xs
xsm
sm
md
lg

ไทยยูเนียนฯตั้งได้รายได้โต10% เล็งโรดโชว์ขยายตลาดส่งออกเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ไทยยูเนียนฯ ตั้งเป้ารายได้เงินดอลลาร์ปี 52 เติบโต 10% “ธีรพงศ์” ยันฐานะการเงินแกร่ง มีเงินสดในมือกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพียงพอสำหรับขยายธุรกิจและรองรับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น แม้ปีนี้จะไม่มีแผนลงทุนใหม่ๆ เพิ่ม พร้อมเตรียมโรดโชว์ต่างประเทศหวังขยายฐานตลาดนอกเพิ่ม

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนียน โฟรเซ่นโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUF เปิดเผยถึง แผนการดำเนินงานในปี 2552 ว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รูปของเงินดอลลาร์สหรัฐ จะเติบโตจากปีก่อนประมาณ 10% จากปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัทจะแบ่งออกเป็น ต่างประเทศ 95% และในประเทศ 5% โดยตลาดส่งออกที่สำคัญในต่างประเทศได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และประเทศในแถบตะวันออกกลาง สำหรับแผนการลงทุนใหม่นั้น ขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนลงทุนเพิ่มเติม แต่ได้มีการศึกษาข้อมูลเพื่อรอจังหวะทิศทางเศรษฐกิจที่เหมาะสม โดยจะเน้นเฉพาะธุรกิจหาหาร แต่รูปแบบหรือรายละเอียดการลงทุนจะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี

ด้านผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/52 บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานที่ออกมาจะมีทิศทางที่ดีและเป้นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามาอยู่ประมาณ 37-38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกเพิ่มมากขึ้น จากปี 51 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2.25 พันล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.43 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 23.63%

ขณะที่ฐานะทางการเงินของบริษัทยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยมีกระแสเงินสดอยู่กว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพียงพอสำหรับขยายธุรกิจ และรองรับต่างๆ ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

นายธีรพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้สูญเสียโอกาสการดำเนินธุรกิจหลังจากนักลงทุนหลายรายยกเลิกการร่วมธุรกิจ จากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตั ดังนั้นบริษัทจึงได้เตรียมแผนที่จะเดินทางไปพบลูกค้าในต่างประเทศ เพื่อเจรจาและสร้างความเข้าใจให้กับลูกค้ามากขึ้น เพื่อเป็นการขยายฐานตลาดต่างประเทศ

ดีบีเอสฯให้ราคาเป้าหมาย 22.87 บาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประเมินว่า ไตรมาสแรกปีนี้ TUF น่าจะมีกำไรสุทธิใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีมุมมองที่เป็นบวกในธุรกิจของบริษัทที่จะมีการเติบโตต่อเนื่อง แม้ว่าเศรษฐกิจโลกและไทยอยู่ในภาวะวิกฤติ แต่อาหารนั้นมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตหรือเป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ จึงได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจน้อย

ขณะที่ การเพิ่มความวิตกกังวลต่อความปลอดภัยในเรื่องความเพียงพอของอาหารในระดับโลก ถือเป็นประโยชน์ในระยะยาวกับ TUF กลยุทธ์ของบริษัทคือ การออกจำหน่ายสินค้าใหม่ เพื่อปรับอัตรากำไรให้สูงขึ้น และส่วนครองตลาดที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทได้รุกตลาดใหม่ๆเพิ่ม เช่น แอฟริกา จากตลาดหลักปกติคือ สหรัฐ, อียู และญี่ปุ่น

“เราเห็นว่าราคาหุ้น TUF ในอดีตและอนาคตจะเคลื่อนไหวในลักษณะที่ดีกว่าภาพรวมตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากนักลงทุนมีทัศนคติที่ดีกับธุรกิจและความสามารถการทำกำไรของ TUF ราคาปิดเทียบกับราคาพื้นฐานมีส่วนเพิ่มได้อีก 16% เทียบกับราคาพื้นฐานที่ 22.87 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 52 ที่ 9.0 เท่า ส่วนคาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลปีนี้คาดไว้ว่าจะอยู่ในระดับน่าพอใจเป็น 6.4% ดังนั้นจึงคงคำแนะนำ ซื้อ TUF ต่อไป”

ส่วนความเคลื่อนไหวราคาหุ้น TUF ล่าสุดนั้น วานนี้ (23 เม.ย.) ราคาปิดที่ 19.80 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดครั้งก่อน ราคาสูงสุดที่ 19.90 บาท ต่ำสุด 19.70 บาท มูลค่าการซื้อขายที่ 4.04 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น