xs
xsm
sm
md
lg

มาร์คเผยชาติชายขอพบแฉเบื้องลึกก่อนไขก๊อก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- "ชาติชาย" เตรียมแถลงเปิดใจ 26 พ.ค.นี้ หลังเจอมติพรรคขับพ้นตำแหน่งรมช.เกษตรฯ ด้าน"ชวรัตน์"ขีดเส้นต้องลาออกใน1-2 วันนี้ เผยได้ชื่อรมต.ใหม่ 25 พ.ค.ด้าน"อภิสิทธิ์"เผย"ชาติชาย" ขอพบก่อนไขก๊อก รอจังหวะเสาร์-อาทิตย์ มีเวลาให้ปรับทุกข์ ระบุปรับเล็ก-ใหญ่ รอแต่ละพรรคเสนอ ยันเพื่อแผ่นดินไม่เคยคุยขอโควตาเพิ่ม

นายชาติชาย พุคยาภรณ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในวันอังคารที่ 26 พ.ค.นี้ หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตนเองจะแถลงข่าวเปิดใจเรื่องบทบาททางการเมือง พร้อมตอบข้อซักถามต่างๆ จากสื่อมวลชน
สำหรับกรณีที่พรรคภูมิใจไทยมีมติให้ตนลาออกจากตำแหน่งนั้น ตนได้รับทราบจากสื่อมวลชน แต่ทางพรรคไม่มีใครแจ้งให้ทราบ ซึ่งในวันที่มีการประชุมพรรคนั้นตนติดงานที่ต่างจังหวัด เมื่อถามว่าทางพรรคมีมติให้ลาออกแล้วจะคุยกับหัวหน้าพรรคก่อนหรือไม่ นายชาติชายกล่าวว่า คงจะไม่คุยกับใครแล้ว ที่ผ่านมาผู้ใหญ่แต่ละคนก็ให้คำแนะนำการทำงาน และให้กำลังใจมาเป็นอย่างดี และคิดว่าตนเองทำงานในระดับที่ได้รับการยอมรับพอสมควร
ส่วนในอนาคต คิดว่าจะเบื่อการเมืองหรือไม่ รมช.เกษตรฯ ระบุว่า คนเรายังมีหน้าที่รับผิดชอบต่อสังคมในรูปแบบต่างๆได้ ซึ่งทุกบทบาทก็สามารถที่จะสร้างความเจริญให้กับประเทศชาติได้เช่นกัน

**"ชวรัตน์"ลั่นต้องลาออกใน1-2วัน
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคมีมติให้นายชาติชาย ลาออกจากตำแหน่งรมช.เกษตรฯว่า จะเสนอชื่อบุคคลที่เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีคนใหม่ให้ นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 25 พ.ค. ซึ่งขณะนี้มีรายชื่อมีอยู่ในใจ 2-3 คน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ บอกได้แค่ว่าเป็นบุคคลที่มาจากภาคอีสาน และมีคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรีได้
ส่วนการที่พรรคมีมติให้นายชาติชาย ลาออกนั้น ตนเชื่อว่านายชาติชาย จะประกาศลาออกภายใน1-2 วันนี้ โดยไม่ต้องรอให้ถึงสิ้นเดือน ทั้งนี้ผลการประชุม นายสรรอรรถ กลิ่นประทุม ก็ยอมรับมติพรรค ซึ่งนายสรรอรรถ ก็เป็นผู้ร่วมเสนอชื่อรัฐมนตรีคนใหม่ด้วย

**"มาร์ค"เผย"ชาติชาย"ขอพบ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับครม. หลังพรรคภูมิใจไทย มีมติให้นายชาติชาย ลาออกจากตำแหน่งว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือการลาออกจากตำแหน่งของนายชาติชาย โดยนายชาติชาย ติดต่อจะขอพบตนก่อนที่จะมีการตัดสินใจอะไร พอดียังหาเวลาไม่ได้ เพราะในช่วงเช้า(22พ.ค.) ตนได้เดินทางไป จ.ราชบุรี และช่วงบ่าย จะเดินทางไปต่างจังหวัด คิดว่าช่วงสุดสัปดาห์จะพยายามจัดเวลาให้ นายชาติชาย เข้ามาพบ เพราะนายชาติชาย บอกว่าต้องมาพูดคุยกับตนก่อน ในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้ารัฐบาล
ทั้งนี้นายชาติชาย ยังไม่ได้บอกรายละเอียดการขอเข้าพบ แต่เข้าใจว่าคงเป็นเรื่องมติที่ประชุมพรรคภูมิใจไทย
ส่วนนายชาติชาย เข้าพบแล้วจะมีผลถึงต้องเปลี่ยนแปลงมติของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ยังไม่ได้พบกัน แต่นายชาติชาย บอกว่าเนื่องจากเป็นเรื่องที่จะกระทบต่อการทำงาน จึงต้องมาพบกับตนก่อน คิดว่าเสาร์-อาทิตย์นี้คงจะทราบ
เมื่อถามว่าการที่พรรคภูมิใจไทย มีมติออกมาแบบนี้ นายกฯ ต้องเคารพการตัดสินใจของลูกพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนได้ให้แนวไว้ว่า ทางรัฐมนตรีกับทางพรรคน่าจะคุยกัน แต่ตนยังไม่ทราบว่าได้มีโอกาสการพูดคุยกันหรือไม่ อย่างไร และเข้าใจว่านายชาติชาย จะมารายงานผลของมติพรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามว่าจะกลายเป็นว่า เป็นการดึงนายกฯ ลงไปสู่ความขัดแย้งของพรรคภิใจไทย หรือเปล่า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งหรอก ส่วนการเปลี่ยนแปลงนี้ จะมีผลหรือมีปัญหาอะไรกับรัฐบาลหรือไม่ ก็จะถามรัฐมนตรีถึงงานต่างๆที่ทำอยู่

**พรรคอื่นยังไม่มีใครขอปรับ
เมื่อถามว่าหากมีการปรับครม. จะปรับตำแหน่งเดียว หรือมีตำแหน่งอื่นๆ อีก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากจะมีการปรับครม. ก็เป็นไปตามที่มีการตกลงเสนอมาในส่วนของพรรคเขา ที่อื่นยังไม่มีอไร เมื่อถามว่าทางพรรคเพื่อแผ่นดิน ออกมาบอกว่า เขาต้องได้เพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ายังไม่เคยมีการคุยกันในลักษณะนั้น และตอนที่มาทำงานร่วมรัฐบาลกัน แนวที่เราใช้คือ พรรคต่างๆ เคยดูแลรับผิดชอบหน่วยงานใด ส่วนใหญ่ก็ให้ดูแลงานเดิม และมีในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เพิ่มเข้าไป ไม่ได้นับเป็นลักษณะของโควต้าอยู่แล้ว
เมื่อถามว่ามีการเอา ส.ส.ที่อยู่กับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก มาโชว์ว่า มาอยู่กับเขาแล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอเรียนนิดหนึ่งว่า ตอนที่ตัดสินใจมาทำงานร่วมกัน ก็แบ่งความรับผิดชอบไปตามความรับผิดชอบเดิม และเติมในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เข้าไป
"ถ้าพูดกันจริงๆแล้วหากพูดตามตัวเลข อย่างที่ผมเรียนหลายครั้ง กลายเป็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องเพิ่มเยอะเลยครับ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว และว่าเรื่องนี้เราคุยกันตั้งแต่ต้นแล้ว
ส่วนจะปรับใหญ่ หรือปรับเล็ก ก็ต้องรอให้แต่ละพรรคที่เขาคิดจะเปลี่ยนแปลงส่งมา แต่ตอนนี้ยังไม่ส่งมา เมื่อถามว่า แรงกระเพื่อมที่เกิด จะกระทบต่อกฎหมายการเงินที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาสมัยนิติบัญญัติ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ ตนมั่นใจว่า กลางเดือนมิ.ย. นี้ เราจำเป็นต้องให้ผ่านทั้งเรื่องงบประมาณ และเรื่อง พ.ร.ก. จะได้รับการสนับสนุน เพราะทุกคนทราบดีว่าอันนี้เป็นงานที่มีความจำเป็นในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เมื่อถามว่าแม้จะไม่ได้รับการจัดสรรตำแหน่งตามคำเรียกร้อง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ยินการเรียกร้องอะไร ทำงานร่วมกันก็ปกติ
**"เสธ.หนั่น"เชื่อไม่เกิดแรงกระเพื่อม
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า การปรับครม.ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา ขณะนี้ยังไม่มีการปรับ ซึ่งงานที่รับผิดชอบก็มีมากโดยเฉพาะเรื่องเร่งด่วนที่จำเป็นจะต้องทำก็คือ การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่2009 และแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง
เมื่อถามว่าการปรับครม.ของพรรคร่วมรัฐบาลจะมีผลกระทบ หรือเป็นแรงกระเพื่อมในรัฐบาลหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า คงไม่มีอะไรใครอยากปรับก็เสนอมา ส่วนจะเป็นการปรับใหญ่หรือเล็ก ตนก็ไม่เห็นนายกฯ จะพูดว่าปรับใหญ่หรือ เล็ก คงไม่มี อย่างไรก็ตาม จากที่เป็นข่าวก็มีเพียงประเด็นของนาย ชาติชาย ซึ่งหัวหน้าพรรคเขาก็คงต้องคุยกับนายกรัฐมนตรี
ถามว่าได้มีการพูดคุยประเมินสถานการณ์การเมืองกับนายกฯ บ้างหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ประเมินแล้วไม่น่าจะมีอะไร สำหรับกรณีของส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีปัญหา ส.ส.ใหม่ กับส.ส.เก่านั้น ตนว่าไม่มีอะไรเป็นเรื่องธรรมดา สมัยที่ตนอยู่ก็เคยมีแบบนี้ แต่เราทำความเข้าใจกันได้
เมื่อถามว่าทางพรรคภูมิใจไทย จะมีการดึงคนในพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วม และเริ่มทวงถามถึงสิ่งที่เคยรับปากกันไว้ เรื่องนี้จะกระทบกระเทือนเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจกัน เรื่องรับปาก ก็รับปาก แต่เป็นเรื่องที่ให้กันได้ อะไรที่ให้ไม่ได้ รับปากไปก็ไร้ประโยชน์
เมื่อถามว่ามองว่าการเมืองในพรรคประชาธิปัตย์ แรงหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่แรง พรรคประชาธิปัตย์ เป็นอย่างนี้ คิดว่าเขาคงจะคุยกันในพรรควันนี้ ตนคิดว่า ไม่แรง มีการพูดจากันได้ในพรรคประชาธิปัตย์ คงไม่มีอะไร ส่วนอย่างอื่นไม่มีอะไรอยู่แล้ว

**"เทพเทือก"ไม่ห่วงส.ส.ถูกดูด
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายสุรสิทธิ์ ตรีทอง ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ไปร่วมงานประชุมพรรคภูมิใจไทยเมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า เรื่องนี้ทางพรรคไม่ได้เรียกนายสุรสิทธิ์มาเคลียร์ ตนคิดว่าเราอย่าไปตื่นเต้นมากกับเรื่องนี้ ส.ส. แต่ละคนไปมาหาสู่กันเป็นธรรมดา ซึ่งตนก็อ่านจากข่าวนสพ. นายสุรสิทธิ์ เขาไปเชิญรัฐมนตรี พรรคภูมิใจไทยไปตรวจราชการ ในจังหวัดของเขา ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เวลาที่รัฐมนตรีไปตรวจราชการต่างจังหวัดก็ต้องแจ้ง ส.ส.ในพื้นที่ เพื่อที่เขาจะได้ทราบและได้ไปร่วมงานด้วย
เมื่อถามว่าแต่กลายเป็นว่า ส.ส.ไปอยู่ในห้องประชุมพรรคภูมิใจไทย นายสุเทพ กล่าวว่า ธรรมดา อย่าไปสนใจให้มาก ตนเชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร ต่อข้อถามว่า มีการเชื่อมโยงกับกลุ่ม 40 ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย และมีการไปทานข้าวกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ น้องชายนายเนวิน ชิดชอบ และมีการจีบส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ให้ไปร่วมพรรค นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นธรรมดา และย้อนถามว่า เขาจีบกันว่าอย่างไร ไม่มีหรอกอย่าไปตื่นเต้น ไม่มีเรื่องอย่างที่คิด
ต่อข้อถามว่ามีหลายฝ่ายมองว่า สิ่งที่ ส.ส.กระทำ เป็นการทำเพื่อต่อรองภายในพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ กล่าวว่า ในพรรคประชาธิปัตย์มีธรรมเนียมประเพณีของพรรคอย่างชัดเจน เวลาจะเลือกผู้สมัครหรือบุคคลเข้าไปรับหน้าที่ต่างๆ ทั้งกรรมาธิการ ประธานกรรมาธิการ รัฐมนตรี ก็มีระเบียบบังคับอยู่ไม่ได้ใช้วิธีเดินกระบวนมาต่อรอง
ส่วนที่มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าในโอกาสหน้า อาจจะมีคนของพรรคประชาธิปัตย์ ไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย นายสุเทพ กล่าวว่า ใครจะไปทำนายโอกาสในวันข้างหน้าได้ อย่าไปตื่นเต้น ขอย้ำว่า ภายในพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ค่อยมีคนตื่นเต้นเรื่องนี้เท่าไร คนที่เขามีความสุขที่จะอยู่ร่วมทำงานกับเรา ก็อยู่ คนที่จะไปที่ใหม่ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะคนที่มั่นคงอยู่กับอุดมการของพรรคก็จะไม่ไปไหน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่พอใจเนื่องจากโครงการต่างๆ ทั้งเรื่องรถเมล์เอ็นจีวี และปัญหาเรื่องข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ถูกเบรกในที่ประชุม ครม.นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่ได้ยินใครบ่นว่าไม่พอใจ เพราะการทำงานใน ครม. เราต้องรับผิดชอบร่วมกัน เป็นเรื่องธรรมดาที่มีการเสนอเรื่องเข้ามาต้องมีการอภิปราย มีการทักท้วง เป็นเรื่องปกติ ไม่มีใครคิดมาก
เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ เพราะขณะนี้มีหลายฝ่ายออกมาวิเคราะห์ว่า พรรคภูมิใจไทย จะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ กล่าวว่า บอกแล้วว่าอย่าคิดให้ยาวจนเกินไป เพราะถึงเวลาเลือกตั้งทุกคนก็เป็นคู่แข่งกันทั้งนั้น ไม่ต้องกังวลอะไร

**อ้างส.ส.ป่วนเพราะชาวบ้านกดดัน
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกระแสข่าว ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จะซบอกพรรคภูมิใจไทยว่า คุยกันมาเยอะแล้ว ถือว่า พรรคประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาลเจอปัญหาหนัก ส.ส.ที่อยู่ในพื้นที่เจอแรงกดดันจากชาวบ้านเป็นธรรมดา แต่คนที่มาเป็นรมต.จริงๆ มีเพียง 10 กว่าคน โควต้าของเรายังน้อยกว่าพรรคอื่นๆ มากๆ พอส.ส.รุ่นใหม่ไม่ได้เป็นเลขารัฐมนตรี ก็ธรรมดาต้องกดดันการทำงานของรัฐบาล และพรรคเองก็เปิดกว้าง
ส่วนการที่มีกระแสข่าวว่า ส.ส.พรรคไปร่วมรับประทานอาหารกับนาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ส.ส. พรรคภูมิใจไทยนั้น ยืนยันว่า ตนเองก็อยู่ในการร่วมรับประทานอาหารครั้งนี้ เริ่มงานมาตั้งแต่ 6 โมงเย็น จนกระทั่งคนเริ่มทยอยกลับแล้วนายศักดิ์สยามเข้ามาทีหลัง ขอถามว่า ทำไมนักการเมืองนัดเจอกันไม่ได้หรือไง
นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่าในการสัมมนา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ วันที่ 23-24 พ.ค.นี้ จะไม่มีการพูดถึงเรื่องการปรับครม. แต่จะคุยกันในเรื่องสายลม แสงแดด
เมื่อถามว่า การสัมมนาครั้งนี้ เพื่อสยบกระแสความวุ่นวายในพรรคหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า พรรคเราก่อตั้งมา 62 ปีแล้ว ซึ่งก็มีคนอยากให้พรรคแตกมาตั้งนานแล้ว และกระบวนการของพรรค ก็เป็นประชาธิปไตย ทุกคนไม่มีใครเป็นเจ้าของพรรค หรือเป็นของคนแค่คนเดียว ทุกคนมีความเป็นเจ้าของพรรคเท่าเทียมกัน ซึ่งทุกวันอาทิตย์ และวันอังคาร ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์รัฐมนตรีเป็นประจำอยู่แล้ว ถือเป็นเรื่องปกติมากๆ เพราะพรรคนี้ไม่มีนายทุนเจ้าของพรรค ดังนั้นทุกคนต้องฟังซึ่งกันและกัน ไม่มีนายทุนมาสั่งได้
กำลังโหลดความคิดเห็น