ASTVผู้จัดการรายวัน - เกมส่อพลิก ป.ป.ช.เปิดทางปลัดคลังเข้าชี้แจงไต่สวนหลังยื่นหลักฐานใหม่ "กล้านรงค์" เสียงอ่อย อ้างเพื่อความชัดเจนเป็นธรรม ส่วนคำค้านของคุณหญิงทิพาวดียืนมติเดิม ผิดร้ายแรงทางวินัย คนคลังเชื่อปลัดฯ อาจพ้นผิด ขอแค่กรรมการกลับมติแค่คนเดียว เหตุมติเดิม 5 เสียง ต่อ 4 เสียง
บ่ายวานนี้ (12 มี.ค.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดแถลงข่าวด่วนเพื่อแจ้งสื่อมวลชนกรณีที่เมื่อวันที่13 ม.ค. 52 ที่ผ่านมาคณะกรรมการป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดของคุณหญิง ทิพาวดี เมฆสวรรค์ อดีตเลขาธิการ ก.พ.และนาย ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง พร้อมพวก ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกรณีแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อดำรงตำแหน่งนักบริหาร 9 กระทรวงการคลัง โดยในวันที่ 18 ก.พ.52
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ชี้แจงถึงสาเหตุที่ยังไม่ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชา พิจารณาโทษทางวินัย กับคุณหญิงทิพาวดีและนายศุภรัตน์ เนื่องจากทั้งสองคนได้มีหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ในกรณีของนาย ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล หลังจากที่คณะกรรมการป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายศุภรัตน์ แล้วนายศุภรัตน์ ได้มีหนังสือขอความเป็นธรรมรวม 3 ฉบับ คณะกรรมการป.ป.ช. ได้พิจารณาหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของนายศุภวัตน์ ได้อ้างข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มเติมหลายประการ โดยระบุว่าเป็นพยานหลักฐานใหม่ที่เป็นเอกสาร เป็นสาระสำคัญแก่การไต่สวน แต่มิได้ระบุให้ชัดเจนว่า พยานหลักฐานใดเป็นพยามหลักฐานใหม่บ้าง และพยามหลักฐานนั้นเป็นสาระสำคัญแก่การไต่สวนเพียงใด
ดังนั้น เพื่อความชัดเจนและเพื่อประโยชน์แห่งความเป็นธรรม คณะกรรมการป.ป.ช. จึงมีมติเชิญ ให้นายศุภรัตน์ มาชี้แจงถึงข้อเท็จจริงและพยามหลักฐานที่เห็นว่าจะเป็นพยานหลักฐานใหม่ต่อคณะกรรมการทั้ง 9 คน ในวันที่ 19 มี.ค.แต่ครั้งนี้คณะกรรมการจะยังไม่หยิบยกขึ้นมาพิจารณา เป็นเพียงการให้มาชี้แจงเพิ่มเติมเท่านั้น ซึ่งถ้าเป็นพยามหลักฐานใหม่คณะกรรมการต้องดำเนินการพิจารณาใหม่ แต่ถ้าไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่คณะกรรมการก็ต้องดำเนินการตามเดิมถือว่าจบแล้ว
"หลักฐานใหม่คืออะไรยังตอบไม่ได้ ต้องให้นายศุภวัตน์มาชี้แจงว่ามันเป็นพยานหลักฐานใหม่อย่างไร ส่วนพยานหลักฐานจะสามารถกลับคำพิจารณาได้หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่อยู่ในขั้นวินิจฉัยตรงนั้น เพราะอยู่ในขั้นแค่เชิญมาชี้แจง ซึ่งถ้าไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่ ป.ป.ช.ก็ยืนตามเดิม คือส่งผู้บังคับบัญชา” นายกล้านรงค์กล่าว
ส่วนกรณีคุณหญิงทิพาวดี ได้มีหนังสือร้องขอความเป็นธรรมรวม 4 ฉบับ ซึ่งในข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่คุณหญิงทิพาวดี ได้โต้แย้งขอความเป็นธรรมนั้น คณะอนุกรรมการไต่สวนของคณะกรรมการป.ป.ช. พิจารณาวินิจฉัยแล้วว่า ไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะหักล้างข้อกล่าวหาได้ คณะกรรมการป.ป.ช. จึงมีมติยกคำร้องขอความเป็นธรรมของคุณหญิงทิพาวดี และมีมติยืนตามมติเดิมที่ชี้มูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงกับคุณหญิงทิพาวดี
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเชื่อว่า มีแนวโน้มเป็นไปได้สูงที่ ป.ป.ช.จะกลับมติให้นายศุภรัตน์พ้นผิด เพราะการยื่นหลักฐานใหม่ต่อ ป.ป.ช.ครั้งนี้ นอกจากหลักฐานข้อมูลหรือข้อเท็จจริงใหม่แล้ว เสียงที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่ชี้มูลว่านายศุภรัตน์มีความผิดที่ผ่านมาผลออกมา 5 ต่อ 4 เสียงเท่านั้น หากมีการพิจารณาใหม่แล้วมีกรรมการแค่คนเดียวกลับมติ นายศุภรัตน์จะพ้นความผิดทันที อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจก็คือหากเป็นเช่นนั้น ความเชื่อมั่นต่อหน่วยงาน ป.ป.ช.จะกระเทือนหรือไม่ ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวเป็นที่สนใจของข้าราชการกระทรวงการคลังและข้าราชการหลายกระทรวง.
บ่ายวานนี้ (12 มี.ค.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดแถลงข่าวด่วนเพื่อแจ้งสื่อมวลชนกรณีที่เมื่อวันที่13 ม.ค. 52 ที่ผ่านมาคณะกรรมการป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดของคุณหญิง ทิพาวดี เมฆสวรรค์ อดีตเลขาธิการ ก.พ.และนาย ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง พร้อมพวก ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกรณีแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อดำรงตำแหน่งนักบริหาร 9 กระทรวงการคลัง โดยในวันที่ 18 ก.พ.52
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ชี้แจงถึงสาเหตุที่ยังไม่ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชา พิจารณาโทษทางวินัย กับคุณหญิงทิพาวดีและนายศุภรัตน์ เนื่องจากทั้งสองคนได้มีหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ในกรณีของนาย ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล หลังจากที่คณะกรรมการป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายศุภรัตน์ แล้วนายศุภรัตน์ ได้มีหนังสือขอความเป็นธรรมรวม 3 ฉบับ คณะกรรมการป.ป.ช. ได้พิจารณาหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของนายศุภวัตน์ ได้อ้างข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มเติมหลายประการ โดยระบุว่าเป็นพยานหลักฐานใหม่ที่เป็นเอกสาร เป็นสาระสำคัญแก่การไต่สวน แต่มิได้ระบุให้ชัดเจนว่า พยานหลักฐานใดเป็นพยามหลักฐานใหม่บ้าง และพยามหลักฐานนั้นเป็นสาระสำคัญแก่การไต่สวนเพียงใด
ดังนั้น เพื่อความชัดเจนและเพื่อประโยชน์แห่งความเป็นธรรม คณะกรรมการป.ป.ช. จึงมีมติเชิญ ให้นายศุภรัตน์ มาชี้แจงถึงข้อเท็จจริงและพยามหลักฐานที่เห็นว่าจะเป็นพยานหลักฐานใหม่ต่อคณะกรรมการทั้ง 9 คน ในวันที่ 19 มี.ค.แต่ครั้งนี้คณะกรรมการจะยังไม่หยิบยกขึ้นมาพิจารณา เป็นเพียงการให้มาชี้แจงเพิ่มเติมเท่านั้น ซึ่งถ้าเป็นพยามหลักฐานใหม่คณะกรรมการต้องดำเนินการพิจารณาใหม่ แต่ถ้าไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่คณะกรรมการก็ต้องดำเนินการตามเดิมถือว่าจบแล้ว
"หลักฐานใหม่คืออะไรยังตอบไม่ได้ ต้องให้นายศุภวัตน์มาชี้แจงว่ามันเป็นพยานหลักฐานใหม่อย่างไร ส่วนพยานหลักฐานจะสามารถกลับคำพิจารณาได้หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่อยู่ในขั้นวินิจฉัยตรงนั้น เพราะอยู่ในขั้นแค่เชิญมาชี้แจง ซึ่งถ้าไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่ ป.ป.ช.ก็ยืนตามเดิม คือส่งผู้บังคับบัญชา” นายกล้านรงค์กล่าว
ส่วนกรณีคุณหญิงทิพาวดี ได้มีหนังสือร้องขอความเป็นธรรมรวม 4 ฉบับ ซึ่งในข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่คุณหญิงทิพาวดี ได้โต้แย้งขอความเป็นธรรมนั้น คณะอนุกรรมการไต่สวนของคณะกรรมการป.ป.ช. พิจารณาวินิจฉัยแล้วว่า ไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะหักล้างข้อกล่าวหาได้ คณะกรรมการป.ป.ช. จึงมีมติยกคำร้องขอความเป็นธรรมของคุณหญิงทิพาวดี และมีมติยืนตามมติเดิมที่ชี้มูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงกับคุณหญิงทิพาวดี
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเชื่อว่า มีแนวโน้มเป็นไปได้สูงที่ ป.ป.ช.จะกลับมติให้นายศุภรัตน์พ้นผิด เพราะการยื่นหลักฐานใหม่ต่อ ป.ป.ช.ครั้งนี้ นอกจากหลักฐานข้อมูลหรือข้อเท็จจริงใหม่แล้ว เสียงที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่ชี้มูลว่านายศุภรัตน์มีความผิดที่ผ่านมาผลออกมา 5 ต่อ 4 เสียงเท่านั้น หากมีการพิจารณาใหม่แล้วมีกรรมการแค่คนเดียวกลับมติ นายศุภรัตน์จะพ้นความผิดทันที อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจก็คือหากเป็นเช่นนั้น ความเชื่อมั่นต่อหน่วยงาน ป.ป.ช.จะกระเทือนหรือไม่ ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวเป็นที่สนใจของข้าราชการกระทรวงการคลังและข้าราชการหลายกระทรวง.
