“สนธิ” ไม่เชื่อ ผลตรวจของตำรวจอ้างพบสารซีโฟร์ในเสื้อผ้า “น้องโบว์” ชี้ หวังสร้างความชอบธรรมให้ตำรวจด้วยกันเอง แนะฟังผลชันสูตรของแพทย์เป็นหลัก ด้านอนุกรรมาธิการ วุฒิสภา เชื่อ “น้องโบว์” เสียชีวิตจากแก๊สน้ำตา เพราะมีสารอาร์ดีเอ็กซ์อยู่ จวก สตช.ให้ข่าวก่อน ป.ป.ช.ชี้มูล หวังลดความผิดตัวเอง
วันนี้ (25 ก.พ.) นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา อนุกรรมาธิการพิสูจน์กรณีการเสียชีวิตของน.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือ น้องโบว์ จากเหตุการณ์การสลายกลุ่มผู้ชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 แถลงถึงกรณีกองพิสูจน์หลักฐานสรุปผลการตรวจพิสูจน์เสื้อผ้าของ น.ส.อังคณา พบสารเคมีที่เป็นระเบิดชนิดซีโฟร์ติดอยู่ ว่า อยากขอความเป็นธรรมให้กับน้องโบว์ เพราะมีการให้ข่าวทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า น้องโบว์ ไม่ได้เสียชีวิต เพราะแก๊สน้ำตา แต่เสียชีวิตเพราะระเบิด ซึ่งจากที่อนุกรรมาธิการตรวจสอบ และได้ส่งรายงานการตรวจสอบเข้าเป็นพยานเอกสารให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยืนยันว่า น้องโบว์ เสียชีวิต เพราะแก๊สน้ำตา โดยต้องเข้าใจว่า ในแก๊สจะมีสารอาร์ดีเอ็กซ์อยู่ แต่มีไม่ถึง 90% แต่หากมีถึง 90% ก็จะถือว่าเป็นระเบิดซีโฟร์ จึงอยากเรียกร้องให้ ป.ป.ช.เร่งชี้มูลเพื่อให้เรื่องยุติโดยเร็ว เพราะขณะนี้สังคมเริ่มเกิดความสับสนแล้ว
นายคำนูณ กล่าวว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงมีข่าวดังกล่าวขึ้นมาในช่วงที่ ป.ป.ช.กำลังจะชี้มูลผู้เกี่ยวข้อง โดยไม่มีที่มาของผู้ให้ข่าวที่ชัดเจน เป็นเพียงรายงานข่าวตามหนังสือพิมพ์เท่านั้น นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบข่าวแล้ว พบว่า เป็นผลสรุปการสอบสวนของคณะกรรมการอิสระที่นาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นตั้งขึ้น และมีการสรุปผลการสอบสวนหลังเกิดเหตุเพียง 3 วัน ซึ่งนัยของรายงานข่าวที่ออกมาสอดคล้องกับสิ่งที่โฆษก สตช.ในขณะนั้นออกมาตั้งข้อสังเกตว่า น้องโบว์ เสียชีวิตด้วยระเบิด ทั้งที่กระเป๋าสะพายของน้องโบว์อยู่ในสภาพดีไม่มีการฉีกขาดแน่อย่างใด จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่น้องโบว์จะพกระเบิดไปร่วมชุมนุม
ด้าน นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา อนุกรรมาธิการ กล่าวว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่า การเสียชีวิตของ น้องโบว์ จะเป็นประเด็นสำคัญที่จะนำสู่การตัดสินในเหตุการณ์การสลายการชุมนุมดังกล่าว จึงเป็นไปได้ว่า การออกข่าวเช่นนี้ออกมาเป็นความพยายามลดฐานความผิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะการที่ ป.ป.ช.จะชี้มูลในคดีนี้ในเร็วๆ นี้
ขณะที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แสดงความไม่เชื่อในผลการตรวจพิสูจน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ระบุว่า พบสารซีโฟร์ในชิ้นส่วนเสื้อผ้าของน้องโบว์ โดยขอให้ฟังผลการชันสูตรของแพทย์เป็นหลัก เพราะเชื่อว่าผลการตรวจพิสูจน์ของตำรวจ เป็นการช่วยหาความชอบธรรมให้กับตำรวจด้วยกันเอง และคงคาดหวังอะไรไม่ได้กับตำรวจตราบใดที่ยังมีพฤติกรรมเช่นนี้อยู่
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยถึงเรื่องเดียวกันว่า ผลสอบดังกล่าวของกองพิสูจน์หลักฐาน น่าจะมีเงื่อนงำ มีพิรุธมากพอสมควร เพราะการออกมาชี้แจงครั้งนี้ ตำรวจจงใจเบี่ยงเบนผลสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)หรือไม่ เพราะเท่าที่ทราบมาข้อมูลที่ทาง ป.ป.ช. กำลังจะชี้มูลนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจยศระดับผู้บัญชาการรวมอยู่ด้วย จึงเป็นเหตุให้ทางตำรวจออกมาชิงตัดหน้า แก้เกมผลสอบ ป.ป.ช.ที่กำลังจะออกมา
นายสุริยะใส กล่าวว่า ตามที่กองพิสูจน์หลักฐาน ระบุว่าตรวจพบ สารซีโฟร์ จากเสื้อของน้องโบว์ ขอถามว่าทำไมเพิ่งออกมาแถลงข่าว เพราะเหตุเกิดมากว่า 4 เดือนแล้ว อาจจะมีการสอดไส้หลักฐานอื่นเข้าไปหรือไม่ ทางพันธมิตรฯ จึงรอความชัดเจนจากผลสอบจากทาง ป.ป.ช.กอ่น แล้วจะออกมาแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
“เป็นไปไม่ได้เลย ที่น้องโบว์จะพกระเบิดไปเอง หรือถ้าหากน้องโบว์พกระเบิดไปจริง ร่างกายของน้องโบว์คงจะละเอียด เละไปมากกว่านี้ แต่นี่ร่างกายของน้องโบว์ไม่ได้ละเอียดไปทั้งหมด แม้ตำรวจจะบอกว่าพบสาร ซีโพร์ในเสื้อซึ่งไม่ตรงกับแก๊สน้ำตา แต่ก็ควรมีการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ก็ขอให้ตำรวจทำอะไรให้เกียรติคนที่ตายไปแล้ว ให้เกียรติครอบครัวน้องโบว์ด้วย” นายสุริยะใส กล่าวและว่า สมมุติว่าการตรวจสอบครั้งนี้จะเป็นจริง หรือไม่จริง ก็คิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ปฏิบัติการในวันที่ 7 ต.ค. คงหนีไม่พ้นความผิด เพราะผสสอบของ พ.ญ.พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ระบุชัดว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้ แก๊สน้ำตาที่มีสารอาร์ดีเอ็กซ์ ประกอบวัตถุระเบิด ทำร้ายประชาชนให้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เพียงเท่านี้ก็สามาารถเอาผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แล้ว