xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” แฉเล่ห์ รบ.น้องเขยเล็งฟอกแถลงการณ์ขายชาติ-จวก ป.ป.ช.แกะดำรับเงิน “แม้ว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” เปรียบ “สมชาย” ปากอย่างใจอีกอย่าง ย้ำเงื่อนไขหลักการเมืองใหม่ต้องปกป้องสถาบันกษัตริย์อย่างเป็นรูปธรรม แฉ รัฐบาลหน้าด้านเตรียมดันแถลงการณ์ร่วม ไทย-กัมพูชา เรื่องรับรองปราสาทพระวิหาร ผ่านสภาสัปดาห์หน้า เพื่อให้พ้นความผิด เฉ่งซ้ำ ป.ป.ช.บางคนรับเงินระบอบทักษิณ ดองคดีทุจริต ปลุกประชาชนตัดวงจรอุบาทว์ดึงประเทศไทยพ้นหุบเหวมรณะ

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย 

วันนี้ (1 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาลว่า เหตุที่ตั้งคำถามต่อรัฐบาลของระบอบทักษิณตั้งแต่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และมาถึง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ว่าไม่เคยแสดงท่าทีปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะเวลานี้ยังมีนิตยสาร เว็บไซต์ วิทยุชุมชน มีการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรัฐบาลชุดนี้ปากอย่างใจอย่าง

นายสนธิ กล่าวว่า การเมืองใหม่จะต้องมีรูปธรรมในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และประเด็นหลัก คือ ต้องปกป้องเทิดทูนราชวงศ์จักรีให้เข้มแข็งและปลอดภัย เนื่องจากพระมหากษัตริย์ทรงทศพิศราชธรรม

นายสนธิ ได้ยกเหตุการณ์การชุมนุมที่สะพานมัฆวาน ที่นำเทปบันทึกพระสุรเสียงของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ที่ทรงเล่าถึงกรณีการแสดงพระโอวาทปาฏิโมกข์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ตอนนั้นพระองค์ท่านไม่ยอมแสดงธรรมแม้จะมีการทูลเชิญจากพระอานนท์หลายครั้ง จนกระทั่งพระโมกคัลลาน์พระสาวกที่ทรงฤทธิ์ใช้ญาณมองเห็นว่า มีพระทุศีลร่วมอยู่ในที่ชุมนุมสงฆ์ด้วยจึงไปนำตัวออกไป ซึ่งพวกเราในยุคนี้ต้องทำตัวเป็นพระโมกคัลลาน์เพื่อปกป้องสถาบันด้วย

นายสนธิ ได้กล่าวเปรียบเทียบกรณีการจาบจ้วงทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ว่ากรณีแก้กฎหมายแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช การแต่งตั้งโยกย้ายผู้บัญชาการเหล่าทัพ หรือกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ขอเข้าเฝ้า ฯโดยตรง โดยไม่ยอมผ่านองคมนตรี ถือเป็นการจาบจ้วง ซึ่งลักษณะเหล่านี้เกิดขึ้นมาตลอดตั้งแต่ปี 2544-2545 จนถึงปี 2549 จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ 19 กันยายน เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องไปต่างประเทศก็มีกระบวนการจาบจ้วงสถาบันอยู่ตลอดเวลาแต่รัฐบาลไม่ทำอะไรเลย

นายสนธิ ยังกล่าวยกตัวอย่างกรณีที่รัฐบาลทำผิดกฎหมายกรณีแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาเรื่องปราสาทพระวิหารที่ตุลาการรัฐธรรมได้ชี้ว่าขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 เพราะไม่ผ่านรัฐสภาก่อน ล่าสุด มีข่าวว่ารัฐบาลนี้กำลังจะนำเข้าสภาในวันอังคาร หรือวันพุธหน้า เพื่อให้ลงมติเห็นชอบ ทั้งที่ความผิดได้เกิดขึ้นแล้ว นี่คือ การเมืองเก่าที่เราต้องต่อสู้ให้ได้

นอกจากนี้ นายสนธิ ยังได้เตือน ป.ป.ช.ที่ดองเรื่องต่างๆ ที่ถูกร้องเรียนทุจริตเอาไว้หลายเรื่อง และว่านอกจาก กกต. 2 คนแล้วยังมี ป.ป.ช.อย่างน้อย 2-3 คน ที่รับเงินระบอบทักษิณ พร้อมตั้งข้อสังเกตกรณีทุจริตสนามบินสุวรรณภูมิที่มีนับสิบเรื่องส่งไป 2 ปีแล้วจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่คืบหน้า หรือกรณีที่พันธมิตรฯ ยื่นเรื่องให้ถอดถอนคณะรัฐมนตรีกรณีรัฐบาลนายสมัครทำผิดรัฐธรรมนูญตามาตรา 190 ที่รับรองแถลงการณ์ไทย-เขมรโดยไม่ผ่านรัฐสภา ซึ่งพันธมิตรฯ ยื่นร้องผ่านไป 3 เดือนแล้วเรื่องก็ยังไม่ถึงไหน ทั้งที่กรณ๊นี้ศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินไว้แล้วว่าทำผิด ทำไมจะต้องใช้เวลาพิจารณานานขนาดนี้ เพียงแค่ดูว่าการทำผิดมาตรา 190 นั้น ครม.ต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่เท่านัน

“เมื่อเรามีองค์กรอิสระแบบนี้ ไม่มีเสียดีกว่า เพราะพึ่งพิงไม่ได้ อีกหน่อยเขาจะยุบสภา มีการเลือกตั้ง ก็จะมีการรับเงินรับทอง กกต.บางคนก็หลับตาข้างเดียวปล่อยใบแดง คนของเขาก็จะกลับเข้ามาอีก ดังนั้น ต้องตัดวงจรอุบาทว์นี้เสีย” นายสนธิ ระบุ และว่า เวลานี้ประเทศไทยลงไปอยู่ที่ก้นเหวแล้ว เพราะเวลานี้นายกฯ กำลังถูกฟ้องหลายคดี และอาจถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินในเดือนตุลาคมนี้ แล้วรักษาการ มีการเลือกนายกฯ ใหม่ โดยที่คนพวกนี้ไม่สนใจความเสียหายของบ้านเมือง

ในตอนท้าย นายสนธิ ได้ย้อนคำพูดของหลวงตามหาบัว ที่เคยกล่าวว่า ในที่สุดแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะรักษาทรัพย์สิน รวมทั้งรักษาชีวิตเอาไว้ไม่ได้ เหมือนเทวทัตที่ถูกธรณีสูบ และไม่ว่าใครจะมาเป็นมานายกฯ ก็ไปไม่รอด เพราะมันเน่าเฟะไปหมดแล้ว




กำลังโหลดความคิดเห็น