xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.รับพันธมิตรฯ ตั้งพรรคกระทบ ปชป.ชี้ฐานเสียงซ้ำซ้อนกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สาธิต” ยัน “กอร์ปศักดิ์” ไม่ย้ายรัง แค่ขบวนการปล่อยข่าวของกลุ่มที่จ้องล้มรบ. ยอมรับพันธมิตรฯ ตั้งพรรคการเมืองกระทบ ปชป.เหตุฐานเสียงทับซ้อนกัน ขณะเดียวกัน ซัดกลับ “พร้อมพงศ์” ตั้งฉายารัฐบาล คิดแบบดาราไม่สร้างสรรค์

วันนี้ (24 พ.ค.) นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี จะย้ายไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ว่า มีความชัดเจนแล้วว่าเป็นข่าวปล่อย โดยที่นายกอร์ปศักดิ์ก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย เป็นการเต้าข่าวขณะที่นายกอร์ปศักดิ์เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจากการสอบถามจากนายกอร์ปศักดิ์ก็ยืนยันว่าไม่เคยพูดกับผู้สื่อข่าวคนไหน เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น และเดินทางเข้าร่วมสัมมนากับพรรคประชาธิปัตย์ที่สมุยเลย ดังนั้น ตนจึงเห็นว่ามีกระบวนการจากคนกลุ่มเดิมที่ใช้หลักวิชาการในการดำเนินการ เป้าหมายสูงสุดคือการล้มล้างรัฐบาล ไม่เห็นว่ารัฐบาลมีความเข้มแข็งในสายตาประชาชน คนกลุ่มนี้ก็ต้องการสร้างความสงสัยและความหวาดระแวงกันเองในพรรคประชาธิปัตย์ โดยอาศัยสถานการณ์สร้างประเด็นเพื่อให้เกิดความสงสัยกันเองเท่านั้น ซึ่งไม่ถือว่ามีอะไรผิดปกติ เพราะเป็นการดำเนินการของกลุ่มคนที่ต้องการล้มล้างรัฐบาล

ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะตั้งพรรคการเมืองนั้น นายสาธิตกล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดีของระบบ เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นการรวมตัวของกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์และแนวคิดทางการเมืองตรงกันหรือใกล้เคียงกัน ไม่ได้รวมตัวกันด้วยผลประโยชน์หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ จึงถือว่าเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญปี 50 ที่ให้มีการตั้งพรรคการเมืองเพื่อให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของประชาชน

ทั้งนี้ ระบบการเมืองก็คล้ายกับระบบเศรษฐกิจถ้ามีการแข่งขันเสรีในระบบคนที่ได้รับผลประโยชน์ก็คือประชาชน เพราะพรรคการเมืองก็จะหาคนที่มีความรู้ความสามารถมากที่สุดเท่านั้นมาเป็นทางเลือกให้กับประชาชน ยกเว้นพรรคการเมืองที่มีเจตนาแอบแฝงหาผลประโยชน์ให้กับคนกลุ่มเดียวไม่ใช่คนทุกฝ่าย ทั้งนี้ อยากฝากไปยังประชาชนว่าให้ติดตามอุดมการณ์ของพรรคการเมืองต่างๆ ว่าเมื่อเข้ามาบริหารประเทศแล้วมีพฤติกรรมอย่างไรบ้าง

“ยอมรับว่าการตั้งพรรคของพันธมิตรฯ ก็ต้องมีผลกระทบต่อพรรคประชาธิปัตย์บ้าง เพราะต้องยอมรับว่าแนวคิดบางส่วนของพันธมิตรฯ ก็มีความใกล้เคียงและคล้ายคลึงกับพรรคประชาธิปัตย์ ยกตัวอย่างการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน การใช้อำนาจโดยมิชอบ ส่วนที่มีความแตกต่างกันบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา จึงมีสมาชิกพรรคหรือผู้สนับสนุนเป็นกลุ่มคนที่อาจจะทับซ้อนกันอยู่ แต่ผมก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติทางการเมือง ที่จะมีพรรคการเมืองที่มาแข่งขันกัน เสนอแนวนโยบายที่ดีเพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกคนที่ดีที่สุดเหมือนเวลาซื้อของเมื่อมีของหลายยี่ห้อก็ต้องเลือกของที่ดีมีคุณภาพได้มาตรฐาน อย. แต่อาจจะมีสินค้าบางประเภทที่ลักลอบผลิตหรืออาจไปผลิตแบบไม่ได้มาตรฐาน อันนี้ก็ต้องเรียกร้องไปยังประชาชนว่าเราควรที่จะผลักดันคนกลุ่มนี้ออกจากสังคมการแข่งขันหรือออกจากสารบบเพื่อให้ระบบการเมืองพัฒนาไปสู่การแข่งขันเสรีและมีคุณภาพอย่างแท้จริง” กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

นายสาธิตยังกล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ให้ฉายารัฐบาลและครม.ว่า เป็นการค้านแบบไม่สร้างสรรค์ เป็นการคิดในมิติที่ให้ร้ายรัฐบาลและไม่ได้คิดในเชิงวิชาการว่าการจัดทำนโยบายแต่ละเรื่องมีผลกระทบเชิงลบหรือเชิงบวกต่อประชาชนอย่างไรบ้าง ได้แต่คิดแบบดาราง่ายๆ ให้ดูสนุก เป็นการล้อเลียนและมุ่งใส่ร้ายผู้อื่นเท่านั้น ซึ่งเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับโฆษกพรรคเพื่อไทย และขอชี้แจงแทนรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ทุกท่านว่า การดำเนินการทุกเรื่องเป็นไปตามกรอบกฎหมายและนโยบายที่ได้แถลงต่อประชาชนไว้ ตัวอย่างเช่น นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ ที่นำกลุ่มบุคคลเข้าไปจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ถือเป็นกระบวนการในการต่อรองผลประโยชน์กับนานาชาติในการละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งเป็นการกระทำที่ถูกต้องเพราะเป็นการจับกุมผู้กระทำผิด ส่วนวิธีการจะเป็นปัญหาบ้างก็ขั้นอยู่กับวิธีการของผู้ปฎิบัติ

นายสาธิตกล่าวว่า ส่วนนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ที่ได้ฉายาว่ากู้ทุกทางนั้น ก็เป็นเรื่องของการกู้เงินซึ่งทั้งนายกรัฐมนตรีและนายกรณ์ก็ได้อธิบายถึงสาเหตุความจำเป็นของการกู้เงินมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะขณะนี้ปัญหาเศรษฐกิจกระทบเกือบทั่วโลก ส่วนนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ ที่ได้ฉายาเจ้าคุณละเอียดนั้น ก็ถือว่ามีความละเอียดในเรื่องการใช้เงินงบประมาณของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะหากไม่มีการตรวจสอบการใช้เงินให้ละเอียดชื่อว่ารัฐบาลหรือองค์กรใดๆ ก็คงจะเจ๊ง จึงถือเป็นเรื่องดี ส่วนที่ระบุว่ารัฐบาล 2 มาตรฐานนั้น สังคมจะจับตาดูการดำเนินการของนายอภิสิทธิ์ว่าได้ดำเนินการ 2 มาตรฐานจริงหรือไม่ และสังคมไทยจะเห็นว่านายกฯ ปฏิบัติต่อประชาชนคนไทยอย่างเท่าเทียมกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น