xs
xsm
sm
md
lg

ปิยสวัสดิ์ผงาดบินไทยเร่งกู้เงิน-รื้อแอร์บัสA380

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บอร์ดการบินไทยตั้ง ”ปิยสวัสดิ์” นั่งดีดี เริ่มงาน กลางก.ค. หลังถกนอกรอบคุณสมบัติไม่มีปัญหา กรณีเคยเป็นบอร์ด BAFS “อำพน” ชี้ฝ่ายกฎหมายยัน ธุรกิจน้ำมันไม่ใช่ธุรกิจหลักการบินไทย ถือว่าไม่ทับซ้อนผลประโยชน์ เผยแผนกู้เงินเสริมสภาพคล่องล็อตแรก 23,000 ล้านบาทฉลุย 4 แบงก์ปล่อยกู้ดอกเบี้ยถูก เดินหน้าเร่งกู้ต่างประเทศอีกอย่างน้อย 14,000 ล้านบาท จ่ายค่าA330-600 ปีนี้ พร้อมสั่งทบทวนแผนซื้อแอร์บัส A380 จำนวน 6 ลำ


นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริษัทวานนี้ (18 มิ.ย.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแต่งตั้งนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัทการบินไทยคนใหม่ โดยขั้นตอนจากนี้ คือ การเจรจาค่าตอบแทนและสัญญาจ้าง คาดว่าจะสามารถเริ่มทำงานได้ประมาณกลางเดือนก.ค.นี้
ทั้งนี้คณะกรรมการสรรหา ฯ ที่มีนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม เป็นประธาน ได้เสนอผลการสรรหาที่มีมติเลือกนายปิยะสวัสดิ์อย่างเป็นเอกฉันท์ ซึ่งหลักเกณฑ์การพิจารณาหลักๆ เช่น ภาวะผู้นำ ประสบการณ์ในการทำงาน ผลสำเร็จในการทำงาน และวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาของการบินไทยนั้น นายปิยสวัสดิ์ ได้คะแนนสูงสุดในทุกข้อ
ส่วนกรณีที่นายปิยะสวัสดิ์ที่เคยเป็นกรรมการ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) และลาออกมาไม่ถึง 3 ปี เข้าข่ายมีผลประโยชน์ทับซ้อนและอาจจะต้องส่งกฤษฏีกาเพื่อตีความนั้น นายอำพนกล่าวว่า บอร์ดได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยฝ่ายกฎหมายได้ให้ความเห็นว่า ประเด็นดังกล่าวไม่มีปัญหา เนื่องจาก ธุรกิจด้านน้ำมันไม่ใช่ธุรกิจหลักของการบินไทย และบริษัทไม่ได้หารายได้จากธุรกิจน้ำมัน
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนการประชุมบอร์ด นายอำพน , นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด , นายอารีพงศ์ และนายวีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ กรรมการบริษัท ได้มีการหารือถึงกรณีดังกล่าวกันอีกครั้ง ก่อนสรุปว่า ให้นำผลการสรรหาดีดี เข้าสู่การประชุมบอร์ด โดยมีการตรวจสอบประเด็นคุณสมบัติของนายปิยสวัสดิ์ กรณีเคยเป็นบอร์ด BAFS และลาออกไม่เกิน 3 ปี และสรุปว่าไม่ขัดคุณสมบัติ เพราะถือว่าเป็นธุรกิจที่ไม่ได้แข่งขันกับธุรกิจของการบินไทย โดยเห็นว่าแตกต่างจากกรณีนายวิชิต สุรพงษ์ชัย อดีตบอร์ดการบินไทยที่เป็นบอร์ดกลุ่มชินคอร์ปอเรชั่น และกลุ่มชินถือหุ้นในไทยแอร์เอเชีย เพราะกรณีดังกล่าวถือว่าทับซ้อน เนื่องจากเป็นธุรกิจการบินเหมือนกัน
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายอำพน ได้กล่าวในการประชุมบอร์ดครั้งแรกหลังได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานบอร์ดว่า จะเร่งการสรรหาดีดีการบินไทยให้เรียบร้อยภายใน 1 เดือน

ได้เงินแล้ว!4แบงก์อัด 2.3 หมื่นล.

นายอำพนกล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ดการบินไทย ได้เห็นชอบแผนการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องปรับโครงสร้างหนี้บริษัทภายในปี 2552 จากสถาบันการเงินภายในประเทศ ล็อตแรกจำนวน 23,000 ล้านบาท จากวงเงินรวมทั้งหมด 34,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 5-5.5% มีระยะเวลาการกู้ 5 ปี ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่าตลาดพอสมควร คืออยู่ในระดับ MLR – ซึ่งจะไม่เป็นภาระทางด้านการเงินกับบริษัทในอนาคตมากนัก
โดยคณะทำงานที่มีนางงามนิตย์ สมบัติพิบูลย์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการเงินและบัญชี บริษัทการบินไทย เป็นประธาน ได้สรุปการเจรจาเงินกู้ จากธนาคารออมสินจำนวน 5 ,000 ล้านบาทแล้ว โดยจะได้เงินเข้ามาภายในเดือน มิ.ย.นี้ ส่วนอีก 3 แห่งคือ ธนาคารกรุงเทพ จำนวน 8,000 ล้านบาท ธนาคารกสิกรไทย จำนวน 5,000 ล้านบาท และธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 5,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างการเจรจาคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือน มิ.ย.และจะได้เงินกู้เข้ามาเสริมสภาพคล่องในเดือน ก.ค. ส่วนวงเงินกู้ที่เหลือ อีก ประมาณ 11,000 ล้านบาทนั้น คณะทำงานอยู่ระหว่างดำเนินการจัดหา
นอกจากนี้ บอร์ดได้เห็นชอบให้เร่งดำเนินการกู้เงินจากต่างประเทศ เพื่อชำระค่าเครื่องบินแอร์บัส A 330-600 จำนวน 6 ลำ ซึ่งในปีนี้กำหนดจะต้องชำระในวงเงิน 14,000 ล้านบาท โดยขณะนี้ กลุ่มยูโรเอ็กซปอร์ตเครดิต เอเจนซี่ ได้ตกลงที่จะค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าวให้บริษัทแล้ว

ตั้งทีมประเมินข้อสัญญาซื้อA 380

นายอำพนกล่าวว่า บอร์ดได้พิจารณาถึงสถานการณ์ด้านการเงิน โดยเฉพาะแนวโน้มอุตสาหกรรมการบินใน 1-2 ปีข้างหน้า แล้วจึงมีมติให้ทบทวนแผนการซื้อเครื่องบินแอร์บัส A380 จำนวน 6 ลำโดยได้มอบหมายให้นายวัลลภ พุกกะณะสุต กรรมการบริษัท และพลอากาศเอกณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สำนักเลขานุการบริษัท รักษาการกรรมการดีดี พิจารณาสัญญาต่างๆ ที่ได้ทำไว้กับ บริษัท แอร์บัส อินดัสทรี จำกัด กรณียกเลิก หรือเลื่อนการรับมอบ ควรทำอย่างไรให้เกิดภาระด้านการเงินกับบริษัทน้อยที่สุด
“การดำเนินการต่างๆ ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและสัญญาที่มี ส่วนจะยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงใดๆ ต้องดูสัญญาเพราะมีรายละเอียด ปลีกย่อยมาก ผมไม่อยากตอบสิ่งที่ยังไม่เห็น โดยบอร์ดมีนโยบายให้ทบทวนเรื่องนี้ แต่ไม่ได้มีมติให้ยกเลิกในตอนนี้ ”นายอำพนกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การบินที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก และการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 นั้น ก่อนหน้านี้บริษัทได้มีการประเมินผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งได้มีการรายงานต่อบอร์ดว่า วิกฤตดังกล่าวกระทบกับจำนวนผู้โดยสารบริษัทประมาณ 20% ซึ่งใกล้เคียงกับที่สิงคโปร์แอร์ไลน์ได้รับ และอยู่ในระดับที่บริษัทได้มีการประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้น จะต้องมีการวางกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อรองรับสถานการณ์ เช่น สถานการณ์การปรับราคาน้ำมัน เป็นต้น .
กำลังโหลดความคิดเห็น