นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการก่อเหตุ ในพื้นที่ภาคใต้ที่มุ่งทำร้ายประชาชนในขณะนี้ว่า ภาครัฐจะต้องดำเนินการใน 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งเฝ้าระวังและป้องกันโดยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงปรับแผนอยู่ ส่วนที่สอง ต้องเร่งให้ประชาชนเห็นถึงความยุติธรรมที่รัฐบาลจะดำเนินการกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งรัฐบาลก็เป็นห่วงกลัวจะเสียแนวร่วม และเกิดเหตุการณ์ตอบโต้กันไปมา ซึ่งผู้ก่อเหตุต้องการให้เกิดปัญหานี้
ส่วนที่มีผู้เสนอให้ตั้งคณะกรรมการอิสระ ขึ้นมาตรวจสอบเหตุการณ์ยิงในมัสยิดนั้น เท่าที่ได้ติดตามการทำงานด้านการข่าวเชื่อว่าน่าจะเร่งรัดให้รู้ตัวผู้กระทำความผิดได้ สำหรับตนจะลงพื้นทีภาคใต้ไม่ปลายเดือนนี้ก็ต้นเดือนหน้า เพราะมีช่วงเวลาว่างอยู่ ส่วนบอลลูนตรวจการนั้นเป็นการเพิ่มเครื่องมือในการติดตาม สอดส่องดูแล
ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่ารัฐบาลชุดนี้จะคืนสันติสุขให้กับภาคใต้ได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราบอกไม่ได้แต่วาระของรัฐบาล 2 ปีครื่ง หากอยู่ครบ คงยากที่จะสงบเรียบร้อยทีเดียว แต่ตนยืนยันอย่างเดียวว่า ทิศทางและนโยบายจะไม่เปลี่ยน ใครจะมายุแหย่ ให้ไปใช้ความรุนแรงตนไม่ทำ
ส่วนที่มี ส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์ไม่พอใจประสิทธิภาพการทำงานของ นายถาวร เสนเนียม รมช. มหาดไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สัปดาห์ที่แล้ว เมื่อเกิดเหตุนายถาวร ไปถึงก่อนใครเพื่อน และเร่งรัดตรงนี้ตนเห็นใจ ไม่ใช่งานที่ง่าย ตนติดตามไม่ใช่ไม่ติดตาม นายถาวร เป็นคนที่เมื่อได้รับมอบหมายก็เข้าไปในพื้นที่ มากที่สุด บ่อยที่สุดคนหนึ่งไม่ได้ทำงานลักษณะลอยตัว เอาจริงเอาจังกับงาน จึงไม่เห็นเหตุผลที่จะปลดนายถาวร
พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานที่ปรึกษา บก.กองทัพไทย กล่าวว่า รู้สึกเศร้าใจและคับแค้นใจที่เห็นภาพเหตุการณ์ที่รุนแรงที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยที่กองทัพไม่สามารถทำอะไรได้เลย แต่กลับพูดอยู่ได้ว่า มาถูกทางแล้ว แต่ตนคิดว่าหมายถึงมาถูกในทางที่ผิดต่างหาก เมื่อก่อนผมเคยคิดว่า การที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. นิ่งเงียบสุขุม เพราะเป็นคนฉลาด แต่มาวันนี้รู้แล้วว่า ที่อยู่เฉยๆ เพราะไม่รู้อะไรเลย
พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวว่า ตนได้รับทราบข้อมูลต่างๆ จากทหารลูกน้องในกองทัพที่อยู่ในพื้นที่ ต่างเอือมระอากับการแก้ปัญหาภาคใต้ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ไม่ค่อยได้ลงพื้นที่เลย ทั้งๆ ที่เป็นความรับผิดชอบของตนเองโดยตรง ส่วน พล.อ.อนุพงษ์ ก็ลงไปแค่วันเดียว ไปเช้าเย็นกลับ ได้แต่ไปนั่งประชุม รับทราบบรรยายสรุป แล้วก็แค่นั้น ตนจึงเสนอให้ ทั้ง 2 ควรจะลงไปอยู่ที่ภาคใต้เลย อย่างน้อย 1 เดือน ไปกินนอนอยู่กับลูกน้อง จะได้รู้เรื่องจริงๆ รู้อะไรมากขึ้น
เวลานี้กองทัพมีความแตกแยก เพราะ พล.อ. ประวิตร ว และ พล.อ.อนุพงษ์ ก็เอาแต่พรรคพวกของตัวเอง อะไร ๆ ก็เอาแต่พวกที่มาจาก พล.ร. 2รอ. มาด้วยกัน ไม่เห็นความสำคัญของทหารจากหน่วยอื่นๆ จนเป็นที่รู้กันแล้วว่า ถ้าใครไม่ได้มาจาก พล.ร.2 รอ. ก็จะไม่ได้เติบโต
พล.อ. ปฐมพงษ์ โจมตีการที่ กอ.รมน. ซื้อ เรือเหาะ หรือ บอลลูน จากสหรัฐฯ ด้วยงบฯ 350 ล้านบาท เพื่อใช้ในภาคใต้ด้วยว่า เป็นเรื่องที่ ไม่คุ้มค่าเลย เพราะเรือเหาะ บินสูงกว่า 3กิโลเมตร แม้จะมีกล้องแต่ก็ผิดพลาดได้ ยิ่งสภาพภูมิประเทศของภาคใต้เป็น ป่าเขา มองอะไรจากที่สูงมากก็ไม่เห็น นอกจากนี้ โรงเก็บบอลลูน จะเสี่ยงต่อการถูกลอบทำลายจากขบวนการก่อความไม่สงบ การเก็บรักษาก็ไม่ง่าย เสื่อมสภาพง่าย
ผมไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของความคิด มึงควาย หรือเปล่า แก้ปัญหาภาคใต้ แบบนี้ ประชาชนจะฝากความหวังไว้ได้อย่างไร คงเป็นพวก บิ๊กทหารที่ชอบเล่นกอล์ฟ เห็นฝรั่งเขาใช้บอลลูนถ่ายทอดสดการแข่งกอล์ฟ ก็เลยได้ไอเดีย
ส่วนที่มีผู้เสนอให้ตั้งคณะกรรมการอิสระ ขึ้นมาตรวจสอบเหตุการณ์ยิงในมัสยิดนั้น เท่าที่ได้ติดตามการทำงานด้านการข่าวเชื่อว่าน่าจะเร่งรัดให้รู้ตัวผู้กระทำความผิดได้ สำหรับตนจะลงพื้นทีภาคใต้ไม่ปลายเดือนนี้ก็ต้นเดือนหน้า เพราะมีช่วงเวลาว่างอยู่ ส่วนบอลลูนตรวจการนั้นเป็นการเพิ่มเครื่องมือในการติดตาม สอดส่องดูแล
ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่ารัฐบาลชุดนี้จะคืนสันติสุขให้กับภาคใต้ได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราบอกไม่ได้แต่วาระของรัฐบาล 2 ปีครื่ง หากอยู่ครบ คงยากที่จะสงบเรียบร้อยทีเดียว แต่ตนยืนยันอย่างเดียวว่า ทิศทางและนโยบายจะไม่เปลี่ยน ใครจะมายุแหย่ ให้ไปใช้ความรุนแรงตนไม่ทำ
ส่วนที่มี ส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์ไม่พอใจประสิทธิภาพการทำงานของ นายถาวร เสนเนียม รมช. มหาดไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สัปดาห์ที่แล้ว เมื่อเกิดเหตุนายถาวร ไปถึงก่อนใครเพื่อน และเร่งรัดตรงนี้ตนเห็นใจ ไม่ใช่งานที่ง่าย ตนติดตามไม่ใช่ไม่ติดตาม นายถาวร เป็นคนที่เมื่อได้รับมอบหมายก็เข้าไปในพื้นที่ มากที่สุด บ่อยที่สุดคนหนึ่งไม่ได้ทำงานลักษณะลอยตัว เอาจริงเอาจังกับงาน จึงไม่เห็นเหตุผลที่จะปลดนายถาวร
พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานที่ปรึกษา บก.กองทัพไทย กล่าวว่า รู้สึกเศร้าใจและคับแค้นใจที่เห็นภาพเหตุการณ์ที่รุนแรงที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยที่กองทัพไม่สามารถทำอะไรได้เลย แต่กลับพูดอยู่ได้ว่า มาถูกทางแล้ว แต่ตนคิดว่าหมายถึงมาถูกในทางที่ผิดต่างหาก เมื่อก่อนผมเคยคิดว่า การที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. นิ่งเงียบสุขุม เพราะเป็นคนฉลาด แต่มาวันนี้รู้แล้วว่า ที่อยู่เฉยๆ เพราะไม่รู้อะไรเลย
พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวว่า ตนได้รับทราบข้อมูลต่างๆ จากทหารลูกน้องในกองทัพที่อยู่ในพื้นที่ ต่างเอือมระอากับการแก้ปัญหาภาคใต้ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ไม่ค่อยได้ลงพื้นที่เลย ทั้งๆ ที่เป็นความรับผิดชอบของตนเองโดยตรง ส่วน พล.อ.อนุพงษ์ ก็ลงไปแค่วันเดียว ไปเช้าเย็นกลับ ได้แต่ไปนั่งประชุม รับทราบบรรยายสรุป แล้วก็แค่นั้น ตนจึงเสนอให้ ทั้ง 2 ควรจะลงไปอยู่ที่ภาคใต้เลย อย่างน้อย 1 เดือน ไปกินนอนอยู่กับลูกน้อง จะได้รู้เรื่องจริงๆ รู้อะไรมากขึ้น
เวลานี้กองทัพมีความแตกแยก เพราะ พล.อ. ประวิตร ว และ พล.อ.อนุพงษ์ ก็เอาแต่พรรคพวกของตัวเอง อะไร ๆ ก็เอาแต่พวกที่มาจาก พล.ร. 2รอ. มาด้วยกัน ไม่เห็นความสำคัญของทหารจากหน่วยอื่นๆ จนเป็นที่รู้กันแล้วว่า ถ้าใครไม่ได้มาจาก พล.ร.2 รอ. ก็จะไม่ได้เติบโต
พล.อ. ปฐมพงษ์ โจมตีการที่ กอ.รมน. ซื้อ เรือเหาะ หรือ บอลลูน จากสหรัฐฯ ด้วยงบฯ 350 ล้านบาท เพื่อใช้ในภาคใต้ด้วยว่า เป็นเรื่องที่ ไม่คุ้มค่าเลย เพราะเรือเหาะ บินสูงกว่า 3กิโลเมตร แม้จะมีกล้องแต่ก็ผิดพลาดได้ ยิ่งสภาพภูมิประเทศของภาคใต้เป็น ป่าเขา มองอะไรจากที่สูงมากก็ไม่เห็น นอกจากนี้ โรงเก็บบอลลูน จะเสี่ยงต่อการถูกลอบทำลายจากขบวนการก่อความไม่สงบ การเก็บรักษาก็ไม่ง่าย เสื่อมสภาพง่าย
ผมไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของความคิด มึงควาย หรือเปล่า แก้ปัญหาภาคใต้ แบบนี้ ประชาชนจะฝากความหวังไว้ได้อย่างไร คงเป็นพวก บิ๊กทหารที่ชอบเล่นกอล์ฟ เห็นฝรั่งเขาใช้บอลลูนถ่ายทอดสดการแข่งกอล์ฟ ก็เลยได้ไอเดีย
