เอเจนซี/เอเอฟพี- ประธานาธิบดีคนใหม่ฮอนดูรัสระบุจะอยู่ในตำแหน่งถึงมกราคมปีหน้า ยืนยันไม่สนใจแรงกดดันจากผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีเซลายาที่ถูกโค่นอำนาจ พร้อมเตือนนานาชาติเลิกแทรกแซงกิจการภายใน ด้านอดีตประธานาธิบดีประกาศชัดจะกลับประเทศภายในสัปดาห์นี้ ชี้ประชาชนยังรอคอย
โรเบร์โต มิเชเล็ตติ รักษาการณ์ประธานาธิบดีฮอนดูรัสวัย 65 ปี ซึ่งสาบานตนรับตำแหน่งผู้นำคนใหม่เมื่อวันอาทิตย์ (28) ที่ผ่านมา แถลงที่กรุงเตกูซิกัลปาวานนี้(30) ว่าจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนถึงเดือนมกราคมปี 2010 อย่างแน่นอน โดยไม่สนใจแรงกดดันจากกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดี โฮเซ มานูเอล เซลายา โรซาเลส ที่ถูกกองทัพยึดอำนาจแต่อย่างใด
มิเชเล็ตติซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐสภาระบุว่า เห็นด้วยที่กองทัพโค่นล้มประธานาธิบดีเซลายาที่พยายามแก้รัฐธรรมนูญเพื่อยืดวาระการดำรงตำแหน่งให้แก่ตัวเอง พร้อมเรียกร้องให้นานาชาติเลิกแทรกแซงกิจการภายในของฮอนดูรัส
การแถลงของมิเชเล็ตติมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ และบรรดาชาติสมาชิกองค์การรัฐอเมริกันหรือ " โอเอเอส " ยืนกรานยังคงให้การรับรองอดีตประธานาธิบดีเซลายา วัย 56 ปี เป็นประธานาธิบดีที่ชอบธรรมของฮอนดูรัสต่อไป
ด้านเซลายาให้สัมภาษณ์วานนี้เช่นกันโดยยืนยันว่า จะเดินทางกลับฮอนดูรัสทันทีหลังเสร็จภารกิจที่วอชิงตัน ดี.ซี.ในวันพุธ (1) เนื่องจากเขาเป็นประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกโดยประชาชนส่วนใหญ่และเป็นผู้นำที่ชอบธรรมในสายตาของนานาชาติ
อย่างไรก็ตาม เซลายา ไม่ได้เปิดเผยว่า จะพบกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ระหว่างการเยือนวอชิงตัน ดี.ซี. วันพุธนี้หรือไม่
ขณะเดียวกันสถานการณ์ในกรุงเตกูซิกัลปายังน่าเป็นห่วง หลังกลุ่มผู้สนับสนุนเซลายาจำนวนมากก่อเหตุขว้างปาก้อนหิน พร้อมใช้ไม้และท่อนเหล็กเข้าทำร้ายตำรวจปราบจลาจลบริเวณใกล้ทำเนียบประธานาธิบดี ทำให้เจ้าหน้าที่ตอบโต้ด้วยการฉีดแก๊สน้ำตาและโยนกระป๋องแก๊สน้ำตาลงมาจากเฮลิคอปเตอร์เพื่อสลายฝูงชน ขณะที่มีรายงานว่าทั้งผู้ประท้วงและตำรวจต่างได้รับบาดเจ็บหลายราย
หนังสือพิมพ์ "เอล เอรัลโด" หนังสือพิมพ์รายวันชื่อดังของฮอนดูรัส รายงานว่ามีประชาชนออกมารวมตัวประท้วงตามถนนสายต่างๆ ในกรุงเตกูซิกัลปาราว1,500 คนโดยกลุ่มผู้ประท้วงหลายคนซึ่งสวมหน้ากากอำพรางใบหน้า ได้เผายางรถยนต์และทำลายร้านค้าหลายแห่ง ก่อนจะถูกตำรวจจับกุมได้มากกว่า 20 คน
ด้านปฏิกิริยาล่าสุดจากนานาชาติปรากฏว่าฮูโก ชาเวซ ผู้นำเวเนซุเอลา และประธานาธิบดีดาเนียล ออร์เตกาแห่งนิการากัวออกมาแถลงว่า กำลังพิจารณาลดระดับความสัมพันธ์กับรัฐบาลใหม่ของฮอนดูรัสซึ่งได้อำนาจจากการทำรัฐประหาร และเตรียมเรียกทูตของตนประจำฮอนดูรัสกลับเพื่อประท้วงการยึดอำนาจที่ไม่ชอบธรรมครั้งนี้
ประธานาธิบดีการ์โลส เมาริซิโอ ฟูเนส แห่งเอลซัลวาดอร์เผยที่กรุงซานซัลวาดอร์เมื่อวาน(30) ว่า กำลังผลักดันให้ประเทศในแถบอเมริกากลางขยายเวลาระงับการค้าขายกับฮอนดูรัสออกไปอีกจากที่กำหนดไว้ 2 วัน โดยเชื่อว่าการใช้มาตรการทางเศรษฐกิจจะสร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลใหม่ของฮอนดูรัสได้
ส่วนกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศเตือนชาวอเมริกันถึงสถานการณ์ไม่ปลอดภัยในฮอนดูรัส พร้อมแนะนำให้ชาวอเมริกันเลื่อนการเดินทางไปฮอนดูรัส ยกเว้นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติมส่วนชาวอเมริกันในฮอนดูรัสก็ขอให้อยู่ในบ้านพักหรือโรงแรม และขอให้ปฏิบัติตามคำสั่งห้ามออกนอกเคหะสถานในยามวิกาลของผู้นำคนใหม่ของฮอนดูรัสอย่างเคร่งครัด
โรเบร์โต มิเชเล็ตติ รักษาการณ์ประธานาธิบดีฮอนดูรัสวัย 65 ปี ซึ่งสาบานตนรับตำแหน่งผู้นำคนใหม่เมื่อวันอาทิตย์ (28) ที่ผ่านมา แถลงที่กรุงเตกูซิกัลปาวานนี้(30) ว่าจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนถึงเดือนมกราคมปี 2010 อย่างแน่นอน โดยไม่สนใจแรงกดดันจากกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดี โฮเซ มานูเอล เซลายา โรซาเลส ที่ถูกกองทัพยึดอำนาจแต่อย่างใด
มิเชเล็ตติซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐสภาระบุว่า เห็นด้วยที่กองทัพโค่นล้มประธานาธิบดีเซลายาที่พยายามแก้รัฐธรรมนูญเพื่อยืดวาระการดำรงตำแหน่งให้แก่ตัวเอง พร้อมเรียกร้องให้นานาชาติเลิกแทรกแซงกิจการภายในของฮอนดูรัส
การแถลงของมิเชเล็ตติมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ และบรรดาชาติสมาชิกองค์การรัฐอเมริกันหรือ " โอเอเอส " ยืนกรานยังคงให้การรับรองอดีตประธานาธิบดีเซลายา วัย 56 ปี เป็นประธานาธิบดีที่ชอบธรรมของฮอนดูรัสต่อไป
ด้านเซลายาให้สัมภาษณ์วานนี้เช่นกันโดยยืนยันว่า จะเดินทางกลับฮอนดูรัสทันทีหลังเสร็จภารกิจที่วอชิงตัน ดี.ซี.ในวันพุธ (1) เนื่องจากเขาเป็นประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกโดยประชาชนส่วนใหญ่และเป็นผู้นำที่ชอบธรรมในสายตาของนานาชาติ
อย่างไรก็ตาม เซลายา ไม่ได้เปิดเผยว่า จะพบกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ระหว่างการเยือนวอชิงตัน ดี.ซี. วันพุธนี้หรือไม่
ขณะเดียวกันสถานการณ์ในกรุงเตกูซิกัลปายังน่าเป็นห่วง หลังกลุ่มผู้สนับสนุนเซลายาจำนวนมากก่อเหตุขว้างปาก้อนหิน พร้อมใช้ไม้และท่อนเหล็กเข้าทำร้ายตำรวจปราบจลาจลบริเวณใกล้ทำเนียบประธานาธิบดี ทำให้เจ้าหน้าที่ตอบโต้ด้วยการฉีดแก๊สน้ำตาและโยนกระป๋องแก๊สน้ำตาลงมาจากเฮลิคอปเตอร์เพื่อสลายฝูงชน ขณะที่มีรายงานว่าทั้งผู้ประท้วงและตำรวจต่างได้รับบาดเจ็บหลายราย
หนังสือพิมพ์ "เอล เอรัลโด" หนังสือพิมพ์รายวันชื่อดังของฮอนดูรัส รายงานว่ามีประชาชนออกมารวมตัวประท้วงตามถนนสายต่างๆ ในกรุงเตกูซิกัลปาราว1,500 คนโดยกลุ่มผู้ประท้วงหลายคนซึ่งสวมหน้ากากอำพรางใบหน้า ได้เผายางรถยนต์และทำลายร้านค้าหลายแห่ง ก่อนจะถูกตำรวจจับกุมได้มากกว่า 20 คน
ด้านปฏิกิริยาล่าสุดจากนานาชาติปรากฏว่าฮูโก ชาเวซ ผู้นำเวเนซุเอลา และประธานาธิบดีดาเนียล ออร์เตกาแห่งนิการากัวออกมาแถลงว่า กำลังพิจารณาลดระดับความสัมพันธ์กับรัฐบาลใหม่ของฮอนดูรัสซึ่งได้อำนาจจากการทำรัฐประหาร และเตรียมเรียกทูตของตนประจำฮอนดูรัสกลับเพื่อประท้วงการยึดอำนาจที่ไม่ชอบธรรมครั้งนี้
ประธานาธิบดีการ์โลส เมาริซิโอ ฟูเนส แห่งเอลซัลวาดอร์เผยที่กรุงซานซัลวาดอร์เมื่อวาน(30) ว่า กำลังผลักดันให้ประเทศในแถบอเมริกากลางขยายเวลาระงับการค้าขายกับฮอนดูรัสออกไปอีกจากที่กำหนดไว้ 2 วัน โดยเชื่อว่าการใช้มาตรการทางเศรษฐกิจจะสร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลใหม่ของฮอนดูรัสได้
ส่วนกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศเตือนชาวอเมริกันถึงสถานการณ์ไม่ปลอดภัยในฮอนดูรัส พร้อมแนะนำให้ชาวอเมริกันเลื่อนการเดินทางไปฮอนดูรัส ยกเว้นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติมส่วนชาวอเมริกันในฮอนดูรัสก็ขอให้อยู่ในบ้านพักหรือโรงแรม และขอให้ปฏิบัติตามคำสั่งห้ามออกนอกเคหะสถานในยามวิกาลของผู้นำคนใหม่ของฮอนดูรัสอย่างเคร่งครัด