xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว” เลือดเข้าตาอ้าง “สุรยุทธ์” ทำลาย ลาม "อักขราทร-ชาญชัย" ร่วมขบวน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน -“เยาวลักษณ์” พี่สาวคนโต“แม้ว” เสียชีวิตแล้วด้วยโรคหัวใจล้มเหลว หลัง 2 สัปดาห์ก่อนมีอาการทรุดหนัก ความดันลดต่ำ สมองไม่ทำงาน ด้าน “ทักษิณ" บอกเสียใจพี่สาวตาย แต่ไม่มางานศพ ขณะที่เดียวกันโฟนอินเวทีเสื้อแดงที่เชียงใหม่ระบุ “พลเอกสุรยุทธ์”เป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังกระบวนทำลายตัวเอง อ้างสถาบันไม่เอา โวยถูกยัดเยียดข้อหาไม่จงรักภักดี โดยมี “ปราโมทย์ นาครทรรพ-อักขราทร จุฬารัตน-จรัญ ภักดีธนากุล-ชาญชัย ลิขิตจิตถะ” เกี่ยวข้องด้วย

นางเยาวลักษณ์ ชินวัตร หรือ “คล่องคำนวณการ” อายุ 63 ปี พี่สาวคนโตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาลพระราม 9 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. เมื่อเวลาประมาณ 22.40 น. คืนวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมาหลังเข้าพักรักษาตัวจากอาการป่วยด้วยโรคไตตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.51

ต่อมาเวลา 11.00 น.วานนี้ (22 มี.ค.) นพ.วิรุฬห์ มาวิจักขณ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลพระราม 9 พร้อมด้วย นพ.อาทิตย์ เจียรนัยศิลาวงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ และนายศุภธร จันทรกุล ผู้จัดการแผนกสื่อสารการตลาดโรงพยาบาลพระราม 9 ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการเสียชีวิตของนางเยาวลักษณ์ ชินวัตร ว่า นางเยาวลักษณ์ ป่วยเป็นโรคอัมพาตมา 20 ปีและไม่รู้สึกตัวมา 2 ปี มีโรคเบาหวานแทรกซ้อน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ต่อมาป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรัง และได้มารับการรักษาที่โรงพยาบาลพระราม 9 ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.51 จนกระทั่งถึงแก่กรรมด้วยโรคหัวใจล้มเหลว เมื่อเวลา 22.40 น.คืนวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา

“เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนเสียชีวิตผู้ตายมีอาการทรุดหนัก ความดันลดต่ำลงเรื่อยๆ จากการตรวจพบว่า สมองไม่ทำงาน ไตวาย แต่หัวใจยังคงทำงานอยู่ ทางคณะแพทย์จึงได้แจ้งให้ทางญาติทราบมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมาหัวใจเริ่มเต้นช้าลง จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด” คณะแพทย์ระบุ

ด้าน นพ.วิรุฬห์ มาวิจักขณ์ แพทย์ผู้ทำการรักษา กล่าวว่า ระหว่างที่นางเยาวลักษณ์ รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล มีญาติและลูกสาวมาเยี่ยมและดูแลอย่างใกล้ชิด ตลอดระยะเวลาที่เข้ารับการรักษา รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อตอนที่ยังอยู่ประเทศไทยก็มาเยี่ยมอาการตลอด อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ผู้ป่วยเสียชีวิต ทางโรงพยาบาลได้แจ้งให้กับทางญาติได้ทราบเรื่องแล้ว โดยเมื่อคืนวันที่ 21 มี.ค. ได้มีญาติและลูกของผู้ป่วยได้เดินทางมาที่โรงพยาบาล พร้อมกับแจ้งว่าให้ดำเนินการเก็บรักษาศพไว้ก่อนเพื่อรอทางญาติปรึกษากันก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป และขอให้เป็นเรื่องภายในของครอบครัวและเป็นการส่วนตัว

นางเยาวเรศ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า หลังจากที่นางเยาวลักษณ์ พี่สาวคนโตเสียชีวิต บรรดาญาติพี่น้องได้โทรศัพท์ไปบอก พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเจ้าตัวเมื่อทราบข่าว ได้โทร.กลับไปหาน้องๆ ทุกคน โดยบอกว่ารู้สึกเสียใจ แต่คงไม่สามารถเดินทางกลับมาร่วมงานศพได้ ขณะที่ส่วนตัวรู้สึกช็อกหลังได้ทราบข่าว เพราะทางแพทย์ได้แจ้งก่อนหน้านี้ว่า พี่สาวยังคงมีชีวิตได้อีกนานจึงไม่คาดฝันว่าจะด่วนจากไปเร็วเช่นนี้ และขณะนี้ตนอยู่ที่ต่างประเทศเช่นเดียวกัน ซึ่งขณะลงจากเครื่องญาติโทร.มาแจ้งข่าวร้าย ทำให้ตนต้องเตรียมตัวเดินทางกลับไปดูพี่สาวทันที

ทั้งนี้ สำหรับศพนางเยาวลักษณ์ ชินวัตร ญาติได้รับศพออกจากโรงพยาบาลพระราม 9 ไปตั้งบำเพ็ญกุศล ที่ศาลา 11 สุสานหลวง วัดเทพศิรินทราวาส

สำหรับนางเยาวลักษณ์ ชินวัตร เป็นบุตรคนโตจากจำนวน 10 คนของนายเลิศ และนางยินดี ชินวัตร สมรสกับ พ.อ.พิเศษ ศุภฤกษ์ คล่องคำนวณการ โดยเป็นคนช่วยดูแลกิจการของครอบครัวชินวัตร มาตั้งแต่ต้น เคยทำธุรกิจโรงภาพยนตร์ใน จ.เชียงใหม่ ชื่อ “ชินทัศนีย์” และ “นครเชียงใหม่” และยังเป็นนายกเทศมนตรีหญิงคนแรกของเทศบาลนครนครเชียงใหม่ ต่อมามีปัญหาด้านสุขภาพล้มป่วยด้วยโรคเบาหวานและต้องเข้ารับการผ่าตัดจากอาการเส้นโลหิตในสมองแตกจนต้องเป็นอัมพาตมานานเกือบ 20 ปี ก่อนจะเสียชีวิตลง

“แม้ว”โฟนอินซ้ำซากคุยเรื่องเดิม

ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้ได้กลายเป็นนักโทษหนีคดีอยู่ต่างประเทศ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มีการโฟนอินจากต่างประเทศ เข้าไปยังเวทีงานปาร์ตี้คนเสื้อแดงล้านนาที่ จ.เชียงราย ของ นปช.ซึ่งจัดขึ้นโดยกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย จ.เชียงราย ที่สนามกีฬา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าตอนนี้อยู่ที่โมนาโก พร้อมกล่าวถึงปัญหาเศรษฐกิจเนื้อหาเดิมๆ ว่า “ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกกำลังย่ำแย่ ถ้าเป็นผมแก้ได้แน่นอน เพราะง่ายกว่าตอนปี 2544 ที่รับตำแหน่ง แต่จะแก้อย่างไรให้รอฟังอีกครั้ง ในวันที่ 27 มี.ค.นี้ผมจะพูดเรื่องทางออกประเทศไทยให้รัฐบาลได้ฟัง เพราะเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจนี้ ผมแก้ได้ง่ายมาก หากผมยังอยู่ปี 2554 นี้ คนไทยคงจะหายจนกันไปหมดแล้ว แต่ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกตกต่ำ โดยเฉพาะปี 2552 ตัวเลขจะติดลบกันหมดโดยเฉพาะรัฐบาลกลับไปกู้ยืมเงินมาอีก”

”แม้ว”อ้างถูก”สุรยุทธ์”ทำลาย

ขณะที่ช่วงค่ำวานนี้ (22 มี.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวปราศรับกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี โดยส่งสัญญาณวิดีโอลิงค์มาขึ้นจอโปรเจกเตอร์เข้ามายังเวทีสัญจร “ความจริงวันนี้” โดย พ.ต.ท.ทักษิณ เริ่มต้นด้วยการทักทายผู้ร่วมงานเป็นภาษาคำเมืองว่า คิดถึงพี่น้องที่ให้การสนับสนุนและบอกว่ารู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถกลับไปร่วมงานศพพี่สาวตัวเองที่เพิ่งเสียชีวิตได้ จากนั้นบอกว่าก่อนที่จะถูกกระบวนการทำลายล้างตัวเองได้เคยคุยกับลูกชายเจ้าของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งว่าทำไมถึงเขียนโจมตีตัวเองอย่างไม่มีเหตุผล ซึ่งได้รับคำตอบว่าพ่อได้กินข้าวและพูดคุยกับองคมนตรีแล้วว่า สถาบันไม่เอาตัวเองแล้ว เพราะไม่จงรักภักดี

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวด้วยว่า เพิ่งได้พูดคุยกับ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ที่เดินทางไปพบตัวเองที่ประเทศจีน เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่ง พล.อ.พัลลภ ได้เล่าให้ฟังถึงกรณีการลอบสังหารตัวเองว่า พล.อ.พัลลภ เคยถูกเรียกให้เข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เมื่อ เม.ย.ปี 2549 เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยอ้างเหตุว่าตัวเองไม่จงรักภักดีต่อสถาบันและเคยที่จะลงมือลอบสังหารตัวเองแล้วถึง 2 ครั้ง แต่คลาดแคล้ว จนกระทั่งมาเกิดกรณีคาร์บอมบ์ซึ่งผู้ที่อยู่เบื้องหลังก็คือกลุ่มผู้ที่ทำการรัฐประหาร 19 กันยา นั่นเอง

นอกจากนี้ ยังกล่าวหา พล.อ.สุรยุทธ์ ว่า อยู่ในกระบวนการทำลายตัวเองด้วยการยัดเยียดกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดีต่อสถาบันแล้ว ยังมีผู้เกี่ยวข้องอีก 4 คน คือ นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการอิสระ นายอัขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ อดีตประธานศาลฎีกา ที่ร่วมในกระบวนการกลั่นแกล้งและล้มล้างตัวเอง

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะติดต่อเข้ามาพูดคุยกับทางเวทีนั้นเวลาประมาณ 19.00 น.นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และน้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ขึ้นเวทีในครั้งนี้เพื่อทักทายผู้เข้าร่วมงานด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น