xs
xsm
sm
md
lg

ตั้งอนุฯสอบสมัครžทุจริตอุโมงค์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มื่อเวลา14.00 น. วานนี้ (21 เม.ย.) พล.ต.ต. ลิขิต กลิ่นอวล และ และ พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา รอง ผบช.น. ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาจากคณะอนุกรรมการ ไต่สวนข้อเท็จจริงเหตุการณ์การสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2551 จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมากด้วยตนเอง โดยมีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธานรับทราบข้อกล่าวหา ทั้งนี้ภายหลังการเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเสร็จสิ้นแล้ว ทั้ง 2 มีสีหน้าเคร่งเครียด พร้อมปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดใดกับสื่อมวลชน
นายวิชา กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่าผู้ที่คณะอนุกรรมการแจ้งข้อกล่าวหาไปจำนวน 7 คน ได้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว โดยในจำนวนนี้ 5 คนส่งได้ส่งหนังสือชี้แจงมายัง ป.ป.ช. ประกอบด้วย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี , พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. , พล.ต.อ.โรจน์ พหลเวชช์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. ปัจจุบันเป็น ผบช.ภ.4 ซึ่งจากนี้ไปทา งป.ป.ช.จะให้ผู้ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา มาให้ข้อมูล แก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วันแต่ไม่เกิน 1เดือน เพื่อเป็นการให้โอกาส
ด้าน นายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกคณะกรรมการ ป.ป.ช.แถลงว่า จากกรณีที่ สตง. และ และคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปราม การทุจริตประพฤติชอบ สภาผู้แทนราษฎร ได้มีหนังสือส่งเรื่องกล่าวหา นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.กับพวก ทุจริตการดำเนินโครงการก่อสร้าง อุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบและคลองลาดพร้าว ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยคณะกรรมการป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน และมอบหมายให้นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน
ในส่วนการร้องขอความเป็นธรรมของ คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ อดีตเลขาธิการ ก.พ. กรณีแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งนักการบริหาร 9และกำหนดคุณสมบัติผู้ได้รับการคัดเลือกบุคคล ให้ดำรงตำแหน่ง รองอธิบดีกรมสรรพากรโดยมิชอบ แต่พยานหลักฐานยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะหักล้างข้อกล่าวหา จึงมีมติยกคำร้องและมีมติยืนตามมติเดิมที่ชี้มูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงกับคุณหญิงทิพาวดี เมฆสววรค์
ส่วนกรณีของ นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ที่ยื่นหนังสือ ร้องขอความเป็นธรรม โดยอ้างหลักฐานใหม่ เพื่อให้ ป.ป.ช.กลับคำวินิจฉัยการลงมติ ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงและความผิดทางอาญา กรณีแก้ไขหลักเกณฑ์คัดเลือก ผู้ดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมสรรพากรโดยมิชอบ สมัยนายศุภรัตน์ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมสรรพากรว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่ได้ลงมติเรื่องดังกล่าวไปแล้ว
โดยพบว่า หลักฐานที่นายศุภรัตน์ยื่นขอความเป็นธรรมมานั้น แม้จะมีหลักฐานใหม่อยู่บ้างบางส่วน แต่หลักฐานใหม่ดังกล่าว ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่ใช่หลักฐานที่มีความสำคัญที่จะมีผลต่อการกลับคำวินิจฉัยที่ ป.ป.ช.ได้ลงมติ ชี้มูลความผิดไปแล้วได้ จึงมีมติยืนยันตามความวินิจฉัยเดิม คือมีความผิดทั้งทางวินัยร้ายแรง และความผิดทางอาญา โดยให้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) ดำเนินการ ความผิดทางอาญา และให้ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาลงโทษในความผิดทางวินัยตามมติของ ป.ป.ช.ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น