“รองนายกฯ สุเทพ” ควง “ประวิตร-อนุพงษ์-ประยุทธ์” ลงพื้นที่นราธิวาส หวังตรวจเยี่ยมเหยื่อไฟใต้ พร้อมทำความเข้าใจชาวบ้าน ยันเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำร้ายประชาชน ลั่นเร่งล่าตัวโจรร้ายมาลงโทษ ปัดงดพระออกบิณฑบาตเผยขอหารือฝ่ายมั่นคงก่อน เล็งเพิ่มขีดความสามารถเจ้าหน้าที่รัฐ เตรียมใช้บอลลูนขึ้นลาดตระเวนพื้นที่สำคัญ
วันนี้ (13มิ.ย.) เมื่อเวลา 07.00น. นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสธ.ทบ. และสื่อมวลชน ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมประชาชนและพบปะชาวบ้านที่มัสยิดอัลกูรกอน หมู่บ้านไอปาเย ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส โดย นายสุเทพ กล่าวกับพี่น้องมุสลิมว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนได้รับมอบหมายจากนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีให้เป็นตัวแทนของรัฐบาลมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนที่นี่ เราได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น รู้สึกสลดใจเป็นอย่างยิ่ง และเสียใจกับพี่น้อง ตนขอยืนยันว่ารัฐบาลจะดำเนินทุกวิถีทางที่จะเอาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้ ขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนมั่นใจ ว่ารัฐบาลจะดำเนินการทุกทางเพื่อให้ผู้ก่อเหตุถูกดำเนินคดี
นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า ตนได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าเรามีหลักฐานโดยใช้กระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ไปพิสูจน์ตรวจสอบ และคิดว่าจะสาวไปให้ถึงผู้ก่อเหตุให้ได้ ตนขอความมั่นใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่คนของรัฐบาลและผลจะเป็นที่ปรากฏชัดเจน
“ผมจะพยายามอย่างยิ่งไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นอีก ลำพังเจ้าหน้าที่รัฐมีมาก ถ้าพี่น้องประชาชนไม่เป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่รัฐก็จะไม่รู้ข้อมูลข่าวสารเพียงพอ ขอวิงวอนว่า พี่น้องตั้งสติให้มั่น อย่าหวั่นไหว อย่าฟังเสียงลือ เสียงคำยุแหย่ ขอให้มั่นใจว่า ผม เป็นรัฐบาลของประชาชน พี่น้องประชาชนจึงเป็นคนที่เราต้องดูแล เราตั้งใจมาช่วยแก้ปัญหาขอให้สบายใจ” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลแรกที่มีการตั้งคณะทำงานพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนใต้ (ครม.ใต้)ขึ้นมา เพื่อดูแลปัญหาให้พี่น้องภาคใต้ เราเข้ามาเป็นรัฐบาล 4-5 เดือนจะดำเนินโครงการพัฒนายกระดับจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้กำหนดวงเงินงบประมาณเรียบร้อยแล้ว ในสัปดาห์หน้าจะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภา คาดว่า ภายใน 2-3 เดือนเม็ดเงินจะลงถึงหมู่บ้านและตำบล การกำหนดแผนงานจะให้กำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหา ความต้องการเพื่อให้งบประมาณ สนองความต้องการได้อย่างถูกต้อง ซึ่งได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะให้คนมีรายได้เพียงพอต่อการใช้ชีวิต 1.2 แสนบาท ต่อครอบครัว ต่อปี โดยรัฐบาลจะเป็นผู้หาทุนมาสนับสนุน
“ขอให้พี่น้องอดทน อดกลั้น เหมือนพวกผม ที่ต้องอดทนอดกลั้นมาทำงาน เป็นรัฐบาลก็ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงล้อมทำเนียบรัฐบาล ไม่ให้เข้ามาทำงานเราก็ต้องอดทน ไม่คิดฆ่าฟัน เพราะเป็นพี่น้องเหมือนกัน ยืนยันว่า ทำงานมา 5 เหมือน 5 ปี และมีความเครียดมาก ฉะนั้นประชาชนต้องอดทนอดกลั้น เราคนไทยไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด ไม่มีแผ่นดินไหนสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุขเท่าแผ่นดินไทย ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องร่วมมือกันแก้ไขให้ได้ รัฐบาลตั้งใจใน 3 ปี ต้องแก้ให้ได้” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพและคณะได้มอบสิ่งของให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตและให้เงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต รายละ 3 หมื่น ทั้งนี้ได้มอบเงินให้มัสยิดจำนวน 1 แสนบาท เพื่อการพัฒนาอีกด้วย จากนั้นนายสุเทพ และคณะได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บและเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และมอบเงินเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
ต่อมาเวลา 13.00 น. นายสุเทพ พร้อมคณะได้เดินทางมาที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์และการปฏิบัติที่สำคัญ รวมทั้งการดำเนินคดีสำคัญในห้วงตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.52 ถึงปัจจุบัน และรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จชต.