รายงานการศึกษาฉบับใหม่พบบุคลิกมีอิทธิพลอย่างมากต่องาน โดยในหลายๆ กรณีนั้นสำคัญยิ่งกว่าการศึกษาหรืออาชีพของพ่อแม่เสียอีก
ผลงานของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ซิดนีย์ในออสเตรเลีย ระบุว่าบุคลิกลักษณะมีบทบาทอย่างมากที่จะชี้ขาดว่าคนๆ นั้นจะทำงานอะไร
ผู้ที่มีตำแหน่งในการบริหารจัดการมีแนวโน้มเป็นคนที่เปิดกว้างรับประสบการณ์ มีสติ แต่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับความคิดเห็นของคนอื่นมากนัก
พนักงานธุรการมีสติที่สุด แต่เปิดรับการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด ขณะที่พนักงานขายช่างสังเกต เปิดเผย และรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นมากที่สุด
พนักงานออฟฟิศเป็นกลุ่มที่มีความสุขุมรอบคอบน้อยที่สุด แต่มีความมั่นคงทางอารมณ์สูง
“บุคลิกลักษณะประกอบขึ้นมาจากพันธุกรรมและการเลี้ยงดู และเริ่มเป็นรูปธรรมขึ้นเมื่ออายุ 12 ปี” โรเบิร์ต เวลล์ส หนึ่งในทีมนักวิจัยที่ศึกษาเรื่องนี้อธิบาย
“เมื่ออายุ 30 ปี ลักษณะกว้างๆ จะลงตัว และการศึกษาบ่งชี้ว่าบุคลิกลักษณะมักมีอิทธิพลต่อผลลัพธ์ทางอาชีพ
“นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาเรื่องอาชีพ ฝ่ายบริหารมักได้รับอิทธิพลจากบุคลิกลักษณะมากกว่ากลุ่มอาชีพอื่น”
การศึกษานี้อิงกับข้อมูลจากการสำรวจรายได้ครัวเรือนและพลวัตด้านแรงงานของออสเตรเลีย ซึ่งครอบคลุมกลุ่มตัวอย่างเกือบ 20,000 คน
นักวิจัยพิจารณาลักษณะเฉพาะห้าแบบ ได้แก่ การเปิดรับประสบการณ์ ความมีสติ การเปิดเผย การยอมรับผู้อื่น และความมั่นคงทางอารมณ์ ในกลุ่มคนอาชีพต่างๆ
“การศึกษานี้จะเป็นประโยชน์ทั้งสำหรับผู้วางนโยบาย พนักงาน และนายจ้าง บุคลิกกว้างๆ ห้าแบบนี้มีผลอย่างสำคัญ ชัดเจน ยั่งยืน และคาดหมายได้ต่อผลลัพธ์ด้านอาชีพ” เวลล์สปิดท้าย
ผลงานของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ซิดนีย์ในออสเตรเลีย ระบุว่าบุคลิกลักษณะมีบทบาทอย่างมากที่จะชี้ขาดว่าคนๆ นั้นจะทำงานอะไร
ผู้ที่มีตำแหน่งในการบริหารจัดการมีแนวโน้มเป็นคนที่เปิดกว้างรับประสบการณ์ มีสติ แต่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับความคิดเห็นของคนอื่นมากนัก
พนักงานธุรการมีสติที่สุด แต่เปิดรับการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด ขณะที่พนักงานขายช่างสังเกต เปิดเผย และรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นมากที่สุด
พนักงานออฟฟิศเป็นกลุ่มที่มีความสุขุมรอบคอบน้อยที่สุด แต่มีความมั่นคงทางอารมณ์สูง
“บุคลิกลักษณะประกอบขึ้นมาจากพันธุกรรมและการเลี้ยงดู และเริ่มเป็นรูปธรรมขึ้นเมื่ออายุ 12 ปี” โรเบิร์ต เวลล์ส หนึ่งในทีมนักวิจัยที่ศึกษาเรื่องนี้อธิบาย
“เมื่ออายุ 30 ปี ลักษณะกว้างๆ จะลงตัว และการศึกษาบ่งชี้ว่าบุคลิกลักษณะมักมีอิทธิพลต่อผลลัพธ์ทางอาชีพ
“นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาเรื่องอาชีพ ฝ่ายบริหารมักได้รับอิทธิพลจากบุคลิกลักษณะมากกว่ากลุ่มอาชีพอื่น”
การศึกษานี้อิงกับข้อมูลจากการสำรวจรายได้ครัวเรือนและพลวัตด้านแรงงานของออสเตรเลีย ซึ่งครอบคลุมกลุ่มตัวอย่างเกือบ 20,000 คน
นักวิจัยพิจารณาลักษณะเฉพาะห้าแบบ ได้แก่ การเปิดรับประสบการณ์ ความมีสติ การเปิดเผย การยอมรับผู้อื่น และความมั่นคงทางอารมณ์ ในกลุ่มคนอาชีพต่างๆ
“การศึกษานี้จะเป็นประโยชน์ทั้งสำหรับผู้วางนโยบาย พนักงาน และนายจ้าง บุคลิกกว้างๆ ห้าแบบนี้มีผลอย่างสำคัญ ชัดเจน ยั่งยืน และคาดหมายได้ต่อผลลัพธ์ด้านอาชีพ” เวลล์สปิดท้าย