นายกฯ อุ้ม “ถาวร” ยันไม่ปลด ยอมรับไฟใต้ไม่หมดภายใน รบ.นี้

“มาร์ค” อุ้ม “ถาวร” ไม่ปลด อ้างทำงานดีเข้าตา ยันดำเนินการปรับโครงสร้างการปกครอง-กฎหมาย “ศบ.ชต” เร่งรัดเจ้าหน้าที่จับกุมคนผิด ไม่สนตั้ง “องค์กรอิสระ” สอบยิงมัสยิด ยอมรับดับไฟใต้ไม่ได้ภายในรัฐบาลนี้ ลั่นเน้น ให้ “ความยุติธรรม-โอกาส” วางตารางลงใต้ปลายเดือน มิ.ย.-ต้น ก.ค.นี้

วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการก่อเหตุในพื้นที่ภาคใต้ที่มุ่งทำร้ายประชาชนในขณะนี้ ว่า ภาครัฐจะต้องดำเนินการใน 2 ส่วน ในส่วนการเฝ้าระวังและป้องกันให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงปรับแผนอยู่ ตามสภาพเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ตรงนี้ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจกับฝ่ายความมั่นคงแล้ว ส่วนที่ 2 ต้องยอมรับว่า จากเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดอารมย์ความรู้สึก เรากำลังเร่งรัดแสดงให้เห็นถึงความยุติธรรม ที่รัฐบาลจะดำเนินการในเรื่องของผู้กระทำความผิด

ผู้สื่อข่าวถามว่า ภาครัฐจะเสียแนวร่วมจากภาคประชาชนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ตนเป็นห่วงว่า พอเกิดเหตุการณ์ในลักษณะตอบโต้กันไปมา ซึ่งฝ่ายตรงข้ามต้องการให้เกิดปัญหาอย่างนี้

“ผมจึงได้ย้ำต่อสาธารณะหลายครั้ง ขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับแนวทางที่จะนำสันติกลับคืนมา ยิ่งมีความหวาดระแวง มีอารมย์ระหว่างประชาชนคนไทยด้วยกันก็ยิ่งไม่สงบ อย่าไปตกเป็นเหยื่อ เพราะที่สุดแล้ว หากเกิดความไม่สงบและรุนแรงมากขึ้น ทุกคนก็สูญเสียหมด เชื่อว่า ความยุติธรรม กับ โอกาสจะสามารถยุติความรุนแรงได้ ซึ่งเรื่องโอกาสอยู่ในแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ส่วนความยุติธรรมอยู่ที่ประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการเร่งรัดเรื่องการนำตัวคนมาลงโทษ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า โอกาสมาช้าหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากให้เร็วกว่านี้แต่เรื่องของโอกาสต้องยอมรับว่ามีขั้นตอน เช่นแผนการใช้จ่ายทั้งหมด พ.ร.ก.เงินกู้ ยังไม่ผ่าน เหลืออีก 1 สัปดาห์ และต้องไปกู้เงินจากนั้นจะมีเงินส่วนหนึ่งลงไป

“เรื่องความยุติธรรมเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เพราะพยานหลักฐานในหลายกรณีไม่สามารถทำให้เราไปจับกุมได้เร็ว แต่เราก็พยายามเร่งรัดอย่างถึงที่สุดโดยไม่ให้กระทบกับความเที่ยงธรรม ในการทำงาน”

เมื่อถามว่า ที่ประชุม ส.ส.ภาคใต้พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้มีการปรับโครงสร้างฝ่ายปกครอง และเร่งรัดกฎหมาย ศบ.ชต.นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังดำเนินการอยู่ ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเสนอให้ตั้งคณะกรรมการอิสระ ขึ้นมาตรวจสอบเหตุการณ์ยิงในมัสยิด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เท่าที่ได้ติดตามการทำงานด้านการข่าวเชื่อว่าน่าจะเร่งรัดให้รู้ตัวผู้กระทำความผิด และกำลังดูความรัดกุมเรื่องการ เก็บพยาน หลักฐานต่างๆ จะได้ไม่ต้องมีข้อสงสัย เรื่องความน่าเชื่อถือจะพิสูจน์ด้วยหลักฐานต่างๆ

เมื่อถามว่า รัฐสรุปเหตุการณ์ได้หรือไม่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนี่องเกิดจากอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แต่ละเหตุการณ์มีปัจจัยเฉพาะของมัน จะไปพูดรวมเหตุการณ์ระยะหลังๆ คงไม่ได้ ส่วนเรื่องการลงพื้นที่ภาคใต้ของตนนั้นได้แจ้งไปแล้ว ไม่ปลายเดือนนี้ก็ต้นเดือนหน้า พอจะมีช่องว่างอยู่บ้าง เพราะสัปดาห์นี้ทั้งสัปดาห์ต้องอยู่ที่สภา สัปดาห์หน้าไปสิงคโปร์กับจีน

เมื่อถามว่า การมีบอลลูนตรวจการจะทำให้การแก้ปัญหาดีขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นการเพิ่มเครื่องมือในการติดตามสอดส่องดูแล เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่ารัฐบาลชุดนี้จะคืนสันติสุขให้กับภาคใต้ได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้พูดมาตั้งแต่การประชุมร่วมกับกรรมาธิการว่า กระบวนการที่จะได้สันติภาพกลับคืนมาต้องใช้เวลา ซึ่งเราบอกไม่ได้แต่วาระของรัฐบาล 2 ปีครึ่ง หากอยู่ครบ คงยากที่จะสงบเรียบร้อยทีเดียว สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ในปีสุดท้ายก็ยังมีเหตุเพียงแต่น้อย ไม่ถึงกับสงบ ซึ่งต้องทำต่อเนื่อง ฉะนั้น ตรงนี้ต้องใช้เวลา ตนยืนยันอย่างเดียวว่า ทิศทางและนโยบายตามนี้ ตนยังยืนยันจะไม่เปลี่ยน ใครจะมายุแหย่ ให้ไปใช้ความรุนแรงตนไม่ทำ และอยากจะเชิญชวนทุกคนที่เห็นด้วยกับแนวทางการพัฒนาและการคืนความยุติธรรมขอให้ออกมาสนับสนุน

เมื่อถามว่า ยังยืนยันหรือไม่ว่าปัญหาภาคใต้เป็นปัญหาภายในประเทศ นายอภิสิทธิ์ กล่าวยืนยันว่า ยืนยัน ได้คุยกับประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศเพื่อนบ้านที่เกี่ยวข้องก็ยอมรับในแนวทางนี้ เมื่อถามว่า ดูเหมือนผู้ก่อเหตุต้องการยกระดับเป็นปัญหานานาประเทศ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถูกต้อง แต่เราได้ทำความเข้าใจกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง อินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศอื่นๆ ไปแล้ว ทางกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ชี้แจงกับประเทศกลุ่มโอไอซีแล้ว และแนวทางการแก้ปัญหาชัดเจนว่าเป็นเรื่องภายใน ซึ่งเพื่อนบ้านพร้อมที่จะให้การสนับสนุนเมื่อเราร้องขอ และเขาก็ถือว่าเป็นเรื่องภายในของเรา ต่างประเทศไม่ได้คลางแคลงใจอะไร ทั้งมาเลเซีย และอินโดนีเซีย เขายังให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศชัดเจนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในของเรา อย่างไรก็ตามปัญหาภาคใต้ที่เกิดขึ้นต้องเร่งสะสางปมที่เป็นเงื่อนไข การเพิ่มความรุนแรงในปัจจุบัน คือการสะสางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เมื่อถามว่า คนในพรรคไม่พอใจประสิทธิภาพการทำงานของ นายถาวร เสนเนียม รมช. มหาดไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า สัปดาห์ที่แล้วเมื่อเกิดเหตุ นายถาวร ไปถึงก่อนใครเพื่อน และเร่งรัดตรงนี้ตนเห็นใจ ไม่ใช่งานที่ง่าย ตนติดตามไม่ใช่ไม่ติดตาม นายถาวร เป็นคนที่เมื่อได้รับมอบหมายก็เข้าไปในพื้นที่มากที่สุด บ่อยที่สุดคนหนึ่งไม่ได้ทำงานลักษณะลอยตัว และท่านก็ยอมรับขอบเขตงานที่รับผิดชอบ คือ ในส่วนของ ศอ.บต.งานพัฒนา ก็ทำเต็มที่ แต่ส่วนที่เกินเลยก็ไม่ใช่ว่าท่านปฏิเสธ ยังเข้าไปในเรื่องความมั่นคง ช่วยให้สถานการณ์เย็นลง เป็นคนที่ทำงานค่อนข้างชัดเจน เอาจริงเอาจังกับงาน

เมื่อถามว่า ยังไม่มีเหตุผลที่จะปลดนายถาวร ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่เห็นเหตุผล ส่วนการประสานงานกับส.ส.ในพื้นที่นั้น จริงๆ ตนได้ให้ ส.ส.ในพื้นที่ ประชุมกันตั้งแต่วันพุธ ที่แล้ว แต่บังเอิญไม่สะดวกต่อมา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ได้ประชุมไปแล้ว ทั้งนี้ การแก้ปัญหาภาคใต้ ก็รับฟังรอบด้าน แม้แต่พรรคฝ่ายค้านและพรรคอื่นๆ ที่ให้ความคิดเห็นมาเราก็รับฟังหมด เพราะทุกเสียงสะท้อนมีความหมายในการแก้ปัญหา