xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯ แถลงตั้ง "พรรคการเมืองใหม่" - "สมศักดิ์" รั้งหัวหน้าพรรค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV

สมศักดิ์ โกศัยสุข

วันนี้มีการประชุมเพื่อพิจารณาก่อตั้งพรรคการเมืองตามมติเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ในการชุมนุมใหญ่ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ทั้งหมดวันนี้มาประชุมกัน 21 คน ที่ได้ลงชื่อในการประชุม และได้มีการประชุมกันแล้ว ได้มติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคนี้ให้ตั้งชื่อว่า "พรรคการเมืองใหม่" วันนี้มีผู้หญิง 13 คน ผู้ชาย 8 คน ในการร่วมก่อการจัดตั้งพรรคการเมืองนี้ ซึ่งมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า New Politics Party ชื่อย่อภาษาไทย "ก.ม.ม." ตัวย่อภาษาอังกฤษ "NPSP"
ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เลือกหัวหน้าพรรค ผู้ก่อการ เป็นนายสมศักดิ์ โกศัยสุข คุณภินันท์ โชติรสเศรณี เป็นรองหัวหน้าพรรค คุณสมศักดิ์ อิสมันยี เป็นรองหัวหน้าพรรค คุณสุริยะใส กตะศิลา เป็นเลขาธิการพรรค คุณพิชิต ชัยมงคล เป็นรองเลขาธิการพรรค คุณลักขณา ดิษยะศริน เป็นเหรัญญิกพรรค คุณภาณุมาศ พรหมสูตร เป็นนายทะเบียนพรรค พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ เป็นโฆษกพรรค คุณสุทธิ อัชฌาศัย เป็นกรรมการบริหารพรรค นอกจากนั้นที่เหลือก็เป็นกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด (รายชื่อตามเอกสาร)
มีทุกภาคส่วน คุณฉัตร คุณคำ มีอ่อน คุณอาภารัตน์ ชาติชุติกำจร คุณนิตยา กุระคาน คุณชญาบุญ เพชรพรหม คุณจีรนันท์ อินทสุริวงศ์ (***) คุณบรรจง นะแส คุณชญาดา ศริญญามาศ (***) คุณวิลิศ เตชะไพบูลย์ คุณเสาวณีย์ รุ่งช่วง คุณพรชุลี คงขวัญ คุณเพลินพิศ ทองวน คุณเสน่ห์ หงส์ทอง
ซึ่งในการที่จะดำเนินการไปจดทะเบียนอย่างเป็นทางการ จะเป็นวันพฤหัสฯ ที่ 4 มิถุนายน เวลา 08.00 น. ที่ กกต. ที่แจ้งวัฒนะ
สำหรับรายละเอียดที่ผู้สื่อข่าวจะซักถาม ก็ให้ซักถามได้ ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมให้เลขาธิการพรรค คุณสุริยะใส กตะศิลา ได้แถลงต่อ

สุริยะใส กตะศิลา

เพิ่มเติมท่านหัวหน้าพรรคนิดหนึ่ง วันนี้ถือว่าเป็นการดำเนินการตามระเบียบข้อบังคับและกฎหมายพรรคการเมือง ซึ่งกำหนดว่าต้องมีการประชุมกันอย่างเป็นทางการ และทั้ง 21 คนที่เข้าประชุมวันนี้ ได้ผ่านความเห็นชอบของ 5 แกนนำ ที่ใช้หลักการคัดเลือกโดยยึดโยงกับตัวแทนภาค ตัวแทนสาขาอาชีพ และกลุ่มองค์กรแนวร่วมที่ร่วมเคลื่อนไหวกับเรา แต่ทั้งหมดนี้ก็ถือเป็นตำแหน่งชั่วคราว หลังจากนี้ถ้า กกต.รับรองการจดทะเบียนแล้ว ทางพรรคก็จะมีการประชุมเพื่อคัดเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค ทุกตำแหน่งอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ฉะนั้นวันนี้ถือว่าเป็นผู้ริเริ่มที่จะขอจดทะเบียนพรรคในวันที่ 4 มิถุนายน ส่วนสีของพรรค คือ "สีเหลืองกับสีเขียว" สีเหลือง คือ การเชิดชูระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรืออุดมการณ์ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ส่วนสีเขียว คือ การเมืองสะอาด หรือการเมืองที่ไร้มลพิษ ซึ่งมีความหมายในประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องทรัพยากร และความเป็นธรรมทางการเมือง
ส่วนโลโก้ของพรรค เมื่อกี้เข้าที่ประชุมแล้วให้ไปปรับปรุง วันที่ 4 คงได้เห็นรายละเอียด โดยให้ไปปรับปรุงบางส่วน ในรายละเอียดบางตัว วันที่ 4 จะมีโลโก้ที่ชัดเจน
สำหรับนโยบายพรรค วันนี้ก็เป็นหลักการกว้างๆ รวมทั้งระเบียบข้อบังคับ หากสื่อมวลชนสนใจให้ถามคุณสมศักดิ์ (หัวหน้าพรรค) ได้

ถาม- กรรมการบริหารพรรคทั้งหมด 21 คน แบ่งเป็นกรรมการพรรคธรรมดา..

สุริยะใส- ตำแหน่งที่ระบุ 7 ตำแหน่ง หัวหน้า รองหัวหน้า 2 เลขาฯ 1 รองเลขาฯ 1 โฆษก 1 นายทะเบียน 1 และเหรัญญิก 1 ที่เหลือเป็นกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด

สมศักดิ์- นี่เป็นไปตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง 2550

สุริยะใส- โฆษก พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ รองหัวหน้าก็ คุณภินันท์ โชติรสเศรณี พันธมิตรฯ จากภาคตะวันตก อีกคนหนึ่งรู้จักกันในนามพี่อ๊อด คีตาญชลี จริงๆ ก็คือคุณสมศักดิ์ อิสมันยี อ.ลักขณา เป็นเหรัญญิกพรรค ฝ่ายทะเบียนพรรค คุณภาณุมาศ พรหมสูตร ที่เหลือก็จะเป็นกรรมการบริหารพรรค ซึ่งมีทั้งตัวแทนภาคแรงงาน เช่น คุณเสน่ห์ หงษ์ทอง ภาคเกษตรมีคุณวิลิศ เตชะไพบูลย์ ที่เหลือก็จะเป็นตัวแทนภาคต่างๆ ทั้งหมดนี้ในเบื้องต้นก่อน นี่เป็นเพียงคณะผู้ริเริ่ม ถ้าพรรคได้รับการรับรองเป็นทางการ ก็จะมีการประชุมกันอย่างเป็นทางการเพื่อคัดเลือกหัวหน้าพรรค และตำแหน่งบริหารในส่วนอื่นๆ ด้วยในภายหลัง

ถาม- หลังจากนี้จะมีการทาบทามคนที่มีชื่อเสียง รวมถึง ส.ส.ประชาธิปัตย์

สมศักดิ์- ไม่มีครับ เพราะว่าในเรื่อง ส.ส.เราได้คุยกันมาก่อนแล้วว่า ประชาชนในพื้นที่จะต้องเป็นผู้เสนอว่าเขาควรจะเอาใครลงไป นั่นเป็นเรื่องในอนาคต แต่หลักการแล้วข้างบนนี้จะไม่ได้ตัดสินใจเพียงลำพัง ยกตัวอย่างเช่น สมมุติ จ.ระยอง พี่น้องชาวระยองก็ต้องเสนอมาว่าใครบ้างที่ควรจะลงไปแข่งขันในนามพรรคการเมืองใหม่

ถาม- ดูรายชื่อกรรมการบริหารพรรค แม้จะเป็นอย่างไม่เป็นทางการตอนนี้ แต่จริงๆ แล้วยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าที่ควร

สมศักดิ์- ก็เป็นผู้ก่อตั้ง ก็คิดว่าไม่จำเป็น เพราะเราแค่ผู้ก่อตั้งก็น่าจะมีคนรู้จักพอสมควรแล้ว หัวหน้าพรรคคิดว่าคนรู้จักเยอะแล้ว เลขาธิการพรรคก็รู้จักกันเยอะ และคีตาญชลีคนรู้จักกันทั่วประเทศแล้ว

ถาม- ที่ทำการพรรคใช้ที่บ้านพระอาทิตย์ไหม

สมศักดิ์- ที่ทำการพรรคใช้ที่บ้านเลขที่ 93/360 หมู่ที่ 5 ต.อนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. ไม่ได้ใช้ที่นี่

สุริยะใส- ชั่วคราวไปก่อน สถานที่คงจะมีความชัดเจนภายในเดือนนี้ อยู่ระหว่างการหาอยู่ ดูไว้หลายที่ คงจะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้ แต่ไม่ได้ใช้ที่นี่

ถาม- มีการพูดถึงจุดหมายของพันธมิตรฯ ไหมว่าจุดหมายของพันธมิตรฯ คืออะไร จุดหมายของพรรคการเมืองใหม่

สมศักดิ์- ผมคิดว่าเราไม่ใช้ร้านขายของนะ แต่เป็นลักษณะนำเสนอให้ประชาชนเขาเห็นว่าการเมืองใหม่มายังไง จุดของเราก็คือว่า เราส่งเสริมให้คนดีที่มีประวัติศาสตร์ตรวจสอบได้มาเป็นผู้ปกครองเรา เพราะว่าบ้านเมืองทุกวันนี้มันมีปัญหาเรื่องการคอร์รัปชั่น จุดขายของเราก็คือว่า ผู้ที่เข้ามาทำงานตรงนี้จะต้องมีประวัติศาสตร์ นอกจากจะไม่คอร์รัปชั่นแล้ว จะต้องเป็นคนที่เกลียดคอร์รัปชั่น และต่อต้านการคอร์รัปชั่น และจะต้องมีการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และรักษาชาติ ศาสนา และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นอกจากนั้นเราก็จะให้พี่น้องประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางตรงให้มากในการตรวจสอบการตัดสินใจในการดำเนินการในด้านปัญหาเศรษฐกิจ ในด้านสิ่งแวดล้อม อะไรก็ตามที่กระทบกับประชาชน คือให้เป็นไปตามเจตจำนงในการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างจริงจัง และที่สำคัญก็คือ จะต้องทำให้ประชาชนทั้งประเทศได้รับองค์ความรู้ด้านข้อมูลข่าวสารได้อย่างทั่วถึง เท่าเทียม เสมอภาค รวมทั้งการกระจายรายได้และผลประโยชน์ที่เป็นทรัพยากร และที่ผลิตได้ ให้กับสังคมอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม นี่คือเป้าหมาย ทิศทางที่จะนำให้เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการเมืองใหม่อย่างไร ไม่ใช่แบบเก่าๆ อย่างแน่นอน ฉะนั้นอยากให้ประชาชนได้เปรียบเทียบได้ว่าจุดยืนของเราเรื่องการทุจริต การคอร์รัปชั่น เราจะต้องจัดการอย่างเด็ดขาด และให้คนยอมรับเคารพตามกฎหมาย

ถาม- เป็นห่วงเรื่องคดีเกี่ยวกับกรณีที่พันธมิตรฯ มีคดีฟ้องร้องอยู่ ในส่วนนี้หากมีการยื่นไปแล้วในเรื่องเกี่ยวกับคดีได้มีการปรึกษากับฝ่ายกฎหมายหรือยัง ว่าเป็นอย่างไร

สมศักดิ์- ได้ปรึกษาแล้ว เพราะว่าคดีมันอยู่แค่การกล่าวหา อยู่ในกระบวนการของศาล ตามรัฐธรรมนูญก็คือว่าผู้ถูกกล่าวหาเหล่านี้เป็นผู้บริสุทธิ์ มันไม่มีผลอะไร อย่าลืมนะครับว่ากรรมการชุดนี้คือชุดก่อการที่จะไปจดทะเบียน หลังจากที่ กกต.รับรองว่าตรวจสอบเอกสารถูกต้องแล้ว ก็จะต้องมาเลือกตั้งใหม่ ภายใน 60 วัน ตามกฎหมาย ตามข้อบังคับของพรรค

ถาม- กรณีของคุณสนธิ

สมศักดิ์- คุณสนธิไม่ได้เป็นผู้ก่อการอะไรเลยตอนนี้ นี่เป็นเรื่องที่จะต้องไปว่ากันในชุดที่ 2 ว่าจะลงมาสมัครเป็นกรรมการบริหารหรือไม่ อย่างไร และเท่าที่ตรวจสอบทางข้อกฎหมายก็ไม่ได้มีผลอะไร วันนี้เอาเฉพาะ 21 คนมาตรงนี้ก่อนว่ามีคุณสมบัติถูกต้องหรือไม่ ก็ต้องให้ กกต.เป็นผู้ตรวจสอบ แต่ทุกคนก็เชื่อว่ามีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญถูกต้อง

ถาม- มีอะไรหนักใจไหมกับการที่สังคมมองมายังพรรคพันธมิตรฯ

สมศักดิ์- ไม่หนักใจ ไม่มีอะไรหนักใจ มีแต่รู้สึกว่าการทำงานนี้จะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ เพราะว่าที่ผ่านมาก็หนักพอสมควรแล้ว ต่อไปคิดว่าไม่มีอะไรหนักเลย สำหรับคนที่จะทำงานเพื่อบ้านเมือง

ถาม- ที่ไม่เลือกคุณสนธิเป็นหัวหน้าพรรค เป็นเพราะติดคดีความต่างๆ หรือเปล่า

สมศักดิ์- ไม่เกี่ยวครับ นี่เป็นผู้ก่อการ อย่างที่เรียนแล้วว่าหลังจากก่อการแล้วก็จะมีการเลือกตั้งกันอีกครั้งหนึ่ง กระบวนการคัดสรรต่างๆ ก็จะมาอีกครั้งหนึ่ง

ถาม- กระบวนการเลือกคนที่มาเป็นผู้สมัครของพรรคพันธมิตรฯ ดูแล้วจะปิดทาง ส.ส.หน้าเดิมไหม

สมศักดิ์- ก็ยังต้องพิจารณาหลักใหญ่ ถ้าประชาชนในพื้นที่เสนอมา ก็คิดว่านั่นคือสาระสำคัญในการพิจารณาคุณสมบัติ นอกจากนั้นต้องเป็นผู้ที่มีประวัติที่ไม่เคยกระทำการใดๆ ไปในทางที่เป็นหุ้นส่วนกับพวกเผด็จการ หรืออะไรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือการโกง การทุจริตคอร์รัปชั่น แต่เราเน้นใหม่ๆ แต่อย่างไรก็ตาม หลักใหญ่ก็ต้องฟังเสียงประชาชนที่เสนอมา เพราะนี่คือการเมืองใหม่

ถาม- ถ้าไม่เลือกคนที่มีชื่อเสียงมา จะเป็นอุปสรรคไหม

สมศักดิ์- คิดว่าไม่น่าจะเป็นอุปสรรค เพราะถ้าเราคิดว่าเอาเงินเป็นใหญ่ ก็แบบเดิม ก็ไม่ต้องมีพรรค เราก็สนับสนุนพรรคใดก็ได้ ถ้าคิดว่าเพื่อเอาตัวเลขมานั่งนับกัน เพราะฉะนั้นการเมืองใหม่ต้องคิดถึงเรื่องประโยชน์ของสังคมเป็นหลัก เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในบรรดาพรรคการเมืองต่างๆ น่าจะมีกติกากฎเกณฑ์ใหม่ๆ เกิดขึ้น น่าจะทำสัญญายกเลิกกันได้แล้วว่าการซื้อเสียงทำให้ประเทศชาติเสียหายอย่างไร ผลสะท้อนเหล่านี้จะต้องกลับไปสู่ประชาชนภาคส่วนต่างๆ ได้ช่วยกันครุ่นคิดว่าประเทศชาติเรามาถึงวันนี้เราควรจะดำเนินการอย่างไรให้การเมืองเป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่มีเงินแล้วไปซื้อเสียงกันมา นี่คือสิ่งที่เราต้องการจะให้มีการเปลี่ยนแปลงด้วย

ถาม- ที่ผ่านมาพรรคการเมืองอื่นมีการกล่าวหาว่า (***) มีการซื้อเสียงเข้ามา พันธมิตรฯ ตั้งพรรคมาแล้วสามารถที่จะ (***)

สมศักดิ์- มันเป็นเรื่องในอนาคต เพราะตอนนี้มันยังไม่ได้จดทะเบียนเลย ก็ค่อยว่ากันไป แต่อย่างไรก็ตาม หลักการใหญ่ก็คือว่า จะไปร่วมมือกับใครหรือไม่ อย่างไรนั้น เราต้องดำเนินการตามนโยบายที่สำคัญของเราได้ ไม่ใช่ไปร่วมเพื่อให้ได้ประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าอย่างนั้นคิดว่าคงไม่ทำแน่นอน

ถาม- ในเบื้องต้นได้มีการคุยกันไหมว่าความคาดหวังจะได้ ส.ส.กี่ที่นั่งในอนาคต

สมศักดิ์- ไม่ได้คุยครับ เพราะถ้าคิดแบบนั้นก็คิดแบบการขาย การซื้อ การเอาชัยชนะกันด้วยตัวเลข แต่เป้าหมายคือเราต้องการสร้างคุณภาพ การเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณภาพต้องมาก่อนการเปลี่ยนแปลงในเชิงปริมาณ

ถาม- ได้คุยกับคุณสมเกียรติไหมว่าจะย้ายมาอยู่กับพรรคใหม่ไหม

สมศักดิ์- ก็ไปถามคุณสมเกียรติ ยังไม่ได้คุยกันชัดเจน แต่ก็เชื่อว่าเมื่อเป็นที่เรียบร้อย คุณสมเกียรติก็คงตัดสินใจได้ ถ้าไปพูดแทนเขาเดี๋ยวไม่ตรงกัน เดี๋ยวมาก็ลองถามดู

ถาม- สาขาพรรคจะมีการกระจายอย่างไร

สมศักดิ์- ตามกฎหมายเบื้องต้นก็ต้อง 4 ภาค แต่คิดว่าพันธมิตรฯ มีเครือข่ายเยอะ ก็เมื่อพี่น้องในพื้นที่เขาพร้อม ก็ต้องไปตามจุดตามสภาพและความเป็นจริง ที่ไหนพร้อมที่นั่นก็ไป เพราะไปแล้วก็ต้องมั่นคง แต่ตามกฎหมายก็เชื่อว่าทำได้อยู่แล้ว เพราะเรามีพี่น้องจำนวนมากที่เข้าร่วมในขบวนการนี้

ถาม- มั่นใจฐานเสียงภาคไหนมากที่สุด

สมศักดิ์- ยังไม่ได้คิดไปถึงประเด็นนั้น คิดว่า ตอนนี้ถ้าจะพูดไปมันก็ยังไม่ถึง เพราะเวลามันยังอีกนาน การเปลี่ยนแปลง ตัวแปรต่างๆ มันเกิดขึ้น เอาเป็นว่าขณะนี้ขอให้ดำเนินการกิจกรรมเป็นขั้นเป็นตอนไปก่อน แล้วค่อยมาพูดกันว่า ให้ถึงเวลาที่จะลงเลือกตั้ง ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร ดี-ไม่ดีหลังจากแถลงข่าวแล้วเขาทำอะไรกันไม่รู้ มันไม่แน่ เพราะรู้สึกว่ามีเรื่องมะรุมมะตุ้มกันอยู่เหมือนกัน

ถาม- ในส่วนการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน

สมศักดิ์- ก็ยังมีตามเดิมครับ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ยังดำรงการเคลื่อนไหวอยู่แบบเดิม คือภาคประชาชนก็มีของเขา ส่วนภาคที่มาเป็นพรรคการเมืองในระบบรัฐสภาก็มี มันก็เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่ได้มีอย่างใดอย่างหนึ่ง

ถาม- ความเคลื่อนไหวภาคประชาชนร่วมไปกับการจัดตั้งพรรคการเมือง อาจจะถูกข้อกล่าวหาเรื่องแสวงหาอำนาจ

สมศักดิ์- อยู่ที่การปฏิบัติ เวลาการตรวจสอบ ซึ่งแน่นอนว่าเราจะต้องมีการตรวจสอบกันอย่างเต็มที่ ส่วนที่เป็นภาคประชาชนเดี๋ยวเขาคงตรวจสอบเต็มที่ ที่คุยกันก็ถือว่าภาคประชาชนจะเข้มแข็งนั้น จะต้องไม่ประนีประนอมกับผลประโยชน์กับนักการเมืองในระบบรัฐสภา ในเมื่อเขาทำอะไรไม่ถูกต้อง นี่คือสิ่งใหม่ๆ ที่จะได้เกิดขึ้น การวิตกกังวล การห่วงใยทุกประเด็น เป็นสิ่งที่ดี ซึ่งเราจะได้นำมาพิจารณา และเป้าหมายก็ต้องการที่จะให้แก้ปัญหาต่างๆ ไปด้วยดีในข้อวิตกกังวลทั้งหลาย

ถาม- การใช้สื่อโทรทัศน์ ASTV ได้พิจารณาว่าจะมีผลกระทบในทางกฎหมายหรือเปล่า

สมศักดิ์- คิดว่าคงคนละส่วนกัน คงจะไม่เกี่ยวข้องกัน สื่อก็ว่าไปเรื่องของสื่อ อิสรภาพของสื่อก็ว่าไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ คงจะไม่ไปเกี่ยวข้องกัน แต่สื่อก็มีอิสระในการที่จะเสนออะไรเป็นความจริง อะไรไม่จริง ซึ่งการเมืองก็ต้องเดินไปตามกฎเกณฑ์การเมือง คงไม่ได้เป็นส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน

ถาม- คิดว่าจะสร้างพรรคให้เป็นพรรคเฉพาะกิจ หรือความเป็นสถาบันในอนาคตไหม

สมศักดิ์- โดยหลักแล้วเมื่อก่อกำเนิดพรรคขึ้นมา กับปัญหาประเทศ ปัญหาการเมืองที่มีอยู่ ก็ต้องการจะให้เป็นพรรคที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องอยู่รอด ไม่ได้เกิดเพื่อตาย แน่นอนครับต้องการพัฒนาไปสู่ความมั่นคงในอนาคต ส่วนจะทำได้อย่างไรแค่ไหนก็ต้องพิสูจน์กัน

ถาม- ตรงนี้ต้องอาศัยปัจจัยในส่วนของตำแหน่ง ส.ส.หรือเปล่า ถ้าหากได้ ส.ส.ไม่เป็นไปตามเป้าก็ต้องยุบพรรคไป

สมศักดิ์- อะไรที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย เราก็ต้องทำให้ได้ ถ้ามันผ่านสิ่งตรงนั้นไม่ได้ ก็ถือว่าไปไม่ได้ แต่ในขณะนี้ก็ต้องมีความมั่นใจว่าจะต้องทำได้ตามกรอบกฎเกณฑ์ของกฎหมาย จะใหญ่ จะเล็ก ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะสิ่งเหล่านี้เราไปพูดแทนประชาชนไม่ได้ ถ้าประชาชนสนับสนุนมากก็ไปได้ ถ้าสนับสนุนไม่มากก็ไปไม่ได้ ก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของบุคลากรที่เข้ามาทำงานด้านการเมืองเป็นสำคัญ ถ้าทำได้ตามที่พูดมันก็ไปได้ ทำไม่ได้มันก็ไปไม่ได้ นี่ต้องถูกพิสูจน์

ถาม- ไม่ว่าจะได้สักกี่ที่นั่งก็ตาม

สมศักดิ์- มันไม่จำเป็นว่าจะต้องได้กี่ที่นั่ง ประธานาธิบดีลินคอล์นลงเลือกตั้งถึง 11 ครั้ง กว่าจะได้เป็น ครั้งแรกไม่ได้สักคะแนนเดียว มันไม่มีอะไรที่เกิดถึงและใหญ่โตเกินไป ผมว่ามันก็เป็นไปตามสภาพความเป็นจริงของสังคม แต่ว่าพวกเรานั้นตั้งใจที่จะทำงานไปจนถึงที่สุด เพื่อทำให้การเมืองเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประชาชน อย่างน้อยก็มีตัวเลือกเพิ่มขึ้น จากของที่มีอยู่แล้ว เมื่อมีสิ่งใหม่เกิดขึ้น ก็เปิดช่องให้ประชาชนได้มีสิทธิ์ได้เลือกสิ่งใหม่ๆ จะเลือกหรือไม่เลือกนั่นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เป็นข้อเสนอใหม่ให้ประชาชนได้พิจารณา

ถาม- การวางระบบ ให้แกนนำเห็นชอบตัวหัวหน้าพรรคอีกครั้งหนึ่งหรือเปล่า (***)

สมศักดิ์- ไม่ เพราะว่านี่มาจากรากฐานของประชาชน จะเห็นได้ว่าแม้จะตั้งหรือไม่ตั้ง ก็เป็นกระบวนการแรกของประเทศนี้เสียด้วยซ้ำไป ว่าวันที่ 25 ยังต้องเชิญพี่น้องประชาชนมาเป็นจำนวนมากว่าจะตั้งหรือไม่ตั้ง

ถาม- การตรวจสอบพรรคตัวเองจะตรวจสอบอย่างไร ที่บอกว่าจะมีการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนควบคู่ไปด้วย

สมศักดิ์- ก็ต้องวางกลไก กฎเกณฑ์ ให้โปร่งใส แม้แต่กรรมการแต่ละคน ประชาชนที่เป็นสมาชิกก็มีสิทธิ์ อยู่ในข้อบังคับในการที่จะตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ซึ่งเราได้เรียนรู้จากการเมืองเก่าๆ มาแล้ว ก็เชื่อว่าคงจะไม่ทำอะไรเก่าๆ ที่ทำไปแล้วประชาชนไม่เห็นด้วย

ถาม- ที่ผ่านมา 5 แกนนำเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนภาคประชาชน แล้วตอนนี้มีพรรคการเมือง ถ้าแยกออกจากกัน จะไปครอบ ...

สมศักดิ์- คงไม่ครอบ เพราะที่ผ่านมาเวลาเคลื่อนไหวอะไรก็ถามประชาชน ขึ้นอยู่กับว่ากระบวนการเคลื่อนไหวภาคประชาชน กับการเคลื่อนไหวทางการเมือง มันมีกฎหมายมีอะไรคอยตรวจสอบอย่างละเอียดมากขึ้น จะเห็นได้ว่าพรรคการเมืองเก่าๆ ที่ติดกับดักเยอะแยะ ทั้งที่กฎหมายฉบับนี้ยังใช้ไม่ได้อย่างเต็มที่ เราคิดว่ากฎหมายพรรคการเมืองปี 2550 เข้มงวดพอสมควร ขณะที่บอกว่าหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค รู้เห็นเป็นใจ ก็ต้องยุบพรรค ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้เราต้องทำ สิ่งที่ต้องการคือให้เห็นเป็นของใหม่ มากกว่าที่จะไปบอกว่าจะไปเอาชนะคนโน้นคนนี้ ส่วนผลจะออกอย่างไรนั้นก็เป็นเรื่องของประชาชนที่จะต้องตัดสิน

ถาม- เงินในการทำพรรคการเมืองมาจากช่องทางไหนบ้าง

สมศักดิ์- ธรรมดาก็ต้องมี ของใหม่ก็ต้องมีสมาชิกที่ชัดเจน ที่ต้องชำระเป็นประจำ ก็เงินบริจาคที่จะต้องไม่เกินกรอบขอบเขตที่กฎหมายกฎหมาย แต่ว่าอย่างไรก็ตามต้องไม่มีเงื่อนไขใดๆ ในการที่จะเข้ามาครอบงำ คงจะไม่ใช่เอาเงินมา 5-6 ร้อยล้าน แล้วมาเป็นเลขาฯ พรรค หัวหน้าพรรค พรรคการเมืองนี้จะไม่มีอย่างนั้นอย่างเด็ดขาด ก็จะเน้นประชาชนส่วนใหญ่ที่เป็นสมาชิก ที่เป็นเจ้าของพรรค

ถาม- เปิดเผยได้ไหมว่าตอนนี้มีเงินบริจาคเข้ามาอยู่ที่เท่าไร

สมศักดิ์- ตอนนี้รู้สึกว่ามีเงินบริจาคมา 1,000 บาท เท่าที่รับมา เพราะว่ายังไม่ได้ตั้งพรรค ยังไม่ได้จดทะเบียน 1,000 บาท ไม่รู้ใครให้มา

ถาม- แกนนำมีโอกาสที่จะรับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรค หรือประธานกิตติมศักดิ์อะไรไหม

สมศักดิ์- ก็เป็นเรื่องที่ต้องดูกันอีกที ตอนนี้ยังพูดไม่ได้ เพราะยังต้องไปออกแบบ ตอนนี้กำลังออกแบบออกโครงสร้างพรรค แล้วก็มาพิจารณากันอย่างรอบคอบ หลังจากได้โครงสร้างแล้วภายใน 60 วัน จะพยายามให้สิ่งที่ถามนั้นคงจะตอบได้อย่างเป็นรูปธรรมในช่วงนั้น เพราะพูดไปในช่วงนี้อาจจะไม่ตรงก็ได้ ต้องเรียนว่า ผมเองถ้าอะไรที่เป็นความคิดส่วนตัวผมไม่มี จะไม่พูด จะพูดต่อเมื่อได้คุยอะไรไว้เรียบร้อย เพราะพูดแล้วเดี๋ยวอาจจะไม่ตรงก็ได้ แล้วก็จะเป็นการชี้นำ ก็ต้องขอเรียนอย่างตรงไปตรงมา แต่สิ่งเหล่านั้นเมื่อถึงเวลามันอาจจะเปลี่ยน พูดไปเดี๋ยวพอเปลี่ยนก็จะบอกว่า อ้าวทำไมบอกไว้ไม่เป็นอย่างนี้ เพราะเราต้องระมัดระวังในการรักษาคำพูดด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น