แหล่งข่าวในพรรคประชาธิปัตย์เผยว่า กรณีเหตุการณ์ลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่น่าจะเป็นการกระทำของกลุ่มเสื้อน้ำเงินอย่างที่แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ระบุ และยังมั่นใจว่าพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน จะไม่หักหลังพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายสุเทพบอกกับสมาชิกว่าจะต้องเชื่อใจพรรคร่วมรัฐบาลเพราะยังต้องทำงานร่วมกันต่อไป ทั้งนี้ มองว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นส่วน 1 ใน 4 แผนการล้มรัฐบาล โดยต้องการส่งสัญญาณให้เห็นว่าแผนใต้ดินที่ประกาศไว้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และต้องการแสดงศักดาถึงรัฐบาลโดยตรง เพื่อกดดันว่าขนาดนายสนธิก็ยังเจอแบบนี้ รายต่อไปก็อาจจะถึงตัวนายกฯ ได้เช่นกัน