ASTVผู้จัดการรายวัน-พันธมิตรฯตั้งพรรคการเมืองใหม่ สมศักดิ์-สุริยะใส นั่งหัวหน้าและเลขาธิการพรรคชั่วคราว เตรียมยื่นจดทะเบียนขอจัดตั้งพรรคอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีที่ 4 มิ.ย.นี้ "สมศักดิ์" เผยตั้งพรรคการเมืองไม่กระทบการต่อสู้ภาคประชาชน ขอเวลาไม่เกิน 2 เดือนจัดการภายในพรรค ชี้หลังมีหัวหน้า-กก.บห. ตัวจริง เดินหน้าลุยภาคการเมืองเต็มสูบ "สนธิ"ลั่น!พร้อมนำพลพรรคพันธมิตรฯ เดินเข้าสู่ระบอบรัฐสภา มั่นใจ“พรรคการเมืองใหม่”จะแตกต่างพรรคการเมืองนายทุนที่จ้องถอนทุนคืน เชื่อจะเป็นต้นแบบให้พรรคการเมืองเก่าเร่งปรับยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ ยันไม่ยึดติดตำแหน่ง
เมื่อเวลา 10.30 น.วานนี้ (2 มิ.ย.) ที่บ้านพระอาทิตย์ มีการประชุมผู้ก่อตั้งพรรคการเมืองของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยมีแกนนำพันธมิตรฯจากทุกภูมิภาค และแนวร่วมจากหลากหลายภาคส่วนเข้าร่วมประชุมประมาณ 20 คน โดยมีนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯเป็นประธานการประชุม ซึ่งการประชุมครั้งนี้ ได้เปิดให้ผู้สื่อข่าวเข้าสังเกตการด้วย
ทั้งนี้ สาระในการประชุมที่สำคัญ คือ การเลือกหัวหน้าพรรค และผู้ที่จะดำรงตำแหน่งในส่วนต่างๆ ของพรรค นโยบายของพรรค การกำหนดข้อบังคับของพรรค ซึ่งส่วนดังกล่าวจะเป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
สำหรับวาระแรกของการประชุม นายสมศักดิ์ ได้ให้ผู้เข้าร่วมประชุมเสนอชื่อพรรคการเมือง โดยนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ได้เสนอชื่อพรรค 3 ชื่อ ซึ่งได้มีการลงความเห็นจากประชาชนภาคส่วนต่างๆ ของพันธมิตรฯ มาแล้ว คือ 1.พรรคเทียนแห่งธรรม 2.พรรคพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ 3.พรรคการเมืองใหม่
จากนั้นผู้เข้าร่วมประชุมได้อภิปรายถึงเหตุผลในส่วนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยอย่างกว้างขวางต่อชื่อพรรคทั้ง 3 ชื่อ เช่น พรรคเทียนแห่งธรรม และพรรคพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีการจดทะเบียนไปก่อนแล้ว จึงอาจมีการซ้ำซ้อนขึ้นได้ อีกทั้งชื่อพรรคเทียนแห่งธรรม ยังไม่ได้บอกนัยที่ชัดเจนมากนัก ส่วนชื่อพรรคพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น ส่วนหนึ่งเห็นว่าอาจไปทับซ้อนกับการเคลื่อนไหวของการเมืองภาคประชาชน และควรที่จะคงไว้ในส่วนของภาคประชาชนมากกว่า
อย่างไรก็ดี ที่ประชุมได้ข้อสรุปอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า จะใช้ชื่อ"พรรคการเมืองใหม่" โดยมีเหตุผลว่า ชื่อนี้มีนัยที่แสดงถึงการต่อสู้ที่ต้องการจะให้เกิดการเมืองใหม่ ที่มีพลังบริสุทธิ์ และเป็นพลังที่ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงการเมืองแบบเก่าไปสู่สิ่งที่ดีกว่า โดยจะใช้ชื่อตัวย่อภาษาไทย คือ ก.ม.ม. และใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า NEW POLITICS PARTY ชื่อย่อ NPSP
ส่วนวาระที่ 2 เป็นการลงมติในส่วนของที่ทำการพรรค ที่ประชุมได้มีมติว่าจะใช้บ้านของนายสมศักดิ์ โกศัยสุข ที่บ้านเลขที่ 93/360 หมู่ที่ 5 ต.อนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. เป็นที่ทำการพรรค โดยจะใช้อย่างไม่เป็นทางการไปก่อน ซึ่งขณะนี้ทางแกนนำพันธมิตรฯ ได้มีการไปสำรวจดูที่ทำการพรรคที่จะให้มีความเหมาะสมมากที่สุดอยู่ คาดว่าน่าจะอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร
เบื้องต้นที่ประชุมผู้จัดตั้งพรรคมีการเสนอชื่อของหัวหน้าพรรคชั่วคราวแล้ว โดยนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค และนายสุริยะใส กตะศิลา เป็นเลขาธิการพรรคชั่วคราว
ต่อมา นายสมศักดิ์ พร้อมด้วยผู้จดทะเบียนจัดตั้งพรรครวม 21 คนได้ออกแถลงการณ์พร้อมกันว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ตั้งชื่อ “พรรคการเมืองใหม่” (ก.ม.ม.) โดยจะเดินทางไปจดทะเบียนอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 มิ.ย. เวลา 08.00 น. โดยตำแหน่งหัวหน้าพรรค และเลขธิการพรรคในวันนี้ ถือเป็นการชั่วคราว เพื่อรอจดทะเบียนอย่างเป็นทางการแล้วก็จะมีการประชุมคัดสรรหัวหน้าพรรครวมทั้งกรรมการบริการพรรคอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนสีประจำพรรคการเมืองใหม่ คือ สีเหลือง-เขียว ซึ่งสีเหลือง หมายถึง การเชิดชูระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ อุดมการณ์ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ส่วนสีเขียว คือ การเมืองสะอาด หรือการเมืองที่ไร้มลพิษ ซึ่งมีความหมายในประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องทรัพยากร และความเป็นธรรมทางการเมือง ส่วนโลโก้พรรคอยู่ในช่วงนำกลับไปปรับปรุงซึ่งคงจะได้เห็นชัดเจนในวันที่ 4 มิ.ย.นี้
นายสมศักดิ์ ตอบคำถามสื่อมวลชน ถึงความคาดหวังในจำนวน ส.ส.ที่จะได้รับเลือกเข้าสู่สภาฯว่า เป็นเรื่องไกลตัวในขณะนี้ แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าถึงจำนวนเก้าอี้ เพราะการเมืองใหม่จะต้องเน้นที่คุณภาพไม่ได้เน้นที่ปริมาณ ส่วนพันธมิตรฯ ในภาคประชาชน ก็ยังคงมีความเคลื่อนไหวต่อไป เพื่อตรวจสอบพรรคการเมือง ไม่เว้นแม้แต่พรรคการเมืองใหม่ ในส่วนของ ส.ส.ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็ให้พี่น้องพันธมิตรฯ เป็นผู้เสนอรายชื่อขึ้นมา โดยที่กรรมการบริหารพรรคจะไม่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องคัดสรรบุคคล
สำหรับรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ ประกอบด้วย 1. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข เป็นหัวหน้าพรรค 2. นางภินันทน์ โชติรสเศรณี เป็นรองหัวหน้าพรรค 3. นายสุริยะใส กตะศิลา เป็นเลขาธิการพรรค 4. นายพิชิต ไชยมงคล เป็นรองเลขาธิการพรรค 5. นางลักขณา ดิษยะศริน เป็นเหรัญญิกพรรค
6. นางภาณุมาศ พรหมสูตร เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค 7. พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ เป็นโฆษกพรรค 8. นายสุทธิ อัชฌาศัย เป็นกรรมการบริหารพรรค 9. นางชญาบุญ เพชรพรหม กรรมการบริหารพรรค 10. น.ส.นิตายา กุระคาน กรรมการบริหารพรรค 11. น.ส.อาภารัตน์ ชาติชุติกำจร กรรมการบริหารพรรค 12. น.ส.ฉัตรกุล คำมีอ่อน กรรมการบริหารพรรค 13. น.ส.จีรนันท์ อินทร์สุริวงศ์ กรรมการบริหารพรรค 14. นางลักขณา ดิษยะศริน กรรมการบริหารพรรค 15. นายบรรจง นะแส กรรมการบริหารพรรค 16. นางชญาดา ศริญญามาศ กรรมการบริหารพรรค 17. นายวิลิต เตชะไพบูลย์ กรรมการบริหารพรรค 18. นายสมศักดิ์ อิสมันยี กรรมการบริหารพรรค 19. นางเสาวนีย์ รุ่งช่วง กรรมการบริหารพรรค 20. น.ส.พรชุลี คงขวัญ กรรมการบริหารพรรค 21. นางเพลินพิศ ทองวล กรรมการบริหารพรรค 22. นางเสน่ห์ หงส์ทอง กรรมการบริหารพรรค 23. นางกาญจนา กาญจนเสวี กรรมการบริหารพรรค
**พันธมิตรฯภาคประชาชนยังอยู่
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่วมกันของผู้ก่อตั้งพรรคการเมืองว่า การทำหน้าที่ภาคประชาชนของเครือข่ายพันธมิตรฯในภาคต่างๆจะยังคงทำการตรวจสอบรัฐบาลต่อไป ขณะเดียวกันในชุดก่อตั้งพรรคก็จะดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องของพรรคไปก่อน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าปัญหาการเมืองประชาชนทั่วไปก็ยังติดตามกันอยู่ อาทิ เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ไม่ว่าเรื่องอะไรที่ไม่ถูกต้อง อันนี้เป็นมติเดิมของพันธมิตรฯที่จะเดินหน้าต่อต้านคัดค้านอยู่แล้ว
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงกระบวนการก่อตั้งพรรคหลังจากนี้จะมีการรวบรวมสมาชิกพรรค และทำการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคอย่างเป็นทางการ ตามด้วยการวางนโยบายที่จะสร้างพรรคให้เข็มแข็ง รวมไปถึงการจะเตรียมคนไปลงสมัครเลือกตั้ง โดยให้ประชาชนพันธมิตรฯในแต่ละพื้นที่ไปคัดเลือกแข่งขันเสนอกันมา ซึ่งส่วนนี้พันธมิตรฯ ให้ความสำคัญกับคุณภาพของบุคลากรที่ได้รับการเลือกตั้ง จะเข้าไปทำหน้าที่ทางการเมืองได้อย่างสอดคล้อง เหมาะสมและมีคุณภาพ แต่ทั้งนี้จะเป็นหลังจากการจดทะเบียนพรรค และเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งคาดว่าจะไม่เกิน 60 วัน
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากการที่ตนได้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่เป็นการชั่วคราวนั้น คงไม่ทำให้การเมืองภาคประชาชนด้อยความเข็มแข็งไป ทั้งนี้ตำแหน่งหัวหน้าพรรคขณะนี้ เป็นเพียงผู้ก่อตั้งพรรค ซึ่งจะต้องมีการเลือกอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ต้องมาดูกันอีกทีว่าตนจะอยู่ในตำแหน่งใด
อย่างไรก็ตาม คิดว่าเป็นส่วนดีที่แกนนำพันธมิตรฯได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพรรคการเมือง ตรงส่วนนี้ก็จะทำให้มีคนรุ่นใหม่เข้ามาผลัดใบให้การเมืองภาคประชาชน และคิดว่าหลายคนมีความสามารถมาเป็นผู้นำภาคประชาชนได้ ถ้าสังเกตุให้ดีการชุมนุมต่อสู้ของพันธมิตรที่ผ่านมา เมื่อเกิดสถานการณ์ใหม่เกิดขึ้นก็จะมีแกนนำหรือคนใหม่เกิดขึ้นตามมาด้วย ไม่ใช่ว่าถ้าหมดแกนนำ 5 คนแล้วพันธมิตรฯ จะเดินต่อไปไม่ได้
"ขอย้ำว่าพันธมิตรฯที่เป็นภาคประชาชน ยังคงตรวจสอบรัฐบาลอยู่เหมือนเดิม เพราะการเมืองใหม่ต้องเดินคู่ขนานกันไป" หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่กล่าว
**"สนธิ"ยันไม่ยึดติดตำแหน่ง
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ให้สัมภาษณ์หลังประชุมก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ว่าการประชุมครั้งนี้ เป็นการเลือกผู้บีหารพรรคอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งต้องรอมติใหญ่จากสมาชิกพรรคอีกครั้งหนึ่งในอีกไม่เกิน 2 เดือนข้างหน้า หลังจากที่รวบรวมสมาชิกพรรคครบเรียบร้อย และจะมีการประชุมวิสามัญเพื่อเลือกผู้ดำรงตำแหน่งตัวจริงอย่างเป็นทางการ
"การเกิดขึ้นของพรรคการเมืองใหม่ เป็นมิติใหม่ทางการเมืองที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะเกิดจากอุดมการณ์ของประชาชนที่ร่วมกันจัดตั้งขึ้นมา ไม่ได้เกิดขึ้นจากกลุ่มทุนที่ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเหมือนในอดีต ที่หลังจากเข้าร่วมรัฐบาลแล้วก็พยายามทุกวิถีทางในการถอนทุนคืน ซึ่งกลายเป็นธุรกิจการเมืองเช่นทุกวันนี้"
นายสนธิ กล่าวว่า การที่พันธมิตรฯ ตั้งพรรคขึ้นมาสู้ ตนถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะว่าจะทำให้พรรคการเมืองอื่นเร่งปรับตัวเองด้วย และพรรคการเมืองของพันธมิตรฯจะแสดงให้พรรคการเมืองอื่นดูว่า การเข้ามาทำงานในการเมืองแบบโปร่งใสเป็นอย่างไร และถึงเวลาแล้วที่การเมืองเก่าควรจะหมดไปจากบ้านเมืองเสียที
อย่างไรก็ตาม พรรคของพันธมิตรฯ ที่เกิดขึ้นขณะนี้ เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง เป็นเครื่องมือของพันธมิตรฯเท่านั้น ถ้าพรรคการเมืองปฏิบัติตัวไม่เป็นไปตามที่ประชาชนคาดหวัง พันธมิตรฯ จะถอยตัวออกห่างทันที ซึ่งพันธมิตรฯ นั้นจะเป็นส่วนที่สำคัญกว่าพรรคการเมืองอย่างแน่นอน และจะคอยควบคุมการทำงานในส่วนของพรรคการเมืองอย่างเคร่งครัดด้วย
นายสนธิ กล่าวถึงบทบาทของตนที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใหม่ว่า ตนไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง แต่ถ้าจะมีบทบาทอะไร ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ตรงนี้ถือว่าเป็นแค่กระบวนการที่จะต้องเกิดขึ้นที่พรรคจะต้องเดินไปสู่กระบวนการต่างๆ และเดินเข้าสู่สภา
ทั้งนี้ ถ้าตนมีตำแหน่งใดในพรรค ซึ่งประชาชนก็อาจจะเลือกให้รับตำแหน่ง และเมื่อสมาชิกได้เดินเข้าสู่ระบอบสภาอย่างเป็นระบบแล้ว ตนก็ต้องกลับมาอยู่ที่พันธมิตรฯภาคประชาชน เพราะถือว่าหมดหน้าที่ในส่วนนี้แล้ว จะกลับไปชูธงการเมืองอยู่ฝั่งการเมืองภาคประชาชนเช่นเดิม
"ในส่วนตัวผม เรื่องข้อกฎหมายนั้นไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งคดีหมิ่นประมาท แต่ขณะนี้คดียังไม่สิ้นสุด ซึ่งถือว่ายังไม่มีความผิด ส่วนคดีล้มละลายนั้นในส่วนของผม ไม่ใช่การล้มละลายแบบทุจริต ซึ่งผ่านพ้นการบังคับทางกฎหมาย 3 ปีแล้ว ส่วนนี้จึงตกไป อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ว่าจะมีหลายฝ่ายโจมตีผมในหลายเรื่องที่จะเข้ามารับตำแหน่งในพรรคนั้น ผมอยากบอกว่า ไม่กลัวว่าใครจะโจมตี เพราะตั้งแต่ปี2548 จนถึงปัจจุบันได้เจอมาหมดแล้ว ซึ่งมาถึงจุดนี้คงไม่มีอะไรต้องกลัวอีก" นายสนธิกล่าว
อย่างไรก็ตาม 5 แกนนำพันธมิตรฯ จะยังไม่เคลื่อนไหวในช่วงเวลานี้ ซึ่งคาดว่าคงจะเป็นเวลา 2 เดือนนับจากนี้ที่พันธมิตรฯ ได้รวบรวมสมาชิกพรรค และมีการประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และตำแหน่งอื่นๆภายในพรรคเสร็จสิ้นไปก่อน ซึ่งคิดว่าจะเป็นบรรยากาศที่แตกต่างจากพรรคการเมืองที่เคยมีมาเพราะต้องใช้เสียงจากประชาชนมาเป็นตัวตัดสินว่า ใครจะดำรงตำแหน่งใด ไม่ได้เลือกขึ้นมาโดยใครคนหนึ่งที่มีอำนาจผูกขาด คงจะถือโอกาสในวันนั้นแถลงนโยบายของพรรคว่า เราจะบริหารบ้านเมืองอย่าไร เป็นต้น ซึ่งตนคาดว่า จะเป็นวันที่ดีอีกวันหนึ่งของพันธมิตรฯ
"ถ้าวันหนึ่งพรรคการเมืองใหม่ของพันธมิตรฯ ต้องเข้าไปทำงานร่วมกับพรรคการเมืองอื่น ส่วนตัวผมนั้น ถ้าต้องให้ไปทำงานร่วมกับพรรคที่ทำงานด้วยแล้วไม่น่าไว้ใจ ผมคงไม่ร่วมด้วย แต่ถ้าเป็นพรรคการเมืองที่มีนโยบายที่ดี ทำงานด้วยความโปร่งใส สุจริต ก็จะสนับสนุนและสามารถที่จะทำงานร่วมกันได้" นายสนธิ กล่าว
เมื่อเวลา 10.30 น.วานนี้ (2 มิ.ย.) ที่บ้านพระอาทิตย์ มีการประชุมผู้ก่อตั้งพรรคการเมืองของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยมีแกนนำพันธมิตรฯจากทุกภูมิภาค และแนวร่วมจากหลากหลายภาคส่วนเข้าร่วมประชุมประมาณ 20 คน โดยมีนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯเป็นประธานการประชุม ซึ่งการประชุมครั้งนี้ ได้เปิดให้ผู้สื่อข่าวเข้าสังเกตการด้วย
ทั้งนี้ สาระในการประชุมที่สำคัญ คือ การเลือกหัวหน้าพรรค และผู้ที่จะดำรงตำแหน่งในส่วนต่างๆ ของพรรค นโยบายของพรรค การกำหนดข้อบังคับของพรรค ซึ่งส่วนดังกล่าวจะเป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
สำหรับวาระแรกของการประชุม นายสมศักดิ์ ได้ให้ผู้เข้าร่วมประชุมเสนอชื่อพรรคการเมือง โดยนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ได้เสนอชื่อพรรค 3 ชื่อ ซึ่งได้มีการลงความเห็นจากประชาชนภาคส่วนต่างๆ ของพันธมิตรฯ มาแล้ว คือ 1.พรรคเทียนแห่งธรรม 2.พรรคพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ 3.พรรคการเมืองใหม่
จากนั้นผู้เข้าร่วมประชุมได้อภิปรายถึงเหตุผลในส่วนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยอย่างกว้างขวางต่อชื่อพรรคทั้ง 3 ชื่อ เช่น พรรคเทียนแห่งธรรม และพรรคพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีการจดทะเบียนไปก่อนแล้ว จึงอาจมีการซ้ำซ้อนขึ้นได้ อีกทั้งชื่อพรรคเทียนแห่งธรรม ยังไม่ได้บอกนัยที่ชัดเจนมากนัก ส่วนชื่อพรรคพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น ส่วนหนึ่งเห็นว่าอาจไปทับซ้อนกับการเคลื่อนไหวของการเมืองภาคประชาชน และควรที่จะคงไว้ในส่วนของภาคประชาชนมากกว่า
อย่างไรก็ดี ที่ประชุมได้ข้อสรุปอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า จะใช้ชื่อ"พรรคการเมืองใหม่" โดยมีเหตุผลว่า ชื่อนี้มีนัยที่แสดงถึงการต่อสู้ที่ต้องการจะให้เกิดการเมืองใหม่ ที่มีพลังบริสุทธิ์ และเป็นพลังที่ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงการเมืองแบบเก่าไปสู่สิ่งที่ดีกว่า โดยจะใช้ชื่อตัวย่อภาษาไทย คือ ก.ม.ม. และใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า NEW POLITICS PARTY ชื่อย่อ NPSP
ส่วนวาระที่ 2 เป็นการลงมติในส่วนของที่ทำการพรรค ที่ประชุมได้มีมติว่าจะใช้บ้านของนายสมศักดิ์ โกศัยสุข ที่บ้านเลขที่ 93/360 หมู่ที่ 5 ต.อนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. เป็นที่ทำการพรรค โดยจะใช้อย่างไม่เป็นทางการไปก่อน ซึ่งขณะนี้ทางแกนนำพันธมิตรฯ ได้มีการไปสำรวจดูที่ทำการพรรคที่จะให้มีความเหมาะสมมากที่สุดอยู่ คาดว่าน่าจะอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร
เบื้องต้นที่ประชุมผู้จัดตั้งพรรคมีการเสนอชื่อของหัวหน้าพรรคชั่วคราวแล้ว โดยนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค และนายสุริยะใส กตะศิลา เป็นเลขาธิการพรรคชั่วคราว
ต่อมา นายสมศักดิ์ พร้อมด้วยผู้จดทะเบียนจัดตั้งพรรครวม 21 คนได้ออกแถลงการณ์พร้อมกันว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ตั้งชื่อ “พรรคการเมืองใหม่” (ก.ม.ม.) โดยจะเดินทางไปจดทะเบียนอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 มิ.ย. เวลา 08.00 น. โดยตำแหน่งหัวหน้าพรรค และเลขธิการพรรคในวันนี้ ถือเป็นการชั่วคราว เพื่อรอจดทะเบียนอย่างเป็นทางการแล้วก็จะมีการประชุมคัดสรรหัวหน้าพรรครวมทั้งกรรมการบริการพรรคอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนสีประจำพรรคการเมืองใหม่ คือ สีเหลือง-เขียว ซึ่งสีเหลือง หมายถึง การเชิดชูระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ อุดมการณ์ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ส่วนสีเขียว คือ การเมืองสะอาด หรือการเมืองที่ไร้มลพิษ ซึ่งมีความหมายในประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องทรัพยากร และความเป็นธรรมทางการเมือง ส่วนโลโก้พรรคอยู่ในช่วงนำกลับไปปรับปรุงซึ่งคงจะได้เห็นชัดเจนในวันที่ 4 มิ.ย.นี้
นายสมศักดิ์ ตอบคำถามสื่อมวลชน ถึงความคาดหวังในจำนวน ส.ส.ที่จะได้รับเลือกเข้าสู่สภาฯว่า เป็นเรื่องไกลตัวในขณะนี้ แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าถึงจำนวนเก้าอี้ เพราะการเมืองใหม่จะต้องเน้นที่คุณภาพไม่ได้เน้นที่ปริมาณ ส่วนพันธมิตรฯ ในภาคประชาชน ก็ยังคงมีความเคลื่อนไหวต่อไป เพื่อตรวจสอบพรรคการเมือง ไม่เว้นแม้แต่พรรคการเมืองใหม่ ในส่วนของ ส.ส.ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็ให้พี่น้องพันธมิตรฯ เป็นผู้เสนอรายชื่อขึ้นมา โดยที่กรรมการบริหารพรรคจะไม่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องคัดสรรบุคคล
สำหรับรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ ประกอบด้วย 1. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข เป็นหัวหน้าพรรค 2. นางภินันทน์ โชติรสเศรณี เป็นรองหัวหน้าพรรค 3. นายสุริยะใส กตะศิลา เป็นเลขาธิการพรรค 4. นายพิชิต ไชยมงคล เป็นรองเลขาธิการพรรค 5. นางลักขณา ดิษยะศริน เป็นเหรัญญิกพรรค
6. นางภาณุมาศ พรหมสูตร เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค 7. พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ เป็นโฆษกพรรค 8. นายสุทธิ อัชฌาศัย เป็นกรรมการบริหารพรรค 9. นางชญาบุญ เพชรพรหม กรรมการบริหารพรรค 10. น.ส.นิตายา กุระคาน กรรมการบริหารพรรค 11. น.ส.อาภารัตน์ ชาติชุติกำจร กรรมการบริหารพรรค 12. น.ส.ฉัตรกุล คำมีอ่อน กรรมการบริหารพรรค 13. น.ส.จีรนันท์ อินทร์สุริวงศ์ กรรมการบริหารพรรค 14. นางลักขณา ดิษยะศริน กรรมการบริหารพรรค 15. นายบรรจง นะแส กรรมการบริหารพรรค 16. นางชญาดา ศริญญามาศ กรรมการบริหารพรรค 17. นายวิลิต เตชะไพบูลย์ กรรมการบริหารพรรค 18. นายสมศักดิ์ อิสมันยี กรรมการบริหารพรรค 19. นางเสาวนีย์ รุ่งช่วง กรรมการบริหารพรรค 20. น.ส.พรชุลี คงขวัญ กรรมการบริหารพรรค 21. นางเพลินพิศ ทองวล กรรมการบริหารพรรค 22. นางเสน่ห์ หงส์ทอง กรรมการบริหารพรรค 23. นางกาญจนา กาญจนเสวี กรรมการบริหารพรรค
**พันธมิตรฯภาคประชาชนยังอยู่
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่วมกันของผู้ก่อตั้งพรรคการเมืองว่า การทำหน้าที่ภาคประชาชนของเครือข่ายพันธมิตรฯในภาคต่างๆจะยังคงทำการตรวจสอบรัฐบาลต่อไป ขณะเดียวกันในชุดก่อตั้งพรรคก็จะดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องของพรรคไปก่อน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าปัญหาการเมืองประชาชนทั่วไปก็ยังติดตามกันอยู่ อาทิ เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ไม่ว่าเรื่องอะไรที่ไม่ถูกต้อง อันนี้เป็นมติเดิมของพันธมิตรฯที่จะเดินหน้าต่อต้านคัดค้านอยู่แล้ว
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงกระบวนการก่อตั้งพรรคหลังจากนี้จะมีการรวบรวมสมาชิกพรรค และทำการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคอย่างเป็นทางการ ตามด้วยการวางนโยบายที่จะสร้างพรรคให้เข็มแข็ง รวมไปถึงการจะเตรียมคนไปลงสมัครเลือกตั้ง โดยให้ประชาชนพันธมิตรฯในแต่ละพื้นที่ไปคัดเลือกแข่งขันเสนอกันมา ซึ่งส่วนนี้พันธมิตรฯ ให้ความสำคัญกับคุณภาพของบุคลากรที่ได้รับการเลือกตั้ง จะเข้าไปทำหน้าที่ทางการเมืองได้อย่างสอดคล้อง เหมาะสมและมีคุณภาพ แต่ทั้งนี้จะเป็นหลังจากการจดทะเบียนพรรค และเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งคาดว่าจะไม่เกิน 60 วัน
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากการที่ตนได้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่เป็นการชั่วคราวนั้น คงไม่ทำให้การเมืองภาคประชาชนด้อยความเข็มแข็งไป ทั้งนี้ตำแหน่งหัวหน้าพรรคขณะนี้ เป็นเพียงผู้ก่อตั้งพรรค ซึ่งจะต้องมีการเลือกอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ต้องมาดูกันอีกทีว่าตนจะอยู่ในตำแหน่งใด
อย่างไรก็ตาม คิดว่าเป็นส่วนดีที่แกนนำพันธมิตรฯได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพรรคการเมือง ตรงส่วนนี้ก็จะทำให้มีคนรุ่นใหม่เข้ามาผลัดใบให้การเมืองภาคประชาชน และคิดว่าหลายคนมีความสามารถมาเป็นผู้นำภาคประชาชนได้ ถ้าสังเกตุให้ดีการชุมนุมต่อสู้ของพันธมิตรที่ผ่านมา เมื่อเกิดสถานการณ์ใหม่เกิดขึ้นก็จะมีแกนนำหรือคนใหม่เกิดขึ้นตามมาด้วย ไม่ใช่ว่าถ้าหมดแกนนำ 5 คนแล้วพันธมิตรฯ จะเดินต่อไปไม่ได้
"ขอย้ำว่าพันธมิตรฯที่เป็นภาคประชาชน ยังคงตรวจสอบรัฐบาลอยู่เหมือนเดิม เพราะการเมืองใหม่ต้องเดินคู่ขนานกันไป" หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่กล่าว
**"สนธิ"ยันไม่ยึดติดตำแหน่ง
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ให้สัมภาษณ์หลังประชุมก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ว่าการประชุมครั้งนี้ เป็นการเลือกผู้บีหารพรรคอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งต้องรอมติใหญ่จากสมาชิกพรรคอีกครั้งหนึ่งในอีกไม่เกิน 2 เดือนข้างหน้า หลังจากที่รวบรวมสมาชิกพรรคครบเรียบร้อย และจะมีการประชุมวิสามัญเพื่อเลือกผู้ดำรงตำแหน่งตัวจริงอย่างเป็นทางการ
"การเกิดขึ้นของพรรคการเมืองใหม่ เป็นมิติใหม่ทางการเมืองที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะเกิดจากอุดมการณ์ของประชาชนที่ร่วมกันจัดตั้งขึ้นมา ไม่ได้เกิดขึ้นจากกลุ่มทุนที่ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเหมือนในอดีต ที่หลังจากเข้าร่วมรัฐบาลแล้วก็พยายามทุกวิถีทางในการถอนทุนคืน ซึ่งกลายเป็นธุรกิจการเมืองเช่นทุกวันนี้"
นายสนธิ กล่าวว่า การที่พันธมิตรฯ ตั้งพรรคขึ้นมาสู้ ตนถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะว่าจะทำให้พรรคการเมืองอื่นเร่งปรับตัวเองด้วย และพรรคการเมืองของพันธมิตรฯจะแสดงให้พรรคการเมืองอื่นดูว่า การเข้ามาทำงานในการเมืองแบบโปร่งใสเป็นอย่างไร และถึงเวลาแล้วที่การเมืองเก่าควรจะหมดไปจากบ้านเมืองเสียที
อย่างไรก็ตาม พรรคของพันธมิตรฯ ที่เกิดขึ้นขณะนี้ เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง เป็นเครื่องมือของพันธมิตรฯเท่านั้น ถ้าพรรคการเมืองปฏิบัติตัวไม่เป็นไปตามที่ประชาชนคาดหวัง พันธมิตรฯ จะถอยตัวออกห่างทันที ซึ่งพันธมิตรฯ นั้นจะเป็นส่วนที่สำคัญกว่าพรรคการเมืองอย่างแน่นอน และจะคอยควบคุมการทำงานในส่วนของพรรคการเมืองอย่างเคร่งครัดด้วย
นายสนธิ กล่าวถึงบทบาทของตนที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใหม่ว่า ตนไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง แต่ถ้าจะมีบทบาทอะไร ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ตรงนี้ถือว่าเป็นแค่กระบวนการที่จะต้องเกิดขึ้นที่พรรคจะต้องเดินไปสู่กระบวนการต่างๆ และเดินเข้าสู่สภา
ทั้งนี้ ถ้าตนมีตำแหน่งใดในพรรค ซึ่งประชาชนก็อาจจะเลือกให้รับตำแหน่ง และเมื่อสมาชิกได้เดินเข้าสู่ระบอบสภาอย่างเป็นระบบแล้ว ตนก็ต้องกลับมาอยู่ที่พันธมิตรฯภาคประชาชน เพราะถือว่าหมดหน้าที่ในส่วนนี้แล้ว จะกลับไปชูธงการเมืองอยู่ฝั่งการเมืองภาคประชาชนเช่นเดิม
"ในส่วนตัวผม เรื่องข้อกฎหมายนั้นไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งคดีหมิ่นประมาท แต่ขณะนี้คดียังไม่สิ้นสุด ซึ่งถือว่ายังไม่มีความผิด ส่วนคดีล้มละลายนั้นในส่วนของผม ไม่ใช่การล้มละลายแบบทุจริต ซึ่งผ่านพ้นการบังคับทางกฎหมาย 3 ปีแล้ว ส่วนนี้จึงตกไป อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ว่าจะมีหลายฝ่ายโจมตีผมในหลายเรื่องที่จะเข้ามารับตำแหน่งในพรรคนั้น ผมอยากบอกว่า ไม่กลัวว่าใครจะโจมตี เพราะตั้งแต่ปี2548 จนถึงปัจจุบันได้เจอมาหมดแล้ว ซึ่งมาถึงจุดนี้คงไม่มีอะไรต้องกลัวอีก" นายสนธิกล่าว
อย่างไรก็ตาม 5 แกนนำพันธมิตรฯ จะยังไม่เคลื่อนไหวในช่วงเวลานี้ ซึ่งคาดว่าคงจะเป็นเวลา 2 เดือนนับจากนี้ที่พันธมิตรฯ ได้รวบรวมสมาชิกพรรค และมีการประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และตำแหน่งอื่นๆภายในพรรคเสร็จสิ้นไปก่อน ซึ่งคิดว่าจะเป็นบรรยากาศที่แตกต่างจากพรรคการเมืองที่เคยมีมาเพราะต้องใช้เสียงจากประชาชนมาเป็นตัวตัดสินว่า ใครจะดำรงตำแหน่งใด ไม่ได้เลือกขึ้นมาโดยใครคนหนึ่งที่มีอำนาจผูกขาด คงจะถือโอกาสในวันนั้นแถลงนโยบายของพรรคว่า เราจะบริหารบ้านเมืองอย่าไร เป็นต้น ซึ่งตนคาดว่า จะเป็นวันที่ดีอีกวันหนึ่งของพันธมิตรฯ
"ถ้าวันหนึ่งพรรคการเมืองใหม่ของพันธมิตรฯ ต้องเข้าไปทำงานร่วมกับพรรคการเมืองอื่น ส่วนตัวผมนั้น ถ้าต้องให้ไปทำงานร่วมกับพรรคที่ทำงานด้วยแล้วไม่น่าไว้ใจ ผมคงไม่ร่วมด้วย แต่ถ้าเป็นพรรคการเมืองที่มีนโยบายที่ดี ทำงานด้วยความโปร่งใส สุจริต ก็จะสนับสนุนและสามารถที่จะทำงานร่วมกันได้" นายสนธิ กล่าว
