รวมการฯ
ขออนุญาตเรียนสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชน หลังจากที่ผมได้มีโอกาสพบปะกับพี่น้องประชาชนผ่านสื่อ เมื่อวานซืน ตลอดระยะเวลาของเมื่อวานนี้ก็ยังได้ทำหน้าที่ในติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด รวมทั้งการดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อที่จะให้การฟื้นฟู สภาพพื้นที่ก็ดี และการดำเนินการเพื่อให้เกิดความมั่นใจในเรื่องของความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยก็ดี เป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุด ขณะเดียวกัน ก็ยังคงมีเรื่องของข่าวสารต่างๆ รวมไปถึงความเคลื่อนไหวต่างๆ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องคลี่คลายไปอยู่เป็นระยะๆ
เรียนว่าในภาพรวมนั้น ในพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชนก็คงจะได้เห็นภาพพี่น้องประชาชนจำนวนหนึ่งซึ่งได้ไปฉลองเทศกาลสงกรานต์ เล่นน้ำ หรือทำอย่างอื่นกัน ซึ่งก็เป็นภาพที่ผมคิดว่าทำให้พวกเราทุกคนมีความสุข มีความพึงพอใจ และขณะเดียวกัน การหยุดราชการในช่วงวันนี้และวันพรุ่งนี้ ก็จะมีส่วนสำคัญในการที่จะทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ในด้านต่างๆ เป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ผมขอเรียนว่า ในส่วนของความเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล หรือในต่างจังหวัด ขณะนี้เจ้าหน้าที่และรัฐบาลได้ใช้วิธีการในการที่จะพูดคุย เพื่อให้เกิดความเข้าใจว่าภาวะการณ์ที่เราใช้ประกาศภาวะฉุกเฉินในขณะนี้ เป็นภาวะการณ์ชั่วคราว และในที่สุดแล้วการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ก็ย่อมจะต้องกลับมาใช้ได้อย่างแน่นอน เพียงแต่ว่ากิจกรรมใดๆ ซึ่งเป็นลักษณะของการยั่วยุให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎหมาย อันนี้จะต้องหยุด และถ้าเราสามารถที่จะหยุดสิ่งเหล่านี้ได้ เกิดความสงบเรียบร้อย ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แล้วกระบวนการในการพูดคุยเพื่อหาทางออกในเรื่องของความปรองดองสมานฉันท์ ก็จะทำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งก็เป็นเจตนาของรัฐบาลอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าช่วงนี้จะเป็นวันหยุด วันนี้ผมก็ได้ถือโอกาสเชิญท่านทูตของทุกประเทศ เพื่อที่จะมาให้ท่านได้รับทราบสถานการณ์ต่างๆ รวมทั้งจุดยืน นโยบายของรัฐบาล ตลอดจนมีการพูดคุยซักถามในสิ่งที่ยังเป็นความสงสัยของบรรดาทูตานุทูตของประเทศต่างๆ ซึ่งได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้ผมก็จะนัดให้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อที่จะพิจารณาในเรื่องของการดำเนินการของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการให้เพื่อนคณะรัฐมนตรีได้รับทราบในรายละเอียดถึงเหตุการณ์และการตัดสินใจของผมและคณะรัฐมนตรีที่มีการประชุมโดยวิธีการตามพระราชกฤษฎีกา แต่ไม่ใช่พร้อมกันทั้งคณะทั้งหมด
รวมไปถึงการตกลงในแนวทางของการที่จะทำงานกันต่อไป เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้ก็จะมีการประชุมเรื่องนี้ ค่อนข้างจะเป็นการเฉพาะ อาจจะมีวาระอื่นๆ ที่มีความจำเป็น เช่น การพิจารณาเกี่ยวกับการประกาศพระราชกำหนดใน 3 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งได้มีการเสนอในเรื่องของการที่จะต่ออายุหรือไม่ เพราะว่าจะหมดอายุในวันที่ 19 เมษายน
การประชุมพรุ่งนี้จะครอบคลุมในทุกเรื่อง และจะเรียนให้ท่านพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนทราบต่อไป
นอกจากนั้น วันนี้ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับท่านประธานฯ ชัย และได้เรียนว่า หลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ ผมจะทำหนังสือเป็นทางการเพื่อที่จะขอให้ท่านประธานได้นัดประชุมสภาฯ เป็นการประชุมร่วม เพื่อให้รัฐบาลได้เปิดโอกาสรับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกทั้งสองสภาในเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นก็คาดว่าในวันพุธและวันพฤหัสฯ หน้า ถ้าจำเป็นจะต้องใช้เวลาถึง 2 วัน ก็จะเปิดโอกาสให้มีการอภิปรายทั่วไปรับฟังความคิดเห็น ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นสิทธิของนายกฯ และคณะรัฐมนตรี ที่จะขอทางสภาได้ อันนี้ก็เป็นเรื่องความคืบหน้าหลักๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในขณะนี้ และวันพรุ่งนี้ก็จะเรียนให้ทราบอีกครั้งหนึ่งหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรี
ถาม-ตอบ
ถาม-
ก็จะมีสอบถามทั้งหมด ว่า ในเรื่องของมาตรการที่เราใช้ที่พัทยา ที่กรุงเทพฯ มันเป็นอย่างไร เหตุการณ์ที่ลุกลามจะให้ควบคุมกลับมาอยู่ในภาวะอย่างที่เห็นในปัจจุบัน จะต้องทำอะไรเพิ่มเติมบ้าง ก็เป็นการแลกเปลี่ยนในแง่ของความคิดเห็นและการแสดงความห่วงใยต่างๆ
ถาม- บรรดาทูตได้สอบไหมหลังจากที่กลุ่มเสื้อแดงมีข่าวออกมาว่ามีการเสียชีวิต
ที่มีถามก็จะเจาะจงไปที่กรณีของ 2 ศพที่พบในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งที่ผมตรวจสอบข้อเท็จจริงมาก็คือว่า บุคคลทั้งสองยังมีชีวิตอยู่ในคืนวันที่ 13 แต่ผมกำลังจะให้เขายืนยันมาอีกครั้งหนึ่งในรายงานต่างๆ ซึ่งถ้าเขามีชีวิตอยู่ในคืนวันที่ 13 ผมคิดว่าทุกคนก็คงจะจำได้ว่าตั้งแต่ช่วงดึกของวันที่ 13 ไปจนถึงเช้า มันไม่ได้มีการดำเนินการอะไรเพิ่มเติม นอกจากขยับกำลังต่างๆ เข้ามา และพอรุ่งเช้าก็มีการยุติการชุมนุม มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่บุคคลทั้งสองจะมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ถาม- ไม่ทราบว่าจะยกเลิก พ.ร.ก.เมื่อไร
จะประเมินดูว่าขณะนี้มีการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ในเรื่องใดบ้าง หมดความจำเป็นเมื่อไร
ถาม- ท่านนายกฯ เป็นห่วงไหมว่าหลังยกเลิก พ.ร.ก.แล้ว เสื้อแดงจะกลับมาชุมนุมและทำให้เกิดความวุ่นวายอีก
ผมย้ำนะครับว่าหลังจากที่ยกเลิก พ.ร.ก.แล้ว การชุมนุมทางการเมืองทำได้ครับ และการแสดงความคิดเห็นโดยสงบ ปราศจากอาวุธทำได้ครับ แต่ว่าเรื่องการไปยุยงปลุกปลั่นให้ใครทำผิดกฎหมายนั้นทำไม่ได้ และแนวทางนี้ก็เป็นแนวทางที่เราใช้อยู่ในขณะนี้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ท่านจะเห็นก็คือ คนที่มาชุมนุมอยู่หลังจากที่มีการประกาศ พ.ร.ก.แล้ว ที่จริงก็ต้องถือว่าทำผิดกฎหาายทุกคนนะครับ แต่รัฐบาลก็ถือว่าคนส่วนใหญ่คงไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างความวุ่นวายขึ้น ก็จะเจาะจงไปเฉพาะบุคคลที่ได้แสดงออกอย่างชัดเจน ในการยุยง ปลุกปั่น ให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎหมาย ก็จะขีดวงเงินตรงนั้น พี่น้องประชาชนจะได้สบายใจว่าถ้าท่านมาด้วยความสุจริตใจ ท่านมาแล้วไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ก่อนหน้าที่จะมี พ.ร.ก.ท่านไม่ต้องห่วง
ถาม- กรณีทางการไทยเพิกถอนพาสปอร์ต
ไม่มีการสอบถามเลยครับ
ถาม- ท่านให้ความมั่นใจกับท่านทูตเกี่ยวกับอะไรบ้างในเรื่องที่สถานการณ์จะกลับมาเข้าสู่ภาวะปกติ
ในส่วนของทางเศรษฐกิจยังไม่ได้พูดกันมากนัก อาจจะมีการพูดถึงการท่องเที่ยวอยู่บ้าง ซึ่งผมได้เรียนให้ทรรบว่า เราได้เดินหน้ามามากในการที่นำความสงบเรียบร้อยกลับคืนมา แต่ก็อธิบายให้ฟังว่าความตั้งใจต่อไปที่จะทำให้ความสงบเรียบร้อยนี้ดำรงอยู่ ไม่ว่าจะมี พ.ร.ก.หรือไม่ก็ตาม มันก็มีงานทางการเมือง งานทางด้านกฎหมาย ที่เราต้องทำต่อไป ก็ได้อธิบายคร่าวๆ ให้ทราบว่าเป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่จะทำเช่นนั้น
ถาม- ดูท่าทีของบรรดาเอกอัครราชทูตแล้วเขาพอใจ หรือเขายังเป็นห่วงต่อสถานการณ์บ้านเรา
ผมคิดว่าความห่วงใยหรือความรู้สึกของเขาคงไม่ต่างจากคนไทยหรอกครับ คนไทยก็คงมีความรู้สึกว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมามันก็คลี่คลายไป แต่ถามว่าหลายคนมีความกังวลใจอยู่ในใจไหม ผมว่าเราก็คิดไม่ต่างกัน ท่านทูตก็อยู่เมืองไทย คงรู้สึกไม่ต่างกันหรอกครับ
ถาม- ทางทูตได้สะท้อนแนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลอย่างไรบ้าง
จริงๆ แล้วมีคำถาม คือย้อนกลับไปที่พัทยาเล็กน้อย ว่ามาตรการที่ดูแลในเรื่องการชุมนุมอาจจะดูเข้มน้อยไป ซึ่งก็เป็นมุมมองที่เราก็เข้าใจ และประเด็นในเรื่องของการดูแลการชุมนุมในที่สาธารณะ และโดยเฉพาะเวลาที่มีบุคคลสำคัญหรือมีการประชุมระดับระหว่างประเทศ เป็นเรื่องที่คงจะต้องมาทบทวนกัน
ถาม- รัฐบาลจะมีแนวทางในการสร้างสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นกับคนในชาติได้อย่างไร เพราะถือว่าเป็นปัจจัยหนึ่งในการที่รัฐบาลจะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ได้
อย่างที่ผมได้เรียนแล้วนะครับ ว่า หลังจากเหตุการณ์สงบลง ผมพูดชัดเจนเลยว่า ผมไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของการมีชัยชนะของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ในทางตรงกันข้าม ผมยังเชิญชวนทุกคนว่า ทำบ้านเมืองให้สงบเร็วที่สุด แล้วมาพูดคุยกัน สิ่งที่เรียกร้อง ที่เป็นเหตุเป็นผล สิ่งที่ยังอยู่ในใจ มาพูดคุยกันได้หมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความผิดทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นความคลางแคลงใจว่าการดำเนินคดีต่างๆ จะเป็น 2 มาตรฐานหรือไม่ ผมยินดีพูดคุยในเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด เพราะผมก็ถือว่าเป็นความตั้งใจของผมอยู่แล้วในเรื่องของการแก้ไขปัญหาทางการเมือง และการให้เกิดความมั่นใจว่ามีความยุติธรรม
ถาม- ท่านนายกฯ ห่วงเรื่องที่เขาจะลงไปใต้ดิน แทนที่จะมีการปฏิบัติที่เราเห็นอยู่
ผมไม่ต้องการให้คนไทยจะใต้ดิน หรือบนใต้ ทำร้ายประเทศ เพราะฉะนั้นผมยืนยันอีกครั้งหนึ่งครับ ผมเชื่อว่าคนที่มาชุมนุมส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมด เขาไม่ได้คิดร้าย และผมก็ยืนยันว่า ผมเชิญชวนเขาเข้ามาแลกเปลี่ยน พูดคุยว่า จะแก้ปัญหาทางการเมืองที่เห็นไม่ตรงกันอย่างไร แต่ส่วนคนที่ทำผิดกฎหมาย หรือมีความตั้งใจที่จะใช้วิธีที่ผิดกฎหมาย จะอยู่บนดินหรือใต้ดิน ก็ไม่เป็นประโยชน์กับใครทั้งสิ้น และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดูแล ซึ่งเมื่อสถานการณ์หรือเงื่อนไขของวิธีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนไป รัฐบาลก็ต้องปรับวิธีการในการแก้ไขปัญหาด้วย
ถาม- แล้วมันจะรุนแรงขึ้น และดูแลยากขึ้นหรือเปล่า
ก็เป็นความรับผิดชอบของเราที่จะต้องดูแลให้ได้
ถาม- ถึงขนาดมี ส.ส.แพร่ ของพรรคเพื่อไทย ระบุว่าถ้านายกฯ ลงพื้นที่ที่มีคนเสื้อแดงอยู่ อาจถูกยิง ความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรี..
ผมก็ไม่ทราบว่าเจตนาท่านคืออะไรนะครับ แต่ผมก็อยากจะชวนในฐานะนักการเมืองด้วยกัน ว่าเรามาช่วยสร้างวัฒนธรรมความไม่รุนแรงในเรื่องของการแข่งขันต่อสู้ทางการเมืองจะดีกว่า
ถาม- ความสุภาพอ่อนโยนของท่านนายกฯ จะใช้ได้ไหมกับสถานการณ์ตอนนี้
ผมก็นำความสงบเรียบร้อยกลับคืนมามากนะครับ โดยไม่ได้ทิ้งเรื่องของความสุภาพครับ เพราะผมคิดว่าตรงกันข้ามครับ ถ้าเรายิ่งพยายามใช้ความกร้าวเข้าหากัน ความสงบจะไม่เกิดขึ้นครับ
ถาม- แต่มันปฏิเสธไม่ได้ว่าความรุนแรงจะยังคงอยู่ ทีนี้ท่านจะให้ความมั่นใจได้อย่างไร
ก็เป็นเรื่องที่เราต้องพยายามคลี่คลายพยายามแก้ไขที่ต้นเหตุจากนี้ไป ที่ผ่านมาถือว่าเราต้องแก้เหตุการณ์เฉพาะหน้าให้ได้ก่อน ตอนนี้ก็ต้องหมุนกลับไปที่ต้นเหตุ ผมเรียนตามตรงว่า มันเป็นความตั้งใจของผมอยู่แล้วตั้งแต่แรก เพียงแต่ผมนึกว่าถ้าเราทำให้เรื่องการประชุมอาเซียนผ่านพ้นไปด้วยดี เราก็สามารถที่จะกลับมาดูในเรื่องนี้ได้ เพราะเรื่องเศรษฐกิจมันก็เดินไปพอสมควร เพราะฉะนั้นมันก็เป็นความตั้งใจอยู่แล้วว่าจังหวะเวลานี้น่าจะต้องกลับมาดูเรื่องนี้กัน เพราะผมทราบว่าความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล หรือต่อสภาพการเมืองในปัจจุบันจำนวนหนึ่ง เป็นความรู้สึกที่เราควรจะต้องรับฟังและตอบสนอง
ถาม- จากนี้ไปต้องจัดทัพด้านความมั่นคงใหม่ไหม
ผมคิดว่าให้เรื่องเรียบร้อยก่อนนะครับ แล้วจะมาทบทวนกันอีกทีหนึ่ง
ถาม- ความคืบหน้าในการตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ภายหลังจากที่มีการถอนพาสปอร์ต
อย่างที่เรียนครับ ได้แจ้งหน่วยงานสากลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว
ถาม- วันนี้ที่มีข่าวออกมาว่าไปที่แอฟริกา ไม่ทราบว่า
ยังเลยครับ วันนี้รู้สึกมีข่าวเยอะครับ ตั้งแต่นิการากัว ไปโน่นไปนี่
ถาม- นอกเหนือจากการที่ให้ตำรวจสากลตามตัวแล้ว ท่านนายกฯ ได้มีการติดตามตัวในแนวทางอื่นบ้างหรือเปล่า
ผมเรียนว่าขณะนี้กระทรวงก็ได้พูดคุยกับทางต่างประเทศและทูตานุทูตชัดเจนว่า เรามีความเป็นห่วงเวลาที่ท่านอดีตนายกฯ ไปเคลื่อนไหวในทางการเมือง เพราะว่าอันนี้ก็เป็นสิ่งซึ่งมิตรประเทศก็จะต้องช่วยกันดูแล
ถาม- การถอนพาสปอร์ตของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีประโยชน์อะไรกับการติดตามตัวได้มากน้อยแค่ไหน
ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขว่ามีเอกสารเดินทางที่สามารถใช้ได้มากน้อยแค่ไหน
ถาม- แต่ละประเทศรับปากใช่ไหมว่าจะดูแลให้ไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปเคลื่อนไหวในประเทศของเขา
ผมเชื่อว่าทุกประเทศที่เป็นมิตรประเทศ เราปฏิบัติในหลักการนี้อยู่แล้วเป็นการทั่วไป คงไม่ยอมให้ใครมาใช้พื้นที่หรือสถานที่ของตัวเอง ไปก่อปัญหาความมั่นคงให้กับประเทศอื่น
ถาม- หมายความว่ารัฐบาลไทยจะนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับเข้าประเทศมาดำเนินคดี
ทุกอย่างมันจะต้องเป็นไปตามข้อกฎหมายและข้อตกลงระหว่างประเทศ ผมไม่สามารถบอกได้ เพราะไม่ทราบว่าจะไปพบตัว หรือไปดำเนินการได้อยู่ที่ประเทศไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่าในประเทศนั้นกระบวนการในเรื่องการส่งตัวหรือไม่ จะเป็นอย่างไร จะพูดในลักษณะทั่วไปไม่ได้
ถาม- คิดว่าถ้านำกลับมาได้จะจบปัญหาได้หรือเปล่า
ผมไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องว่าจะจบปัญหาหรือไม่จบปัญหา ในส่วนนี้เป็นเพียงเรื่องของการปฏิบัติตามกฎหมาย การจบปัญหาที่แท้จริงถาวรก็คือ ปัญหาในการที่จะต้องหาทางออกทางการเมืองร่วมกันมากกว่า
ถาม- หลังจากที่รัฐบาลไทยต้องเลื่อนการประชุมอาเซียน +3/+6 หลังจากสถานการณ์ตรงนี้จะมีความเป็นไปได้ในการจัดอีกครั้งหนึ่งอย่างไรบ้าง
กำลังปรึกษาอยู่ครับ คิดว่าภายใน 2 วันจะได้ข้อยุติ
ถาม- ได้มีการประสานไปยังประเทศต่างๆ แล้วหรือยัง
ทางกระทรวงได้ดำเนินการอยู่ และเลขาธิการอาเซียนจะพบผมภายใน 1-2 วันนี้
ถาม- คิดว่าเขามีความเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ที่จริงแล้วประเทศทั้ง 16 ประเทศก็สัมผัสกับเหตุการณ์ด้วยตัวเองอยู่แล้ว และก็ติดตามสถานการณ์ วันนี้ก็มีทูตและผู้แทนของประเทศเหล่านี้มาร่วมฟังอีกครั้งหนึ่งด้วย
ถาม- ท่านนายกฯ มั่นใจว่าการประชุมครั้งต่อไปจะไม่ล้มเหลวหรือเปล่า
เราคงปล่อยให้ล้มเหลวไม่ได้นะครับ เพราะฉะนั้นผมก็จะต้องทบทวนและแก้ไขจุดที่เป็นข้อบกพร่องทั้งหลายให้ได้
ถาม- กรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีต่างประเทศให้พาสปอร์ตกับ พ.ต.ท.ทักษิณ มีเขมร มีดูไบ แล้วก็..
ตรวจสอบอยู่ครับ ยังไม่มีที่ไหนยืนยัน
ขออนุญาตเรียนสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชน หลังจากที่ผมได้มีโอกาสพบปะกับพี่น้องประชาชนผ่านสื่อ เมื่อวานซืน ตลอดระยะเวลาของเมื่อวานนี้ก็ยังได้ทำหน้าที่ในติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด รวมทั้งการดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อที่จะให้การฟื้นฟู สภาพพื้นที่ก็ดี และการดำเนินการเพื่อให้เกิดความมั่นใจในเรื่องของความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยก็ดี เป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุด ขณะเดียวกัน ก็ยังคงมีเรื่องของข่าวสารต่างๆ รวมไปถึงความเคลื่อนไหวต่างๆ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องคลี่คลายไปอยู่เป็นระยะๆ
เรียนว่าในภาพรวมนั้น ในพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชนก็คงจะได้เห็นภาพพี่น้องประชาชนจำนวนหนึ่งซึ่งได้ไปฉลองเทศกาลสงกรานต์ เล่นน้ำ หรือทำอย่างอื่นกัน ซึ่งก็เป็นภาพที่ผมคิดว่าทำให้พวกเราทุกคนมีความสุข มีความพึงพอใจ และขณะเดียวกัน การหยุดราชการในช่วงวันนี้และวันพรุ่งนี้ ก็จะมีส่วนสำคัญในการที่จะทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ในด้านต่างๆ เป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ผมขอเรียนว่า ในส่วนของความเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล หรือในต่างจังหวัด ขณะนี้เจ้าหน้าที่และรัฐบาลได้ใช้วิธีการในการที่จะพูดคุย เพื่อให้เกิดความเข้าใจว่าภาวะการณ์ที่เราใช้ประกาศภาวะฉุกเฉินในขณะนี้ เป็นภาวะการณ์ชั่วคราว และในที่สุดแล้วการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ก็ย่อมจะต้องกลับมาใช้ได้อย่างแน่นอน เพียงแต่ว่ากิจกรรมใดๆ ซึ่งเป็นลักษณะของการยั่วยุให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎหมาย อันนี้จะต้องหยุด และถ้าเราสามารถที่จะหยุดสิ่งเหล่านี้ได้ เกิดความสงบเรียบร้อย ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แล้วกระบวนการในการพูดคุยเพื่อหาทางออกในเรื่องของความปรองดองสมานฉันท์ ก็จะทำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งก็เป็นเจตนาของรัฐบาลอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าช่วงนี้จะเป็นวันหยุด วันนี้ผมก็ได้ถือโอกาสเชิญท่านทูตของทุกประเทศ เพื่อที่จะมาให้ท่านได้รับทราบสถานการณ์ต่างๆ รวมทั้งจุดยืน นโยบายของรัฐบาล ตลอดจนมีการพูดคุยซักถามในสิ่งที่ยังเป็นความสงสัยของบรรดาทูตานุทูตของประเทศต่างๆ ซึ่งได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้ผมก็จะนัดให้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อที่จะพิจารณาในเรื่องของการดำเนินการของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการให้เพื่อนคณะรัฐมนตรีได้รับทราบในรายละเอียดถึงเหตุการณ์และการตัดสินใจของผมและคณะรัฐมนตรีที่มีการประชุมโดยวิธีการตามพระราชกฤษฎีกา แต่ไม่ใช่พร้อมกันทั้งคณะทั้งหมด
รวมไปถึงการตกลงในแนวทางของการที่จะทำงานกันต่อไป เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้ก็จะมีการประชุมเรื่องนี้ ค่อนข้างจะเป็นการเฉพาะ อาจจะมีวาระอื่นๆ ที่มีความจำเป็น เช่น การพิจารณาเกี่ยวกับการประกาศพระราชกำหนดใน 3 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งได้มีการเสนอในเรื่องของการที่จะต่ออายุหรือไม่ เพราะว่าจะหมดอายุในวันที่ 19 เมษายน
การประชุมพรุ่งนี้จะครอบคลุมในทุกเรื่อง และจะเรียนให้ท่านพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนทราบต่อไป
นอกจากนั้น วันนี้ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับท่านประธานฯ ชัย และได้เรียนว่า หลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ ผมจะทำหนังสือเป็นทางการเพื่อที่จะขอให้ท่านประธานได้นัดประชุมสภาฯ เป็นการประชุมร่วม เพื่อให้รัฐบาลได้เปิดโอกาสรับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกทั้งสองสภาในเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นก็คาดว่าในวันพุธและวันพฤหัสฯ หน้า ถ้าจำเป็นจะต้องใช้เวลาถึง 2 วัน ก็จะเปิดโอกาสให้มีการอภิปรายทั่วไปรับฟังความคิดเห็น ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นสิทธิของนายกฯ และคณะรัฐมนตรี ที่จะขอทางสภาได้ อันนี้ก็เป็นเรื่องความคืบหน้าหลักๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในขณะนี้ และวันพรุ่งนี้ก็จะเรียนให้ทราบอีกครั้งหนึ่งหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรี
ถาม-ตอบ
ถาม-
ก็จะมีสอบถามทั้งหมด ว่า ในเรื่องของมาตรการที่เราใช้ที่พัทยา ที่กรุงเทพฯ มันเป็นอย่างไร เหตุการณ์ที่ลุกลามจะให้ควบคุมกลับมาอยู่ในภาวะอย่างที่เห็นในปัจจุบัน จะต้องทำอะไรเพิ่มเติมบ้าง ก็เป็นการแลกเปลี่ยนในแง่ของความคิดเห็นและการแสดงความห่วงใยต่างๆ
ถาม- บรรดาทูตได้สอบไหมหลังจากที่กลุ่มเสื้อแดงมีข่าวออกมาว่ามีการเสียชีวิต
ที่มีถามก็จะเจาะจงไปที่กรณีของ 2 ศพที่พบในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งที่ผมตรวจสอบข้อเท็จจริงมาก็คือว่า บุคคลทั้งสองยังมีชีวิตอยู่ในคืนวันที่ 13 แต่ผมกำลังจะให้เขายืนยันมาอีกครั้งหนึ่งในรายงานต่างๆ ซึ่งถ้าเขามีชีวิตอยู่ในคืนวันที่ 13 ผมคิดว่าทุกคนก็คงจะจำได้ว่าตั้งแต่ช่วงดึกของวันที่ 13 ไปจนถึงเช้า มันไม่ได้มีการดำเนินการอะไรเพิ่มเติม นอกจากขยับกำลังต่างๆ เข้ามา และพอรุ่งเช้าก็มีการยุติการชุมนุม มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่บุคคลทั้งสองจะมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ถาม- ไม่ทราบว่าจะยกเลิก พ.ร.ก.เมื่อไร
จะประเมินดูว่าขณะนี้มีการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ในเรื่องใดบ้าง หมดความจำเป็นเมื่อไร
ถาม- ท่านนายกฯ เป็นห่วงไหมว่าหลังยกเลิก พ.ร.ก.แล้ว เสื้อแดงจะกลับมาชุมนุมและทำให้เกิดความวุ่นวายอีก
ผมย้ำนะครับว่าหลังจากที่ยกเลิก พ.ร.ก.แล้ว การชุมนุมทางการเมืองทำได้ครับ และการแสดงความคิดเห็นโดยสงบ ปราศจากอาวุธทำได้ครับ แต่ว่าเรื่องการไปยุยงปลุกปลั่นให้ใครทำผิดกฎหมายนั้นทำไม่ได้ และแนวทางนี้ก็เป็นแนวทางที่เราใช้อยู่ในขณะนี้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ท่านจะเห็นก็คือ คนที่มาชุมนุมอยู่หลังจากที่มีการประกาศ พ.ร.ก.แล้ว ที่จริงก็ต้องถือว่าทำผิดกฎหาายทุกคนนะครับ แต่รัฐบาลก็ถือว่าคนส่วนใหญ่คงไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างความวุ่นวายขึ้น ก็จะเจาะจงไปเฉพาะบุคคลที่ได้แสดงออกอย่างชัดเจน ในการยุยง ปลุกปั่น ให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎหมาย ก็จะขีดวงเงินตรงนั้น พี่น้องประชาชนจะได้สบายใจว่าถ้าท่านมาด้วยความสุจริตใจ ท่านมาแล้วไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ก่อนหน้าที่จะมี พ.ร.ก.ท่านไม่ต้องห่วง
ถาม- กรณีทางการไทยเพิกถอนพาสปอร์ต
ไม่มีการสอบถามเลยครับ
ถาม- ท่านให้ความมั่นใจกับท่านทูตเกี่ยวกับอะไรบ้างในเรื่องที่สถานการณ์จะกลับมาเข้าสู่ภาวะปกติ
ในส่วนของทางเศรษฐกิจยังไม่ได้พูดกันมากนัก อาจจะมีการพูดถึงการท่องเที่ยวอยู่บ้าง ซึ่งผมได้เรียนให้ทรรบว่า เราได้เดินหน้ามามากในการที่นำความสงบเรียบร้อยกลับคืนมา แต่ก็อธิบายให้ฟังว่าความตั้งใจต่อไปที่จะทำให้ความสงบเรียบร้อยนี้ดำรงอยู่ ไม่ว่าจะมี พ.ร.ก.หรือไม่ก็ตาม มันก็มีงานทางการเมือง งานทางด้านกฎหมาย ที่เราต้องทำต่อไป ก็ได้อธิบายคร่าวๆ ให้ทราบว่าเป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่จะทำเช่นนั้น
ถาม- ดูท่าทีของบรรดาเอกอัครราชทูตแล้วเขาพอใจ หรือเขายังเป็นห่วงต่อสถานการณ์บ้านเรา
ผมคิดว่าความห่วงใยหรือความรู้สึกของเขาคงไม่ต่างจากคนไทยหรอกครับ คนไทยก็คงมีความรู้สึกว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมามันก็คลี่คลายไป แต่ถามว่าหลายคนมีความกังวลใจอยู่ในใจไหม ผมว่าเราก็คิดไม่ต่างกัน ท่านทูตก็อยู่เมืองไทย คงรู้สึกไม่ต่างกันหรอกครับ
ถาม- ทางทูตได้สะท้อนแนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลอย่างไรบ้าง
จริงๆ แล้วมีคำถาม คือย้อนกลับไปที่พัทยาเล็กน้อย ว่ามาตรการที่ดูแลในเรื่องการชุมนุมอาจจะดูเข้มน้อยไป ซึ่งก็เป็นมุมมองที่เราก็เข้าใจ และประเด็นในเรื่องของการดูแลการชุมนุมในที่สาธารณะ และโดยเฉพาะเวลาที่มีบุคคลสำคัญหรือมีการประชุมระดับระหว่างประเทศ เป็นเรื่องที่คงจะต้องมาทบทวนกัน
ถาม- รัฐบาลจะมีแนวทางในการสร้างสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นกับคนในชาติได้อย่างไร เพราะถือว่าเป็นปัจจัยหนึ่งในการที่รัฐบาลจะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ได้
อย่างที่ผมได้เรียนแล้วนะครับ ว่า หลังจากเหตุการณ์สงบลง ผมพูดชัดเจนเลยว่า ผมไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของการมีชัยชนะของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ในทางตรงกันข้าม ผมยังเชิญชวนทุกคนว่า ทำบ้านเมืองให้สงบเร็วที่สุด แล้วมาพูดคุยกัน สิ่งที่เรียกร้อง ที่เป็นเหตุเป็นผล สิ่งที่ยังอยู่ในใจ มาพูดคุยกันได้หมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความผิดทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นความคลางแคลงใจว่าการดำเนินคดีต่างๆ จะเป็น 2 มาตรฐานหรือไม่ ผมยินดีพูดคุยในเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด เพราะผมก็ถือว่าเป็นความตั้งใจของผมอยู่แล้วในเรื่องของการแก้ไขปัญหาทางการเมือง และการให้เกิดความมั่นใจว่ามีความยุติธรรม
ถาม- ท่านนายกฯ ห่วงเรื่องที่เขาจะลงไปใต้ดิน แทนที่จะมีการปฏิบัติที่เราเห็นอยู่
ผมไม่ต้องการให้คนไทยจะใต้ดิน หรือบนใต้ ทำร้ายประเทศ เพราะฉะนั้นผมยืนยันอีกครั้งหนึ่งครับ ผมเชื่อว่าคนที่มาชุมนุมส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมด เขาไม่ได้คิดร้าย และผมก็ยืนยันว่า ผมเชิญชวนเขาเข้ามาแลกเปลี่ยน พูดคุยว่า จะแก้ปัญหาทางการเมืองที่เห็นไม่ตรงกันอย่างไร แต่ส่วนคนที่ทำผิดกฎหมาย หรือมีความตั้งใจที่จะใช้วิธีที่ผิดกฎหมาย จะอยู่บนดินหรือใต้ดิน ก็ไม่เป็นประโยชน์กับใครทั้งสิ้น และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดูแล ซึ่งเมื่อสถานการณ์หรือเงื่อนไขของวิธีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนไป รัฐบาลก็ต้องปรับวิธีการในการแก้ไขปัญหาด้วย
ถาม- แล้วมันจะรุนแรงขึ้น และดูแลยากขึ้นหรือเปล่า
ก็เป็นความรับผิดชอบของเราที่จะต้องดูแลให้ได้
ถาม- ถึงขนาดมี ส.ส.แพร่ ของพรรคเพื่อไทย ระบุว่าถ้านายกฯ ลงพื้นที่ที่มีคนเสื้อแดงอยู่ อาจถูกยิง ความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรี..
ผมก็ไม่ทราบว่าเจตนาท่านคืออะไรนะครับ แต่ผมก็อยากจะชวนในฐานะนักการเมืองด้วยกัน ว่าเรามาช่วยสร้างวัฒนธรรมความไม่รุนแรงในเรื่องของการแข่งขันต่อสู้ทางการเมืองจะดีกว่า
ถาม- ความสุภาพอ่อนโยนของท่านนายกฯ จะใช้ได้ไหมกับสถานการณ์ตอนนี้
ผมก็นำความสงบเรียบร้อยกลับคืนมามากนะครับ โดยไม่ได้ทิ้งเรื่องของความสุภาพครับ เพราะผมคิดว่าตรงกันข้ามครับ ถ้าเรายิ่งพยายามใช้ความกร้าวเข้าหากัน ความสงบจะไม่เกิดขึ้นครับ
ถาม- แต่มันปฏิเสธไม่ได้ว่าความรุนแรงจะยังคงอยู่ ทีนี้ท่านจะให้ความมั่นใจได้อย่างไร
ก็เป็นเรื่องที่เราต้องพยายามคลี่คลายพยายามแก้ไขที่ต้นเหตุจากนี้ไป ที่ผ่านมาถือว่าเราต้องแก้เหตุการณ์เฉพาะหน้าให้ได้ก่อน ตอนนี้ก็ต้องหมุนกลับไปที่ต้นเหตุ ผมเรียนตามตรงว่า มันเป็นความตั้งใจของผมอยู่แล้วตั้งแต่แรก เพียงแต่ผมนึกว่าถ้าเราทำให้เรื่องการประชุมอาเซียนผ่านพ้นไปด้วยดี เราก็สามารถที่จะกลับมาดูในเรื่องนี้ได้ เพราะเรื่องเศรษฐกิจมันก็เดินไปพอสมควร เพราะฉะนั้นมันก็เป็นความตั้งใจอยู่แล้วว่าจังหวะเวลานี้น่าจะต้องกลับมาดูเรื่องนี้กัน เพราะผมทราบว่าความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล หรือต่อสภาพการเมืองในปัจจุบันจำนวนหนึ่ง เป็นความรู้สึกที่เราควรจะต้องรับฟังและตอบสนอง
ถาม- จากนี้ไปต้องจัดทัพด้านความมั่นคงใหม่ไหม
ผมคิดว่าให้เรื่องเรียบร้อยก่อนนะครับ แล้วจะมาทบทวนกันอีกทีหนึ่ง
ถาม- ความคืบหน้าในการตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ภายหลังจากที่มีการถอนพาสปอร์ต
อย่างที่เรียนครับ ได้แจ้งหน่วยงานสากลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว
ถาม- วันนี้ที่มีข่าวออกมาว่าไปที่แอฟริกา ไม่ทราบว่า
ยังเลยครับ วันนี้รู้สึกมีข่าวเยอะครับ ตั้งแต่นิการากัว ไปโน่นไปนี่
ถาม- นอกเหนือจากการที่ให้ตำรวจสากลตามตัวแล้ว ท่านนายกฯ ได้มีการติดตามตัวในแนวทางอื่นบ้างหรือเปล่า
ผมเรียนว่าขณะนี้กระทรวงก็ได้พูดคุยกับทางต่างประเทศและทูตานุทูตชัดเจนว่า เรามีความเป็นห่วงเวลาที่ท่านอดีตนายกฯ ไปเคลื่อนไหวในทางการเมือง เพราะว่าอันนี้ก็เป็นสิ่งซึ่งมิตรประเทศก็จะต้องช่วยกันดูแล
ถาม- การถอนพาสปอร์ตของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีประโยชน์อะไรกับการติดตามตัวได้มากน้อยแค่ไหน
ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขว่ามีเอกสารเดินทางที่สามารถใช้ได้มากน้อยแค่ไหน
ถาม- แต่ละประเทศรับปากใช่ไหมว่าจะดูแลให้ไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปเคลื่อนไหวในประเทศของเขา
ผมเชื่อว่าทุกประเทศที่เป็นมิตรประเทศ เราปฏิบัติในหลักการนี้อยู่แล้วเป็นการทั่วไป คงไม่ยอมให้ใครมาใช้พื้นที่หรือสถานที่ของตัวเอง ไปก่อปัญหาความมั่นคงให้กับประเทศอื่น
ถาม- หมายความว่ารัฐบาลไทยจะนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับเข้าประเทศมาดำเนินคดี
ทุกอย่างมันจะต้องเป็นไปตามข้อกฎหมายและข้อตกลงระหว่างประเทศ ผมไม่สามารถบอกได้ เพราะไม่ทราบว่าจะไปพบตัว หรือไปดำเนินการได้อยู่ที่ประเทศไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่าในประเทศนั้นกระบวนการในเรื่องการส่งตัวหรือไม่ จะเป็นอย่างไร จะพูดในลักษณะทั่วไปไม่ได้
ถาม- คิดว่าถ้านำกลับมาได้จะจบปัญหาได้หรือเปล่า
ผมไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องว่าจะจบปัญหาหรือไม่จบปัญหา ในส่วนนี้เป็นเพียงเรื่องของการปฏิบัติตามกฎหมาย การจบปัญหาที่แท้จริงถาวรก็คือ ปัญหาในการที่จะต้องหาทางออกทางการเมืองร่วมกันมากกว่า
ถาม- หลังจากที่รัฐบาลไทยต้องเลื่อนการประชุมอาเซียน +3/+6 หลังจากสถานการณ์ตรงนี้จะมีความเป็นไปได้ในการจัดอีกครั้งหนึ่งอย่างไรบ้าง
กำลังปรึกษาอยู่ครับ คิดว่าภายใน 2 วันจะได้ข้อยุติ
ถาม- ได้มีการประสานไปยังประเทศต่างๆ แล้วหรือยัง
ทางกระทรวงได้ดำเนินการอยู่ และเลขาธิการอาเซียนจะพบผมภายใน 1-2 วันนี้
ถาม- คิดว่าเขามีความเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ที่จริงแล้วประเทศทั้ง 16 ประเทศก็สัมผัสกับเหตุการณ์ด้วยตัวเองอยู่แล้ว และก็ติดตามสถานการณ์ วันนี้ก็มีทูตและผู้แทนของประเทศเหล่านี้มาร่วมฟังอีกครั้งหนึ่งด้วย
ถาม- ท่านนายกฯ มั่นใจว่าการประชุมครั้งต่อไปจะไม่ล้มเหลวหรือเปล่า
เราคงปล่อยให้ล้มเหลวไม่ได้นะครับ เพราะฉะนั้นผมก็จะต้องทบทวนและแก้ไขจุดที่เป็นข้อบกพร่องทั้งหลายให้ได้
ถาม- กรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีต่างประเทศให้พาสปอร์ตกับ พ.ต.ท.ทักษิณ มีเขมร มีดูไบ แล้วก็..
ตรวจสอบอยู่ครับ ยังไม่มีที่ไหนยืนยัน