xs
xsm
sm
md
lg

“นายกฯ” สั่งตรึงกำลังบางจุด-คง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หวั่นอาฟเตอร์ช็อกป่วนอีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
“นายกรัฐมนตรี” ชี้แจงประชาชน หลังสลายกองโจรเสื้อแดง แต่จำเป็นต้องตรึงกำลังพลบางส่วนใน กทม.ไว้ หวั่นเกิดอาฟเตอร์ช็อกอีกครั้ง ระบุยังคงประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เร่งคลี่คลายสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติได้โดยสะดวก ยอมรับยังมีแนวร่วมที่ไม่ได้ใส่เสื้อแดงชุมนุมอยู่ประปรายในบางพื้นที่ วอน ปชช.อภัยผู้หลงผิด เพราะตัวปัญหาแท้จริงแค่คนกลุ่มเดียวที่สร้างความเข้าใจผิดฝังหัว ทำให้ต้องเกิดเหตุเผชิญหน้าในครั้งนี้
 
 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แถลงการณ์ 
 

วันนี้ (14 เม.ย.)เมื่อเวลา 17.26 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ดังนี้

“... พี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่านครับ หลังจากที่ผมและรัฐบาลได้บอกกับพี่น้องประชาชนว่า รัฐบาลจะพยายามนำความสงบสุขกลับคืนสู่สังคม บ้านเมืองของเรา เพื่อให้เป็นสังคมที่ปกครองด้วยกฎหมาย และได้มีการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อที่จะคลี่คลายเหตุการณ์ต่างๆ นั้น ผมได้รายงานพี่น้องประชาชนให้ทราบถึงความก้าวหน้าของการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวต้องตลอดมา

เมื่อคืนที่ผ่านมา ผมได้เรียนกับพี่น้องประชาชนว่า เหตุการณ์ความไม่สงบทั้งหลาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ที่อาจนำไปสู่ความไม่สะดวก หรือแม้แต่อันตรายที่เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนในรูปแบบต่างๆ นั้น เราได้คลี่คลายไปจนเกือบหมดสิ้นแล้ว คงเหลือการชุมนุมบริเวณรอบๆ ทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น ที่ยังเป็นจุดที่จำเป็นจะต้องคลี่คลายต่อไป

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงคืนที่ผ่านมา ผมทราบดีครับว่ามีพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ซึ่งมีความวิตกกังวลว่า การที่จะคลี่คลายสถานการณ์ในจุดสุดท้ายที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลนั้น จะนำไปสู่ความรุนแรง ความสูญเสียหรือไม่ แต่ผมได้ให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ว่าผมและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ ข้าราชการฝ่ายต่างๆ นั้น ไม่เคยมองพี่น้องประชาชนคนใดเป็นศัตรู และจะทำทุกวิถีทางที่จะให้การคลี่คลายสถานการณ์นั้นไม่เกิดความสูญเสีย

ดังนั้น การทำงานในช่วงคืนที่ผ่านมา ต่อเนื่องมาจนถึงเช้านี้ ก็เป็นการดำเนินการเพื่อที่จะให้การชุมนุมนั้นสามารถยุติลงได้ มีการเคลื่อนกำลังของตำรวจ ทหาร ที่เข้าไปในบริเวณดังกล่าวมากขึ้นๆ และพยายามที่จะชักชวน เชิญชวน ให้พี่น้องประชาชนที่ชุมนุม โดยมีเจตนาที่เป็นการเรียกร้องที่บริสุทธิ์ ไม่กระทำการที่ผิดกฎหมายนั้นกลับบ้าน

ในที่สุดครับ ในช่วงเช้าต่อเนื่องถึงช่วงสายที่ผ่านมา การดำเนินการดังกล่าวก็ส่งผลให้มีการยุติการชุมนุมได้ โดยมีการอำนวยความสะดวก ส่งพี่น้องประชาชนที่ชุมนุมจำนวนหนึ่งกลับภูมิลำเนาไปเป็นที่เรียบร้อย ดังนั้น ขณะนี้ถือได้ว่าสถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่ไม่ปกติในแง่ของปัญหาการปิดถนน หรือการก่อเหตุร้ายต่างๆ ก็ได้คลี่คลายไปค่อนข้างที่จะเสร็จสิ้นแล้ว ตรงนี้ก็ต้องขอขอบคุณทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่ ทั้งพี่น้องประชาชนโดยทั่วไป ที่ทำให้เราสามารถเดินมาถึงจุดนี้ได้

อย่างไรก็ตามครับ ภารกิจของการดำเนินการตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้นยังไม่เสร็จสิ้น มีภารกิจที่จะต้องดำเนินการต่อ และผมย้ำว่า รัฐบาลจะไม่ตั้งอยู่บนความประมาท เพราะว่าเราจำเป็นที่จะต้องเฝ้าระวังในเรื่องเหตุการณ์ต่างๆ ต่อไป

ดังนั้น อยากจะกราบเรียนพี่น้องประชาชนว่า กำลังพลทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ยังคงจะต้องปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้มีการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป พี่น้องไม่ต้องตื่นตระหนกครับ ภารกิจหลักขณะนี้ก็คือการเฝ้าระวัง เพราะว่าอย่างในช่วงคืนที่ผ่านมาก็ยังมีเหตุความไม่สงบประปราย ซึ่งเราจำเป็นจะต้องดูแลให้เกิดความมั่นใจว่า กรณีเช่นว่านั้นไม่เกิดขึ้นอีก เพราะฉะนั้นแนวทางที่ผมได้กราบเรียนพี่น้องเมื่อคืนก่อน ก็คือการมีกำลังพลในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่จะไปเฝ้าระวังดูแลรักษาสถานที่สำคัญ สาธารณูปโภค ตลอดจนการมีหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ก็ยังเป็นแนวทางที่เราจะทำต่อเนื่องต่อไป

สำหรับในแง่ของการเคลื่อนไหว หรือการชุมนุมในทางการเมือง ก็ขอเรียนว่า หลังจากที่มีการยุติการชุมนุมที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลแล้ว ก็ยังมีการชุมนุมอยู่ในบางจุด เปลี่ยนแปลงไปก็คือว่า ผู้ชุมนุมนั้นจะไม่ได้สวมเสื้อสีแดง แต่ว่าจำนวนบุคคลก็ดี ซึ่งบางทีก็เริ่มต้นหลักสิบ และบางครั้งอาจจะไปถึงหลักร้อย หรือตัวบุคคลก็ดี ซึ่งบางส่วนก็คือผู้ที่เคยชุมนุมอยู่ในบริเวณทำเนียบรัฐบาล ก็ยังมีให้เห็นในช่วงบ่ายที่ผ่านมา

ตรงนี้ขอเรียนพี่น้องประชาชนครับว่า รัฐบาลเข้าใจ เข้าใจว่าเวลามีเหตุการณ์เช่นนี้ เวลามีการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ และการคลี่คลายเหตุการณ์ต่างๆ ความรู้สึก อารมณ์ ของผู้ที่เข้าชุมนุมนั้น ย่อมจะมีตกค้างบ้างเป็นปกติธรรมดา สิ่งที่รัฐบาลพยายามจะทำในช่วงบ่ายที่ผ่านมา และบัดนี้ก็ได้บรรลุความสำเร็จไปแล้ว ก็คือการพยายามเข้าใจความรู้สึกตรงนี้ และหาวิธีการในการที่จะพูดคุยเพื่อที่จะให้การชุมนุมเหล่านั้นได้ยุติไป ซึ่งจะเป็นแนวทางที่เราใช้ในการดำเนินการต่อไป เพื่อที่จะผ่อนคลายความตึงเครียด อารมณ์ ความรู้สึก ซึ่งแต่ละฝ่ายอาจจะยังคงมีอยู่

อย่างไรก็ตามครับ ผมมีความจำเป็นที่จะต้องเรียนเตือนและชี้แจงว่า การชุมนุมซึ่งยังเกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ซึ่งแม้ว่าจะจบลงแล้ว ได้มีความพยายามที่จะหยิบยกเงื่อนไขบางประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือ มีการกล่าวหาในเรื่องของการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐไปกระทำการรุนแรง หรือแม้กระทั่งกล่าวหาว่าฆ่าประชาชน เพื่อเป็นเงื่อนไขในการที่จะให้พี่น้องประชาชนมาชุมนุม ผมขอกราบเรียนยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า ปฏิบัติการที่ผ่านมานั้น ไม่มีปฏิบัติการในส่วนไหนของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่นำไปสู่การสูญเสียชีวิตของพี่น้องประชาชน

ผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่ผมได้เล่าให้พี่น้องฟังก็คือ เป็นเรื่องของการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุม กับประชาชนในชุมชน ซึ่งในที่สุดก็ถูกผู้ชุมนุมทำร้ายและเสียชีวิตไป 2 ท่าน ดังนั้น ขอให้มั่นใจเพราะว่าปฏิบัติการทั้งหลายได้ดำเนินการอย่างโปร่งใส ไม่ได้ทำในลักษณะที่สามารถไปหลบซ่อนได้ สื่อสารมวลชนก็อยู่ในเหตุการณ์ ที่สำคัญก็คือว่า การคลี่คลายสถานการณ์ทั้งหลายก็ได้ทำในช่วงระยะเวลาค่อนข้างที่จะ ส่วนใหญ่ก็คือในระยะเวลากลางวัน อาจจะมีช่วงเช้ามืด หรือเช้าตรู่บ้าง ในคืนวันแรกเท่านั้นเอง และผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้มีความรู้ความชำนาญทางด้านสาธารณสุข จะได้ชี้แจงต่อไปว่าความพยายามที่จะกล่าวหาการปฏิบัติงานของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่นั้น ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงอย่างไร ก็ขอความกรุณาพี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารซึ่งจะได้มีการนำเสนอต่อไป เพื่อที่จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของการบิดเบือนข้อมูล และหลงเชื่อ แล้วทำให้ความร่วมแรงร่วมใจที่เราได้ทำร่วมกันมา เพื่อให้เกิดความสงบในบ้านเมืองนั้น จะต้องได้รับผลกระทบไปอีก

พี่น้องประชาชนที่เคารพครับ สำหรับการดำเนินการของรัฐบาลและการตัดสินใจของรัฐบาลในวันนี้ในช่วงต่อไป ประการแรก รัฐบาลได้มีมติคณะรัฐมนตรีที่จะเพิ่มวันหยุดราชการอีก 2 วัน คือในช่วงวันพฤหัสบดีที่ 16 และวันศุกร์ที่ 17 เมษายน เหตุผลสำคัญก็คือว่า ประการแรก จากสภาพพื้นที่ที่มีการชุมนุม หรือมีการเคลื่อนไหวในช่วงที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ที่จะต้องดูแลในเรื่องของความสงบเรียบร้อยนั้น ยังจำเป็นที่จะต้องเข้าไปปฏิบัติการ พี่น้องจะเห็นครับว่ายังมีร่องรอยของสิ่งที่เป็นทั้งอาวุธ วัตถุอันตราย หรือซากของความเสียหายต่างๆ เช่น รถประจำทางที่ถูกเผา ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งที่จะทำให้พื้นที่ดังกล่าวนั้นกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่กระบวนการของการฟื้นฟู ไม่ว่าจะเป็นสภาพพื้นที่เอง ไม่ว่าจะเป็นการเยียวยาต่างๆ ก็จะต้องมีการดำเนินการต่อไป

ที่สำคัญครับ ผมเองก็รู้สึกเกรงใจพี่น้องประชาชนว่า เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น ก็มาเกิดขึ้นในช่วงปีใหม่ของคนไทยของเรา ซึ่งเป็นช่วงเวลาซึ่งน่าจะได้มีการพักผ่อน อยู่กับครอบครัว ดังนั้นการหยุด 2 วันเพิ่มเติมนี้ ก็เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น และหวังว่าจะเป็นโอกาสที่พี่น้องประชาชนจะได้ผ่อนคลาย หลังจากผ่านเหตุการณ์ซึ่งหลายคนผมทราบว่ามีความรู้สึกตึงเครียดตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ดังนั้นการหยุดราชการตรงนี้ผมคิดว่าจะช่วยให้เป้าหมายเหล่านี้ และเป้าหมายของรัฐบาลเหล่านี้ สามารถที่จะบรรลุได้

อย่างไรก็ตามครับ ด้วยความกังวลว่าการหยุดราชการอาจจะมีผลกระทบในบางส่วน รัฐบาลก็ได้กำหนดแนวทางครับ มอบหมายให้ทุกส่วนราชการที่มีหน่วยบริการประชาชนนั้น สามารถที่จะมีจุดติดต่อเชื่อมโยงในกรณีที่พี่น้องประชาชนจำเป็นที่จะต้องได้รับบริการพื้นฐานบางอย่าง ซึ่งจะได้มีการอธิบายรายละเอียดต่อไป และมีนโยบายสำคัญของรัฐบาลบางเรื่องซึ่งขณะนี้ผมกำลังเร่งประสานกับกระทรวงแรงงาน ที่เคยกำหนดที่จะมีการแจกเช็กช่วยชาติในวันที่ 16 นั้น ก็ต้องการที่จะให้เดินหน้าให้ได้ แม้ว่าจะเป็นวันหยุดราชการ รายละเอียดก็คงจะเรียนให้พี่น้องประชาชนทราบต่อไป

นอกจากนั้นครับ แม้ว่าเหตุการณ์ในขณะนี้จะได้คลี่คลายไประดับหนึ่ง ความจำเป็นในการที่จะต้องคงการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้นยังมีอยู่ครับ ภารกิจส่วนหนึ่งที่ผมได้กราบเรียนแล้ว ยังไม่เสร็จสิ้น ที่สำคัญก็คือว่า เราคงจะต้องคงอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทั้งหลายตามกฎหมายพิเศษนี้ เพื่อที่จะให้การเร่งนำทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนสู่ภาวะปกติ เป็นไปได้สะดวก รวดเร็ว มากยิ่งขึ้น ดังนั้น ขอย้ำว่า ในขณะนี้แม้เหตุการณ์จะได้คลี่คลายไปมากแล้ว แต่ว่าเรายังอยู่ในภาวะที่มีการประกาศการใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่

สำหรับการดำเนินการที่เกี่ยวข้องในทางกฎหมาย และทางการเมือง ผมอยากจะเรียนว่า ในส่วนของกฎหมายนั้นจะต้องมีการดำเนินคดีกับแกนนำที่ได้มีส่วนในการนำความไม่สงบในการยุยงให้มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งผมขอเรียนว่าแม้ว่าจะเป็นในช่วงที่อยู่ในการประกาศใช้กฎหมายพิเศษ แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว การดำเนินคดีทั้งหมดนั้น แน่นอนที่สุดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติในที่สุด และขอให้ความมั่นใจว่า กระบวนการยุติธรรมของเรานั้นจะให้ความเป็นธรรมกับทุกๆ ฝ่าย ไม่ได้มีการคิดว่าจะต้องเป็นการใช้กฎหมาย โดยมีการตั้งธงว่าคนนั้นผิด คนนี้ไม่ผิด อันนี้ขอให้ความมั่นใจ เพราะอันนี้ถือเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลตั้งแต่ต้น ว่าการสร้างความสมานฉันท์นั้น จะต้องเกิดขึ้นผ่านกระบวนการของการสร้างความเป็นธรรม หรือความยุติธรรม

ผมอยากจะเรียนพี่น้องประชาชนครับว่า รัฐบาลก็จำเป็นต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน เนื่องจากว่ามีบุคคลซึ่งขณะนี้มีการออกหมายจับที่หลบหนีไป ใครที่ทราบเบาะแส ก็ขอความกรุณาให้ได้แจ้งทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาด้วย เพื่อประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย

ผมเรียนว่าสิ่งที่รัฐบาลได้ตัดสินใจในวิธีการต่างๆ นั้น แน่นอนครับ มีความคิดเห็นที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ผมและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ปฏิบัติได้ยึดถือก็คือ หลักของการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หลักของความสูญเสียที่น้อยที่สุด และภายใต้กรอบตรงนี้ก็คือ ทำให้เกิดประสิทธิภาพ รวดเร็ว เท่าที่เราจะทำได้

สำหรับการทำงานทางการเมือง ผมอยากจะย้ำอย่างนี้ครับ แม้ว่าเหตุการณ์จะได้คลี่คลายไปในลักษณะนี้ ผมไม่ได้ถือเลยว่า สิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ของฝ่ายใด สิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าจะเป็นชัยชนะ ก็คือชัยชนะของสังคมซึ่งสามารถกลับเข้าสู่ความสงบได้ ไม่ได้เกี่ยวกับฝักใฝ่ หรือฝ่ายทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ตรงนี้เป็นสิ่งที่ผมอยากจะย้ำ

“และผมขอเรียนครับ สำหรับผู้ชุมนุมซึ่งได้ก่อเหตุต่างๆ การกระทำต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับทางตัวผม รัฐบาล หรือเจ้าหน้าที่ หรือสิ่งที่เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องดำเนินการไปในการปฏิบัติการ ผมอยากจะเรียนว่า เราอย่าถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เราอย่าถือเป็นเรื่องที่จะต้องเก็บมาเป็นอารมณ์โกรธเคืองกันครับ ความขัดแย้งที่ผ่านมาอาจจะเกิดจากคนกลุ่มเล็กๆ ที่สร้างความเข้าใจผิด และทำให้เราต้องมาเผชิญหน้ากัน วันนี้ผมไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องของชัยชนะของฝ่ายใด ผมมองเพียงแต่ว่า ถ้าเราร่วมกันทำให้สังคมสงบลง เรามาพูดคุยกันได้ง่ายขึ้นครับ ปัญหาทางการเมืองก็มาคุยกันในเวทีทางการเมือง การเมืองก็มีทั้งระบบรัฐสภา มีทั้งการเมืองภาคประชาชน ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องของการประท้วง หรือการเผชิญหน้ากันบนท้องถนน และที่สำคัญก็คือต้องไม่มีความรุนแรงเข้ามาเกี่ยวข้อง”

ผมพร้อมครับ ข้อเรียกร้องที่เกี่ยวข้องกับประชาธิปไตย การปรับปรุงกฎหมายต่างๆ ผมเปิดใจกว้างทั้งสิ้น ขอให้ทุกฝ่ายกลับเข้าสู่ความสงบอย่างแท้จริงโดยเร็ว ผมจะเชิญทุกฝ่ายเข้ามาปรึกษาหารือกันอีกครั้ง เพื่อสร้างความเป็นธรรม หาทางออกทางการเมืองที่เหมาะสมให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนทุกคน

ช่วงจากนี้ไป เราก็จะปฏิบัติภารกิจที่เหลืออยู่ ผมก็หวังว่าเหตุการณ์ก็จะกลับเข้าสู่ความปกติเต็ม 100 โดยเร็ว และพี่น้องประชาชนก็จะอยู่ในลักษณะที่มีโอกาสได้พักผ่อน หรือได้รับการผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น หากมีอะไรในช่วงนี้ ผมและรัฐบาลก็ยังเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ และพร้อมที่จะรายงานความคืบหน้า ความก้าวหน้าต่างๆ ให้พี่น้องประชาชน

สุดท้ายนะครับ ผมขอขอบคุณทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง หลายฝ่ายทุ่มเท เหน็ดเหนื่อย พี่น้องประชาชนเองก็ต้องมาเครียดกับช่วงเวลาที่ควรจะได้พักผ่อน ธุรกิจ เอกชนเองคงได้รับความเสียหายไปพอสมควรจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ถึงเวลาครับที่เรามาช่วยกันฟื้นฟูบ้านเมืองของเรา บนพื้นฐานของความสงบ ความเคารพกฎหมาย และผมยืนยัน เหมือนกับที่ผมยืนยันตั้งแต่วันแรกที่มาดำรงตำแหน่งตรงนี้ ว่า ผมมาอยู่ตรงนี้เพื่อทำงานให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน บนความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน และจะทุ่มเทเต็มความสามารถด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ให้เราผ่านพ้นวิกฤตและความยากลำบากในช่วงนี้ให้ได้ในที่สุดครับ ขอขอบพระคุณอีกครั้งหนึ่ง”

กำลังโหลดความคิดเห็น