“กล้านรงค์” เผยมีมติตั้ง “ประสาร พงษ์ศิวาภัย” ประธานอนุกรรมการสอบ “สมัคร” เอี่ยวทุจริตก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ-คลองลาดพร้าว ตามที่ สตง.-กมธ.ป.ป.ช.เสนอเรื่อง พร้อมยันมติเดิมฟันอาญาวินัยร้ายแรง “คุณหญิงทิพาวดี-ศุภรัตน์” ขณะที่ นายกฯ ลั่น หากต้องเปลี่ยนตัวปลัดฯคลัง ตอนนี้ก็ต้องทำตามกฎหมาย
วันนี้ (21 เม.ย.) ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกคณะกรรมการ ป.ป.ช.แถลงถึงกรณีข้อกล่าวหาของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติชอบ สภาผู้แทนราษฎร ได้มีหนังสือส่งเรื่องกล่าวหา นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กับพวก ทุจริตการดำเนินโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบและคลองลาดพร้าว ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน และมอบหมายให้นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน
ในส่วนการร้องขอความเป็นธรรมของ คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กรณีแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งนักการบริหาร 9 และกำหนดคุณสมบัติผู้ได้รับการคัดเลือกบุคคล ให้ดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมสรรพากรโดยมิชอบ แต่ข้อพยานหลักฐานยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะหักล้างข้อกล่าวหา จึงมีมติยกคำร้องและมีมติยืนตามมติเดิมที่ชี้มูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงกับคุณหญิงทิพาวดี เมฆสววรค์
ในส่วนกรณีของนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ที่ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม โดยอ้างหลักฐานใหม่ เพื่อให้ป.ป.ช.กลับคำวินิจฉัยการลงมติชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงและความผิดทางอาญา กรณีแก้ไขหลักเกณฑ์คัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมสรรพากรโดยมิชอบ สมัยนายศุภรัตน์ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากรว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่ได้ลงมติเรื่องดังกล่าวไปแล้ว โดยพบว่า หลักฐานที่นายศุภรัตน์ยื่นขอความเป็นธรรมมานั้น แม้จะมีหลักฐานใหม่อยู่บ้างบางส่วน แต่หลักฐานใหม่ดังกล่าว ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่ใช่หลักฐานที่มีความสำคัญที่จะมีผลต่อการกลับคำวินิจฉัยที่ ป.ป.ช.ได้ลงมติชี้มูลความผิดไปแล้วได้ จึงมีมติยืนยันตามความวินิจฉัยเดิม คือ มีความผิดทั้งทางวินัยร้ายแรง และความผิดทางอาญา โดยให้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) ดำเนินความผิดทางอาญา และให้ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาลงโทษในความผิดทางวินัยตามมติของ ป.ป.ช.ต่อไป
ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงและความผิดทางอาญาของนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ว่า โดยหลักถ้าป.ป.ช.มีมติแล้วก็จะแจ้งไปยัง อ.กพ.กระทรวง ซึ่งก็จะมีกรอบเวลาในการดำเนินการต่อ
เมื่อถามว่าการปรับเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลังในขณะนี้ จะส่งผลกระทบต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามเกณฑ์ของกฎหมาย แต่ระหว่างที่อยู่ในตำแหน่งก็ทำงานอย่างเต็มที่ เมื่อถามว่าจะมีการปรับเปลี่ยนทันทีเลยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่แน่ใจว่า ป.ป.ช.แจ้งมติมาเป็นทางการหรือยัง
