พธม.ใต้ขานรับพรรคการเมืองใหม่ เตรียมตั้งสาขาขับเคลื่อนในทุกพื้นที่

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – พันธมิตรฯภาคใต้พร้อมรับการตั้งพรรคการเมืองใหม่ ชี้มีสมาชิกแน่นอนแล้วหลักหมื่น โดยแต่ละจังหวัดคอยดูทิศทางนโยบายพรรคก่อนขับเคลื่อนในท้องที่ เพื่อให้ในพื้นที่ต่างๆ เตรียมจัดหาทำเลที่ตั้งสาขาพรรคเพื่อประสานงาน และเป็นศูนย์เรียนรู้ทางการเมืองให้แก่ประชาชน รวมถึงกำหนดทิศทางการทำงานได้สอดคล้องกัน พร้อมติง ส.ส.จะต้องไม่เกี่ยวกับภาคประชาชน เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยน้อมรับมติส่วนใหญ่ ตั้ง “พรรคการเมืองใหม่” (ก.ม.ม.) เพื่อเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนการเมืองใหม่อันธำรงไว้ซึ่งสถานบันชาติ ศาสน์กษัตริย์ และต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ

นายมานะ ช่วยชู แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชพร้อมกว่า 80 % ที่ให้การสนับสนุน และพร้อมที่จะสมัครเป็นสมาชิก รวมถึงการบริจาคเงินเป็นรายเดือนเพื่อให้แก่พรรคสามารถทำงานขับเคลื่อนไปได้

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ชาวนครศรีธรรมราช ในก้าวต่อไป ต้องติดตามการดำเนินการของทางส่วนกลางก่อนว่า จะไปในทิศทางใด แต่ก็ได้เตรียมความพร้อมไว้บางแล้ว เช่น หาทำเลที่ตั้งของที่ทำการพรรค และในช่วงปลายเดือนนี้กลุ่มพันธมิตรฯจังหวัดนครศรีธรรมราชก็จะจัดประชุมอีกครั้งหนึ่ง เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินงานในพื้นที่ให้สอดคล้องกับพรรคการเมืองใหม่

นายดอน ศรีนวลขาว แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.พัทลุง กล่าวว่า การทำงานของพันธมิตรฯ เพื่อพรรคการเมืองใหม่จะเน้นการทำงานเป็นทีม โดยจะเป็นการกระจายแตกหน่อทางความคิด อุดมการณ์ลงสู่แต่ละอำเภอ และหากจะมีการจัดตั้งสาขาพรรคที่ จ.พัทลุง น่าจะเน้นเป็นการสร้างจุดการเรียนรู้ในเรื่องการเมืองใหม่ให้แก่ชาวบ้านมากกว่า

สำหรับเรื่องการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค คาดว่าจังหวัดพัทลุงเบื้องต้นประมาณ 8,000 คน ที่พร้อมเข้ามาให้การสนับสนุนพรรคการเมืองใหม่ และการที่สมาชิกพรรคจะต้องบริจาคให้แก่พรรคคนละ 100 บาทต่อเดือนนั้นก็ไม่มีปัญหา เนื่องจากได้ชี้แจงพี่น้องพันธมิตรฯ และประชาชนแล้วว่า พรรคการเมืองใหม่ไม่ต้องการนายทุนเข้ามาให้การสนับสนุนพรรคการเมือง

ด้านนายดิสพูน จ่างเจริญ แกนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.ปัตตานี กล่าวว่า สำหรับจังหวัดปัตตานีนั้นให้การสนับสนุนการตั้งพรรคของกลุ่มพันธมิตรฯอย่างเต็มที่ แต่ผู้ที่จะลงเล่นการเมืองจะต้องแยกออกจากแกนนำภาคประชาชน เพราะถ้ามีเหตุให้ภาคประชาชนต้องตรวจสอบก็สามารถที่จะทำได้อย่างเต็มที่ และชาวปัตตานีก็พร้อมที่จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่กว่า 80 %

“สำหรับการที่จะต้องให้การสนับสนุนการเข้าพรรคของสมาชิกพรรค ไม่มีปัญหา ซึ่งบางท่านก็มาถามว่า 100 บาทต่อเดือนนั้นพอเหรอ เราจะจัดประชุมกันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อกำหนดทิศทางการขับเคลื่อน พร้อมกับการดูท่าทีของทางส่วนกลางอีกทีหนึ่งว่าจะไปในทิศทางใด” นายดิสพูนกล่าว

นายสมบรูณ์ แซ่ตั้ง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.ยะลา กล่าวว่า สำหรับการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ ประชาชนในจังหวัดยะลา ยังเป็นห่วงที่มาของ ส.ส. ว่าจะเหมือนการเมืองเก่าอีกหรือเปล่า เพราะขาดการตรวจสอบจากภาคประชาชน จึงจำเป็นต้องแยกระหว่างการเมือง กับภาคประชาชนออกให้เด่นชัด

ส่งผลให้การรับสมัครสมาชิกพรรค จะต้องคอยดูนโยบายพรรคที่จะออกมาเสียก่อน ว่าจะเป็นไปในแนวทางได้ ซึ่งจากการพูดคุยกันบ้างแล้ว พบว่า บางคนซึ่งเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นก็พร้อมที่จะเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ ถ้ามีนโยบายที่ดี อีกทั้งการที่สมาชิกพรรคจะต้องบริจาคสนับสนุนให้แก่พรรคการเมืองใหม่ ตนเองมองว่า ผู้ที่ออกมาแสดงตัวไม่พร้อมที่จะสนับสนุน แต่ผู้ที่จะสนับสนุนจะเป็นผู้ที่ไม่แสดงตัวมากกว่า

นางอุดมศรี จันทรัศมี แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.สตูล กล่าวว่า การที่กลุ่มพันธมิตรฯจัดตั้งพรรคการเมือง สตูลมีความเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง แต่ต้องดูว่ามติพรรคและนโยบายพรรคเป็นอย่างไร ซึ่งก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และพร้องที่จะลงพื้นที่ต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนที่ยังไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของการตั้งพรรคการเมืองของกลุ่มพันธมิตรฯ

“ประชาชนในจังหวัดสตูลที่ได้มาลงชื่อในทำเนียบบ้างแล้วนั้นตอนนี้ได้ 1,000 กว่าคนแล้ว และคาดว่าจะยังคงมีมาเพิ่มอีกเรื่อยๆ สำหรับการหาเสียงที่จะเกิดขึ้นนั้นก็กลุ่มพันธมิตรฯจังหวัดสตูลก็พร้อมที่จะออกช่วยเดินหาเสียงให้แก่ ส.ส.ของพรรคการเมืองใหม่อย่างเต็มที่” นางอุดมศรีกล่าว

นายบิลลี่ เพชรสงคราม แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.นราธิวาส กล่าวว่า สำหรับในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จะจัดงานการเสวนาทางการเมืองประมาณช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจแนวทางการดำเนินการของการเมืองใหม่ และหลังจากการจัดเสวนาเสร็จก็จะเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมกันเป็นจำนวนมาก