“อภิสิทธิ์”มั่นใจไร้ปัญหา พ.ร.ก.และร่างพ.ร.บ.กู้เงิน รวม 8 แสนล้านบาท แต่เรียกประชุม ครม.นัดพิเศษเพื่อกำชับ รมต.แจงให้เคลียร์ในการประชุมสภาฯวันนี้ ย้ำเงินกู้ทั้งหมดนำไปลงทุนในสิ่งที่ประชาชนทุกพื้นที่รอคอย ด้านวิปรัฐบาลยันถ่ายทอดสดกฎหมายกู้เงิน 2 ฉบับแน่นอน เตือนฝ่ายค้านควรอภิปรายอยู่ในกรอบเวลาที่กำหนด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 15 มิ.ย.นี้ จะมีการประชุม ครม.นัดพิเศษ ในเวลา 08.30 น. โดยมีวาระเดียวคือการพิจารณากรอบเงินกู้ตาม พ.ร.ก. และร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงิน เพื่อฟื้นฟู และเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ รวม 8 แสนล้านบาท ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ เวลา 9.30 น. โดยจะทำความเข้าใจ เรื่องกรอบการพิจารณาเงินกู้ให้กับครม.
อย่างไรก็ตามไม่รู้สึกเป็นห่วงในการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงินโดยรัฐมนตรีทุกคน พร้อมจะชี้แจง โดย นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังจะเป็นผู้ชี้แจงเป็นหลัก เกี่ยวกับกฎหมายขณะที่รัฐมนตรี ก็จะชี้แจงโครงการต่าง ๆ ที่คาดว่า จะมีการนำเงินไปใช้ ซึ่งคิดว่า น่าจะมีความพร้อมอย่างเต็มที่ เพราะได้ชี้แจงมาก่อนหน้านี้แล้วหลายรอบ
ส่วนเรื่ององค์ประชุมนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าทุกพรรค ได้กำชับสมาชิกให้เข้าร่วมประชุม และเท่าที่ทราบจากข่าว ฝ่ายค้านก็ให้ความร่วมมือในการพิจารณา ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นทุกอย่างก็เรียบร้อยดี ซึ่งตนเราอยากให้ทุกอย่าง เรียบร้อยภายในสัปดาห์หน้า และในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ ถ้าผ่านความเห็นชอบของ วุฒิสภาได้ ก็จะสามารถเริ่มงานได้ ซึ่งชาวบ้านก็รอคอยมานาน ในหลายพื้นที่จะมีโครงสร้างพื้นฐานอย่างที่เขาต้องการ
”มาร์ค”มั่นใจฝ่ายค้านไม่ตีรวน
ส่วนที่ 40 ส.ว. ระบุว่า หากรัฐบาลชี้แจงไม่ชัดเจน ก็จะไม่ผ่านให้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็เป็นธรรมดา เราก็ต้องพยายามชี้แจงให้ดีที่สุด ซึ่งก็ได้กำชับ รมว.คลัง และรัฐมนตรีท่านอื่น ๆ ให้ชี้แจงในโครงการที่มีการสอบถาม ทั้งนี้คิดว่าคงไม่มีการตีรวนในสภา ซึ่งจากการได้พูดคุยกับประธานวิปฝ่ายค้านก็บอกว่า จะพิจารณากันไปตามประเด็น ซึ่งเราก็เข้าใจว่า ในการอภิปรายในสภา แม้จะมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ก็คงผ่านไปได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เปลี่ยนใจให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมสภาฯ แต่เป็นเรื่องของวิปที่จะพิจารณาซึ่งเข้าใจว่า เขาก็ดูประเพณีปฏิบัติในอดีต ซึ่งกรณีในลักษณะเช่นนี้ ก็ไม่เคยมีการถ่ายทอดมาก่อน แต่เมื่อฝ่ายค้านร้องขอมา และประธานสภา ทำหนังสือมาถึง ก็ได้บอกให้วิปพิจารณา โดยที่รัฐบาลก็ไม่ขัดข้อง อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่า จะสามารถอธิบายให้ประชาชนเข้าใจได้ เพราะรายละเอียดโครงการต่าง ๆ รัฐบาลก็มีความตั้งใจว่า จะชี้แจงให้ประชาชนรับทราบให้มากที่สุด เพราะต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม ในการติดตามการใช้เงิน และจะทำให้เรามีความเข้มแข็งมากขึ้นทั้งประเทศ แต่ประชาชนต้องเข้ามามีส่วนร่วม และติดตามการใช้เงิน ก็จะช่วยทำให้เรามั่นใจในเรื่องของความโปร่งใส
ส่วนที่มีแสดงความเป็นห่วง ไม่อยากให้นำเงินไปใช้ในโครงการเช่ารถเมล์ เอ็นจีวี 4 พันคัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในกฎหมายกู้เงิน ไม่มีโครงการเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องของ ขสมก. ซึ่งขณะนี้ เรื่องดังกล่าว ก็ยังไม่มีข้อยุติ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงินพร้อม ๆ กับร่างพ.ร.บ.กู้เงินหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของ พ.ร.ก. จะเป็นการขอความเห็นชอบ เมื่อลงมติแล้ว ก็ผ่านสภาได้ทันที แต่ในส่วนของพ.ร.บ. เมื่อสภารับหลักการ ก็จะต้องเข้าสู่กรรมาธิการพิจารณาก่อน
ยันเงินกู้8แสนล้านลงทุนเพื่อปชช.
นายอภิสิทธิ์ กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์” ว่า ในวันจันทร์ที่ 15 มิ.ย.เป็นต้นไปรัฐบาลจะขอความร่วมมือจากสมาชิกสภาฯ ช่วยผ่าน กฎหมาย 3 ฉบับ คือ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ พ.ร.ก.และร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 8 แสนล้านบาท โดยเป็นการกู้เงินในประเทศที่แช่อยู่ในระบบธนาคารของคนไทยด้วยกันเอง เพื่อเอามาใช้ในโครงการไทยเข้มแข็ง เพื่อนำไปลงทุนในสิ่งที่ประชาชน เกือบทุกพื้นที่รอคอยมานาน ซึ่งตนได้ลงพื้นที่เพื่อดูต้นแบบโครงการไทยเข้มแข็งเมื่อวันเสาร์ที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่จ.สมุทรสาคร โดยจุดแรกที่โรงพยาบาลกระทุ่มแบน ซึ่งมีผู้เข้ารักษาจำนวนมาก แต่อาคารรับผู้ป่วยไม่เพียงพอ จึงของบประมาณสร้างอาคารผู้ป่วยนอกเป็นตึก 5 ชั้น ซึ่งขอมาหลายรัฐบาลแล้วยังไม่ได้ รัฐบาลชุดนี้จึงจุดงบฯจากโครงการไทยเข้มแข็งไปให้ ส่วนโรงพยาบาลอื่นที่คอยงบประมาณในเรื่องเดียวกันก็จะจัดงบในโครงการไทยเข้มแข็งไปให้ นอกจากนี้ก็จะให้งบฯตามโครงการเดียวกันปรับปรุงประตูระบายน้ำ บางยาง จ.สมุทรสาครด้วย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่านี้เป็นแค่ตัวอย่างโครงการไทยเข้มแข็ง ที่จะใช้งบฯจากการกู้เงินตามกฎหมาย 2 ฉบับ ร่วม 8 แสนล้านบาทนี้ นอกจากได้โครงการ ตามที่ประชาชนต้องการแล้วยังตั้งเป้าในการจ้างงานให้ได้ 1.5-2 ล้านคน ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าทุกอำเภอจะมีโครงการไทยเข้มแข็ง จากเงินกู้ 8 แสนล้านบาทนี้แน่นอน ซึ่งหนี้เงินกู้นี่คือหนี้สาธารณะ มันไม่เหมือนหนี้ของคน หนี้สาธารณะคือหนี้ของรัฐบาล การใช้หนี้ของรัฐบาลคือการเก็บภาษีในวันข้างหน้า ซึ่งมันเป็นหลักทั่วไปของการบริหาร ยามเศรษฐกิจดี เราก็จะเก็บภาษีเขามาได้เยอะ เราก็จะใช้จังหวะช่วงนั้นในการใช้หนี้ และก็เป็นการทำให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ
“ผมยืนยันได้ว่าที่เราทุ่มในการลงทุนครั้งนี้แม้ตัวเลขสัดส่วนหนี้ต่อรายได้ ของประเทศจะขึ้นไปถึงประมาณ 60 % แต่ก็นี่ใกล้เคียงกับเมื่อตอนที่เราผ่านวิกฤตครั้งที่แล้ว แล้วก็ต่ำกว่าอีกหลายประเทศ และเป็นระดับที่สากลยอมรับได้ เพราะฉะนั้น ขอให้มั่นใจว่าวันนี้ปัญหาไม่ใช่เรื่องหนี้ ปัญหาคือมาช่วยกันดูดีกว่าว่าเราจะเข้มแข็ง เราจะลงทุนกันหรือยัง ทำให้ได้เร็ว ทำให้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ทำอย่าให้รั่วไหล ทำให้ตรงกับความต้องการของประชาชน”
ไทยเข้มแข้ง40%เน้นสถานีอนามัย
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในเรื่องสาธารณสุข จะมีส่วนของสถานีอนามัย ซึ่งเป็นโยบายของรัฐบาลชุดนี้ในการจะยกระดับสถานีอนามัยขึ้นมาเป็นโรงพยาบาล สร้างเสริมสุขภาพระดับตำบล ความหมายคือว่าจะให้บริการได้มากกว่าสถานีอนามัยในปัจจุบัน และในบางพื้นที่จะใช้วิธีการเอาเทคโนโลยีไปเชื่อมโยงเข้าหากับ โรงพยาบาลชุมชน หรือโรงพยาบาลจังหวัด เพื่อให้สามารถปรึกษาหมอ โดยที่หมอไม่ต้องมาที่สถานีอนามัย เหตุผลที่เราทำ คือต้องการส่งเสริมให้คน ใช้สถานบริการด้านสาธารณสุขใกล้บ้านมากขึ้น โดยตั้งเป้าเอาไว้ว่า ในโครงการไทยเข้มแข็งประมาณสัก 40 % จะเน้นเรื่องสถานีอนามัยทั่วประเทศ 40 % ของตำบลที่มีอยู่ประมาณ 7 พันกว่า ภายใต้งบ 6 แสนล้านบาท
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา จะเน้นเรื่องให้เงินกู้ เข่น โครงการกองทุนหมู่บ้าน โดยละเลยโครงการพื้นฐาน รัฐบาลชุดนี้เข้ามา เราก็มาดูขีดความสามารถของประเทศเวลาที่มีการจัดอันดับการแข่งขั้นจะพบว่าประเทศไทยมันถดถอยลง เช่น ถนนหนทาง แม้กระทั่งโทรคมนาคม ขนาดเราคิดว่าทันสมัยแล้วแต่เราก็ยังถอยไปเยอะ ทั้งโรงเรียน หรือบริการการศึกษา บริการสาธารณสุข ถอยลงไปมาก ซึ่งมันต้องลงทุน รัฐบาลจึงต้องทำ รวมทั้งจะช่วยเรื่องเกษตรกร เรื่องรายได้ จะมีเงินทุนอย่างชุมชนพอเพียง จะมีมาตรการช่วยเหลือเรื่องเรียนฟรี ผู้สูงอายุ อสม.
เมื่อถามว่า 2 วันที่จะอภิปรายเรื่องพ.ร.ก.และร่างพ.ร.บ.กู้เงิน ห่วงอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ห่วงอะไร ถือเป็นกระบวนการของสภาฯ แต่ว่า ต้องขอความร่วมมือท่านสมาชิกรัฐสภา ฝ่ายรัฐบาลก็ขอความกรุณาเข้าประชุม ฝ่ายค้านก็จะขอความกรุณาว่ายกมือให้เถอะ แต่ว่าก็เป็นสิทธิของแต่ละฝ่าย และยินดีที่จะรับฟังเหตุผลการท้วงติง
“ผมยืนยันนะครับว่า ผมมาขออนุมัติ ผมไม่อยากขออนุมัติเงินกู้หรอก ผมมา ขออนุมัติทั้งแหล่งน้ำ ขออนุมัติทั้งถนน ขออนุมัติทั้งโรงเรียน ทั้งโรงพยาบาล ทั้ง แหล่งท่องเที่ยว ถ้าท่านให้ก็คือได้สิ่งเหล่านี้ ถ้าท่านไม่ให้ก็ยังทำไม่ได้เท่านั้นเองครับ”
เตือนฝ่ายค้านอภิปรายตามกรอบเวลา
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวว่า ได้หารือกับ นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน ได้ข้อสรุปว่า จะมีการถ่ายทอดสดการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณา พ.ร.ก. และร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงิน เพื่อฟื้นฟู และเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ รวม 8 แสนล้านบาท ผ่านทางสถานีวิทยุ และโทรทัศน์ช่อง 11 ช่วงของการอภิปราย วันนี้ (15 มิ.ย.) รวมถึงถ่ายทอดสด การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2553 ระหว่างวันที่ 17-18 มิ.ย.นี้ด้วย ซึ่งถือว่า ตรงกับแนวคิดของรัฐบาลที่ต้องการให้กฎหมายผ่านการตรวจสอบจากสภา โดยให้ประชาชนได้มีส่วนรับรู้
นายชินวรณ์ กล่าวว่า เมื่อมีการถ่ายทอดสดแล้วก็ขอให้สมาชิกฝ่ายค้าน ได้อภิปรายตามกรอบเวลาตามที่กำหนด ซึ่งตามกรอบนั้น จะเปิดโอกาสให้สมาชิก ได้อภิปราย พ.ร.ก.ก่อน แล้วลงมติ จากนั้นเป็นการอภิปรายร่างพ.ร.บ.แล้วลงมติ ก่อนที่จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ
ส่วนกรณี กลุ่ม 40 ส.ว. ขู่จะไม่ลงมติ พ.ร.ก.และร่างพ.ร.บ.กู้เงินในชั้นการลงมติของวุฒิสภานั้น นายชินวรณ์ กล่าวว่า ได้ประสานกับคณะกรรมการประสานงานวุฒิสภา (วิปวุฒิ) แล้ว ซึ่งในชั้นของวุฒิสภาจะมีการพิจารณาวันที่ 22 มิ.ย. โดยส่วนตัวหวังว่า จะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพราะกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ เป็นความคาดหวังในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งหากสามารถผ่านความเห็นชอบ จากสภาฯ ได้ ก็จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศมากขึ้น นอกจากนี้ การพิจารณาของวุฒิสภานั้น จะมีการพิจารณา พ.ร.ก. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ยาสูบ และ พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต ด้วย
พท.ยังงมโข่งกล่าวหารัฐบาลไม่จริงใจ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าขอให้รัฐบาลมีความชัดเจนในเรื่องการถ่ายทอดสด พ.ร.ก.และ พ.ร.บ.กู้เงิน รวม 8 แสนล้านบาท อย่าเล่นบทตีสองหน้า เพราะในขณะที่นายกรัฐมนตรีบอกว่า ไม่ขัดข้องที่จะให้ถ่ายทอดสดร่างกฎหมายนี้ แต่วิปรัฐบาลกลับยืนยันไม่ให้มีการถ่ายทอดสด ดังนั้นนายกรัฐมนตรีต้องมีความชัดเจนว่า จะให้มีการถ่ายทอดสดหรือไม่ ซึ่งในวันที่ 15 มิ.ย.เวลา 08.00 น.วิปฝ่ายค้านจะประชุมหารือกันก่อนการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ หากรัฐบาลยืนยันไม่ให้มีการถ่ายทอดสด ฝ่ายค้านก็ยืนยันที่จะวอลต์เอาท์ ไม่เข้าร่วมประชุม
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าเช่นกันว่าหากรัฐบาลไม่ให้ถ่ายทอดสดฝ่ายค้านก็จะไม่ร่วมประชุม ซึ่งไม่ใช่เพราะฝ่ายค้านตีรวน แต่ฝ่ายค้านจะยอมให้รัฐบาลนำงบประมาณ 8 แสนล้านบาทก้อนนี้ ไปปู้ยี่ปู้ยำ โดยปราศจากการตรวจสอบไม่ได้ ขอให้ประชาชนเข้าใจด้วย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 15 มิ.ย.นี้ จะมีการประชุม ครม.นัดพิเศษ ในเวลา 08.30 น. โดยมีวาระเดียวคือการพิจารณากรอบเงินกู้ตาม พ.ร.ก. และร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงิน เพื่อฟื้นฟู และเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ รวม 8 แสนล้านบาท ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ เวลา 9.30 น. โดยจะทำความเข้าใจ เรื่องกรอบการพิจารณาเงินกู้ให้กับครม.
อย่างไรก็ตามไม่รู้สึกเป็นห่วงในการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงินโดยรัฐมนตรีทุกคน พร้อมจะชี้แจง โดย นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังจะเป็นผู้ชี้แจงเป็นหลัก เกี่ยวกับกฎหมายขณะที่รัฐมนตรี ก็จะชี้แจงโครงการต่าง ๆ ที่คาดว่า จะมีการนำเงินไปใช้ ซึ่งคิดว่า น่าจะมีความพร้อมอย่างเต็มที่ เพราะได้ชี้แจงมาก่อนหน้านี้แล้วหลายรอบ
ส่วนเรื่ององค์ประชุมนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าทุกพรรค ได้กำชับสมาชิกให้เข้าร่วมประชุม และเท่าที่ทราบจากข่าว ฝ่ายค้านก็ให้ความร่วมมือในการพิจารณา ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นทุกอย่างก็เรียบร้อยดี ซึ่งตนเราอยากให้ทุกอย่าง เรียบร้อยภายในสัปดาห์หน้า และในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ ถ้าผ่านความเห็นชอบของ วุฒิสภาได้ ก็จะสามารถเริ่มงานได้ ซึ่งชาวบ้านก็รอคอยมานาน ในหลายพื้นที่จะมีโครงสร้างพื้นฐานอย่างที่เขาต้องการ
”มาร์ค”มั่นใจฝ่ายค้านไม่ตีรวน
ส่วนที่ 40 ส.ว. ระบุว่า หากรัฐบาลชี้แจงไม่ชัดเจน ก็จะไม่ผ่านให้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็เป็นธรรมดา เราก็ต้องพยายามชี้แจงให้ดีที่สุด ซึ่งก็ได้กำชับ รมว.คลัง และรัฐมนตรีท่านอื่น ๆ ให้ชี้แจงในโครงการที่มีการสอบถาม ทั้งนี้คิดว่าคงไม่มีการตีรวนในสภา ซึ่งจากการได้พูดคุยกับประธานวิปฝ่ายค้านก็บอกว่า จะพิจารณากันไปตามประเด็น ซึ่งเราก็เข้าใจว่า ในการอภิปรายในสภา แม้จะมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ก็คงผ่านไปได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เปลี่ยนใจให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมสภาฯ แต่เป็นเรื่องของวิปที่จะพิจารณาซึ่งเข้าใจว่า เขาก็ดูประเพณีปฏิบัติในอดีต ซึ่งกรณีในลักษณะเช่นนี้ ก็ไม่เคยมีการถ่ายทอดมาก่อน แต่เมื่อฝ่ายค้านร้องขอมา และประธานสภา ทำหนังสือมาถึง ก็ได้บอกให้วิปพิจารณา โดยที่รัฐบาลก็ไม่ขัดข้อง อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่า จะสามารถอธิบายให้ประชาชนเข้าใจได้ เพราะรายละเอียดโครงการต่าง ๆ รัฐบาลก็มีความตั้งใจว่า จะชี้แจงให้ประชาชนรับทราบให้มากที่สุด เพราะต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม ในการติดตามการใช้เงิน และจะทำให้เรามีความเข้มแข็งมากขึ้นทั้งประเทศ แต่ประชาชนต้องเข้ามามีส่วนร่วม และติดตามการใช้เงิน ก็จะช่วยทำให้เรามั่นใจในเรื่องของความโปร่งใส
ส่วนที่มีแสดงความเป็นห่วง ไม่อยากให้นำเงินไปใช้ในโครงการเช่ารถเมล์ เอ็นจีวี 4 พันคัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในกฎหมายกู้เงิน ไม่มีโครงการเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องของ ขสมก. ซึ่งขณะนี้ เรื่องดังกล่าว ก็ยังไม่มีข้อยุติ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงินพร้อม ๆ กับร่างพ.ร.บ.กู้เงินหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของ พ.ร.ก. จะเป็นการขอความเห็นชอบ เมื่อลงมติแล้ว ก็ผ่านสภาได้ทันที แต่ในส่วนของพ.ร.บ. เมื่อสภารับหลักการ ก็จะต้องเข้าสู่กรรมาธิการพิจารณาก่อน
ยันเงินกู้8แสนล้านลงทุนเพื่อปชช.
นายอภิสิทธิ์ กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์” ว่า ในวันจันทร์ที่ 15 มิ.ย.เป็นต้นไปรัฐบาลจะขอความร่วมมือจากสมาชิกสภาฯ ช่วยผ่าน กฎหมาย 3 ฉบับ คือ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ พ.ร.ก.และร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 8 แสนล้านบาท โดยเป็นการกู้เงินในประเทศที่แช่อยู่ในระบบธนาคารของคนไทยด้วยกันเอง เพื่อเอามาใช้ในโครงการไทยเข้มแข็ง เพื่อนำไปลงทุนในสิ่งที่ประชาชน เกือบทุกพื้นที่รอคอยมานาน ซึ่งตนได้ลงพื้นที่เพื่อดูต้นแบบโครงการไทยเข้มแข็งเมื่อวันเสาร์ที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่จ.สมุทรสาคร โดยจุดแรกที่โรงพยาบาลกระทุ่มแบน ซึ่งมีผู้เข้ารักษาจำนวนมาก แต่อาคารรับผู้ป่วยไม่เพียงพอ จึงของบประมาณสร้างอาคารผู้ป่วยนอกเป็นตึก 5 ชั้น ซึ่งขอมาหลายรัฐบาลแล้วยังไม่ได้ รัฐบาลชุดนี้จึงจุดงบฯจากโครงการไทยเข้มแข็งไปให้ ส่วนโรงพยาบาลอื่นที่คอยงบประมาณในเรื่องเดียวกันก็จะจัดงบในโครงการไทยเข้มแข็งไปให้ นอกจากนี้ก็จะให้งบฯตามโครงการเดียวกันปรับปรุงประตูระบายน้ำ บางยาง จ.สมุทรสาครด้วย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่านี้เป็นแค่ตัวอย่างโครงการไทยเข้มแข็ง ที่จะใช้งบฯจากการกู้เงินตามกฎหมาย 2 ฉบับ ร่วม 8 แสนล้านบาทนี้ นอกจากได้โครงการ ตามที่ประชาชนต้องการแล้วยังตั้งเป้าในการจ้างงานให้ได้ 1.5-2 ล้านคน ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าทุกอำเภอจะมีโครงการไทยเข้มแข็ง จากเงินกู้ 8 แสนล้านบาทนี้แน่นอน ซึ่งหนี้เงินกู้นี่คือหนี้สาธารณะ มันไม่เหมือนหนี้ของคน หนี้สาธารณะคือหนี้ของรัฐบาล การใช้หนี้ของรัฐบาลคือการเก็บภาษีในวันข้างหน้า ซึ่งมันเป็นหลักทั่วไปของการบริหาร ยามเศรษฐกิจดี เราก็จะเก็บภาษีเขามาได้เยอะ เราก็จะใช้จังหวะช่วงนั้นในการใช้หนี้ และก็เป็นการทำให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ
“ผมยืนยันได้ว่าที่เราทุ่มในการลงทุนครั้งนี้แม้ตัวเลขสัดส่วนหนี้ต่อรายได้ ของประเทศจะขึ้นไปถึงประมาณ 60 % แต่ก็นี่ใกล้เคียงกับเมื่อตอนที่เราผ่านวิกฤตครั้งที่แล้ว แล้วก็ต่ำกว่าอีกหลายประเทศ และเป็นระดับที่สากลยอมรับได้ เพราะฉะนั้น ขอให้มั่นใจว่าวันนี้ปัญหาไม่ใช่เรื่องหนี้ ปัญหาคือมาช่วยกันดูดีกว่าว่าเราจะเข้มแข็ง เราจะลงทุนกันหรือยัง ทำให้ได้เร็ว ทำให้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ทำอย่าให้รั่วไหล ทำให้ตรงกับความต้องการของประชาชน”
ไทยเข้มแข้ง40%เน้นสถานีอนามัย
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในเรื่องสาธารณสุข จะมีส่วนของสถานีอนามัย ซึ่งเป็นโยบายของรัฐบาลชุดนี้ในการจะยกระดับสถานีอนามัยขึ้นมาเป็นโรงพยาบาล สร้างเสริมสุขภาพระดับตำบล ความหมายคือว่าจะให้บริการได้มากกว่าสถานีอนามัยในปัจจุบัน และในบางพื้นที่จะใช้วิธีการเอาเทคโนโลยีไปเชื่อมโยงเข้าหากับ โรงพยาบาลชุมชน หรือโรงพยาบาลจังหวัด เพื่อให้สามารถปรึกษาหมอ โดยที่หมอไม่ต้องมาที่สถานีอนามัย เหตุผลที่เราทำ คือต้องการส่งเสริมให้คน ใช้สถานบริการด้านสาธารณสุขใกล้บ้านมากขึ้น โดยตั้งเป้าเอาไว้ว่า ในโครงการไทยเข้มแข็งประมาณสัก 40 % จะเน้นเรื่องสถานีอนามัยทั่วประเทศ 40 % ของตำบลที่มีอยู่ประมาณ 7 พันกว่า ภายใต้งบ 6 แสนล้านบาท
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา จะเน้นเรื่องให้เงินกู้ เข่น โครงการกองทุนหมู่บ้าน โดยละเลยโครงการพื้นฐาน รัฐบาลชุดนี้เข้ามา เราก็มาดูขีดความสามารถของประเทศเวลาที่มีการจัดอันดับการแข่งขั้นจะพบว่าประเทศไทยมันถดถอยลง เช่น ถนนหนทาง แม้กระทั่งโทรคมนาคม ขนาดเราคิดว่าทันสมัยแล้วแต่เราก็ยังถอยไปเยอะ ทั้งโรงเรียน หรือบริการการศึกษา บริการสาธารณสุข ถอยลงไปมาก ซึ่งมันต้องลงทุน รัฐบาลจึงต้องทำ รวมทั้งจะช่วยเรื่องเกษตรกร เรื่องรายได้ จะมีเงินทุนอย่างชุมชนพอเพียง จะมีมาตรการช่วยเหลือเรื่องเรียนฟรี ผู้สูงอายุ อสม.
เมื่อถามว่า 2 วันที่จะอภิปรายเรื่องพ.ร.ก.และร่างพ.ร.บ.กู้เงิน ห่วงอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ห่วงอะไร ถือเป็นกระบวนการของสภาฯ แต่ว่า ต้องขอความร่วมมือท่านสมาชิกรัฐสภา ฝ่ายรัฐบาลก็ขอความกรุณาเข้าประชุม ฝ่ายค้านก็จะขอความกรุณาว่ายกมือให้เถอะ แต่ว่าก็เป็นสิทธิของแต่ละฝ่าย และยินดีที่จะรับฟังเหตุผลการท้วงติง
“ผมยืนยันนะครับว่า ผมมาขออนุมัติ ผมไม่อยากขออนุมัติเงินกู้หรอก ผมมา ขออนุมัติทั้งแหล่งน้ำ ขออนุมัติทั้งถนน ขออนุมัติทั้งโรงเรียน ทั้งโรงพยาบาล ทั้ง แหล่งท่องเที่ยว ถ้าท่านให้ก็คือได้สิ่งเหล่านี้ ถ้าท่านไม่ให้ก็ยังทำไม่ได้เท่านั้นเองครับ”
เตือนฝ่ายค้านอภิปรายตามกรอบเวลา
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวว่า ได้หารือกับ นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน ได้ข้อสรุปว่า จะมีการถ่ายทอดสดการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณา พ.ร.ก. และร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงิน เพื่อฟื้นฟู และเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ รวม 8 แสนล้านบาท ผ่านทางสถานีวิทยุ และโทรทัศน์ช่อง 11 ช่วงของการอภิปราย วันนี้ (15 มิ.ย.) รวมถึงถ่ายทอดสด การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2553 ระหว่างวันที่ 17-18 มิ.ย.นี้ด้วย ซึ่งถือว่า ตรงกับแนวคิดของรัฐบาลที่ต้องการให้กฎหมายผ่านการตรวจสอบจากสภา โดยให้ประชาชนได้มีส่วนรับรู้
นายชินวรณ์ กล่าวว่า เมื่อมีการถ่ายทอดสดแล้วก็ขอให้สมาชิกฝ่ายค้าน ได้อภิปรายตามกรอบเวลาตามที่กำหนด ซึ่งตามกรอบนั้น จะเปิดโอกาสให้สมาชิก ได้อภิปราย พ.ร.ก.ก่อน แล้วลงมติ จากนั้นเป็นการอภิปรายร่างพ.ร.บ.แล้วลงมติ ก่อนที่จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ
ส่วนกรณี กลุ่ม 40 ส.ว. ขู่จะไม่ลงมติ พ.ร.ก.และร่างพ.ร.บ.กู้เงินในชั้นการลงมติของวุฒิสภานั้น นายชินวรณ์ กล่าวว่า ได้ประสานกับคณะกรรมการประสานงานวุฒิสภา (วิปวุฒิ) แล้ว ซึ่งในชั้นของวุฒิสภาจะมีการพิจารณาวันที่ 22 มิ.ย. โดยส่วนตัวหวังว่า จะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพราะกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ เป็นความคาดหวังในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งหากสามารถผ่านความเห็นชอบ จากสภาฯ ได้ ก็จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศมากขึ้น นอกจากนี้ การพิจารณาของวุฒิสภานั้น จะมีการพิจารณา พ.ร.ก. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ยาสูบ และ พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต ด้วย
พท.ยังงมโข่งกล่าวหารัฐบาลไม่จริงใจ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าขอให้รัฐบาลมีความชัดเจนในเรื่องการถ่ายทอดสด พ.ร.ก.และ พ.ร.บ.กู้เงิน รวม 8 แสนล้านบาท อย่าเล่นบทตีสองหน้า เพราะในขณะที่นายกรัฐมนตรีบอกว่า ไม่ขัดข้องที่จะให้ถ่ายทอดสดร่างกฎหมายนี้ แต่วิปรัฐบาลกลับยืนยันไม่ให้มีการถ่ายทอดสด ดังนั้นนายกรัฐมนตรีต้องมีความชัดเจนว่า จะให้มีการถ่ายทอดสดหรือไม่ ซึ่งในวันที่ 15 มิ.ย.เวลา 08.00 น.วิปฝ่ายค้านจะประชุมหารือกันก่อนการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ หากรัฐบาลยืนยันไม่ให้มีการถ่ายทอดสด ฝ่ายค้านก็ยืนยันที่จะวอลต์เอาท์ ไม่เข้าร่วมประชุม
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าเช่นกันว่าหากรัฐบาลไม่ให้ถ่ายทอดสดฝ่ายค้านก็จะไม่ร่วมประชุม ซึ่งไม่ใช่เพราะฝ่ายค้านตีรวน แต่ฝ่ายค้านจะยอมให้รัฐบาลนำงบประมาณ 8 แสนล้านบาทก้อนนี้ ไปปู้ยี่ปู้ยำ โดยปราศจากการตรวจสอบไม่ได้ ขอให้ประชาชนเข้าใจด้วย