40 ส.ว.ชำแหละเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ค้านหัวชนฝาไม่เห็นด้วยย้ำตั้งโครงการเพื่อสะสมเสบียงเลือกตั้ง ส่วน “เทพเทือก”ชี้รถเมล์เช่า 4 พันคันต้องผลิตในไทย อ้างให้คนไทยมีงานทำ ยันเบรก 2 โครงการยักษ์พรรคภูมิใจไทยไม่สร้างรอยร้าวพรรคร่วม ขณะที่ดันแผนฟื้นฟูร.ฟ.ท.ชงครม. 3 มิ.ย. ของบ 560 ล้านบาทตั้ง 2 บริษัทลูก เดินรถ-ทรัพย์สิน ยอมรับธ.ค.ไม่พร้อมขยับเปิดเดินรถแอร์พอร์ตลิ้งก์เต็มระบบ ก.พ.53 “ซีเมนส์”ยันระบบพร้อม ทดลอง 12 ส.ค. ปลอดภัยหรือไม่ รอใบรับรองที่ปรึกษาอิสระ ด้านสนข.ตรียมเสนอแอร์พอร์ตลิ้งค์เฟส 2 เชื่อมสถานีพญาไท-ดอนเมือง 32,988.78 ล้าน
ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน ร่วมกับคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ได้จัดเสวนา “คำถามของประชาชน กับรถเมล์ NGV 4,000 คัน” โดยได้เปิดให้ประชาชนและกลุ่มองค์กรต่างๆ วิพากษ์วิจารณ์และเสนอความคิดเห็น อาทิ กลุ่มเครือข่ายป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาคประชาชน ตัวแทนจากสมาพันธ์รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์(สรส.) สหภาพองค์กรขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) โดยผู้เข้าร่วมเสวนาทั้งหมดเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า รัฐบาลไม่ควรปล่อยให้โครงการดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจาก ครม.
โดยนายไพบูลย์ ซำศิริพงษ์ สมาชิกวุฒิสภาปทุมธานี ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ กล่าวว่า ได้คัดค้านโครงการดังกล่าวมาตั้งแต่แรกแล้วเพราะเห็นว่าเสนอราคาที่สูงเกินจริงมากไป การนำเงินภาษีประชาชนขนาดนั้นไปเช่า แทนที่จะเป็นการจัดซื้อเพื่อให้รถตกเป็นมรดกแผ่นดิน เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง หากรัฐบาลยังมุ่งมั่นจะเอาให้ได้ก็เป็นห่วง ครม.ทั้งคณะ อาจถูกประชาชนจำนวน 2 หมื่นคนเข้าชื่อยื่นถอดถอนให้พ้นจากตำแหน่งได้
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวว่า ไม่ใช่เฉพาะแค่กลุ่ม 40 ส.ว.เท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย แต่ได้ซาวเสียงส.ว.ทั้ง 150 คนแล้วก็ไม่มีใครเห็นด้วยกับโครงการนี้ ส.ว.ทุกคนจะร่วมกันตรวจสอบ และโครงการนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ หากครม.ให้ผ่านก็ถือว่าการทำหน้าที่ของส.ว.ล้มเหลว และหากประชาชนเข้าชื่อยื่นถอดถอนมาเชื่อว่า ส.ว.ทุกคนจะทำเรื่องนี้ให้เป็นประวัติศาสตร์แน่นอน
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว. ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่จะเปลี่ยน ขสมก.จากองค์กรรัฐวิสาหกิจ แปลงสภาพไปสู่การเป็นบริษัทของเอกชนผู้ให้เช่ารถเมล์ ซึ่งตัวเลขงบประมาณก็ผิดปกติชัดเจน โดยข้อมูลจากสันติบาลพบว่ามีผลประโยชน์ไปตกในกระเป๋าผู้เกี่ยวข้องถึงคันละ 1.5-2 ล้านบาท ลองเอาไปคูณ 4 พันคันดู โครงการนี้ไม่มีอะไรนอกจากเข้ามาถอนทุน คนที่เป็นนอมินีก็ต้องทำตามที่นายสั่ง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์และนายกฯเองก็รู้ดีอยู่แล้วว่าอีกไม่นานก็ต้องยุบสภา หากยังไม่เข้าใจในสถานภาพนี้ก็สมควรถูกยื่นถอดถอน แล้วกลับไปเป็นฝ่ายค้านเหมือนเดิม และคราวนี้จะยาวนานมาก ดังนั้นนายกฯต้องยืนอยู่ข้างผลประโยชน์ประชาชน สำหรับขสมก.เองก็ต้องแสดงพลังให้ชัดเจนและเข้มแข็งว่าไม้เอาด้วย แล้วประชาชนจะกลับมาศรัทธาท่านเหมือนเดิม
นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา ได้ฝากถามถึงรัฐบาลว่า ขสมก. จะปลดระวางรถจำนวนกี่คัน และมีแผนการปลดระวางอย่างไร และผู้ได้รับสัมปทานได้มีการขยายเส้นทางเอง ขสมก.ก็มีสัญญารถร่วมเกี่ยวกับการขยายเส้นทาง ซึ่งสามารถยกเลิกสัมปทานได้ ขสมก.ได้ใส่ใจเรื่องนี้หรือไม่ นอกจากนี้ขสมก.เคยถามกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นผู้หยิบงานนี้ขึ้นมา ซึ่งเป็นโครงการทุจริตโดยเจตนา มีความผิดทางอาญา เรื่องนี้มีใครคิดจะดำเนินการกับคนกลุ่มนี้หรือไม่ เพราะเจตนาเอาเงินภาษีประชาชนไปใช้เกินความจำเป็น
น.ส. รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ อยากให้ กทม.และ ขสมก. ควรทำงานร่วมกันในการเลือกเส้นทางใหม่ ไม่ใช่ ขสมก.ออกมาทำเพียงฝ่ายเดียว และควรให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมเพื่อตอบสนองการใช้ของประชาชน สำหรับการเช่ารถทั้ง 4 พันคันนี้เชื่อว่ามีค่าคอมมิชชั่นแน่นอน จึงอยากถามว่าพวกคุณได้กันกี่เปอร์เซ็นต์ จากการพูดคุยกับประชาชนมา ขณะนี้เขาเอือมระอา ขนาดเด็กยังรู้เลยว่าโครงการเช่าครั้งนี้ทำไปไม่มีประโยชน์ แต่นักการเมืองเขาได้ประโยชน์ จึงพยายามและดื้อจะให้เกิดโครงการนี้ให้ได้ จึงฝากถึงนายกฯว่า หลายครั้งที่มักจะบอกว่าเรื่องนี้ 2 อาทิตย์ค่อยมาทบทวนใหม่ หากเรื่องยังมารอ 2 อาทิย์แล้วมีการจัดซื้อต่อ ก็จะสร้างความเสียให้ชาติอย่างมาก ดังนั้นประชาชนอย่ายอม เรามีสิทธิทักท้วงและห้ามได้ เพราะเป็นเงินภาษีของพวกเรา อย่าคิดว่าประชาชนไม่รู้ว่าพวกคุณได้ค่าคิมมิชชั่น ประชาชนไม่ได้กินแกลบ แต่หากต้องการซื้อก็ขอให้ซื้อและผลิตในไทย พวกเราเข้าใจว่ารัฐบลาต้องอาศัยองค์ประกอบพรรคร่วมค้ำยัน แต่ขณะนี้บ้านเมืองมีความเปลี่ยนแปลง เศรษฐกิจตกต่ำ แต่กลับมาเดินหน้าจะจัดซื้อโครงการที่ไร้สาระ ไร้เหตุผล เห็นแก่ส่วนแบ่ง ตรงนี้ประชาชนยอมรับไม่ได้ และยังทราบว่าขณะนี้มีรถจำนวนหนึ่งจอดรออยู่ที่ลาดกระบังและคลองเตย ซึ่งประกอบเสร็จแล้วพร้อมใช้ หากเราไม่ซื้อเขาก็เจ๊ง นั่นมันเริ่องของเขา ขอบอกว่าไม่ถอยก็ลองดูงานนี้หากโครงการนี้ไม้บล้มรับรองว่ารัฐบาลล้มเองแน่
ขณะที่น.ส.รสนากล่าวจบ ประชาชนที่เข้าร่วมเสวนาต่างตะโกนขึ้นมาพร้อมกันว่า “เราไม่ยอมให้เช่าหรอก” ขณะที่กลุ่มประชาชนชาวดอนเมือง ได้สอบถามผ่านไปถึงรัฐบาลว่า จะมีการจัดระบบการบริการรถเมล์ทั้ง 41 พันคันอย่างไร เพราะขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนไม่ต่างจากชาวบ้านเขตรอบนอก เพราะรถเมล์บริการน้อยมาก แต่มีรถกระบะที่นำมาดัดแปลงเป็นรถ 2 แววิ่งเกลื่อนถนน ทำให้ประชาชนจำเป็นต้องขึ้นเพราะมีทางเลือกน้อย ทำให้เสี่ยงกับอันตราย และยังเป็นการผิดกฎหมายจราจร โดยที่รถกระบะเหล่านี้มีวิ่งอยู่กว่า 400-500 คันต่อวัน โดยเป็นของส.ส.ที่มีอิทธิพลในพื้นที่ด้วย
“เทพเทือก”ย้ำรถเมล์เช่า 4 พันคันต้องผลิตในไทย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านความมั่นคง กล่าวถึงโครงการรถเมล์เช่า NGV 4 พันคัน ที่มีการติงถึงราคาค่าเช่า ค่าซ่อมที่แพงเกินไปว่า เรื่องนี้เข้าครม.มา 2-3 ครั้งแล้ว ซึ่งในหลักการคิดว่าทุกคนเห็นด้วย เพราะขสมก.ไม่มีเงินมากที่จะบริหารจัดการด้วยวิธีการปกติ จึงต้องเช่าและเหมาค่าซ่อมบำรุงไปทั้งหมด แต่ที่ ครม.ติงกันคือค่าเช่าแพงไปหรือไม่ ซึ่งมีข้ออธิบายมาก และเมื่อมีข้ออธิบายมากก็ทำให้มีข้อสงสัยมากขึ้นไปอีก แต่สิ่งหนึ่งที่ครม.ให้ช่วยประสานงานพูดจาก็คือ ขอให้เป็นรถยนต์ที่ประกอบในเมืองไทยให้มากที่สุด อย่างน้อยต้องเกินครึ่งหนึ่ง เพราะจะได้ช่วยให้คนไทยมีงานทำมากขึ้น อาจสักประมาณ 70 % ซึ่งก็ต้องพยายามแก้ไขปรับปรุงกันไป เอาอะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุดก็แล้วกัน
ส่วนข้อสงสัยที่ว่า เช่ารถใหม่ ทำไมจึงมีการตั้งค่าซ่อมไว้ก่อนล่วงหน้า รองนายกฯ กล่าวว่า จำไม่ได้ว่าที่เช่านี้ต้องใช้เวลาเท่าไร อาจจะ 10-15 ปี แต่ความจริงรถพอใช้ไป 2-3 ปี ก็ต้องซ่อมแล้ว ก็ต้องมีการบำรุงรักษา เขาจึงคิดค่าบำรุงรักษาไว้ตั้งแต่ต้นว่าค่าบำรุงรักษาทั้งหมดเท่าไร
ต่อข้อถามว่ารัฐบาลตีกลับโครงการใหญ่ 2 โครงการ ที่อยู่ในความดูแลของพรรคภูมิใจไทย ทั้งโครงการรถเมล์ และการระบายข้าว คิดว่าจะมีปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี เรื่องอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องโกรธกัน เพราะครม.มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน และในฐานะผู้จัดการรัฐบาล ยืนยันว่าไม่มีปัญหาในรัฐบาล มีความสัมพันธ์ที่ดีในพรรคร่วมรัฐบาลและทราบดีว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ก็เข้าใจ ไม่มีปัญหา
แผนฟื้นฟูร.ฟ.ท.ชงครม. 3 มิ.ย.
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และ คณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) เห็นชอบแผนปรับโครงสร้างการบริหารจัดการเพื่อฟื้นฟูฐานะทางการเงินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) โดยในสัปดาห์หน้าจะเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทลูกเดินรถ 500 ล้านบาท บริหารสินทรัพย์ 60 ล้านบาท และยืนยันการเปิดทดสอบระบบโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ตลิ้งก์) ในเดือนส.ค. 52 ส่วนเปิดเดินรถเต็มระบบอย่างช้าก.พ. 53 จากกำหนดเดิมธ.ค. 52 โดยขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้ากว่า 98%
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จะเสนอแผนฟื้นฟูครม.ในวันที่ 3 มิ.ย.52 พร้อมกับขออนุมัติเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของ บริษัทเดินรถ และบริษัทบริหารทรัพย์สิน รวม 560 ล้านบาท โดยให้เบิกจ่ายเป็นงวดตามความจำเป็น ส่วนรายละเอียดของประมาณการรายได้แอร์พอร์ตลิ้งก์นั้นจะต้องพิจารณาร่วมกันอีกหลังจากนี้
ทั้งนี้ บริษัทเดินรถประกอบด้วย 4 หน่วยธุรกิจ ได้แก่ หน่วยธุรกิจแอร์พอร์ตลิ้งก์ ต้องการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ 478 อัตรา หน่วยธุรกิจเดินรถโดยสาร หน่วยธุรกิจเดินรถสินค้า และหน่วยธุรกิจการเดินรถไฟฟ้าอื่น เช่น โครงการระบบขนส่งมวลชนสายสีแดง โดยมีโครงสร้างการบริหารงานของบริษัทฯ ประกอบด้วย ผู้บริหารสูงสุดของบริษัท (Chief of Executive Officer : CEO) และกรรมการผู้จัดการใหญ่จัดสรรงบดำเนินการ 500 ล้านบาท ใน 52 จำนวน 140 ล้านบาท ภายในก.ค. 52 ปี 53 จำนวน 420 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 3 งวด งวดละ 140 ล้านบาท คือ ต.ค. 552 , ม.ค.และเม.ย. 53 สำหรับภาระหนี้สินร.ฟ.ท.รวม 72,850 ล้านบาท และภาระบำเหน็จบำนาญ ประมาณ 52,600 ล้านบาท
รอเจรจาสัญญาซ่อมบำรุงแอร์พอร์ตลิ้งก์
นายแอนโทนี ยู วา เช ประธานและหัวหน้าฝ่ายบริหารประเทศไทย กัมพูชา พม่า บริษัทซีเมนส์ จำกัด กล่าวว่าว่า ระบบแอร์พอร์ตลิ้งก์มีความพร้อมแล้วส่วนจะเปิดเดินรถเมื่อใด ร.ฟ.ท.เป็นผู้กำหนด โดยในสัญญากำหนดส่งมอบงานระบบอย่างเป็นทางการให้ร.ฟ.ท.เดือนพ.ย. 2552 ซึ่งต้องมีการทดสอบความพร้อมตามขั้นตอนทั้งหมดแล้ว แต่ในทางปฏิบัติสามารถส่งมอบได้ก่อน ส่วนความปลอดภัยทั้งโครงการนั้นตามหลักการที่ปรึกษาอิสระ (IEC) ควรให้การรับรองก่อนการเปิดเดินรถ
“ยืนยันว่า ซีเมนส์จะไม่ร่วมรับงานเดินรถให้แอร์พอร์ตลิ้งก์ เพราะไม่มีความชำนาญโดยซีเมนส์จะทำเกี่ยวกับระบบ การซ่อมบำรุงเท่านั้นซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการตกลงสัญญาการซ่อมบำรุงโครงการกับร.ฟ.ท.แต่อย่างใด”นายแอนโทนีกล่าว
ระดมความเห็นแอร์พอร์ตลิ้งก์เฟส 2
วานนี้ (27พ.ค.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 งานออกแบบรายละเอียด โครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง)-สุวรรณภูมิ หรือแอร์พอร์ตลิงก์ส่วนต่อขยาย จากสถานีพญาไท-สนามบินดอนเมือง โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนเข้าร่วม 150 คน โดยบริษัทที่ปรึกษาโครงการได้ชี้แจงว่า
โครงการแอร์พอร์ตลิ้งก์ส่วนต่อขยาย ระยะทางรวม 22 กม. งบลงทุนทั้งโครงการประมาณ 32,988.78 ล้านบาท แนวเส้นทางเริ่มจากสถานีพญาไท ซึ่งเชื่อมต่อกับโครงการแอร์พอร์ตลิงก์เดิม - สถานีราชวิถี ผ่านสถานีกลางบางซื่อ ของรถไฟฟ้าสายสีแดง- สถานีบางเขน- หลักสี่ -สถานีดอนเมือง มีทางเชื่อมตอ่เข้าไปยังอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ในช่วงจากสถานีพญาไทแนวเส้นทางรถไฟฟ้าจะยกข้ามบีทีเอส แล้วลดระดับลงใต้ดิน ผ่านสถานีราชวิถี จนถึงถนนระนอง 1 แล้วไต่ระดับขึ้นสู่สถานีกลางบางซื่อ ส่วนโครงสร้างจากสถานีบางซื่อถึงดอนเมืองจะเป็นโครงสร้างยกระดับโดยใช้โครงสร้างโฮป เวลล์เดิม
สำหรับงบลงทุนทั้งโครงการประมาณ 32,988.78 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจากพญาไท-บางซื่อ ลงทุนประมาณ 13,595.60 ล้านบาท เป็นค่างานโยธา 8,304.40 ล้านบาท ระบบรถไฟฟ้า 3,681.20 ล้านบาท ขบวนรถไฟฟ้า 1,6100 ล้านบาท ช่วง 2 บางซื่อ-ดอนเมือง โดยกลางเดือน มิย. จะประชุมสัมมนารับฟังความคิดเห็นครั้งสุดท้ายคาดการศึกษาแล้วเสร็จเดือน กค.นี้
ทั้งนี้ ในส่วนความเห็นของผู้เข้าร่วมสัมมนาส่วนใหญ่กังกลเรื่องการเวนคืน ความซ้ำซ้อนรถไฟฟ้าสายสีแดง ค่าโดยสาร และเพิ่มเติมเครื่องอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการด้วย
สำหรับรูปแบบการเดินรถเป็นระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงสูดไม่เกิน 160กม./ชม. แบ่งเป็น 2 ประเภท โดยเดินรถต่อเนื่องจากดอนเมืองสิ้นสุดสุวรรณภูมิ ใช้ รถไฟเชื่อมท่าอากาศยาน (City Line) จอดรับส่งเพิ่มอีก 5 สถานี ได้แก่ สถานีราชวิถี บางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง ใช้เวลาเดินทางรวมจากสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง ประมาณ 50 นาที และรถไฟด่วนเชื่อมท่าอากาศยานต่อจากระบบเดิมจอดรับเพิ่มสถานีบางซื่อ ดอนเมือง ใช้เวลาเดินทางรวม 30 นาที
นายชาญชัย สุวิสุทธะกุล ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบการขนส่งและจราจร สนข. กล่าวว่า เนื่องจากรัฐบาลได้ยกเลิกเที่ยวบินบางส่วนที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งส่งผลต่อความจำเป็นในการลงทุนโครงการ ช่วงบางซื่อ-ดอนเมืองนั้น ซึ่งเป็นไปได้ที่จะปรับเปลี่ยนโดยใช้บางซื่อเป็นศูนย์กลางเส้นทางรถไฟสู่ภูมิภาคไปยัง
นครราชสีมา หรือนครสวรรค์โดยใช้ระบบรถไฟทางไกลความเร็วสูง เพราะมีขนาดของราง 1.435 เมตร ที่สามารถรองรับได้
ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน ร่วมกับคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ได้จัดเสวนา “คำถามของประชาชน กับรถเมล์ NGV 4,000 คัน” โดยได้เปิดให้ประชาชนและกลุ่มองค์กรต่างๆ วิพากษ์วิจารณ์และเสนอความคิดเห็น อาทิ กลุ่มเครือข่ายป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาคประชาชน ตัวแทนจากสมาพันธ์รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์(สรส.) สหภาพองค์กรขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) โดยผู้เข้าร่วมเสวนาทั้งหมดเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า รัฐบาลไม่ควรปล่อยให้โครงการดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจาก ครม.
โดยนายไพบูลย์ ซำศิริพงษ์ สมาชิกวุฒิสภาปทุมธานี ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ กล่าวว่า ได้คัดค้านโครงการดังกล่าวมาตั้งแต่แรกแล้วเพราะเห็นว่าเสนอราคาที่สูงเกินจริงมากไป การนำเงินภาษีประชาชนขนาดนั้นไปเช่า แทนที่จะเป็นการจัดซื้อเพื่อให้รถตกเป็นมรดกแผ่นดิน เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง หากรัฐบาลยังมุ่งมั่นจะเอาให้ได้ก็เป็นห่วง ครม.ทั้งคณะ อาจถูกประชาชนจำนวน 2 หมื่นคนเข้าชื่อยื่นถอดถอนให้พ้นจากตำแหน่งได้
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวว่า ไม่ใช่เฉพาะแค่กลุ่ม 40 ส.ว.เท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย แต่ได้ซาวเสียงส.ว.ทั้ง 150 คนแล้วก็ไม่มีใครเห็นด้วยกับโครงการนี้ ส.ว.ทุกคนจะร่วมกันตรวจสอบ และโครงการนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ หากครม.ให้ผ่านก็ถือว่าการทำหน้าที่ของส.ว.ล้มเหลว และหากประชาชนเข้าชื่อยื่นถอดถอนมาเชื่อว่า ส.ว.ทุกคนจะทำเรื่องนี้ให้เป็นประวัติศาสตร์แน่นอน
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว. ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่จะเปลี่ยน ขสมก.จากองค์กรรัฐวิสาหกิจ แปลงสภาพไปสู่การเป็นบริษัทของเอกชนผู้ให้เช่ารถเมล์ ซึ่งตัวเลขงบประมาณก็ผิดปกติชัดเจน โดยข้อมูลจากสันติบาลพบว่ามีผลประโยชน์ไปตกในกระเป๋าผู้เกี่ยวข้องถึงคันละ 1.5-2 ล้านบาท ลองเอาไปคูณ 4 พันคันดู โครงการนี้ไม่มีอะไรนอกจากเข้ามาถอนทุน คนที่เป็นนอมินีก็ต้องทำตามที่นายสั่ง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์และนายกฯเองก็รู้ดีอยู่แล้วว่าอีกไม่นานก็ต้องยุบสภา หากยังไม่เข้าใจในสถานภาพนี้ก็สมควรถูกยื่นถอดถอน แล้วกลับไปเป็นฝ่ายค้านเหมือนเดิม และคราวนี้จะยาวนานมาก ดังนั้นนายกฯต้องยืนอยู่ข้างผลประโยชน์ประชาชน สำหรับขสมก.เองก็ต้องแสดงพลังให้ชัดเจนและเข้มแข็งว่าไม้เอาด้วย แล้วประชาชนจะกลับมาศรัทธาท่านเหมือนเดิม
นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา ได้ฝากถามถึงรัฐบาลว่า ขสมก. จะปลดระวางรถจำนวนกี่คัน และมีแผนการปลดระวางอย่างไร และผู้ได้รับสัมปทานได้มีการขยายเส้นทางเอง ขสมก.ก็มีสัญญารถร่วมเกี่ยวกับการขยายเส้นทาง ซึ่งสามารถยกเลิกสัมปทานได้ ขสมก.ได้ใส่ใจเรื่องนี้หรือไม่ นอกจากนี้ขสมก.เคยถามกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นผู้หยิบงานนี้ขึ้นมา ซึ่งเป็นโครงการทุจริตโดยเจตนา มีความผิดทางอาญา เรื่องนี้มีใครคิดจะดำเนินการกับคนกลุ่มนี้หรือไม่ เพราะเจตนาเอาเงินภาษีประชาชนไปใช้เกินความจำเป็น
น.ส. รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ อยากให้ กทม.และ ขสมก. ควรทำงานร่วมกันในการเลือกเส้นทางใหม่ ไม่ใช่ ขสมก.ออกมาทำเพียงฝ่ายเดียว และควรให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมเพื่อตอบสนองการใช้ของประชาชน สำหรับการเช่ารถทั้ง 4 พันคันนี้เชื่อว่ามีค่าคอมมิชชั่นแน่นอน จึงอยากถามว่าพวกคุณได้กันกี่เปอร์เซ็นต์ จากการพูดคุยกับประชาชนมา ขณะนี้เขาเอือมระอา ขนาดเด็กยังรู้เลยว่าโครงการเช่าครั้งนี้ทำไปไม่มีประโยชน์ แต่นักการเมืองเขาได้ประโยชน์ จึงพยายามและดื้อจะให้เกิดโครงการนี้ให้ได้ จึงฝากถึงนายกฯว่า หลายครั้งที่มักจะบอกว่าเรื่องนี้ 2 อาทิตย์ค่อยมาทบทวนใหม่ หากเรื่องยังมารอ 2 อาทิย์แล้วมีการจัดซื้อต่อ ก็จะสร้างความเสียให้ชาติอย่างมาก ดังนั้นประชาชนอย่ายอม เรามีสิทธิทักท้วงและห้ามได้ เพราะเป็นเงินภาษีของพวกเรา อย่าคิดว่าประชาชนไม่รู้ว่าพวกคุณได้ค่าคิมมิชชั่น ประชาชนไม่ได้กินแกลบ แต่หากต้องการซื้อก็ขอให้ซื้อและผลิตในไทย พวกเราเข้าใจว่ารัฐบลาต้องอาศัยองค์ประกอบพรรคร่วมค้ำยัน แต่ขณะนี้บ้านเมืองมีความเปลี่ยนแปลง เศรษฐกิจตกต่ำ แต่กลับมาเดินหน้าจะจัดซื้อโครงการที่ไร้สาระ ไร้เหตุผล เห็นแก่ส่วนแบ่ง ตรงนี้ประชาชนยอมรับไม่ได้ และยังทราบว่าขณะนี้มีรถจำนวนหนึ่งจอดรออยู่ที่ลาดกระบังและคลองเตย ซึ่งประกอบเสร็จแล้วพร้อมใช้ หากเราไม่ซื้อเขาก็เจ๊ง นั่นมันเริ่องของเขา ขอบอกว่าไม่ถอยก็ลองดูงานนี้หากโครงการนี้ไม้บล้มรับรองว่ารัฐบาลล้มเองแน่
ขณะที่น.ส.รสนากล่าวจบ ประชาชนที่เข้าร่วมเสวนาต่างตะโกนขึ้นมาพร้อมกันว่า “เราไม่ยอมให้เช่าหรอก” ขณะที่กลุ่มประชาชนชาวดอนเมือง ได้สอบถามผ่านไปถึงรัฐบาลว่า จะมีการจัดระบบการบริการรถเมล์ทั้ง 41 พันคันอย่างไร เพราะขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนไม่ต่างจากชาวบ้านเขตรอบนอก เพราะรถเมล์บริการน้อยมาก แต่มีรถกระบะที่นำมาดัดแปลงเป็นรถ 2 แววิ่งเกลื่อนถนน ทำให้ประชาชนจำเป็นต้องขึ้นเพราะมีทางเลือกน้อย ทำให้เสี่ยงกับอันตราย และยังเป็นการผิดกฎหมายจราจร โดยที่รถกระบะเหล่านี้มีวิ่งอยู่กว่า 400-500 คันต่อวัน โดยเป็นของส.ส.ที่มีอิทธิพลในพื้นที่ด้วย
“เทพเทือก”ย้ำรถเมล์เช่า 4 พันคันต้องผลิตในไทย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านความมั่นคง กล่าวถึงโครงการรถเมล์เช่า NGV 4 พันคัน ที่มีการติงถึงราคาค่าเช่า ค่าซ่อมที่แพงเกินไปว่า เรื่องนี้เข้าครม.มา 2-3 ครั้งแล้ว ซึ่งในหลักการคิดว่าทุกคนเห็นด้วย เพราะขสมก.ไม่มีเงินมากที่จะบริหารจัดการด้วยวิธีการปกติ จึงต้องเช่าและเหมาค่าซ่อมบำรุงไปทั้งหมด แต่ที่ ครม.ติงกันคือค่าเช่าแพงไปหรือไม่ ซึ่งมีข้ออธิบายมาก และเมื่อมีข้ออธิบายมากก็ทำให้มีข้อสงสัยมากขึ้นไปอีก แต่สิ่งหนึ่งที่ครม.ให้ช่วยประสานงานพูดจาก็คือ ขอให้เป็นรถยนต์ที่ประกอบในเมืองไทยให้มากที่สุด อย่างน้อยต้องเกินครึ่งหนึ่ง เพราะจะได้ช่วยให้คนไทยมีงานทำมากขึ้น อาจสักประมาณ 70 % ซึ่งก็ต้องพยายามแก้ไขปรับปรุงกันไป เอาอะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุดก็แล้วกัน
ส่วนข้อสงสัยที่ว่า เช่ารถใหม่ ทำไมจึงมีการตั้งค่าซ่อมไว้ก่อนล่วงหน้า รองนายกฯ กล่าวว่า จำไม่ได้ว่าที่เช่านี้ต้องใช้เวลาเท่าไร อาจจะ 10-15 ปี แต่ความจริงรถพอใช้ไป 2-3 ปี ก็ต้องซ่อมแล้ว ก็ต้องมีการบำรุงรักษา เขาจึงคิดค่าบำรุงรักษาไว้ตั้งแต่ต้นว่าค่าบำรุงรักษาทั้งหมดเท่าไร
ต่อข้อถามว่ารัฐบาลตีกลับโครงการใหญ่ 2 โครงการ ที่อยู่ในความดูแลของพรรคภูมิใจไทย ทั้งโครงการรถเมล์ และการระบายข้าว คิดว่าจะมีปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี เรื่องอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องโกรธกัน เพราะครม.มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน และในฐานะผู้จัดการรัฐบาล ยืนยันว่าไม่มีปัญหาในรัฐบาล มีความสัมพันธ์ที่ดีในพรรคร่วมรัฐบาลและทราบดีว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ก็เข้าใจ ไม่มีปัญหา
แผนฟื้นฟูร.ฟ.ท.ชงครม. 3 มิ.ย.
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และ คณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) เห็นชอบแผนปรับโครงสร้างการบริหารจัดการเพื่อฟื้นฟูฐานะทางการเงินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) โดยในสัปดาห์หน้าจะเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทลูกเดินรถ 500 ล้านบาท บริหารสินทรัพย์ 60 ล้านบาท และยืนยันการเปิดทดสอบระบบโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ตลิ้งก์) ในเดือนส.ค. 52 ส่วนเปิดเดินรถเต็มระบบอย่างช้าก.พ. 53 จากกำหนดเดิมธ.ค. 52 โดยขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้ากว่า 98%
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จะเสนอแผนฟื้นฟูครม.ในวันที่ 3 มิ.ย.52 พร้อมกับขออนุมัติเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของ บริษัทเดินรถ และบริษัทบริหารทรัพย์สิน รวม 560 ล้านบาท โดยให้เบิกจ่ายเป็นงวดตามความจำเป็น ส่วนรายละเอียดของประมาณการรายได้แอร์พอร์ตลิ้งก์นั้นจะต้องพิจารณาร่วมกันอีกหลังจากนี้
ทั้งนี้ บริษัทเดินรถประกอบด้วย 4 หน่วยธุรกิจ ได้แก่ หน่วยธุรกิจแอร์พอร์ตลิ้งก์ ต้องการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ 478 อัตรา หน่วยธุรกิจเดินรถโดยสาร หน่วยธุรกิจเดินรถสินค้า และหน่วยธุรกิจการเดินรถไฟฟ้าอื่น เช่น โครงการระบบขนส่งมวลชนสายสีแดง โดยมีโครงสร้างการบริหารงานของบริษัทฯ ประกอบด้วย ผู้บริหารสูงสุดของบริษัท (Chief of Executive Officer : CEO) และกรรมการผู้จัดการใหญ่จัดสรรงบดำเนินการ 500 ล้านบาท ใน 52 จำนวน 140 ล้านบาท ภายในก.ค. 52 ปี 53 จำนวน 420 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 3 งวด งวดละ 140 ล้านบาท คือ ต.ค. 552 , ม.ค.และเม.ย. 53 สำหรับภาระหนี้สินร.ฟ.ท.รวม 72,850 ล้านบาท และภาระบำเหน็จบำนาญ ประมาณ 52,600 ล้านบาท
รอเจรจาสัญญาซ่อมบำรุงแอร์พอร์ตลิ้งก์
นายแอนโทนี ยู วา เช ประธานและหัวหน้าฝ่ายบริหารประเทศไทย กัมพูชา พม่า บริษัทซีเมนส์ จำกัด กล่าวว่าว่า ระบบแอร์พอร์ตลิ้งก์มีความพร้อมแล้วส่วนจะเปิดเดินรถเมื่อใด ร.ฟ.ท.เป็นผู้กำหนด โดยในสัญญากำหนดส่งมอบงานระบบอย่างเป็นทางการให้ร.ฟ.ท.เดือนพ.ย. 2552 ซึ่งต้องมีการทดสอบความพร้อมตามขั้นตอนทั้งหมดแล้ว แต่ในทางปฏิบัติสามารถส่งมอบได้ก่อน ส่วนความปลอดภัยทั้งโครงการนั้นตามหลักการที่ปรึกษาอิสระ (IEC) ควรให้การรับรองก่อนการเปิดเดินรถ
“ยืนยันว่า ซีเมนส์จะไม่ร่วมรับงานเดินรถให้แอร์พอร์ตลิ้งก์ เพราะไม่มีความชำนาญโดยซีเมนส์จะทำเกี่ยวกับระบบ การซ่อมบำรุงเท่านั้นซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการตกลงสัญญาการซ่อมบำรุงโครงการกับร.ฟ.ท.แต่อย่างใด”นายแอนโทนีกล่าว
ระดมความเห็นแอร์พอร์ตลิ้งก์เฟส 2
วานนี้ (27พ.ค.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 งานออกแบบรายละเอียด โครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง)-สุวรรณภูมิ หรือแอร์พอร์ตลิงก์ส่วนต่อขยาย จากสถานีพญาไท-สนามบินดอนเมือง โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนเข้าร่วม 150 คน โดยบริษัทที่ปรึกษาโครงการได้ชี้แจงว่า
โครงการแอร์พอร์ตลิ้งก์ส่วนต่อขยาย ระยะทางรวม 22 กม. งบลงทุนทั้งโครงการประมาณ 32,988.78 ล้านบาท แนวเส้นทางเริ่มจากสถานีพญาไท ซึ่งเชื่อมต่อกับโครงการแอร์พอร์ตลิงก์เดิม - สถานีราชวิถี ผ่านสถานีกลางบางซื่อ ของรถไฟฟ้าสายสีแดง- สถานีบางเขน- หลักสี่ -สถานีดอนเมือง มีทางเชื่อมตอ่เข้าไปยังอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ในช่วงจากสถานีพญาไทแนวเส้นทางรถไฟฟ้าจะยกข้ามบีทีเอส แล้วลดระดับลงใต้ดิน ผ่านสถานีราชวิถี จนถึงถนนระนอง 1 แล้วไต่ระดับขึ้นสู่สถานีกลางบางซื่อ ส่วนโครงสร้างจากสถานีบางซื่อถึงดอนเมืองจะเป็นโครงสร้างยกระดับโดยใช้โครงสร้างโฮป เวลล์เดิม
สำหรับงบลงทุนทั้งโครงการประมาณ 32,988.78 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจากพญาไท-บางซื่อ ลงทุนประมาณ 13,595.60 ล้านบาท เป็นค่างานโยธา 8,304.40 ล้านบาท ระบบรถไฟฟ้า 3,681.20 ล้านบาท ขบวนรถไฟฟ้า 1,6100 ล้านบาท ช่วง 2 บางซื่อ-ดอนเมือง โดยกลางเดือน มิย. จะประชุมสัมมนารับฟังความคิดเห็นครั้งสุดท้ายคาดการศึกษาแล้วเสร็จเดือน กค.นี้
ทั้งนี้ ในส่วนความเห็นของผู้เข้าร่วมสัมมนาส่วนใหญ่กังกลเรื่องการเวนคืน ความซ้ำซ้อนรถไฟฟ้าสายสีแดง ค่าโดยสาร และเพิ่มเติมเครื่องอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการด้วย
สำหรับรูปแบบการเดินรถเป็นระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงสูดไม่เกิน 160กม./ชม. แบ่งเป็น 2 ประเภท โดยเดินรถต่อเนื่องจากดอนเมืองสิ้นสุดสุวรรณภูมิ ใช้ รถไฟเชื่อมท่าอากาศยาน (City Line) จอดรับส่งเพิ่มอีก 5 สถานี ได้แก่ สถานีราชวิถี บางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง ใช้เวลาเดินทางรวมจากสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง ประมาณ 50 นาที และรถไฟด่วนเชื่อมท่าอากาศยานต่อจากระบบเดิมจอดรับเพิ่มสถานีบางซื่อ ดอนเมือง ใช้เวลาเดินทางรวม 30 นาที
นายชาญชัย สุวิสุทธะกุล ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบการขนส่งและจราจร สนข. กล่าวว่า เนื่องจากรัฐบาลได้ยกเลิกเที่ยวบินบางส่วนที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งส่งผลต่อความจำเป็นในการลงทุนโครงการ ช่วงบางซื่อ-ดอนเมืองนั้น ซึ่งเป็นไปได้ที่จะปรับเปลี่ยนโดยใช้บางซื่อเป็นศูนย์กลางเส้นทางรถไฟสู่ภูมิภาคไปยัง
นครราชสีมา หรือนครสวรรค์โดยใช้ระบบรถไฟทางไกลความเร็วสูง เพราะมีขนาดของราง 1.435 เมตร ที่สามารถรองรับได้