xs
xsm
sm
md
lg

นสพ.นิการากัวแฉประธานาธิบดีตั้ง“ทูตพิเศษ”ยอดมั่ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - หนังสือพิมพ์ “เอล นวยโบ เดียริโอ” ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ของหนังสือพิมพ์รายวันภาษาสเปน ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในนิการากัว รายงานผ่านเว็บไซต์ของตนโดยระบุว่า การที่ประธานาธิบดีดาเนียล ออร์เตกา ซาเบดรา ได้ประกาศแต่งตั้ง ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีโทษจำคุกจากประเทศไทย ให้ดำรงตำแหน่งเป็น “เอกอัครราชทูตพิเศษ” แล้วถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากทั้งภายในและภายนอกนิการากัวนั้น อันที่จริงแล้ว ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ประธานาธิบดีออร์เตกา ตัดสินใจแต่งตั้ง “บุคคลซึ่งมีปัญหากับกระบวนการยุติธรรม” ในต่างประเทศให้มาเป็นเอกอัครราชทูตพิเศษของประเทศนี้

เอล นวยโบ เดียริโอ บอกว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2008 ออร์เตกาก็ได้แต่งตั้ง อัลบาโร โรเบโล กอนซาเลซ ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงธนาคารแห่งหนึ่งในสเปน จนได้รับความเสียหายอย่างมหาศาลให้เป็นเอกอัครราชทูตพิเศษเช่นกัน

นอกจากนั้น ออร์เตกา ยังแต่งตั้ง โลเรนโซ ซานซ์ อดีตประธานสโมสรฟุตบอล “ราชันชุดขาว ”
เรอัล มาดริด ซึ่งเป็นทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน เป็นเอกอัครราชทูตพิเศษให้กับนิการากัวเช่นกัน แม้ว่า ซานซ์จะถูกทางการสเปนกล่าวหาว่า มีพฤติกรรมฉ้อฉลทางธุรกิจก็ตาม

ทางด้าน โฮเซ ปายาอิส ประธานคณะกรรมาธิการยุติธรรมและกิจการกฎหมายของรัฐสภานิการากัว ก็ออกมาวิจารณ์การแต่งตั้งทูตพิเศษของประธานาธิบดีออร์เตกาในช่วงที่ผ่านมา โดยระบุว่า ออร์เตกามักทำการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตพิเศษ โดยไม่คำนึงถึงธรรมเนียมประเพณีทางการทูต และไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างนิการากัวกับมิตรประเทศ

ปายาอิส ยังระบุว่า กรณีของการแต่งตั้ง ทักษิณ ชินวัตร และอัลบาโร โรเบโล กอน
ซาเลซ เป็นเอกอัครราชทูตพิเศษของนิการากัวนั้น เขาเห็นว่า บุคคลทั้ง 2 ไม่น่าจะมีสถานะทางการทูตที่สมบูรณ์ตามขอบข่ายของ “อนุสัญญาเวียนนา” ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ปี 1961ซึ่งถือเป็นกฎหมายระหว่างประเทศที่นานาชาติให้การยอมรับแต่อย่างใด

ประธานคณะกรรมาธิการยุติธรรมและกิจการกฎหมายของรัฐสภานิการากัว ยังแสดงความกังวลถึงการที่ออร์เตกามักให้สิทธิ์บุคคลต่างชาติ ที่มีเรื่องอื้อฉาว และไม่ใช่พลเมืองของนิการากัว ในการถือครองหนังสือเดินทางของนิการากัวด้วยโดยปายาอิส ระบุว่า การกระทำของออร์เตกาไม่เพียงขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศเท่านั้น แต่ยังขัดต่อกฎหมายภายในของนิการากัว เพราะตามกฎหมายนิการากัวแล้ว การที่ผู้นำประเทศจะแต่งตั้งให้บุคคลใดเป็นผู้แทนทางการทูตได้นั้นจะต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาแห่งชาติเสียก่อน

ส่วน บิคตอร์ อูโก ติโนโก อดีตรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของนิการากัว ก็ออกมาวิจารณ์ว่า ประธานาธิบดีออร์เตกาทำให้ภาพลักษณ์ของนิการากัว ในสายตาของประชาคม
โลกต้องเสียหายและขาดความน่าเชื่อถือ จากการแต่งตั้งบุคคลที่มีภูมิหลังไม่สุจริต มาทำ
หน้าที่ผู้แทนทางการทูต ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่ทรงเกียรติของประเทศ และทำให้เกิดข้อ
ครหาว่า “หนังสือเดินทางนิการากัวพร้อมที่จะถูกขายเพื่อแลกกับเงินของคนรวยที่ชัวร้าย”

อย่างไรก็ตาม มานูเอล โกโรเนล เคาต์ซ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของนิการากัว ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแก้ต่างให้แก่การตัดสินใจของประธานาธิบดี ที่ได้ประกาศแต่งตั้ง ทักษิณ ชินวัตร เป็น “เอกอัครราชทูตพิเศษ”นั้น ถือเป็นการตัดสินใจ
ที่ “ถูกต้องแล้ว ”

เคาต์ซระบุว่า ทักษิณถือเป็นบุคคลที่มีคุณค่า เพราะนอกจากจะเคยมีประสบการณ์ใน
ด้านการเมืองแล้ว ก็ยังมีประสบการณ์ในการเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอีกด้วย ดังนั้น
จึงการมอบหมาย “ภารกิจพิเศษ” ในการดึงดูดการลงทุน ให้กับทักษิณจึงถือเป็นเรื่องที่ดี แม้
จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ประธานาธิบดีออร์เตกา ตัดสินใจในเรื่องนี้แบบไม่รอบคอบ และ
อาจมี “เบื้องหลัง” บางอย่างกับทักษิณ ซึ่งเป็นชาวต่างชาติที่ถูกมองว่า มีประวัติที่ไม่ขาวสะอาดก็ตาม

รัฐมนตรีช่วยผู้นี้ ซึ่งเป็นสหายสนิทของออร์เตกามาตั้งแต่สมัยเป็นสมาชิกแนวร่วมฝ่ายซ้ายแห่งขบวนการปลดปล่อยแห่งชาติซันดินิสตา (Frente Sandinista de Liberación Nacional - FSLN)ยืนยันว่า ออร์เตกาได้ตัดสินใจอย่างดีที่สุดแล้วในเรื่องนี้ พร้อมกับตำหนิการนำเสนอ
ข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศ และสื่อมวลชนท้องถิ่นในนิการากัว ที่พยายามนำประเด็นที่ทักษิณถูกทางการไทยออกหมายจับในข้อหาคอร์รัปชั่น และกระทำการยุยงให้เกิดความแตก
แยกและความรุนแรงในประเทศไทย มาขยายความให้เป็นประเด็นทางการเมือง เพื่อทำลาย
ความน่าเชื่อถือทั้งของออร์เตกา และตัวทักษิณซึ่งมีสถานะเป็นทูตพิเศษของนิการากัว

อนึ่ง เว็บไซต์ของนิการากวนโพสต์ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษในนิการากัว เมื่อวานนี้ได้รายงานข่าวผลการสำรวจของสำนัก เอ็มแอนด์อาร์ ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ ลาเปรนซา ระบุว่า มีประชาชนที่ตอบคำถามสำรวจความเห็นจำนวนเพียง 17.7% ที่คิดว่าประธานาธิบดีออเตกา ทำงานได้ดีหรือดีมาก และมี 67.8% เชื่อว่าเขาไม่ได้ตัดสินใจอย่างถูกต้องเพื่อช่วยเหลือประชาชนนิการากัว
กำลังโหลดความคิดเห็น