xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนชี้ยามนี้ต้องรักษาตัวรอด! เคเอ เพาเวอร์เจาะลูกค้าระดับบนมอนิเตอร์ครึ่งปีหลังเหตุไม่น่าไว้ใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- “ เคเอ เพาเวอร์ ” เดินหน้าเจาะฐานลูกค้าระดับบน ย้ำใช้นโยบายประชิดตัว หวังตอบโจทก์-ทำความเข้าใจลูกค้ามากขึ้น ขณะที่ไตรมาสแรกยอดขาย 20-25% ยันภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี!

ในภาวะที่เศรษฐกิจของไทยยังไม่มีสัญญาณของการฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่เป็นปัจจัยลบอยู่ ทั้งเรื่องของเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีผลต่อเนื่องกับคู่ค้าในต่างประเทศ ปัญหาหนี้เสียในภาคการเงินในแต่ละประเทศ มูลค่าตลาดหุ้นทั่วโลกที่ลดลง มีผลต่อความมั่งคั่งของลูกค้า ในส่วนของไทย รัฐบาลพยายามที่จะส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ ผ่านมาตรการกระตุ้นหลายระลอก ทั้งมาตรการขยายเวลาภาษีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การออกเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท การผ่านพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)กู้เงินล็อตแรก 4 แสนล้านบาท การเร่งรัดให้ธนาคารของรัฐและธนาคารเฉพาะกิจ สนับสนุนสินเชื่อให้แก่ภาคธุรกิจที่ประสบปัญหาทางด้านสภาพคล่อง เป็นต้น

แต่ดูเหมือนว่า แนวโน้มของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะยังไม่อยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งกระทรวงการคลังก็ออกมาประเมินว่า มีแนวโน้มติดลบ 3% โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ระหว่างลบ 3.5 ถึงลบ 2.5% ต่อปี จากประมาณการเดิมเมื่อเดือน มี.ค.52 ติดลบ 2.5% ต่อปี เท่ากับเพิ่มขึ้น 0.5% เนื่องจากการส่งออกสินค้าและบริการหดตัวลงมาก ตามการหดตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักของไทย และการท่องเที่ยวที่ลดลงจากปัญหาการเมืองและความเสี่ยงจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทำให้ปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการในปีนี้จะหดตัวลงมาก

เอกชนท่องคาถา
"รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี"

นายกิตติ อภิชนบัญชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคเอ เพาเวอร์ จำกัด ผู้นำเข้าพื้นไม้ลามิเนตและอุปกรณ์เสริมภายใต้แบรนด์ “ควิกสเต็ป” เปิดเผยว่าถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า ยอดขายของเรานั้น ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ โดยช่วง 3 เดือนแรก มียอดขายประมาณ 20-25% ของยอดขายทั้งหมด ขณะที่เป้าหมายทั้งปีของบริษัทฯ นั้น ยังคงตั้งเป้าหมายไว้เท่ากับที่ผ่านมาคือ 100 ล้านบาท สาเหตุที่ตั้งเป้าไว้เท่าเดิมนั้น เนื่องจากเรามองว่า สถานการณ์ปัจจุบัน ยังไม่ค่อยเอื้อต่อธุรกิจมากนัก ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่นิ่ง ทำให้เราต้องมีความพร้อมในการรับมือกับภาวะดังกล่าวนี้เช่นกัน

“ ต้องติดตามสถานการณ์ทั้งภายนอกและภายในประเทศของเราอย่างใกล้ชิด ซึ่งนโยบายของบริษัทจะไม่มีการขยายการลงทุนแบบเร่งด่วน แต่เราจะค่อยเป็น ค่อยไป เนื่องจากปัญหาต่างๆ มันยังไม่ส่งผลดีต่อธุรกิจของเรามากนัก ในส่วนของสถานการณ์ตลาดครึ่งปีหลังนี้ มองว่า คงต้องเฝ้าติดตามกันอย่างใกล้ชิด เนื่องจากภาวะต่างๆ ยังไม่นิ่ง และถือว่า เป็นงานท้าทายมาก หากรักษาตัวเองให้อยู่ธุรกิจนี้ได้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วกับสถานการณ์อย่างนี้”

นายกิตติกล่าวว่า ตลอดช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ทำการสำรวจตลาดและพฤติกรรมของลูกค้าซึ่งให้การตอบรับเป็นอย่างดี ขณะนี้ลูกค้าเริ่มมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น และเป็นการสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทฯ ที่ต้องการให้ผลิตภัณฑ์พื้นไม้สำเร็จรูปคุณภาพ ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้นเช่นกัน

  ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าระดับบนที่สร้างบ้านและคัดสรรวัสดุเข้ามาใช้สร้างบ้านเอง เป็นกลุ่มที่มีการศึกษาและมีรายได้สูง ซึ่งกลุ่มดังกล่าวนี้ ได้เลือกสินค้าของบริษัทฯเป็นจำนวนมาก ที่ผ่านมาก็สามารถปิดการขายได้ทั้งหมด ปัจจุบันนี้มีลูกค้ามากกว่า 50 ราย ที่เข้ามาใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา

  “ต้องบอกว่า ช่วงเวลา 3-4 เดือนที่ผ่านมา เราพยายามทำความเข้าใจกับลูกค้าเกี่ยวกับพื้นไม้ลามิเนตมากขึ้น รวมไปถึงขณะนี้ตลาดต่างจังหวัดและปริมณฑล ก็เข้ามาสนใจและมองหาควิกสเต็ปมากขึ้น เนื่องจากสามารถตอบโจทก์ได้ดี ในฐานะที่เป็นพื้นไม้คุณภาพและมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ อย่างที่พื้นไม้จริงหรือพื้นไม้ทั่วๆไปไม่สามารถทำได้ และตอนนี้ก็มีลูกค้าโทรเข้ามาเรียกใช้บริการควิกสเต็ปมากขึ้นด้วย” นายกิตติ กล่าว

นายกิตติกล่าวว่า ในส่วนของกลยุทธ์ทางการตลาดนั้น ขณะนี้ได้ปรับกลยุทธ์ให้มีความกระชับและคล่องแคล่ว ( แอคทีฟ ) มากยิ่งขึ้น พร้อมปรับความคล่องตัว ขยายไปสู่ตลาดใหม่ๆ ด้วยวิธีการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคโดยตรง ชี้ถึงข้อดี ข้อแตกต่างระหว่างพื้นไม้ควิกสเต็ปกับพื้นไม้ทั่วๆไป ซึ่งยอมรับว่า บริษัทฯ ได้มีการทำตลาดดังกล่าวนี้เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยเดินหน้าเจาะกลุ่มลูกค้าในภาคต่างๆ อาทิ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลางและภาคอีสาน
กำลังโหลดความคิดเห็น