“ก้อง” เผย เลิก “น้ำชา” แล้ว แต่ยังคบกันเป็นพี่น้อง เผย สาเหตุเพราะไม่เข้าใจกัน พยายามปรับแล้วแต่ไม่ดีขึ้น พร้อมโทษตัวเองเลินเล่อขาดความเอาใจใส่แฟน จนทำให้ฝ่ายหญิงไม่แฮปปี้ บอก ไม่เฮิร์ทเพราะอกหักมาเยอะแล้ว
มีข่าวรักๆ เลิกๆ กันอยู่ตลอด สำหรับคู่รักนักร้องอย่าง “ก้อง กรุณ ซอโสตถิกุล” กับสาว “น้ำชา ชีรณัฐ ยูสานนท์” แต่ก็ประคับประคองกันมาได้นาน 2 ปีกว่า แต่ท้ายที่สุดเมื่อไม่นานมานี้สาว “น้ำชา” ก็ออกมายอมรับว่าลดสถานะหนุ่มก้องเหลือแค่ความเป็นพี่น้องแล้ว ซึ่งทางด้านหนุ่ม “ก้อง” ล่าสุดก็ออกมายอมรับเหมือนกันว่า สถานะความรักไม่เหมือนเดิมแล้ว แต่ความเป็นพี่น้องยังมีแน่นอน
“ความสัมพันธ์ตอนนี้ก็เหมือนกับที่น้องเขาออกมาพูดแหละครับ เอาเป็นว่าเหมือนที่น้องเขาพูดแล้วกัน เพราะจริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องของคนสองคน แล้วผมคิดว่าเราอยากจะเก็บมันไว้มากกว่า ก็คือความสัมพันธ์ตอนนี้เราก็เริ่มห่างกัน เหมือนกับช่วงเริ่มเบรกครับ ที่น้องเขาบอกว่าถ้าต่างฝ่ายต่างจะไปมีใครก็ไม่เป็นไร อันนี้ผมแล้วแต่ เอาตามที่น้องเขาพูดแล้วกัน แต่เราก็ยังเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันนะครับ เพราะที่บ้านก็สนิทกัน รู้จักกัน แล้วผมว่าไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ เราก็คงความที่เป็นพี่น้องที่ดีต่อกันไว้”
“ผมก็ไม่ทราบว่าจะเป็นยังไงต่อไป เพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต แต่ ณ จุดนี้ก็เป็นจุดที่เราต่างไปค้นหาตัวเอง เพราะจากการที่เราอยู่ด้วยกันมา มันก็มีหลายๆ อย่างที่ทำให้เราปรับปรุง หรือเคยพยายามแล้วหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ผมว่าพอมาถึงตรงนี้มันน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ ต่างคนต่างอยากจะมีเวลาเป็นของตัวเองในช่วงนี้ก่อนครับ ก็อาจจะเป็นเพราะเรื่องความเข้าใจแล้วก็อะไรหลายๆ อย่าง”
“ถ้าถามว่าเพราะอายุต่างกันไหม ผมว่าอาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องความเข้าใจมากๆ เลย แล้วก็เรื่องความรู้สึก ซึ่งบางทีผมอาจจะสะเพร่า เลินเล่อหรือไม่ทันที่จะทบทวนหรือไตร่ตรองให้มันดี บางทีผมเป็นคนที่อาจจะไม่ได้ละเอียดขนาดนั้น แล้วด้วยส่วนตัวน้องบางทีเขาก็เป็นคนที่เซ้นส์ซิทีฟ แล้วก็เป็นคนที่ละเอียดมากๆ ก็อาจจะเป็นความสะเพร่าของเราเอง”
เผย ไลฟ์สไตล์ไม่คล้ายกันก็จริง แต่เพราะแฟนสาวยังเด็กและมีภาระต้องรับผิดชอบเยอะ แถมตนไม่ค่อยมีเวลาให้ จึงทำให้เกิดปัญหา
“คบกัน 2 ปีครับ สิ่งที่เรียนรู้กันก็เยอะ หลายๆ อย่างครับ จริงๆ ไลฟ์สไตล์ก็คล้ายๆ กัน แต่อาจจะเพราะด้วยความที่น้องเขาเป็นคนที่เซ้นส์ซิทีฟ และด้วยที่เขายังเด็กอยู่ แล้วก็มีภาระที่จะต้องทำเองหลายอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องทำงาน เรื่องเรียน แล้วก็จิปาถะอะไรของเขาเยอะแยะมากมาย ผมว่ามันอาจจะเป็นอะไรที่เขาเหนื่อยกับตรงนี้ และบางทีผมอาจจะดูแลไม่ดีเท่าที่ควร หรืออาจจะไม่มีให้มากเท่าที่ควรกับเวลาที่เขาอยากจะให้ผมมีให้”
“ช่วงนี้เราก็ต่างคนต่างให้เวลากับตัวเอง แล้วก็ลดสถานะตอนนี้ก็เป็นพี่น้องกัน ก็อย่างที่น้องเขาบอกครับ แต่ว่าอนาคตจะเป็นยังไงก็ยังไม่ทราบ เรียกว่าเลิกไหม อันนี้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ก็แล้วแต่แล้วกัน แต่จะยังไงไปถามน้องดีกว่า น้องเขาเป็นผู้หญิง ผมก็ไปพูดอะไรมากไม่ได้ ก็คงต้องแล้วแต่อนาคตว่าจะเป็นยังไง ถามว่าง้อไหม ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราต่างก็ใช้เวลาให้กับตัวเองเต็มที่ครับ”
“ยอมรับว่าเคยมีมานั่งคุยกันเหมือนกันว่า เราจะเบรกกันก่อนดีไหมสักพักนึง ไปลองค้นหาตัวเอง ลองดูว่าต่างคนต่างต้องการอะไรแล้วก็ค่อยกลับมา คือมันเคยมีพูดกันไว้แล้วตั้งนานแล้ว แต่ด้วยคราวนี้อาจจะเป็นเหมือนว่าต่างคนต่างรู้กันทั้งคู่ ก็เลยรู้ว่าต่างคนต่างควรแยกกันออกมาดีกว่า แต่คือปกติก็อย่างที่รู้ว่ามันมีทะเลาะกันมาบ้าง ตั้งแต่ไหนแต่ไร น้องไม่ใช่คนเอาแต่ใจหรอก ผมก็เอาแต่ใจตัวเองเหมือนกัน ต่างคนต่างเอาแต่ใจด้วยแหละ บางทีเราก็ไม่ค่อยยอมกัน เพราะใจร้อนทั้งคู่”
“เรื่องเฮิร์ท คือผมผ่านช่วงเวลาอย่างนี้มาเยอะแล้วครับ คือหมายถึงว่าเราโต เราผ่านอะไรมาเยอะ สุดท้ายถ้าเกิดมันไปด้วยกันไม่ได้ก็เป็นพี่น้องกัน คือผมมันก็ทำอะไรไม่ได้ ทางนี้ก็ดีที่สุดแล้ว ก็ยังเป็นพี่น้องกัน ยังคุยกัน ร่วมงานกันได้ครับ แต่ผมว่าทุกคนจะต้องเหงาอยู่แล้วครับ อย่างบางทีเพื่อนเราก็มีแฟน เขาก็อยู่กับแฟนเขา แต่คือผมเป็นคนญาติเยอะ พี่ๆ น้องๆ เยอะ แล้วผมเป็นคนติดญาติอยู่แล้ว ผมก็เลยไม่ถึงกับรู้สึกว่าเราเหงาขนาดนั้น แน่นอนมันมีอะไรขาดหายไป แต่ว่าก็มีหลายอย่างที่มาเติมเต็มความเหงาอันนี้ได้”