"เวเนซุเอลา" งดส่งน้ำมันไปฮอนดูรัส หวังกดดันช่วยปธน."เซลายา"

เอเอฟพี/รอยเตอร์- ประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ แห่งเวเนซุเอลา ออกมาให้สัมภาษณ์วันนี้ (6)โดยระบุว่า ได้สั่งการให้บริษัท เปโตรเลโอส เด เบเนซวยลา หรือ" เปเดเบซา" ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอลา ระงับการส่งออกน้ำมันไปยังฮอนดูรัสแล้ว เพื่อเป็นการกดดันรัฐบาลรักษาการของฮอนดูรัส หลังจากรัฐประหารโค่นล้มประธานาธิบดีเซลายาและไม่ยอมให้เขากลับประเทศ ขณะที่เหตุรุนแรงปะทุขึ้นจนทำให้มีผู้เสียชีวิตในฮอนดูรัสแล้ว 2 คน

ประธานาธิบดีแห่งเวเนซุเอลา ออกมาให้สัมภาษณ์วันนี้ (6)โดยระบุว่า ได้สั่งการให้บริษัท " เปเดเบซา" ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอลา ระงับการส่งออกน้ำมันไปยังฮอนดูรัสแล้วเพื่อให้น้ำมันในฮอนดูรัสขาดแคลนและมีราคาสูงขึ้น โดยเชื่อว่าฮอนดูรัสซึ่งมีอัตราว่างงานร้อยละ 27.9 และเป็นประเทศยากจนลำดับ 3 ของซีกโลกตะวันตกรองจากเฮติและนิการากัว จะได้รับผลกระทบอย่างมากจากมาตรการนี้

ความวุ่นวายทางการเมืองในฮอนดูรัสส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย เจ็บอีกหลายสิบ หลังเกิดการปะทะระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีมานูเอล เซลายากับทหาร ขณะที่เซลายายังไม่สามารถกลับประเทศได้ตามตั้งใจ และต้องไปตั้งหลักในประเทศเพื่อนบ้าน ภายหลังถูกรัฐบาลรักษาการขัดขวางไม่ให้เครื่องบินของเขาลงจอด

ประธานาธิบดีโฮเซ มานูเอล เซลายา โรซาเลส ของฮอนดูรัส ซึ่งถูกกองทัพยึดอำนาจตั้งแต่28 มิถุนายนและถูกบังคับให้เดินทางออกนอกประเทศ ยังไม่สามารถกลับฮอนดูรัสได้ หลังจากความพยายามกลับประเทศครั้งล่าสุดดยทางเครื่องบินเมื่อวันอาทิตย์(5) ถูกรัฐบาลรักษาการของฮอนดูรัสสกัดกั้น

รายงานข่าวระบุว่าเครื่องบินของเซลายาพยายามบินวนเหนือสนามบินนานาชาติ ตอนก็อนติน ซึ่งอยู่ห่างจากย่านใจกลางกรุงเตกูซิกัลปา 6 กิโลเมตรหลายรอบ แต่ไม่สามารถลงจอดได้เนื่องจากมีรถทหารอย่างน้อย 6 คันจอดปิดกั้นทางวิ่งของสนามบิน ทำให้ความหวังที่จะเดินทางกลับประเทศครั้งแรกหลังถูกยึดอำนาจต้องล้มเหลว

จากนั้นเครื่องบินของเซลายาได้ไปลงจอดที่สนามบินนานาชาติ เอากุสโต ซันดิโน ในกรุงมานากัวของนิการากัวแทน ก่อนเดินทางต่อไปยังกรุงซันซัลวาดอร์ของเอลซัลวาดอร์ เพื่อหารือกับพันธมิตรสำคัญอย่างประธานาธิบดีกริสตินา เฟร์นันเดซ เคิร์ชเนอร์แห่งอาร์เจนตินา, ประธานาธิบดีราฟาเอล บิเซนเต โกร์เรีย แห่งเอกวาดอร์, และโฮเซ มิเกล อินซุลซา ซาลินาส เลขาธิการองค์การรัฐอเมริกัน

ขณะเดียวกัน เกิดการปะทะระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนเซลายาจำนวนหลายหมื่นคนกับทหารที่บริเวณสนามบิน ทำให้ผู้ชุมนุมเสียชีวิตไป 2 คนและบาดเจ็บอย่างน้อย 30 คนจากการถูกยิงและโดนแก๊สน้ำตา รายงานข่าวเบื้องต้นระบุว่ากลุ่มผู้สนับสนุนเซลายาที่ล้อมสนามบินไว้ในช่วงที่เครื่องบินของเขาหาทางลงจอด พยายามพังรั้วของสนามบินเข้ามา และทหารก็ตอบโต้ด้วยวิธีการรุนแรง

โรเบร์โต มิเชเล็ตติ รักษาการประธานาธิบดีฮอนดูรัส ยืนกรานจะไม่ยอมให้เซลายากลับเข้าประเทศ พร้อมระบุว่ารัฐบาลรักษาการของเขาเป็นตัวแทนที่ชอบธรรม เพราะผ่านการรับรองจากรัฐสภาตามกฎหมายแล้ว ขณะเดียวกันก็ได้สั่งขยายเวลาในการห้ามประชาชนออกนอกบ้านในเวลากลางคืนเร็วขึ้นอีก 3 ชั่วโมงจากเดิมที่กำหนดไว้ 22:00น. ตามเวลาท้องถิ่นเป็นเวลา 19:00 น.

มิเชเล็ตติ ยังกล่าวหาทางการนิการากัวว่า ได้เคลื่อนกำลังทหารมาประชิดพรมแดนฮอนดูรัสแล้ว เพื่อกดดันให้เขายอมคืนตำแหน่งประธานาธิบดีให้กับเซลายา โดยมิเชเล็ตติเตือนว่าฮอนดูรัสพร้อมตอบโต้เต็มที่หากนิการากัวละเมิดอธิปไตย

ขณะที่ประธานาธิบดีดาเนียล ออร์เตกา ซาเบดรา ของนิการากัว เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ลา นวยบา เตเลบีโซรา เดล ซูร์ หรือ"เตเลซูร์" ของเวเนซุเอลา ที่ออกอากาศในประเทศลาตินอเมริการวม 7 ประเทศว่า ข้อกล่าวหาที่ว่า นิการากัวเคลื่อนกำลังประชิดพรมแดนฮอนดูรัสไม่เป็นความจริง พร้อมชี้ว่ารักษาการผู้นำฮอนดูรัสพยายามเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาการเมืองในประเทศ ด้วยการสร้างความขัดแย้งกับนิการากัวแทน