00 ได้เห็น“ตัวตน” กันอีกครั้งสำหรับ “คนหน้าเหลี่ยม” ที่สามารถทำได้ทุกอย่าง เพื่อประโยชน์ของตัวเอง โดยไม่สนใจว่าในวันข้างหน้าบ้านเมืองที่เคยอาศัยเกิดจะฉิบหายวายป่วงอย่างไรบ้าง กูไม่สน ขอให้ได้ระบายแค้น โทษคนนั้น โทษคนนี้ไปเรื่อยเปื่อย แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะโทษตัวเองว่า ผลย่อมเกิดจากเหตุ และที่ตัวเองต้องมาอยู่ในสภาพเป็นทุกข์แบบนี้ก็เป็นไปตาม “กรรม” ที่ตัวเองก่อไว้ทั้งสิ้น
00 การส่งเสียงและภาพเข้ามาปลุกระดม “คนเสื้อแดง” ครั้งล่าสุด ถือว่าประกาศ “ชน” อย่างเปิดเผย เพราะกล่าวหาองคมนตรี-ศาล ว่าสมคบคิดกันโค่นล้ม และเป็นครั้งแรกที่มีการระบุชื่อตัวบุคคลออกมาพร้อมๆกันหลายคน ไม่ว่าจะเป็น สุรยุทธ์ จุลานนท์ ชาญชัย ลิขิตจิตถะ จรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และ อักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด
00 ก่อนหน้านี้เคยได้ยินคำกล่าวหา ป้ายสี “ป๋าเปรม” แต่ครั้งนี้เปิดโผมากันเป็นแพ็กเกจ หากมองกันอย่างมีปัญญา ก็น่าจะรู้ดีว่าเจตนาต้องการที่จะ“ชน” กับ “ใคร” ก็อยากดูน้ำหน้ารัฐบาล-กองทัพ ว่าจะจัดการอย่างไร และประเภทที่จัดงบประมาณให้ลงไปพื้นที่เพื่อไปชี้แจงนั้น ขอโทษ! ขอให้เลิกเสียเถอะนอกจากไม่ได้ผลแล้วยังเปลืองงบประมาณเปล่าๆ
00 นาทีนี้ต้องปรับปรุงคุณภาพสื่อของรัฐ ทั้งทีวี วิทยุ ในเชิงรุกให้มากกว่านี้ ประเภทสื่อมาสื่อไป คนโน้นพูดที คนนี้พูดที มันไม่ได้ผล ที่สำคัญคือปล่อยให้ “แม้ว” เป่าหู “รากหญ้า” ที่เข้าไม่ถึงข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ยังมีการใช้วิธีปล่อยข่าวลือโหมไฟอย่างน่ากลัว มันก็ยิ่งไปกันใหญ่ และการกล่าวหาองคมนตรีแบบนั้น ก็ยิ่งทำให้ชาวบ้านคิดไปไกลว่าคนที่อยู่ “เหนือ” ขึ้นไปอยู่เบื้องหลัง เป็นเจตนาเพื่อบ่อนทำลายโดยตรง
00 งานนี้มองได้สองมุม มุมแรกเป็นเกมแลกได้เสีย เพราะรู้ว่าถ้ายังขืนแอบๆให้พวก “ลิ่วล้อ” เกรดต่ำออกมาชนแทน ยิ่งปล่อยเวลาทอดนานไปก็ไม่ได้ผล เข้าเนื้อเรื่อยๆ อีกทางหนึ่งก็เพื่อเป็นเกมต่อรอง เรียกร้องความสนใจกลับมาบ้าง แต่เอาเป็นว่าเป็นการออกโรงด้วยตัวเองแบบนี้ถือว่า น่าจะเป็น “เดิมพัน” ครั้งท้ายๆแล้ว เพราะถ้าการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงในวันที่ 26 มีนาคมที่จะถึงนี้ มีคนออกมาแค่หมื่นสองหมื่น อย่างมากสุดไม่ถึง 5 หมื่นคน ก็อย่าหวังจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้
00 แต่ทั้งหลายทั้งปวง ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เพียงคนเดียว ถ้าผลงานเข้าตาชาวบ้าน ทำให้บรรดา “รากหญ้า” ทั้งหลายมีความสุข มีความกล้าหาญทางการเมือง ไม่ทุจริต ไม่เออออไปกับกลุ่มก๊วนข้างกาย ไม่ว่าใครก็ตาม ไม่ถือว่ามี “บุญคุณ” หากทุจริตคดโกง พร้อมที่จะปลดออกไปให้พ้นทุกเวลา ถ้าทำได้แบบนี้ ต่อให้ “แม้ว” พล่ามจนน้ำลายแตกฟองแค่ไหน ก็ไร้ความหมาย
00 เริ่มตื่นตัวกันยกใหญ่ ทั้งนายกฯ-รองนายกฯ หรือแม้แต่ผู้บัญชาการทหารบก ออกมายอมรับว่า มีแผน“ตากสิน” ที่มีเป้าหมายเพื่อทำลายรัฐบาล-สถาบันเบื้องสูง และเมื่ออ่านเป็นภาษาไทย อาจไม่เข้าใจ แต่ถ้าเขียนเป็นภาษาอังกฤษสะกดว่า“TAKSIN” ทุกอย่างก็ชัดเจน ไม่ต้องอธิบายกันอีกต่อไป ซึ่งไม่ไม่ว่าจะเป็นแผนชื่ออะไรก็ตาม แต่ที่ผ่านมามีความเคลื่อนไหวก่อตัวมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่ค่อยไม่ใครสนใจ มีแต่ “ยามใหญ่” สนธิ ลิ้มทองกุล เท่านั้น ที่ตีปี๊บบอกกล่าว แต่กลับมีคนแปลเจตนาว่า ต้องการดึงฟ้าต่ำเสียนี่
00 จากคำพูดของคน “เหลี่ยมจัด” ทำให้ “พัลลภ ปิ่นมณี” อยู่ในภาวะยากลำบากที่สุด กลายเป็นว่า“คบไม่ได้” เพราะเมื่อ เสี่ยแม้วได้ประโยชน์จากข้อมูล “บางอย่าง” ซึ่งไม่รู้มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์อะไรให้กันหรือไม่ แต่เอาเป็นว่า นาทีนี้เดินไปไหนก็ไม่ได้แล้ว แม้จะไม่ใช่ข้อมูลใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ เมื่อปลายปีที่แล้วมีข่าวไปพบกันที่จีน ท่ามกลางข่าวลือว่าจะมาเป็นรองนายกฯ อาสามาปราบพันธมิตรฯ เมื่อเป็นแบบนี้ก็ได้แต่สมน้ำหน้า หมดราคาตอนแก่ !!
00 การส่งเสียงและภาพเข้ามาปลุกระดม “คนเสื้อแดง” ครั้งล่าสุด ถือว่าประกาศ “ชน” อย่างเปิดเผย เพราะกล่าวหาองคมนตรี-ศาล ว่าสมคบคิดกันโค่นล้ม และเป็นครั้งแรกที่มีการระบุชื่อตัวบุคคลออกมาพร้อมๆกันหลายคน ไม่ว่าจะเป็น สุรยุทธ์ จุลานนท์ ชาญชัย ลิขิตจิตถะ จรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และ อักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด
00 ก่อนหน้านี้เคยได้ยินคำกล่าวหา ป้ายสี “ป๋าเปรม” แต่ครั้งนี้เปิดโผมากันเป็นแพ็กเกจ หากมองกันอย่างมีปัญญา ก็น่าจะรู้ดีว่าเจตนาต้องการที่จะ“ชน” กับ “ใคร” ก็อยากดูน้ำหน้ารัฐบาล-กองทัพ ว่าจะจัดการอย่างไร และประเภทที่จัดงบประมาณให้ลงไปพื้นที่เพื่อไปชี้แจงนั้น ขอโทษ! ขอให้เลิกเสียเถอะนอกจากไม่ได้ผลแล้วยังเปลืองงบประมาณเปล่าๆ
00 นาทีนี้ต้องปรับปรุงคุณภาพสื่อของรัฐ ทั้งทีวี วิทยุ ในเชิงรุกให้มากกว่านี้ ประเภทสื่อมาสื่อไป คนโน้นพูดที คนนี้พูดที มันไม่ได้ผล ที่สำคัญคือปล่อยให้ “แม้ว” เป่าหู “รากหญ้า” ที่เข้าไม่ถึงข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ยังมีการใช้วิธีปล่อยข่าวลือโหมไฟอย่างน่ากลัว มันก็ยิ่งไปกันใหญ่ และการกล่าวหาองคมนตรีแบบนั้น ก็ยิ่งทำให้ชาวบ้านคิดไปไกลว่าคนที่อยู่ “เหนือ” ขึ้นไปอยู่เบื้องหลัง เป็นเจตนาเพื่อบ่อนทำลายโดยตรง
00 งานนี้มองได้สองมุม มุมแรกเป็นเกมแลกได้เสีย เพราะรู้ว่าถ้ายังขืนแอบๆให้พวก “ลิ่วล้อ” เกรดต่ำออกมาชนแทน ยิ่งปล่อยเวลาทอดนานไปก็ไม่ได้ผล เข้าเนื้อเรื่อยๆ อีกทางหนึ่งก็เพื่อเป็นเกมต่อรอง เรียกร้องความสนใจกลับมาบ้าง แต่เอาเป็นว่าเป็นการออกโรงด้วยตัวเองแบบนี้ถือว่า น่าจะเป็น “เดิมพัน” ครั้งท้ายๆแล้ว เพราะถ้าการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงในวันที่ 26 มีนาคมที่จะถึงนี้ มีคนออกมาแค่หมื่นสองหมื่น อย่างมากสุดไม่ถึง 5 หมื่นคน ก็อย่าหวังจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้
00 แต่ทั้งหลายทั้งปวง ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เพียงคนเดียว ถ้าผลงานเข้าตาชาวบ้าน ทำให้บรรดา “รากหญ้า” ทั้งหลายมีความสุข มีความกล้าหาญทางการเมือง ไม่ทุจริต ไม่เออออไปกับกลุ่มก๊วนข้างกาย ไม่ว่าใครก็ตาม ไม่ถือว่ามี “บุญคุณ” หากทุจริตคดโกง พร้อมที่จะปลดออกไปให้พ้นทุกเวลา ถ้าทำได้แบบนี้ ต่อให้ “แม้ว” พล่ามจนน้ำลายแตกฟองแค่ไหน ก็ไร้ความหมาย
00 เริ่มตื่นตัวกันยกใหญ่ ทั้งนายกฯ-รองนายกฯ หรือแม้แต่ผู้บัญชาการทหารบก ออกมายอมรับว่า มีแผน“ตากสิน” ที่มีเป้าหมายเพื่อทำลายรัฐบาล-สถาบันเบื้องสูง และเมื่ออ่านเป็นภาษาไทย อาจไม่เข้าใจ แต่ถ้าเขียนเป็นภาษาอังกฤษสะกดว่า“TAKSIN” ทุกอย่างก็ชัดเจน ไม่ต้องอธิบายกันอีกต่อไป ซึ่งไม่ไม่ว่าจะเป็นแผนชื่ออะไรก็ตาม แต่ที่ผ่านมามีความเคลื่อนไหวก่อตัวมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่ค่อยไม่ใครสนใจ มีแต่ “ยามใหญ่” สนธิ ลิ้มทองกุล เท่านั้น ที่ตีปี๊บบอกกล่าว แต่กลับมีคนแปลเจตนาว่า ต้องการดึงฟ้าต่ำเสียนี่
00 จากคำพูดของคน “เหลี่ยมจัด” ทำให้ “พัลลภ ปิ่นมณี” อยู่ในภาวะยากลำบากที่สุด กลายเป็นว่า“คบไม่ได้” เพราะเมื่อ เสี่ยแม้วได้ประโยชน์จากข้อมูล “บางอย่าง” ซึ่งไม่รู้มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์อะไรให้กันหรือไม่ แต่เอาเป็นว่า นาทีนี้เดินไปไหนก็ไม่ได้แล้ว แม้จะไม่ใช่ข้อมูลใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ เมื่อปลายปีที่แล้วมีข่าวไปพบกันที่จีน ท่ามกลางข่าวลือว่าจะมาเป็นรองนายกฯ อาสามาปราบพันธมิตรฯ เมื่อเป็นแบบนี้ก็ได้แต่สมน้ำหน้า หมดราคาตอนแก่ !!
