ASTVผู้จัดการรายวัน – ทรู คอร์ปอเรชั่น เล็งออกหุ้นกู้ เพื่อรีไฟแนนท์ลดหนี้ต่างประเทศประมาณ 2-2.5 หมื่นล้านบาท เผยอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตร 6-7 ราย ร่วมทุนเครือข่าย 3G เตรียมงบกว่าหมื่นล้านเข้าร่วมประมูลไลน์
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปิดเผยว่า ปัจุบันทางบริษัทอยู่หว่างการศึกษาเรื่องการจะออกหุ้นกู้ (บอนด์) เพื่อรีไฟแนนท์หนี้เงินกู้ต่างประเทศวงเงินประมาณ 2-2.5 หมื่นล้านบาทหรือ 20 % ของมูลหนี้ทั้งหมด 7.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียด
ปัจจุบัน สัดส่วนของหนี้เงินกู้ทั้งหมดของ TRUE แบ่งเป็นต่างประเทศ50% และอีก 50% เป็นหนี้ในประเทศ ซึ่งผลการดำเนินงานช่วงที่ผ่านมาถือว่าเคลื่อนไหวทิศทางบวก แต่จากการอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินบาทอ่อนค่าลงในปี 51 ได้กลายเป็นปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการรวมต้องประสบกับการขาดทุน ขณะเดียวกันหากทิศทางค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่าขึ้นก็จะกลายเป็นแรงหนุนให้ธุรกิจมีกำไร ซึ่งจะเห็นได้จากผลประกอบการสิ้นไตรมาส 1/52 ที่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนถึง 260 ล้านบาท รวมทั้งบริษัทฯจะพยายามรักษาผลงานในส่วนของโอเปอเรชั่นให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปี 51
นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกับพันธมิตรประมาณ 6-7 ราย ในการร่วมลงทุนในเครือข่ายของระบบ 3G ย่านความถี่ 2,100 เมกกะเฮิร์ท คาดได้เห็นรายละเอียดชัดเจนนั้นหลังจากทางบริษัทเข้าร่วมประมูลไลน์เส้น 3G กับทางคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ขณะที่เม็ดเงินที่จะใช้ในการประมูลเบื้องต้นได้เตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เชื่อว่าน่าจะเพียงพอในการเข้าร่วมประมูลครั้งนี้
"ลักษณะการเข้ามาของพันธมิตรเรามองไว้น่าจะเป็นกองทุนหรือการเข้ามาลงทุนด้วยการเข้าถือหุ้นไม่เกิน 25% และถึงแม้จะไม่มีพันธมิตรร่วมลงทุนเครือข่ายดังกล่าว เราเองก็เชื่อว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ซึ่งปัจจุบันเรามีเงินสดในมือประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เชื่อว่าน่าจะเพียงพอในการประมูลไลน์เส้น 3G ส่วนเรื่องข่าวการเจรจากับไชน่า โมบาย นั้นคงไม่เป็นความจริงตามข่าว" นายศุภชัยกล่าว
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปิดเผยว่า ปัจุบันทางบริษัทอยู่หว่างการศึกษาเรื่องการจะออกหุ้นกู้ (บอนด์) เพื่อรีไฟแนนท์หนี้เงินกู้ต่างประเทศวงเงินประมาณ 2-2.5 หมื่นล้านบาทหรือ 20 % ของมูลหนี้ทั้งหมด 7.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียด
ปัจจุบัน สัดส่วนของหนี้เงินกู้ทั้งหมดของ TRUE แบ่งเป็นต่างประเทศ50% และอีก 50% เป็นหนี้ในประเทศ ซึ่งผลการดำเนินงานช่วงที่ผ่านมาถือว่าเคลื่อนไหวทิศทางบวก แต่จากการอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินบาทอ่อนค่าลงในปี 51 ได้กลายเป็นปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการรวมต้องประสบกับการขาดทุน ขณะเดียวกันหากทิศทางค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่าขึ้นก็จะกลายเป็นแรงหนุนให้ธุรกิจมีกำไร ซึ่งจะเห็นได้จากผลประกอบการสิ้นไตรมาส 1/52 ที่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนถึง 260 ล้านบาท รวมทั้งบริษัทฯจะพยายามรักษาผลงานในส่วนของโอเปอเรชั่นให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปี 51
นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกับพันธมิตรประมาณ 6-7 ราย ในการร่วมลงทุนในเครือข่ายของระบบ 3G ย่านความถี่ 2,100 เมกกะเฮิร์ท คาดได้เห็นรายละเอียดชัดเจนนั้นหลังจากทางบริษัทเข้าร่วมประมูลไลน์เส้น 3G กับทางคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ขณะที่เม็ดเงินที่จะใช้ในการประมูลเบื้องต้นได้เตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เชื่อว่าน่าจะเพียงพอในการเข้าร่วมประมูลครั้งนี้
"ลักษณะการเข้ามาของพันธมิตรเรามองไว้น่าจะเป็นกองทุนหรือการเข้ามาลงทุนด้วยการเข้าถือหุ้นไม่เกิน 25% และถึงแม้จะไม่มีพันธมิตรร่วมลงทุนเครือข่ายดังกล่าว เราเองก็เชื่อว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ซึ่งปัจจุบันเรามีเงินสดในมือประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เชื่อว่าน่าจะเพียงพอในการประมูลไลน์เส้น 3G ส่วนเรื่องข่าวการเจรจากับไชน่า โมบาย นั้นคงไม่เป็นความจริงตามข่าว" นายศุภชัยกล่าว
