คุณทักษิณ ที่รัก
คุณทักษิณเคยแผ่เมตตาบ้างหรือไม่ หากคุณทักษิณแผ่เมตตาทุกๆ เช้า คุณจะพ้นจากความโกรธเกลียดโลภหลงได้มาก เหมือนกับผมที่แผ่เมตตาให้สัตว์ร่วมโลกทั้งหลาย รวมถึงคุณทักษิณด้วยไม่เคยขาดสักเช้าเดียว
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวรา จงเป็นสุขๆ เถิดอย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพยาปัชฌา จงเป็นสุขๆ เถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆา จงเป็นสุขๆ เถิดอย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจรักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด
คุณทักษิณครับ ผมจำเป็นต้องเขียนจดหมายนี้ ด้วยเหตุ 2 ประการ คือ
ประการที่หนึ่ง ผมต้องพิสูจน์ว่า ระหว่างคุณทักษิณกับผม ใครเป็นคนโกหกเรื่องของใคร คุณทักษิณโฟนอินมาที่ชุมนุมเสื้อแดงเชียงใหม่วันที่ 22 มีนาคม 2552 ว่าผมเที่ยวไปโกหกเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์จนคนเชื่อ และผมได้ไปร่วมกับท่านจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการรัฐธรรมนูญ ท่านอักขราทร จุฬารัตน์ ประธานศาลปกครองสูงสุด ท่านชาญชัย ลิขิตจิตถะ อดีตประธานศาลฎีกา ขณะนี้เป็นองคมนตรี วางแผนล้มรัฐบาลของคุณร่วมกับทหารและองคมนตรีบางท่าน และหลังจากนั้นคุณก็วิดีโอลิงก์มาเล่าซ้ำที่ทำเนียบฯ อีกหลายครั้ง
สำหรับผมเอง ในสมัยที่คุณเรืองอำนาจ ก็เขียนบทความถึงคุณทักษิณนับร้อยฉบับ ชื่อว่า จับโกหกทักษิณก็มี โกหกของทักษิณก็มี ทักษิณโกหกอีกครั้งก็มี ดับเครื่องชนทักษิณก็มี รวมแล้วเป็นเรื่องที่ผมตำหนิว่าคุณโกหก คุณทักษิณกลับไม่ฟ้อง แต่กลับมาฟ้องเรื่องที่ผมไม่ได้พูด ก็ดีไปอย่าง จะได้รู้กันเสียทีว่า ใครเป็นคนโกหกเพื่อตัวเอง และใครเป็นคนพูดเรื่องจริงโดยสุจริตเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมกันแน่
ผมขอยืนยันว่า ผมไม่เคยเขียนเรื่อง “ปฏิญญาฟินแลนด์” ตามที่คุณกล่าวอ้าง ผมไม่ทราบว่าปฏิญญาฟินแลนด์มีหรือไม่ อนึ่ง ผมไม่เคยพบท่านผู้พิพากษาทั้ง 3 เป็นการจำเพาะโดยไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย และไม่ได้พบท่านทั้ง 3 พร้อมกับพลเอกสุรยุทธ์และพลเอกพัลลภตามวันเวลาที่คุณปีย์ มาลากุล อ้าง แต่ได้พบทุกๆ ท่านที่กล่าวมา พร้อมกับคนอื่นๆ อีกหลายคนที่บ้านคุณปีย์ ผมรู้จักคุณปีย์มานานตั้งแต่ครั้งแกทำงานอยู่บ้านไทยกับเพื่อนผมคือพร สิทธิอำนวย สนธิ ลิ้มทองกุล ก็ทำอยู่ที่นั่น
ผมต่อต้านปฏิวัติรัฐประหารมาตลอดชีวิต และได้เขียนจนกระทั่งวันสุดท้ายก่อนที่คุณทักษิณจะโดนขับไล่ว่าผมไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนรัฐบาลโดยม็อบหรือรัฐประหาร ขอให้คุณไปอ่านดูว่าจริงหรือไม่ รวมทั้งเรื่องทักษิณโกหกด้วย
พร้อมนี้ ผมแนบจดหมายเปิดผนึก 11 ฉบับที่ผมเคยเขียนถึงคุณทักษิณมาด้วย ผมชักไม่แน่ใจว่าคุณทักษิณจะเคยอ่านหรือไม่ บางทีลูกน้องอาจจะกีดกันไม่ให้มากวนสายตาของคุณก็เป็นได้ คำแนะนำหลายๆ อย่างจึงกลายเป็นหมันไป คุณทักษิณเองและบ้านเมืองจึงต้องประสบชะตากรรมอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
ขอยกตัวอย่างย่อๆ สัก 2 ฉบับ คือ 1.ทักษิณควรฉวยโอกาสพึ่งพระราชอำนาจ 17 พ.ย. 2548 ดังนี้
“1. ให้ทักษิณคิดหาวิธีการและลงมือพึ่งพระราชอำนาจโดยถวายรายงานบ่อยๆ ก็ดี ขอบรมราชวินิจฉัยก็ดี ศึกษาและปฏิบัติตามพระราชดำรัสก็ดี นำมาแก้ไขรัฐธรรมนูญม. 313 ตามแนวของดร.อมร ก็ดี ฯลฯ
2. ขอให้ทักษิณลดความเป็นเผด็จการลงและเพิ่มความเป็นประชาธิปไตยขึ้น ทั้งในพรรค ในรัฐบาล และในรัฐสภาเปิดโอกาสให้มีความคิดและมาตรการแตกต่างแบบประชาธิปไตยส่วนร่วมของจริง มิใช่ประชาธิปไตยตามใบสั่ง ทักษิณควรจะถอนฟ้องสื่อเสีย เพราะไม่มีผู้นำรัฐบาลประชาธิปไตยที่พัฒนาประเทศใดที่ฟ้องสื่อ ฯลฯ
3. ขอให้ทักษิณนำตนเอง ลูกเมียและบริวารออกจากวงการค้า วงการสัมปทาน ตลาดหุ้น และผ่านกฎหมายปฏิรูปธุรกิจให้ปลอดจากคอร์รัปชันและการเอาเปรียบคดโกงโดยผู้มีอำนาจ ฯลฯ”
อีกฉบับหนึ่ง 13 กันยายน 2549 ก่อนปฏิวัติ 6 วัน เรื่อง “โอกาสสุดท้ายของทักษิณ” “หากทักษิณได้อ่านคำแนะนำของผมเมื่อสองปีที่แล้วให้หาทางพึ่งพระราชอำนาจ ป่านนี้ทักษิณอาจจะสบายแล้วภายใต้ร่มพระบารมี
ทำไมผมจึงย้ำนักย้ำหนาว่าทักษิณควรลาออก นั่นก็เป็นเพราะว่าการลาออกนอกจากจะบรรเทาความรุนแรงยุ่งยากให้กับทักษิณและครอบครัวแล้ว ทักษิณยังจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ร่วมใจพิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญไว้ มิปล่อยให้ถูกทำลายลงด้วยอุบัติเหตุ และช่วยไม่ให้คนไทยทำลายล้างกันเอง ส่งผลถึงชีวิตและความปลอดภัยของครอบครัวชินวัตรด้วย”
คุณทักษิณคิดเอาเองเถิดว่า ผมหวังดีหรือหวังร้าย
ประการที่สอง ผมอยากทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ นั่นก็คือ
(1) ขอร้องให้คุณทักษิณเลิกทำตัว เป็นหัวโจก นปก. เสียตั้งแต่บัดนี้ นปก.นี้พลตรีจำลอง ผู้มีพระคุณให้ชีวิตการเมืองคุณ มีวาจาสิทธิ์เพราะให้คำจำกัดความล่วงหน้าว่า นรกป่วนกรุง ขณะนี้กำลังป่วนประเทศอยู่ทุกหย่อมหญ้า
(2) ขอร้องให้คุณทักษิณเลิกสาวไส้ให้กากิน ด้วยการทำตัวเป็นโกหกตลกหลวงไปทั่วโลกว่า นปก.และคุณทักษิณสู้เพื่อประชา ธิปไตยด้วยอุดมการณ์บริสุทธิ์โดยสงบและปราศจากอาวุธ การกระทำอันหยาบช้าของพวกคุณปรากฏต่อสายตาชาวโลกจนไม่มีใครสงสัยอีกแล้ว คุณทักษิณยิ่งพูดก็ยิ่งเหมือนวัวพันหลัก นอกจากคุณจะพูดภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่องแล้ว สื่อทั่วโลกเขาเห็นด้วยตาว่าอะไรเกิดขึ้นที่เมืองไทย ทำให้เขาสรุปว่าคุณเป็นตัวตลกที่โกหกติดสันดาน
(3) ผมขอร้องให้คุณทักษิณเลิกฝันที่จะฟอกตัวเองให้พ้นผิด คิดเอาทรัพย์สินและอำนาจคืนเสียที ความผิดพลาดที่รัฐบาลพวกคุณได้ทำต่อประชาธิปไตยและประเทศชาติ การทำลายความเป็นไทยที่สร้างมานับพันปีให้ย่อยยับลงที่พัทยา และการประกาศสงครามการเมือง การก่อกบฏ การกลุ้มรุมทำร้ายนายกฯ และเลขาธิการนายกฯ การเผารถโดยสาร การเตรียมเผาบ้านเมืองและชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธ์ด้วยก๊าซในรถบรรทุกโดยเสื้อแดงการลอบสังหารสนธิ ด้วยอาวุธสงครามอุกอาจกลางกรุงฯ การปิดล้อมศาลากลาง ฯลฯ พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี เรียกว่า นายทุนสามานย์จากอเวจีมหานรกปลุกเปรตจากอเวจีมหานรก กระทำอาชญากรรมอุกฤษ
บังเอิญ 2-3 วันนี้ คุณทักษิณกล่าวอ้างถึงที่พึ่ง 2 อย่าง คือ ท่านอาจารย์พุทธทาสและพระเจ้าอยู่หัว คุณจะจริงใจหรือไม่หรือว่าจวนตัว ผมไม่ทราบ แต่จะยกประโยชน์ให้
หากคุณทักษิณต้องการเอาธรรมซึ่งเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาที่อาจารย์พุทธทาสพร่ำสอน คือ ปฏิจจสมุปบาท มาใคร่ครวญถึงการกระทำในอดีตของคุณ คุณก็จะแจ้งว่าสมควรจะกระทำอะไรในปัจจุบันและอนาคต
ระหว่างการร่อนเร่เป็นสัมภเวสีไปทั่วโลก จนกระทั่งวันหนึ่งจิตแตกต้องฆ่าตัวตายกับการกลับมาสู่อ้อมอกของบ้านเราเพื่อเผชิญหน้ากับความจริงอย่างลูกผู้ชาย
ผมเชื่อยิ่งกว่าเชื่อว่า บารมีและพระมหากรุณาของพระเจ้าอยู่หัวมีให้แก่ทุกคน เมื่อคุณทักษิณรับโทษพอสมควร อาจจะไม่กี่วัน หลังพระราชทานอภัยโทษแล้วคงมีโอกาสไปบวช
การล้างบาปและสร้างบุญกุศลในพุทธศาสนานั้น จะมีอานิสงส์ผ่อนหนักเป็นเบาในการต่อสู้คดีอื่นๆ ของคุณทักษิณ จนกระทั่งวันหนึ่งคุณจะมีอิสรภาพ มีโอกาสใช้ความรู้ ความสามารถและความเสียสละรับใช้สังคมไทยได้ดีกว่าตอนที่เรืองอำนาจเสียอีก คุณจะมีส่วนสำคัญทำให้บ้านเมืองสงบร่มเย็นได้
ในที่สุด คุณก็จะนอนตายตาหลับไปสู่หนทางที่เป็นสุคติ ท่ามกลางการสรรเสริญของมนุษย์และเทวดา
ด้วยความปรารถนาดี
ปราโมทย์ นาครทรรพ
18 เมษายน 2552
คุณทักษิณเคยแผ่เมตตาบ้างหรือไม่ หากคุณทักษิณแผ่เมตตาทุกๆ เช้า คุณจะพ้นจากความโกรธเกลียดโลภหลงได้มาก เหมือนกับผมที่แผ่เมตตาให้สัตว์ร่วมโลกทั้งหลาย รวมถึงคุณทักษิณด้วยไม่เคยขาดสักเช้าเดียว
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวรา จงเป็นสุขๆ เถิดอย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพยาปัชฌา จงเป็นสุขๆ เถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆา จงเป็นสุขๆ เถิดอย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจรักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด
คุณทักษิณครับ ผมจำเป็นต้องเขียนจดหมายนี้ ด้วยเหตุ 2 ประการ คือ
ประการที่หนึ่ง ผมต้องพิสูจน์ว่า ระหว่างคุณทักษิณกับผม ใครเป็นคนโกหกเรื่องของใคร คุณทักษิณโฟนอินมาที่ชุมนุมเสื้อแดงเชียงใหม่วันที่ 22 มีนาคม 2552 ว่าผมเที่ยวไปโกหกเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์จนคนเชื่อ และผมได้ไปร่วมกับท่านจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการรัฐธรรมนูญ ท่านอักขราทร จุฬารัตน์ ประธานศาลปกครองสูงสุด ท่านชาญชัย ลิขิตจิตถะ อดีตประธานศาลฎีกา ขณะนี้เป็นองคมนตรี วางแผนล้มรัฐบาลของคุณร่วมกับทหารและองคมนตรีบางท่าน และหลังจากนั้นคุณก็วิดีโอลิงก์มาเล่าซ้ำที่ทำเนียบฯ อีกหลายครั้ง
สำหรับผมเอง ในสมัยที่คุณเรืองอำนาจ ก็เขียนบทความถึงคุณทักษิณนับร้อยฉบับ ชื่อว่า จับโกหกทักษิณก็มี โกหกของทักษิณก็มี ทักษิณโกหกอีกครั้งก็มี ดับเครื่องชนทักษิณก็มี รวมแล้วเป็นเรื่องที่ผมตำหนิว่าคุณโกหก คุณทักษิณกลับไม่ฟ้อง แต่กลับมาฟ้องเรื่องที่ผมไม่ได้พูด ก็ดีไปอย่าง จะได้รู้กันเสียทีว่า ใครเป็นคนโกหกเพื่อตัวเอง และใครเป็นคนพูดเรื่องจริงโดยสุจริตเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมกันแน่
ผมขอยืนยันว่า ผมไม่เคยเขียนเรื่อง “ปฏิญญาฟินแลนด์” ตามที่คุณกล่าวอ้าง ผมไม่ทราบว่าปฏิญญาฟินแลนด์มีหรือไม่ อนึ่ง ผมไม่เคยพบท่านผู้พิพากษาทั้ง 3 เป็นการจำเพาะโดยไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย และไม่ได้พบท่านทั้ง 3 พร้อมกับพลเอกสุรยุทธ์และพลเอกพัลลภตามวันเวลาที่คุณปีย์ มาลากุล อ้าง แต่ได้พบทุกๆ ท่านที่กล่าวมา พร้อมกับคนอื่นๆ อีกหลายคนที่บ้านคุณปีย์ ผมรู้จักคุณปีย์มานานตั้งแต่ครั้งแกทำงานอยู่บ้านไทยกับเพื่อนผมคือพร สิทธิอำนวย สนธิ ลิ้มทองกุล ก็ทำอยู่ที่นั่น
ผมต่อต้านปฏิวัติรัฐประหารมาตลอดชีวิต และได้เขียนจนกระทั่งวันสุดท้ายก่อนที่คุณทักษิณจะโดนขับไล่ว่าผมไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนรัฐบาลโดยม็อบหรือรัฐประหาร ขอให้คุณไปอ่านดูว่าจริงหรือไม่ รวมทั้งเรื่องทักษิณโกหกด้วย
พร้อมนี้ ผมแนบจดหมายเปิดผนึก 11 ฉบับที่ผมเคยเขียนถึงคุณทักษิณมาด้วย ผมชักไม่แน่ใจว่าคุณทักษิณจะเคยอ่านหรือไม่ บางทีลูกน้องอาจจะกีดกันไม่ให้มากวนสายตาของคุณก็เป็นได้ คำแนะนำหลายๆ อย่างจึงกลายเป็นหมันไป คุณทักษิณเองและบ้านเมืองจึงต้องประสบชะตากรรมอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
ขอยกตัวอย่างย่อๆ สัก 2 ฉบับ คือ 1.ทักษิณควรฉวยโอกาสพึ่งพระราชอำนาจ 17 พ.ย. 2548 ดังนี้
“1. ให้ทักษิณคิดหาวิธีการและลงมือพึ่งพระราชอำนาจโดยถวายรายงานบ่อยๆ ก็ดี ขอบรมราชวินิจฉัยก็ดี ศึกษาและปฏิบัติตามพระราชดำรัสก็ดี นำมาแก้ไขรัฐธรรมนูญม. 313 ตามแนวของดร.อมร ก็ดี ฯลฯ
2. ขอให้ทักษิณลดความเป็นเผด็จการลงและเพิ่มความเป็นประชาธิปไตยขึ้น ทั้งในพรรค ในรัฐบาล และในรัฐสภาเปิดโอกาสให้มีความคิดและมาตรการแตกต่างแบบประชาธิปไตยส่วนร่วมของจริง มิใช่ประชาธิปไตยตามใบสั่ง ทักษิณควรจะถอนฟ้องสื่อเสีย เพราะไม่มีผู้นำรัฐบาลประชาธิปไตยที่พัฒนาประเทศใดที่ฟ้องสื่อ ฯลฯ
3. ขอให้ทักษิณนำตนเอง ลูกเมียและบริวารออกจากวงการค้า วงการสัมปทาน ตลาดหุ้น และผ่านกฎหมายปฏิรูปธุรกิจให้ปลอดจากคอร์รัปชันและการเอาเปรียบคดโกงโดยผู้มีอำนาจ ฯลฯ”
อีกฉบับหนึ่ง 13 กันยายน 2549 ก่อนปฏิวัติ 6 วัน เรื่อง “โอกาสสุดท้ายของทักษิณ” “หากทักษิณได้อ่านคำแนะนำของผมเมื่อสองปีที่แล้วให้หาทางพึ่งพระราชอำนาจ ป่านนี้ทักษิณอาจจะสบายแล้วภายใต้ร่มพระบารมี
ทำไมผมจึงย้ำนักย้ำหนาว่าทักษิณควรลาออก นั่นก็เป็นเพราะว่าการลาออกนอกจากจะบรรเทาความรุนแรงยุ่งยากให้กับทักษิณและครอบครัวแล้ว ทักษิณยังจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ร่วมใจพิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญไว้ มิปล่อยให้ถูกทำลายลงด้วยอุบัติเหตุ และช่วยไม่ให้คนไทยทำลายล้างกันเอง ส่งผลถึงชีวิตและความปลอดภัยของครอบครัวชินวัตรด้วย”
คุณทักษิณคิดเอาเองเถิดว่า ผมหวังดีหรือหวังร้าย
ประการที่สอง ผมอยากทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ นั่นก็คือ
(1) ขอร้องให้คุณทักษิณเลิกทำตัว เป็นหัวโจก นปก. เสียตั้งแต่บัดนี้ นปก.นี้พลตรีจำลอง ผู้มีพระคุณให้ชีวิตการเมืองคุณ มีวาจาสิทธิ์เพราะให้คำจำกัดความล่วงหน้าว่า นรกป่วนกรุง ขณะนี้กำลังป่วนประเทศอยู่ทุกหย่อมหญ้า
(2) ขอร้องให้คุณทักษิณเลิกสาวไส้ให้กากิน ด้วยการทำตัวเป็นโกหกตลกหลวงไปทั่วโลกว่า นปก.และคุณทักษิณสู้เพื่อประชา ธิปไตยด้วยอุดมการณ์บริสุทธิ์โดยสงบและปราศจากอาวุธ การกระทำอันหยาบช้าของพวกคุณปรากฏต่อสายตาชาวโลกจนไม่มีใครสงสัยอีกแล้ว คุณทักษิณยิ่งพูดก็ยิ่งเหมือนวัวพันหลัก นอกจากคุณจะพูดภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่องแล้ว สื่อทั่วโลกเขาเห็นด้วยตาว่าอะไรเกิดขึ้นที่เมืองไทย ทำให้เขาสรุปว่าคุณเป็นตัวตลกที่โกหกติดสันดาน
(3) ผมขอร้องให้คุณทักษิณเลิกฝันที่จะฟอกตัวเองให้พ้นผิด คิดเอาทรัพย์สินและอำนาจคืนเสียที ความผิดพลาดที่รัฐบาลพวกคุณได้ทำต่อประชาธิปไตยและประเทศชาติ การทำลายความเป็นไทยที่สร้างมานับพันปีให้ย่อยยับลงที่พัทยา และการประกาศสงครามการเมือง การก่อกบฏ การกลุ้มรุมทำร้ายนายกฯ และเลขาธิการนายกฯ การเผารถโดยสาร การเตรียมเผาบ้านเมืองและชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธ์ด้วยก๊าซในรถบรรทุกโดยเสื้อแดงการลอบสังหารสนธิ ด้วยอาวุธสงครามอุกอาจกลางกรุงฯ การปิดล้อมศาลากลาง ฯลฯ พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี เรียกว่า นายทุนสามานย์จากอเวจีมหานรกปลุกเปรตจากอเวจีมหานรก กระทำอาชญากรรมอุกฤษ
บังเอิญ 2-3 วันนี้ คุณทักษิณกล่าวอ้างถึงที่พึ่ง 2 อย่าง คือ ท่านอาจารย์พุทธทาสและพระเจ้าอยู่หัว คุณจะจริงใจหรือไม่หรือว่าจวนตัว ผมไม่ทราบ แต่จะยกประโยชน์ให้
หากคุณทักษิณต้องการเอาธรรมซึ่งเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาที่อาจารย์พุทธทาสพร่ำสอน คือ ปฏิจจสมุปบาท มาใคร่ครวญถึงการกระทำในอดีตของคุณ คุณก็จะแจ้งว่าสมควรจะกระทำอะไรในปัจจุบันและอนาคต
ระหว่างการร่อนเร่เป็นสัมภเวสีไปทั่วโลก จนกระทั่งวันหนึ่งจิตแตกต้องฆ่าตัวตายกับการกลับมาสู่อ้อมอกของบ้านเราเพื่อเผชิญหน้ากับความจริงอย่างลูกผู้ชาย
ผมเชื่อยิ่งกว่าเชื่อว่า บารมีและพระมหากรุณาของพระเจ้าอยู่หัวมีให้แก่ทุกคน เมื่อคุณทักษิณรับโทษพอสมควร อาจจะไม่กี่วัน หลังพระราชทานอภัยโทษแล้วคงมีโอกาสไปบวช
การล้างบาปและสร้างบุญกุศลในพุทธศาสนานั้น จะมีอานิสงส์ผ่อนหนักเป็นเบาในการต่อสู้คดีอื่นๆ ของคุณทักษิณ จนกระทั่งวันหนึ่งคุณจะมีอิสรภาพ มีโอกาสใช้ความรู้ ความสามารถและความเสียสละรับใช้สังคมไทยได้ดีกว่าตอนที่เรืองอำนาจเสียอีก คุณจะมีส่วนสำคัญทำให้บ้านเมืองสงบร่มเย็นได้
ในที่สุด คุณก็จะนอนตายตาหลับไปสู่หนทางที่เป็นสุคติ ท่ามกลางการสรรเสริญของมนุษย์และเทวดา
ด้วยความปรารถนาดี
ปราโมทย์ นาครทรรพ
18 เมษายน 2552
