xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยQ2เริ่มฟื้นหนุนดัชนีพุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน – ดัชนีหุ้นยังอยู่ในช่วงพักฐาน รอดีดตัวเพิ่ม วานนี้(18พ.ค.) ปิดที่ 540 จุด เพิ่มขึ้น 6.30 จุด จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์ – พลังงานในช่วงบ่าย โบรกฯเชื่อปัจจัยบวกหลายๆด้านเริ่มเข้ามากระตุ้นการลงทุน โดยเฉพาะจากต่างประเทศ พร้อมคาดผลประชุมโอเปกและการประชุมกนง.ไม่มีผลต่อดัชนีฯมากนัก เหตุนักลงทุนรับรู้และคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว ยืนยันบริษัทจดทะเบียนไทยยังแข็งแกร่ง แม้หลายกลุ่มผลประกอบการไตรมาส1น่าผิดหวัง แต่ไตรมาส 2 จะเริ่มเห็นการฟื้นตัว
ความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯวานนี้ (18พ.ค.) ปิดที่ 540.22 จุด เพิ่มขึ้น 1.18% หรือ 6.30 จุด ระหว่างวันปรับตัวแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 540.22 และต่ำสุดที่ระดับ 523.15 จุด มูลค่าการซื้อขาย 18,648.72 ล้านบาท นักลงทุนต่างปะเทศซื้อสุทธิ 199.95 ล้านบาท โดยวานนี้การซื้อขายเบาบางลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งขานรับข่าวดีจากปัจจัยภายนอกประเทศที่มีกระแสเงินไหลเข้ามามาก และปรับตัวพักฐานลงจากข่าวตัวเลขค้าปลีกสหรัฐฯที่ลดลงเมื่อวันที่ 14พ.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ในช่วงเช้าดัชนีตลาดหุ้นยืนอยู่ในแดนลบ ก่อนปรับตัวขึ้นแดนบวกในช่วงบ่ายซึ่งเป็นในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่มีการฟื้นตัวขึ้น โดยมีหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์และพลังงานฟื้นตัวขึ้นในช่วงบ่ายนี้ ส่วนภาพใหญ่ของตลาดทั่วโลกเป็นเรื่องของการปรับฐานทางเทคนิคเท่านั้น และ Flow ยังไม่ได้มีการขายออกมาเท่าไร สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 221 หลักทรัพย์ ลดลง 112 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 101 หลักทรัพย์
นายพงศ์พันธุ์ อภิญญากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEST กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยวานนี้ช่วงปิดตลาดครึ่งเช้ามีการปรับตัวลดลง ผลมาจากเผชิญแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน,ปิโตรเคมี และกลุ่มคอมมูนิตี้ ที่ผลประกอบการของ PTT ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่ประมาณ 7-8 พันล้านบาท
ทั้งนี้ยังคงเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังคงมีปัจจัยบวกหลายอย่างเข้ามากระตุ้นการลงทุน และแม้ตลาดจะอยู่ในช่วงปรับฐาน แต่เพียงช่วงสั้นๆ และพร้อมที่จะฟื้นตัว ซึ่งก็ยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคาร และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เข้ามาแทน
ส่งผลให้ดัชนีหลักทรัพย์ในช่วงบ่ายปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 5 จุด จากปัจจัยบวกหลังจากตลาดหุ้นอินเดียปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิน10% หลังพรรคคองเกรสของนายกรัฐมนตรีมาโมฮัน ซิงห์ และพรรคร่วมรัฐบาลชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทำให้นักลงทุนกลับมามีความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพทางการเมืองมากขึ้นนอกจากนี้ยังส่งผลบวกต่อสัญญาณทางเศรษฐกิจของแทบภูมิภาคเอเซีย รวมถึงประเทศไทย
นอกจากนี้ บริษัทในประเทศไทย ยังมีศักยภาพในการดำเนินงานแม้ว่าในไตรมาส 1/2552 ผลงานจะไม่เติบโตมากนัก แต่ก็ถือว่าอยู่ในแนวโน้มที่ดี เพราะรับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และเชื่อว่าแนวโน้มในไตรมาส 2 จะมีโอกาสที่จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวที่มากขึ้น ขณะเดียวกันฐานะการเงินก็ค่อนข้างแข็งแกร่ง รวมทั้งมีศักยภาพในการขยายงานต่อ

**ประชุมโอเปก-กนง.มีผลไม่มาก**
สำหรับดัชนีฯ ในวันนี้ (19พ.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในแดนบวก ซึ่งเห็นสัญญาณได้จากการไหลเข้าของเงินทุนจากสถาบันที่มีอยู่ต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนภายในประเทศยังมีการซื้อขายอย่างหนาแน่นเช่นกัน ส่วนการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออกหรือโอเปก ในวันที่ 28 พ.ค. นี้และการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 20 พ.ค. ประเมิณว่าไม่ได้มีผลต่อน้ำหนักในการรลงทุนมากนัก เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่ากนง. อาจจะปรับลดลงดอกเบี้ยลง อีกทั้งในส่วนของการประชุมโอเปกถึงแม้จะมีบทสรุปออกมาเป็นอย่างไร หลายฝ่ายก็เชื่อว่าทิศทางของราคาน้ำมันน่าจะไม่ได้มีการเคลื่อนไหวแรง กว่าปัจจุบันมากนัก
ดังนั้นประเมินดัชนีฯ วันนี้ โดยแนวรับที่ 522 จุด แนวต้าน 540-555 จุด กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ เลือกซื้อรายตัว (selective buy )ในหุ้นพื้นฐานดีที่ยังพอมี Gap ที่จะทำกำไร เช่น หุ้นกลุ่มธนาคาร และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และ อาหาร
ด้านนายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ฝ่ายวิเคราะห์ บล. แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) หรือ ASL กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยวานนี้มีการปรับตัวสลับบวกลบ ซึ่งในช่วงบ่ายมีการปรับตัวดีขึ้นตามสัญญาณตลาดหุ้นต่างๆในภูมิภาค โดยเฉพาะแรงซื้อที่กลับเข้ามาให้เห็นในกลุ่มธนาคาร สลับแรงขายในกลุ่มพลังงาน ที่มีส่วนผลักดันให้ดัชนีมีการปรับตัวฟื้นขึ้นมาปิดตลาดที่ 540.22 จุด เพิ่มขึ้น 6.30 จุด
ทั้งนี้จากการปรับตัวของดัชนีฯ มองว่ามีการกระจายตัว ซื้อขายในหุ้นกลุ่มหลักเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นหุ้นในกลุ่มพลังงานที่จะมีแรงซื้อน้อยกว่าหุ้นกลุ่มอื่น
สำหรับแนวโน้มดัชนีฯ วันนี้คาดว่า จะมีการยืนตัวในแนวบวกต่อได้ โดยจะมีแรงซื้อที่ดีในกลุ่มธนาคาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มสื่อสาร ประเมินแนวรับที่ 535 จุด แนวต้านที่ 554 จุด แนะนักลงทุน ซื้อขายตามตลาด
ขณะที่ นายถนอมศักดิ์ สหรัตนชัย ผู้บังคับบัญชา สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) (CNS) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในวานนี้มีการเคลื่อนไหวที่ไม่เหมือนกัน โดยช่วงเช้ามีการเปิดลบ แต่ในช่วงบ่ายเปิดบวก ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะมีการฟื้นตัวขึ้น
"ตลาดบ้านเราจะอิงกับตลาดฮ่องกงที่ได้มีการปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างเยอะ ทำให้ Sentiment ของตลาดฯดี โดยจะเห็นได้ว่าหุ้นในกลุ่มแบงก์ และกลุ่มพลังงานได้กลับมาฟื้นตัวขึ้นในช่วงบ่ายนี้"นายถนอมศักดิ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน การประชุมกนง.ในการพิจารณาการปรับอัตราดอกเบี้ยนั้น มองว่าแม้จะมีผลต่อตลาดฯแต่ก็ยังไม่มีน้ำหนักมาก ดังนั้นแนวโน้มการลงทุนในวันนี้(19 พ.ค.) ตลาดหุ้นไทยยังคงอิงกับการเคลื่อนไหวของตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งตลาดหุ้นคงจะมีการแกว่งตัวขึ้น-ลงไม่มาก เพราะขณะนี้ยังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน เพื่อรอที่จะปรับตัวขึ้นต่อไปตามทิศทางของตลาดหุ้นที่ยังดี โดยมองว่าดัชนีฯมีโอกาสที่จะกลับไปทดสอบที่จุดสูงสุดเดิม 554 จุดได้
กำลังโหลดความคิดเห็น