xs
xsm
sm
md
lg

นช.ทักษิณหนีสุดชีวิตเผ่นดูไบไปแอฟริกา-มุสลิมไทยยื่นหนังสือไล่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี/รอยเตอร์/ASTVผู้จัดการรายวัน - "ทักษิณ" หัวซุกหัวซุน พำนักที่ "ดูไบ" ต่อไปไม่ได้ ต้องเผ่นแนบไปอยู่แอฟริกา หนังสือพิมพ์สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์รายงานว่า นช.แม้วรีบเดินทางทันทีหลังรัฐบาลไทยประกาศยกเลิกหนังสือเดินทาง ขณะที่เรื่องพาสปอร์ตการทูตจากนิการากัว ที่ว่ากันว่าประเทศยากจนในละตินอเมริกาแห่งนี้ออกให้แก่ "ทักษิณ" ยังมีความสับสนไม่ชัดเจน ขณะที่ชาวมุสลิมในไทยยื่นหนังสืออุปทูตยูเออีไล่แม้วพ้นนครดูไบ นายกฯ เผยต่างชาติล้อมกรอบ นช.แม้ว

หนังสือพิมพ์ เซเวนเดย์ส(7Days) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รายวันชื่อดังภาคภาษาอังกฤษของเมืองดูไบ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รายงานในฉบับวานนี้ (16) โดยระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ตัดสินใจเดินทางออกจากนครดูไบ เพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดหมายแห่งใหม่ที่ยังไม่ได้รับการเปิดเผยในทวีปแอฟริกาแล้วตั้งแต่เมื่อช่วงคืนวันพุธ (15) ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่รัฐบาลไทยแถลงยกเลิกหนังสือเดินทางของเขา
เซเวนเดย์สระบุว่า โฆษกส่วนตัวคนหนึ่งของ พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งกำลังเดินทางไปกับอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ด้วย เป็นผู้ที่เปิดเผยเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณกำลังเดินทางไปยังจุดหมายแห่งหนึ่งในทวีปแอฟริกา ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นที่ใด และอดีตนายกรัฐมนตรีมีความหวังว่าประเทศต่างๆจะยังยอมรับหนังสือเดินทางไทยของเขาที่เพิ่งถูกรัฐบาลไทยสั่งเพิกถอน
โฆษกคนดังกล่าวบอกว่า "รัฐบาลไทยสามารถพูดอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ แต่รัฐบาลไทยไม่มีวันที่จะขัดขวางพวกเราได้ คนไทยทุกคนย่อมมีสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะมีหนังสือเดินทางซึ่งไม่อาจจะถูกยกเลิกได้อย่างง่ายดายเช่นนี้"
ก่อนหน้านี้รัฐบาลไทยมีคำสั่งเพิกถอนหนังสือเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณ หลังจากที่เขายุยงปลุกปั่นกลุ่ม" คนเสื้อแดง " ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สนับสนุนทางการเมืองของเขา ให้ออกมาก่อเหตุจลาจลเพื่อขับไล่รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และทำให้การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจาที่พัทยาต้องถูกยกเลิก จนสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยอย่างหนักเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวานนี้ (16) นช.ทักษิณให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ ว่า ไม่มีเงินเพื่อจะกลับมาเล่นการเมืองอีก “หากประเทศไทยและประชาชนต้องการผมจริงๆ...ผมต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหา ผมต้องการให้พระองค์ท่านทรงมา และช่วยสมานรอยร้าว”

**พาสปอร์ตการทูตนิการากัว**
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลของนิการากัว ให้ทำหน้าที่เป็นเอกอัครราชทูตพิเศษ พร้อมได้สิทธิ์ถือหนังสือเดินทางทางการทูตของนิการากัวอย่างเป็นทางการ
โดยรัฐบาลนิการากัวได้ออกมาแถลงข่าวที่กรุงมานากัว เมืองหลวงของประเทศเมื่อวันพุธ (15) ที่ผ่านมาโดยระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับหนังสือเดินทางจากกระทรวงต่างประเทศนิการากัว หลังจากที่เขาเดินทางมาพบหารือกับประธานาธิบดีดาเนียล ออร์เตกา ซาเบดรา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ทางการนิการากัวได้ยืนยันในการแถลงข่าวครั้งนี้ว่า ประธานาธิบดีออร์เตกา ซึ่งมีวัย 63 ปี ได้แต่งตั้งให้ทักษิณทำหน้าที่เป็นทูตพิเศษ ในการช่วยดึงดูดนักธุรกิจต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในนิการากัวมากขึ้น เพื่อช่วยแก้ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่ โรซาริโอ มูริโญ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของนิการากัว ซึ่งทำหน้าที่เป็นโฆษกรัฐบาลด้วยอีกตำแหน่งได้ออกมาระบุว่า "ทักษิณ ชินวัตรเป็นผู้นำที่ได้รับการเลือกตั้งโดยเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนชาวไทยตามกระบวนการประชาธิปไตย แต่กลับถูกขับออกจากตำแหน่งโดยการรัฐประหารเมื่อปี 2006"
ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้(16) มีรายงานว่า ทาง เว็บไซท์ " เอลปวยโบลเปรซิเดนเต้ " (elpueblopresidente.com) ของนิการากัวและเว็บไซท์ "เตร์รา" (terra.com.mx)ของเม็กซิโก ต่างพากันประโคมข่าวที่ทางการนิการากัวมอบสถานะเอกอัครราชทูตพิเศษให้กับทักษิณ ด้วยเช่นกัน โดยระบุว่า อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยผู้นี้ได้รับมอบหมาย "ภารกิจพิเศษ" ทางด้านเศรษฐกิจจากประธานาธิบดีออร์เตกา
ทางด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายธฤต จรุงวัฒน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้ออกมาเปิดเผยว่า รัฐบาลไทยยังไม่ได้ยื่นหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการต่อทางการนิการากัวแต่อย่างใด และเห็นว่าเรื่องการมอบตำแหน่งทูตพิเศษให้ทักษิณถือเป็นเรื่องภายในและเป็นสิทธิ์ของทางการนิการากัวที่สามารถกระทำได้ ซึ่งทางการไทยจะไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยวและไม่ขอออกความเห็นใดๆต่อเรื่องนี้
ส่วนในประเด็นเรื่องการขอความร่วมมือจากทางการนิการากัวเพื่อส่งตัวทักษิณ ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนกลับมารับโทษในประเทศไทยนั้น โฆษกกระทรวงต่างประเทศของไทยระบุว่า ไทย
และนิการากัวยังไม่มีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน

**ทำความรู้จัก "นิการากัว"**
นิการากัวมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐนิการากัว เป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอเมริกากลาง โดยมีเนื้อที่ทั้งสิ้น 129,494 ตารางกิโลเมตรหรือมีขนาดใกล้เคียงกับประเทศอังกฤษ นิการากัวมีประชากรทั้งประเทศราว 6 ล้านคน มีกรุงมานากัว เป็นทั้งเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และมีภาษาสเปนเป็นภาษาราชการ ในอดีตนิการากัวต้องตกเป็นอาณานิคมของสเปนมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1529 จนกระทั่งได้รับเอกราชเมื่อปีค.ศ. 1850 ขณะที่ในปัจจุบันนิการากัวเป็นประเทศที่ได้ชื่อว่ายากจนมากที่สุดเป็นลำดับที่2ในซีกโลกตะวันตกรองจากเฮติ โดยรายได้เฉลี่ยต่อหัวของชาวนิการากัวในปัจจุบันอยู่ที่เพียงคนละประมาณ 945ดอลลาร์สหรัฐฯต่อปีเท่านั้น

**ชำปหละ นช.แม้วกับแอฟริกา**
ขณะเดียวกันในส่วนของประเทศในทวีปแอฟริกานั้น ในช่วงก่อนหน้านี้ ก็เคยมีรายงานข่าวซึ่งยังไม่ได้รับการยืนยัน ที่ระบุว่า อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยเคยได้รับการติดต่อทาบทามจากหลายประเทศในทวีปแห่งนี้ให้เดินทางไปรับตำแหน่งที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจ เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน รวมทั้ง ตำแหน่งพลเมืองพิเศษในหลายประเทศ อาทิ ชาด โตโก สาธารณรัฐแอฟริกากลาง ที่ต่างติดอันดับประเทศที่ยากจนข้นแค้นที่สุดของโลกทั้งสิ้น รวมทั้งข่าวการเข้าไปลงทุนในธุรกิจเหมืองทองคำในแอฟริกาใต้ และบอตสวานา
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตอย่างยิ่งว่า การเดินทางออกจากดูไบของทักษิณในครั้งนี้ อาจเป็นเพราะเขาได้รับแรงกดดันจากทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ไม่พอใจต่อการกระทำของกลุ่มผู้สนับสนุนทางการเมืองของเขา ที่พยายามเผาทำลายมัสยิดหลายแห่ง รวมทั้ง ทำร้ายชาวมุสลิมตามชุมชนต่างๆในเขตกรุงเทพมหานคร ในระหว่างการก่อเหตุจลาจลต่อต้านรัฐบาลตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทักษิณต้องรีบเดินทางออกจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่เขาเคยใช้เป็นแหล่งกบดานและเคลื่อนไหวทางการเมืองมาโดยตลอดในช่วงที่ผ่านมา โดยต้องมุ่งหน้าไปหาที่มั่นแห่งใหม่ในประเทศยากจนของแอฟริกา ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่นับถือศานาคริสต์แทน
นอกจากนั้น ยังมีข้อสังเกตว่า ในบรรดาประเทศแอฟริกาที่เคยตกเป็นข่าวกับอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ในช่วงที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีเพียง ชาด ประเทศเดียวเท่านั้นที่มีชาวมุสลิมเป็นชนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่ก็มีสัดส่วนร้อยละ 54 หรือเกินครึ่งเล็กน้อย

***ชาวมุสลิมจี้ดูไบไล่แม้วพ้นประเทศ
วานนี้ (16 เม.ย.) ที่บริเวณหน้าอาคารซิติ้แบงก์ ถนนสาธร ชาวมุสลิมในราชอาณาจักรไทย ประมาณ 300 คน นำโดย นายภักดี มะแอ รวมตัวกันนำหนังสือเรียกร้อง ซึ่งเป็นภาษาอาหรับ มายื่นให้กับ นายมูหะมัดยูซุป มูฮะมัด อุปทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) รักษาการเอกอัครราชทูต เพื่อขอให้ยุติการให้ที่พักพิงแก่ นช.ทักษิณที่ใช้รัฐดูไบเป็นสถานที่บัญชาการยุยง ปลุกปั่น ให้คนไทยเกิดความแตกแยกและรังเกียจซึ่งกันและกัน บรรยากาศในการรวมตัวในครั้งนี้เป็นไปอย่างสงบ พี่น้องมุสลิมรวมตัวกันเพื่อแสดงพลังและชูป้ายผ้าให้ นช.ทักษิณหยุดทำร้ายประเทศไทย
สาเหตุที่ทำให้ชาวมุสลิมไม่พอใจ นช.ทักษิณ ซึ่งขณะนี้หลบหนีคดีและหนีโทษจำคุกอยู่ที่รัฐดูไบนั้น เนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 13 เม.ย. ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงภายใต้การปลุกปั่นของ พ.ต.ท.ทักษิณได้ก่อจลาจลา หลายจุดในกรุงเทพมหานคร และได้บุกเข้าทำลายมัสยิดในซอยเพชรบุรี 7 ย่านอุรุพงษ์ด้วย ซึ่งถือเป็นการทำร้ายชาวมุสลิมทั่วโลก

***นิการากัวปฏิเสธให้พาสปอร์ตแม้ว
มีรายงานข่าวแจ้งว่า สถานเอกอัครราชทูตนิการากัว ประจำเม็กซิโก ได้มีหนังสือที่ EDNIC/ EMB/91/2009 มีเนื้อหาว่า สถานเอกอัครราชทูตนิการากัวประจำเม็กซิโก ขอตอบหนังสือสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำเม็กซิโกที่ 31001/126/2552 ที่ขอให้ตรวจสอบรายงานข่าวเกี่ยวกับการให้สัญชาติ และการถือหนังสือเดินทางนิการากัวของ นช.ทักษิณโดยทางสถานเอกอัครราชทูตนิการากัวประจำเม็กซิโก ขอเรียนสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำเม็กซิโกว่า ข่าวดังกล่าวเป็นข่าวที่ไม่มีมูล ซึ่งหนังสือดังกล่าวลงวันที่ 15 เมษยายน และทางสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำเม็กซิโก ได้รายงานเรื่องนี้มายังกระทรวงต่างประเทศไทยแล้ว
ด้าน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า วันนี้ (17 เม.ย) พรรคประชาธิปัตย์จะเชิญสื่อต่างประเทศทุกสำนักในประเทศไทยมาชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้น.

***มาร์คเผยต่างชาติล้อมกรอบแม้ว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการการประสานให้ตำรวจสากลจับกุมตัว นช.ทักษิณ ว่า ได้แจ้งหน่วยงานสากลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว โดยขณะนี้มีข่าวจำนวนมากเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของ นช.ทักษิณ กระทรวงการต่างประเทศได้คุยกับทุกประเทศว่า เรามีความเป็นห่วงเวลาที่ นช.ทักษิณไปเคลื่อนไหวทางการเมือง และคิดว่าเป็นสิ่งที่มิตรประเทศ จะต้องช่วยกันดูแล
ส่วนการถอนพาสปอร์ต จะทำให้จับกุมได้ง่ายขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขว่า มีเอกสารเดินทางที่สามารถใช้มากน้อยแค่ไหน และยังเชื่อว่า ทุกประเทศจะปฏิบัติตามหลักการนี้อยู่แล้ว คงไม่ยอมให้ใครมาใช้สถานที่ของตัวเองไปก่อปัญหาความมั่นคงให้กับประเทศอื่น
ส่วนถ้าหากจับ นช.ทักษิณได้ ปัญหาจะจบหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นไปตามกฎหมาย ส่วนการจบปัญหาที่แท้จริงคือการหาทางออกทางการเมืองร่วมกัน และกรณีที่มีข่าวว่า 3 ประเทศ คือ นิการากัว สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และกัมพูชา ออกพาสปอร์ตให้ นช.ทักษิณนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่ ยังไม่มีที่ไหนยืนยัน
ล่าสุด นช.ทักษิณให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ วานนี้ (16) ว่า ไม่มีเงินเพื่อจะกลับมาเล่นการเมืองอีก “หากประเทศไทยและประชาชนต้องการผมจริงๆ...ผมต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหา ผมต้องการให้พระองค์ท่านทรงมา และช่วยสมานรอยร้าว”
กำลังโหลดความคิดเห็น