xs
xsm
sm
md
lg

จำนำมันสำปะหลัง โคราชทะลัก 2.87 ล้านตัน สูงเป็นประวัติการณ์/รัฐแบกอาน 5,400 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ม็อบมันปิดถนน เรียกร้องให้รัฐขยายโครงการรับจำนำมันเพิ่มต่อเนื่อง
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา – รัฐแบกรับอานโครงการแทรกแซงตลาดมัน โคราชแหล่งผลิตใหญ่สุดของประเทศ เกษตรกรแห่นำมัน เข้าจำนำสูงเป็นประวัติการณ์ ทะลุ 2.87 ล้านตัน รวมกว่า 5,400 ล้าน เหตุราคาดิ่งเหวคู่ค้าต่างประเทศซมพิษวิฤตเศรษฐกิจโลกสั่งซื้อน้อย แถมซ้ำธัญพืชคู่แข่งได้ผลผลิตดีราคาถูกกว่า ระบุผลกระทบ“เพลี้ยแป้ง” ระบาดหนักคาดฤดูกาลหน้าผลผลิตมันเมืองย่าโมลดฮวบกว่า 2 ล้านตัน เหลือ 7 ล้านตัน จากเดิม 9.1 ล้านตัน/ปี

นางสาวมารศรี ติปยานนท์ การค้าภายในจังหวัดนครราชสีมา เปิดถึงผลสรุปการดำเนินโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี 2551/2552 ของรัฐบาล ว่า ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ได้ดำเนินการรับจำนำมันสำปะหลังจากเกษตรกรรวมปริมาณทั้งสิ้นจำนวน 2,870,552 ตัน มูลค่ารวมประมาณ 5,400 ล้านบาท โดยทำการเปิดรับจำนำตั้งแต่ 21 พฤศจิกายน 2551และสิ้นสุดโครงการ 16 พฤษภาคม มีจุดรับจำนำทั้งหมด 49 จุด แบ่งเป็นโรงแป้งมัน 14 จุด และ ลานมันสำปะหลัง 35 จุด ซึ่งถือเป็นปริมาณการรับจำนำสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่มีการเปิดรับจำนำมันสำปะหลังมา ในฐานะที่เป็นแหล่งเพาะปลูกมันสำปะหลังมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศ และปีนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการมากที่สุดถึง 49 ราย

“ขณะนี้เกษตรกรได้นำใบประทวนไปขึ้นเงินกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรไปหมดแล้ว เหลือเพียงในส่วนของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำเท่านั้น” นางสาวมารศรี กล่าว

ทั้งนี้รัฐบาลกำหนดโควตารับจำนำมันสำปะหลังทั่วประเทศจากเดิม 5 ล้านตัน และขยายปริมาณเพิ่ม 2 ครั้งรวมเป็น 13 ล้านตันทั่วประเทศ โดยเริ่มรับจำนำหัวมันสำปะหลังสด เชื้อแป้ง 25% ตั้งแต่ราคา 1.70 บาท/ กิโลกรัม (กก.) และ ปรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนปิดโครงการที่ระดับราคา 2.05 บาท/กก.

สาเหตุที่เกษตรกรนำมันเข้าจำนำเป็นจำนวนมาก และมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการกันมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะฤดูกาลนี้ราคามันตกต่ำราคาซื้อขายในตลาดเฉลี่ยอยู่ระดับ 1.20-1.40 บาท/กก. เท่านั้น สืบเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกส่งผลให้ประเทศคู่ค้าในตลาดต่างประเทศมีกำลังซื้อลดลง ประกอบกับธัญพืชสินค้าคู่แข่ง เช่น ข้าวโพด ธัญพืชอื่นๆ ของประเทศคู่ค้าได้ผลผลิตดีมีราคาถูกกว่าจึงสั่งซื้อผลผลิตมันสำปะหลังจากไทยน้อยลงหรือแทบไม่มีออเดอร์เลย

นางสาวมารศรี กล่าวต่อว่า โครงการรับจำนำมันสำปะหลังของจ.นครราชสีมา ปีนี้ องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้อนุมัติคลังสินค้ากลางหรือโกดังรับมอบแป้งมันและมันเส้นจำนวน 53 คลัง แบ่งเป็นคลังสินค้ากลางมันเส้น 27 คลัง และคลังสินค้ากลางแป้งมัน 26 คลัง ซึ่งล่าสุด ณ วันที่ 28 พฤษภาคม ได้รับมอบมันเส้นไปแล้ว 370,110 ตัน และ รับมอบแป้งมันไปแล้ว 194,795 ตัน รวมเป็น 564,905 ตัน

ส่วนการดำเนินการแปรสภาพ ล่าสุดได้มีการแปรสภาพเป็นแป้งมัน แล้ว จำนวน 399,751.145 ตัน ส่งมอบแล้ว 194,795 ตัน คงเหลือ 204,986 ตัน ขณะที่มันเส้น ได้แปรสภาพแล้ว 467,080.692 ตัน ส่งมอบแล้ว 370,110 ตัน คงเหลือ 96,970 ตัน

สำหรับปัญหาการดำเนินโครงการที่พบส่วนใหญ่ เป็นปัญหาในระดับปฏิบัติระหว่างเกษตรกรกับผู้ประกอบการโรงแป้งมันฯและลานมัน เช่น เกษตรกรต้องรอเป็นระยะเวลานานในการนำมันเข้าจำนำกับโรงแป้งหรือลานมัน เกษตรกรไม่พอใจผู้ประกอบการเกี่ยวกับการหักค่าสิ่งเจือปน และปัญหาหัวมันสำปะหลังเน่า สิ่งเจือปนสูง เป็นต้น

“ ขณะที่ปัญหาการสวมสิทธิเกษตรกรโคราชไม่ค่อยพบการร้องเรียน และจากการเข้าสุ่มตรวจสอบของคณะผู้ตรวจการกระทรวงพาณิชย์ ทั้งในส่วนของโรงแป้งมันและลานมันที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำในพื้นที่ จ.นครราชสีมารวม 3 แห่ง ก็ไม่พบปัญหาเรื่องการสวมสิทธิเกษตรกรหรือพบสิ่งบอกเหตุผิดปกติแต่อย่างใด ” นางสาวมารศรี กล่าว

ด้าน นายสวัสดิ์ บึงไกร เกษตรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์ระบาดของเพลี้ยแป้งในไร่มันสำปะหลังเกษตรกร จ.นครราชสีมาและต้องประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแมลงศัตรูพืชระบาด (เพลี้ยแป้ง) ถึง 23 อำเภอ ว่า ล่าสุดการระบาดของเพลี้ยแป้งลดความรุนแรงลงเนื่องจากฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไร่มันสำปะหลังของเกษตรกรทั้งจังหวัด ที่ประสบปัญหาการระบาดรุนแรงคือระบาด 70-80 % ของพื้นที่เพาะปลูก รวมกว่า 3.5 แสนไร่ ขณะนี้ลดลงเหลือประมาณ 2.1 แสนไร่แล้ว ส่วนพื้นที่มีการระบาดเล็กน้อยจำนวน 787,500 ไร่ ก็ลดลงต่อเนื่องเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การระบาดของเพลี้ยแป้งดังกล่าวได้สร้างความเสียหายให้กับไร่มันสำปะหลังของเกษตรกรเป็นอย่างมาก ถึงแม้พื้นที่เพาะปลูกจะเท่าเดิมคือรวมทั้งจังหวัดประมาณ 2.1 ล้านไร่ แต่จะทำให้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ลดลงเหลือประมาณ 3.5 ตัน จากเดิม 4.318 ตัน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ผลผลิตหัวมันสดโดยรวมของ จ.นครราชสีมาในฤดูกาลผลิตปีหน้า 2552/53 ลดลงกว่า 2 ล้านตันหรือเหลือประมาณ 7 ล้านตัน เท่านั้น จากที่ฤดูกาลผลิตปีนี้ 2551/52 มีผลผลิตรวมทั้งจังหวัด 9.1 ล้านตัน รวมพื้นที่เพาะปลูกทั้งจังหวัด 2.188 ล้านไร่ ใน 29 อำเภอ ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ 4.318 ตัน
กำลังโหลดความคิดเห็น