กลุ่มแดงถ่อย ยังคงย่ำยีภาพพจน์ของประเทศชาติ ฝ่าด่านตำรวจบุกประชิด หน้าโรงแรมประชุมผู้นำอาเซียน “มาร์ค” หนีบ ’เทือก’ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ทหาร เพื่อลดการเผชิญหน้า ด้านส.ส.ชลบุรีทนไม่ไหว“ตำรวจแดง”ปล่อยทาสแม้วป่วนอาเซียน “เทพเทือก” จ๋อย แดงถ่อยไม่คุยด้วย ขากลับปะทะคนรักเมืองพัทยา บาดเจ็บ 3 ราย นายกฯลั่นใครทำผิดต้องถูกดำเนินการตามกม.ถก"ฮุนเซน"แก้ปัญหาชายแดน สรุปผลประชุมอาเซียนฯหาแนวตั้งกองทุนฉุกเฉินมูลค่า 120,000 ล้านดอลลาร์รับมือวิกฤต
หลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงและกลุ่มรถแท็กซี่ ได้ก่อกวนปิดถนนหลายสายในกรุงเทพฯและกระจายไปยังตามต่างจังหวัดต่างๆ ล่าสุด ยังได้กระทำการชุมนุมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนซัมมิทบวก3บวก 6 ที่พัทยา ซึ่งได้จัดประชุมอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ (10 เม.ย.)
โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ได้เดิมทางมาถึงโรงแรม
รอยัล คลิฟบีช รีสอร์ท พัทยาในเวลา 10.30 น. ซึ่งได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ทหาร จากกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ เดินทางมาลงที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ของโรงแรม
ขณะที่ในเวลา 12.00 น.กลุ่มเสื้อแดง นำโดยนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มเสื้อแดงพร้อมผู้ชุมนุมได้นำรถมาประมาณ
70 กว่าคัน กระทำการฝ่าด่านตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารเรือจากฐานทัพเรือสัตหีบ ได้ยืนเรียงหน้ากระดานสวมกอดคอเป็นโล่มนุษย์หนา
5 ชั้น เพื่อเป็นเป็นแนวป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารประมาณ 300 คนพร้อมโล่ได้มาสมทบ
จากนั้นเวลา 12.30 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังบริเวณหน้าโรงแรมที่กลุ่มเสื้อแดงชุมนุมอยู่ เพื่อ
เจรจาให้มีการเปิดทางเข้าออกให้ผู้นำประเทศต่างๆ แต่กลุ่มเสื้อแดงปฏิเสธที่จะเจรจาในเบื้องต้น
“ขอให้กลุ่มเสื้อแดงได้เห็นแก่หน้าตาของประเทศชาติ เปิดทางให้ผู้นำประเทศที่จะเข้าร่วมประชุมได้เดินทางเข้าสู่ที่พัก โดยรัฐบาล
พร้อมพูดคุย ซึ่งพล.อ. พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผบ.ตร. กำลังเจรจากับผู้ชุมนุมอยู่ หวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากกลุ่มผู้ชุมนุม”นายสุ
เทพกล่าว
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว ผู้นำของแต่ละประเทศก็สามารถเข้าสู่ที่ประชุม
ส.ส.ชลฯเดือดซัดตร.แดงสมรู้!
ด้านของกลุ่มพลังมวลชนชาวชลบุรี นำโดย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ นาย
ประมวล เอมเปีย นายบรรจบ รุ่งโรจน์ นัดรวมพลัง ต่อต้านกลุ่มเสื้อแดง
นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าตนพร้อมด้วยเพื่อนส.ส.ชลบุรี ได้ระดมชาวบ้าน
ที่จ.ชลบุรี ที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของกลุ่มนปช.ในการก่อกวนการประชุม โดยทางกลุ่มตนได้มาปักหลักชุมนุมอยู่ตรงแหลมบาลีฮาย
ซึ่งเป็นทางที่จะมุ่งสู่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช เพื่อคอยป้องกันไม่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงบุกทำลายการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน
“ถือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานแย่มาก ปล่อยเกียร์ว่างและช่วยเหลือกลุ่มคนเสื้อแดง ตอนนี้พวกผมซึ่งมีอยู่ประมาณ 1 พันคน ได้
แบ่งกำลังออกเป็น 2 ส่วน บุกขึ้นไปเจอกับคนเสื้อแดงที่หน้าโรงแรม และอีกส่วนหนึ่งจะคอยสกัดกลุ่มเสื้อแดงที่จะเดินทางมาสมทบ
เพิ่มเติม ยืนยันว่าถ้าเขาใช้อาวุธ เราก็พร้อมตอบโต้ เพื่อปกป้องเมืองชลบุรีไม่ให้มีสภาพเป็นเหมือนกทม. ที่ธุรกิจเจ๊งหมด แน่จริงให้ผู้
นำม็อบเสื้อแดงมาเจอกันดีกว่า ”
ขณะที่นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กล่าวว่า ที่จุดสกัดเมืองพัทยา ได้พบเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบจากจังหวัดขอนแก่น และอุดรฯ
นั่งรถปิ๊กอัพมาในพื้นที่รวม 11 คัน โดยอ้างว่าจะมีแทรกซึมในกลุ่มเสื้อแดง แต่จากการสอบถามฝ่ายรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ไม่พบว่าจะมีคำสั่งให้ตำรวจกลุ่มดังกล่าว มาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ จึงเป็นที่น่าสังเกตว่า มีความผิดปกติ
“เสื้อแดง”ผิดคิวบุกศูนย์สื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00น. กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง ได้เรียกร้องขอให้ตัวแทนประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10
ประเทศมารับหนังสือเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดง ต่อมาเมื่อเวลา 15.25 น.นาย ศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ได้
เดินลงไปรับหนังสือกับผู้ชุมนุม แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมและได้บุกเข้ามาจนถึงอาคารพีช ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของสื่อมวลชน
สุดท้ายแล้ว นายอริสมัน ก็ได้เดินเข้ามายื่นเอกสารต่อตัวแทนฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ ( ASEAN Secretaraiat International
Relation) นายพี. บาลา คูมาร์ (Mr.P.Bala Kumar)
แดงทาสแม้วปะทะคนเมืองพัทยา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่รถยนต์ของกลุ่มนปช.ที่เคลื่อนตัวลงจากเขา หลังเดินทางไปขัดขวางการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ได้
เกิดการเผชิญหน้ากับชาวเมืองพัทยา จ.ชลบุรี กว่า 400 คน ที่รวมตัวขัดขวางกลุ่ม นปช. ไม่ให้มาสร้างความวุ่นวายบริเวณสวน
สาธารณะเขาพระตำหนักขึ้น ซึ่งตำรวจพยายามเข้าห้ามปรามไม่ให้ทั้ง 2 ฝ่าย เผชิญหน้ากัน แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จึงมีการขว้างปา
ก้อนหิน ขวดน้ำและมีเสียงดังคล้ายระเบิดขึ้น 1 ครั้ง จนทำให้ชาวเมืองพัทยาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 คน คือ นายอดุลย์ กิจสุวรรณ
นายชาตรี ศรีภิรมย์ และนายสาทิตย์ เอกสมัย
"มาร์ค"ลั่นต้องสะสางคนทำผิดกม.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการที่กลุ่มเสื้อแดงจะมาชุนนุมอีกในวันนี้(11 เม.ย.)ว่า รัฐบาลมีความพร้อมในการ
จัดการประชุมและอยากยืนยันว่าการประชุมครั้งนี้ จะเกิดผล 1.เป็นประโยชน์ของพี่น้อง ประชาชนคนไทยทุกคน เป็นหน้าเป็นตาของ
ประเทศ ตนไม่สามารถ เข้าใจความคิดของใครก็ตามที่จะขัดขวางไม่ให้ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียนทำหน้าที่ของเรา เพราะ
ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง
2.การประชุมครั้งนี้ไม่ใช่เฉพาะอาเซียนแต่มีคู่เจรจาอีก 6 ประเทศ ซึ่งการประชุมหมายถึงผลประโยชน์ของประเทศ 16
ประเทศ ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องเอาเรื่องปัญหาการเมืองภายในไปกระทบต่อความร่วมมือ และรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่รับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างและเปิดโอกาสให้แสดงออก และใช้สิทธิเสรีภาพอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่กลุ่มเสื้อแดงยื่นหนังสือกับตัวแทนอาเซียน โดยฟ้องในลักษณะนายกรัฐมนตรีไม่ได้มาจากประชาธิปไตย จะกระทบภาพพจน์ที่นายกฯกำลังเรียกความเชื่อมั่นของประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เขายื่นเคยยื่นตาม
สถานทูตต่างๆ มาแล้ว คงจำได้ช่วงเดือนม.ค.และก.พ.ที่ผ่านมา แต่ประเทศเหล่านั้นก็มาร่วมประชุม ตนทำหน้าที่เป็นตัวแทนของทั้ง 10
ประเทศ ที่ลอนดอนมาแล้ว และวันนี้นายกฯฮุนเซนยังกล่าวถึงการทำหน้าที่ของตน ที่ลอนดอน มันเป็นคำตอบในตัวอยู่แล้ว
"ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมที่ทำผิดกฎหมายนั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยมีทั้งการขออำนาจศาล และการดำเนิน
คดีอื่น ๆ ซึ่งเมื่อช่วงเช้าก่อนจะมาพัทยาตนก็ได้ไปประชุมเรื่องนี้ ส่วนจะจับกุมแกนนำหรือไม่ อยู่ที่ข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ซึ่งขอ
ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเป็นแกนนำหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมในเรื่องพยานหลักฐาน และจะขออำนาจศาลต่อไป โดยมีกฎหมายที่
เกี่ยวข้องที่จะดำเนินการได้หลายมาตรา "นายกฯกล่าว
คุย"ฮุนเซน"แก้ปัญหาชายแดน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวภายหลังพบหารือเป็นเวลาสั้นๆ กับสมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยระบุว่า ระหว่างการเจรจา
กันคราวนี้ ได้มีการหารือถึงเรื่องเหตุการณ์ปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารของทั้งสองฝ่าย
"ปรากฏว่ามันเนื่องมาจากความเข้าใจผิด เหตุการณ์นี้จะไม่กระทบกระเทือนความสัมพันธ์ของเรา และเราจะใช้ช่องทาง
การติดต่อต่างๆ ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นอีกในอนาคต" นายอภิสิทธิ์บอก
นายกรัฐมนตรีไทยแจ้งด้วยว่า จะเดินทางไปเยือนกัมพูชาในวันเสาร์ที่ 18 นี้
อาเซียนถกแก้ปัญหาระยะยาวของโลก
นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน กล่าวถึงการประชุมสุดยอดอาเซียนว่า คือ การหามาตรการที่จะแก้ไขปัญหาของโลก
และบทบาทของอาเซียน เอเชียตะวันออก ที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาใหญ่ๆถึงที่สุดก็จะเป็นมาตรการที่จะช่วยเหลือคนอาเซียน 600
ล้านคน คนเอเซียตะวันออก 3,200 ล้านคน คิดว่าทุกคนอยากจะเห็นมาตรการเหล่านี้ได้รับการยอมรับ และมีข้อยุติเพื่อแก้ไขปัญหา
ระยะยาวของโลก และภูมิภาค
ตั้งกองทุน$120,000ล.เสร็จพค.นี้
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า จากร่างเอกสารที่ได้รับมาเมื่อวานนี้(10) แสดงให้เห็นว่า ชาติอาเซียน+3 (10ชาติสมาคมอา
เซียน บวกจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้) หวังที่จะจัดทำรายละเอียดของการจัดตั้งกองทุนฉุกเฉินมูลค่า 120,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ต่อสู้กับ
วิกฤตการเงินในอนาคต ได้เสร็จสิ้นในการประชุมระดับรัฐมนตรีคลังครั้งต่อไป ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในเดือนพ.ค.นี้
กองทุนดังกล่าว ซึ่งเรียกกันว่าเป็น " มาตรการริเริ่มเชียงใหม่ที่กลายเป็นระดับพหุภาคี " เป็นการขยาย " มาตรการริเริ่ม
เชียงใหม่ " ที่เป็นชุดข้อตกลงสวอปเงินตราแบบทวิภาคีระหว่างสมาชิกอาเซียน+3 โดยที่มาตรการที่ปรับเปลี่ยนใหม่นี้จะกลายเป็นข้อ
ตกลงแบบพหุภาคีของทั้ง 13 ประเทศ อันจะทำให้ประเทศที่ต้องเผชิญวิกฤตทางการเงิน สามารถขอความช่วยเหลือได้สะดวกขึ้นมาก
ในจำนวนกองทุนมูลค่า 120,000 ล้านดอลลาร์นี้ ทาง 10 ชาติอาเซียนตกลงที่จะออกเงินสมทบเป็นจำนวน 20% หรือ
24,000 ล้านดอลลาร์ และอีก 3 ชาติคู่เจรจาจะออกเงินส่วนที่เหลือ โดยที่นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียนเผยวานนี้ว่า
เกาหลีใต้ได้ตกลงจะออกเท่ากับอาเซียนคือ 24,000 ล้านดอลลาร์ ดังนั้นที่เหลืออีกราว 60% จะต้องปล่อยให้จีนกับญี่ปุ่นเจรจาตกลง
กัน
สำหรับภายในอาเซียนเองนั้น บรรดารัฐมนตรีคลังอาเซียนก็เพิ่งตกลงว่า อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, และไทย จะออกชาติละ 4,760 ล้านดอลลาร์ สำหรับฟิลิปปินส์ 3,680 ล้านดอลลาร์ ส่วนอีก 5 ชาติที่เหลือ อันได้แก่ บรูไน, เวียดนาม, ลาว, กัมพูชา, และพม่านั้น จะออกเป็นจำนวนเท่าใดให้ขึ้นอยู่กับขนาดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่พวกเขามีกันอยู่
นอกจากเรื่องกองทุนนี้แล้ว ร่างเอกสารคำแถลงของผู้นำอาเซียน+3 ยังระบุว่าพวกเขาสนับสนุนให้ "เพิ่มความแข็งแรงแก่
กลไกเฝ้าระวังในภูมิภาค ด้วยการจัดตั้งหน่วยเฝ้าระวังระดับภูมิภาคที่มีฐานะเป็นอิสระขึ้นมาโดยเร็วที่สุด" โดยหน่วยงานนี้จะ "ติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของภูมิภาคและของทั่วโลก" เพื่อจับตาสัญญาณต่างๆ ของวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อ
เอเชีย
เลขาฯอาเซียนว่าหลายชาติ "วิตก"
นายสุรินทร์ กล่าวต่อว่า บรรดาชาติเอเชียที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน+3 และอาเซียน+6 ในขณะนี้ ต่างรู้สึกกังวล
กับการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง
เลขาธิการอาเซียนบอกว่า พวกผู้แทนของชาติต่างๆ ที่เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีหลายต่อหลายนัดในระยะไม่กี่วันที่
ผ่านมา ต่างก็หยิบยกประเด็นเรื่องความปลอดภัยของบรรดาผู้นำตลอดจนผู้ช่วยทั้งหลายขึ้นมาปรึกษาหารือ
" แน่นอนทีเดียวว่า มีความวิตกกังวลกันในระดับหนึ่ง แต่อย่างที่ผมพูดไปแล้วนั่นแหละ นี่เป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย "
นายสุรินทร์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว พร้อมกับระบุถึงสถานการณ์ความปลอดภัยในเวลานี้ว่า ยัง "สามารถที่จะจัดการได้"
นายสุรินทร์ยืนยันว่า ไม่มีผู้นำคนใดยกเลิกการมาร่วมประชุม และเขากล่าวด้วยว่าไม่ได้มีการเตรียมแผนการสำรอง " เรา
ไม่มีแผน บี เราจะต้องทำเรื่องนี้ให้จบ เราต้องทำให้เสร็จสมบูรณ์ในการประชุมนี้ "
หลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงและกลุ่มรถแท็กซี่ ได้ก่อกวนปิดถนนหลายสายในกรุงเทพฯและกระจายไปยังตามต่างจังหวัดต่างๆ ล่าสุด ยังได้กระทำการชุมนุมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนซัมมิทบวก3บวก 6 ที่พัทยา ซึ่งได้จัดประชุมอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ (10 เม.ย.)
โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ได้เดิมทางมาถึงโรงแรม
รอยัล คลิฟบีช รีสอร์ท พัทยาในเวลา 10.30 น. ซึ่งได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ทหาร จากกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ เดินทางมาลงที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ของโรงแรม
ขณะที่ในเวลา 12.00 น.กลุ่มเสื้อแดง นำโดยนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มเสื้อแดงพร้อมผู้ชุมนุมได้นำรถมาประมาณ
70 กว่าคัน กระทำการฝ่าด่านตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารเรือจากฐานทัพเรือสัตหีบ ได้ยืนเรียงหน้ากระดานสวมกอดคอเป็นโล่มนุษย์หนา
5 ชั้น เพื่อเป็นเป็นแนวป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารประมาณ 300 คนพร้อมโล่ได้มาสมทบ
จากนั้นเวลา 12.30 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังบริเวณหน้าโรงแรมที่กลุ่มเสื้อแดงชุมนุมอยู่ เพื่อ
เจรจาให้มีการเปิดทางเข้าออกให้ผู้นำประเทศต่างๆ แต่กลุ่มเสื้อแดงปฏิเสธที่จะเจรจาในเบื้องต้น
“ขอให้กลุ่มเสื้อแดงได้เห็นแก่หน้าตาของประเทศชาติ เปิดทางให้ผู้นำประเทศที่จะเข้าร่วมประชุมได้เดินทางเข้าสู่ที่พัก โดยรัฐบาล
พร้อมพูดคุย ซึ่งพล.อ. พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผบ.ตร. กำลังเจรจากับผู้ชุมนุมอยู่ หวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากกลุ่มผู้ชุมนุม”นายสุ
เทพกล่าว
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว ผู้นำของแต่ละประเทศก็สามารถเข้าสู่ที่ประชุม
ส.ส.ชลฯเดือดซัดตร.แดงสมรู้!
ด้านของกลุ่มพลังมวลชนชาวชลบุรี นำโดย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ นาย
ประมวล เอมเปีย นายบรรจบ รุ่งโรจน์ นัดรวมพลัง ต่อต้านกลุ่มเสื้อแดง
นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าตนพร้อมด้วยเพื่อนส.ส.ชลบุรี ได้ระดมชาวบ้าน
ที่จ.ชลบุรี ที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของกลุ่มนปช.ในการก่อกวนการประชุม โดยทางกลุ่มตนได้มาปักหลักชุมนุมอยู่ตรงแหลมบาลีฮาย
ซึ่งเป็นทางที่จะมุ่งสู่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช เพื่อคอยป้องกันไม่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงบุกทำลายการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน
“ถือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานแย่มาก ปล่อยเกียร์ว่างและช่วยเหลือกลุ่มคนเสื้อแดง ตอนนี้พวกผมซึ่งมีอยู่ประมาณ 1 พันคน ได้
แบ่งกำลังออกเป็น 2 ส่วน บุกขึ้นไปเจอกับคนเสื้อแดงที่หน้าโรงแรม และอีกส่วนหนึ่งจะคอยสกัดกลุ่มเสื้อแดงที่จะเดินทางมาสมทบ
เพิ่มเติม ยืนยันว่าถ้าเขาใช้อาวุธ เราก็พร้อมตอบโต้ เพื่อปกป้องเมืองชลบุรีไม่ให้มีสภาพเป็นเหมือนกทม. ที่ธุรกิจเจ๊งหมด แน่จริงให้ผู้
นำม็อบเสื้อแดงมาเจอกันดีกว่า ”
ขณะที่นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กล่าวว่า ที่จุดสกัดเมืองพัทยา ได้พบเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบจากจังหวัดขอนแก่น และอุดรฯ
นั่งรถปิ๊กอัพมาในพื้นที่รวม 11 คัน โดยอ้างว่าจะมีแทรกซึมในกลุ่มเสื้อแดง แต่จากการสอบถามฝ่ายรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ไม่พบว่าจะมีคำสั่งให้ตำรวจกลุ่มดังกล่าว มาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ จึงเป็นที่น่าสังเกตว่า มีความผิดปกติ
“เสื้อแดง”ผิดคิวบุกศูนย์สื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00น. กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง ได้เรียกร้องขอให้ตัวแทนประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10
ประเทศมารับหนังสือเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดง ต่อมาเมื่อเวลา 15.25 น.นาย ศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ได้
เดินลงไปรับหนังสือกับผู้ชุมนุม แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมและได้บุกเข้ามาจนถึงอาคารพีช ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของสื่อมวลชน
สุดท้ายแล้ว นายอริสมัน ก็ได้เดินเข้ามายื่นเอกสารต่อตัวแทนฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ ( ASEAN Secretaraiat International
Relation) นายพี. บาลา คูมาร์ (Mr.P.Bala Kumar)
แดงทาสแม้วปะทะคนเมืองพัทยา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่รถยนต์ของกลุ่มนปช.ที่เคลื่อนตัวลงจากเขา หลังเดินทางไปขัดขวางการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ได้
เกิดการเผชิญหน้ากับชาวเมืองพัทยา จ.ชลบุรี กว่า 400 คน ที่รวมตัวขัดขวางกลุ่ม นปช. ไม่ให้มาสร้างความวุ่นวายบริเวณสวน
สาธารณะเขาพระตำหนักขึ้น ซึ่งตำรวจพยายามเข้าห้ามปรามไม่ให้ทั้ง 2 ฝ่าย เผชิญหน้ากัน แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จึงมีการขว้างปา
ก้อนหิน ขวดน้ำและมีเสียงดังคล้ายระเบิดขึ้น 1 ครั้ง จนทำให้ชาวเมืองพัทยาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 คน คือ นายอดุลย์ กิจสุวรรณ
นายชาตรี ศรีภิรมย์ และนายสาทิตย์ เอกสมัย
"มาร์ค"ลั่นต้องสะสางคนทำผิดกม.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการที่กลุ่มเสื้อแดงจะมาชุนนุมอีกในวันนี้(11 เม.ย.)ว่า รัฐบาลมีความพร้อมในการ
จัดการประชุมและอยากยืนยันว่าการประชุมครั้งนี้ จะเกิดผล 1.เป็นประโยชน์ของพี่น้อง ประชาชนคนไทยทุกคน เป็นหน้าเป็นตาของ
ประเทศ ตนไม่สามารถ เข้าใจความคิดของใครก็ตามที่จะขัดขวางไม่ให้ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียนทำหน้าที่ของเรา เพราะ
ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง
2.การประชุมครั้งนี้ไม่ใช่เฉพาะอาเซียนแต่มีคู่เจรจาอีก 6 ประเทศ ซึ่งการประชุมหมายถึงผลประโยชน์ของประเทศ 16
ประเทศ ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องเอาเรื่องปัญหาการเมืองภายในไปกระทบต่อความร่วมมือ และรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่รับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างและเปิดโอกาสให้แสดงออก และใช้สิทธิเสรีภาพอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่กลุ่มเสื้อแดงยื่นหนังสือกับตัวแทนอาเซียน โดยฟ้องในลักษณะนายกรัฐมนตรีไม่ได้มาจากประชาธิปไตย จะกระทบภาพพจน์ที่นายกฯกำลังเรียกความเชื่อมั่นของประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เขายื่นเคยยื่นตาม
สถานทูตต่างๆ มาแล้ว คงจำได้ช่วงเดือนม.ค.และก.พ.ที่ผ่านมา แต่ประเทศเหล่านั้นก็มาร่วมประชุม ตนทำหน้าที่เป็นตัวแทนของทั้ง 10
ประเทศ ที่ลอนดอนมาแล้ว และวันนี้นายกฯฮุนเซนยังกล่าวถึงการทำหน้าที่ของตน ที่ลอนดอน มันเป็นคำตอบในตัวอยู่แล้ว
"ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมที่ทำผิดกฎหมายนั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยมีทั้งการขออำนาจศาล และการดำเนิน
คดีอื่น ๆ ซึ่งเมื่อช่วงเช้าก่อนจะมาพัทยาตนก็ได้ไปประชุมเรื่องนี้ ส่วนจะจับกุมแกนนำหรือไม่ อยู่ที่ข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ซึ่งขอ
ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเป็นแกนนำหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมในเรื่องพยานหลักฐาน และจะขออำนาจศาลต่อไป โดยมีกฎหมายที่
เกี่ยวข้องที่จะดำเนินการได้หลายมาตรา "นายกฯกล่าว
คุย"ฮุนเซน"แก้ปัญหาชายแดน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวภายหลังพบหารือเป็นเวลาสั้นๆ กับสมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยระบุว่า ระหว่างการเจรจา
กันคราวนี้ ได้มีการหารือถึงเรื่องเหตุการณ์ปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารของทั้งสองฝ่าย
"ปรากฏว่ามันเนื่องมาจากความเข้าใจผิด เหตุการณ์นี้จะไม่กระทบกระเทือนความสัมพันธ์ของเรา และเราจะใช้ช่องทาง
การติดต่อต่างๆ ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นอีกในอนาคต" นายอภิสิทธิ์บอก
นายกรัฐมนตรีไทยแจ้งด้วยว่า จะเดินทางไปเยือนกัมพูชาในวันเสาร์ที่ 18 นี้
อาเซียนถกแก้ปัญหาระยะยาวของโลก
นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน กล่าวถึงการประชุมสุดยอดอาเซียนว่า คือ การหามาตรการที่จะแก้ไขปัญหาของโลก
และบทบาทของอาเซียน เอเชียตะวันออก ที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาใหญ่ๆถึงที่สุดก็จะเป็นมาตรการที่จะช่วยเหลือคนอาเซียน 600
ล้านคน คนเอเซียตะวันออก 3,200 ล้านคน คิดว่าทุกคนอยากจะเห็นมาตรการเหล่านี้ได้รับการยอมรับ และมีข้อยุติเพื่อแก้ไขปัญหา
ระยะยาวของโลก และภูมิภาค
ตั้งกองทุน$120,000ล.เสร็จพค.นี้
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า จากร่างเอกสารที่ได้รับมาเมื่อวานนี้(10) แสดงให้เห็นว่า ชาติอาเซียน+3 (10ชาติสมาคมอา
เซียน บวกจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้) หวังที่จะจัดทำรายละเอียดของการจัดตั้งกองทุนฉุกเฉินมูลค่า 120,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ต่อสู้กับ
วิกฤตการเงินในอนาคต ได้เสร็จสิ้นในการประชุมระดับรัฐมนตรีคลังครั้งต่อไป ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในเดือนพ.ค.นี้
กองทุนดังกล่าว ซึ่งเรียกกันว่าเป็น " มาตรการริเริ่มเชียงใหม่ที่กลายเป็นระดับพหุภาคี " เป็นการขยาย " มาตรการริเริ่ม
เชียงใหม่ " ที่เป็นชุดข้อตกลงสวอปเงินตราแบบทวิภาคีระหว่างสมาชิกอาเซียน+3 โดยที่มาตรการที่ปรับเปลี่ยนใหม่นี้จะกลายเป็นข้อ
ตกลงแบบพหุภาคีของทั้ง 13 ประเทศ อันจะทำให้ประเทศที่ต้องเผชิญวิกฤตทางการเงิน สามารถขอความช่วยเหลือได้สะดวกขึ้นมาก
ในจำนวนกองทุนมูลค่า 120,000 ล้านดอลลาร์นี้ ทาง 10 ชาติอาเซียนตกลงที่จะออกเงินสมทบเป็นจำนวน 20% หรือ
24,000 ล้านดอลลาร์ และอีก 3 ชาติคู่เจรจาจะออกเงินส่วนที่เหลือ โดยที่นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียนเผยวานนี้ว่า
เกาหลีใต้ได้ตกลงจะออกเท่ากับอาเซียนคือ 24,000 ล้านดอลลาร์ ดังนั้นที่เหลืออีกราว 60% จะต้องปล่อยให้จีนกับญี่ปุ่นเจรจาตกลง
กัน
สำหรับภายในอาเซียนเองนั้น บรรดารัฐมนตรีคลังอาเซียนก็เพิ่งตกลงว่า อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, และไทย จะออกชาติละ 4,760 ล้านดอลลาร์ สำหรับฟิลิปปินส์ 3,680 ล้านดอลลาร์ ส่วนอีก 5 ชาติที่เหลือ อันได้แก่ บรูไน, เวียดนาม, ลาว, กัมพูชา, และพม่านั้น จะออกเป็นจำนวนเท่าใดให้ขึ้นอยู่กับขนาดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่พวกเขามีกันอยู่
นอกจากเรื่องกองทุนนี้แล้ว ร่างเอกสารคำแถลงของผู้นำอาเซียน+3 ยังระบุว่าพวกเขาสนับสนุนให้ "เพิ่มความแข็งแรงแก่
กลไกเฝ้าระวังในภูมิภาค ด้วยการจัดตั้งหน่วยเฝ้าระวังระดับภูมิภาคที่มีฐานะเป็นอิสระขึ้นมาโดยเร็วที่สุด" โดยหน่วยงานนี้จะ "ติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของภูมิภาคและของทั่วโลก" เพื่อจับตาสัญญาณต่างๆ ของวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อ
เอเชีย
เลขาฯอาเซียนว่าหลายชาติ "วิตก"
นายสุรินทร์ กล่าวต่อว่า บรรดาชาติเอเชียที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน+3 และอาเซียน+6 ในขณะนี้ ต่างรู้สึกกังวล
กับการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง
เลขาธิการอาเซียนบอกว่า พวกผู้แทนของชาติต่างๆ ที่เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีหลายต่อหลายนัดในระยะไม่กี่วันที่
ผ่านมา ต่างก็หยิบยกประเด็นเรื่องความปลอดภัยของบรรดาผู้นำตลอดจนผู้ช่วยทั้งหลายขึ้นมาปรึกษาหารือ
" แน่นอนทีเดียวว่า มีความวิตกกังวลกันในระดับหนึ่ง แต่อย่างที่ผมพูดไปแล้วนั่นแหละ นี่เป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย "
นายสุรินทร์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว พร้อมกับระบุถึงสถานการณ์ความปลอดภัยในเวลานี้ว่า ยัง "สามารถที่จะจัดการได้"
นายสุรินทร์ยืนยันว่า ไม่มีผู้นำคนใดยกเลิกการมาร่วมประชุม และเขากล่าวด้วยว่าไม่ได้มีการเตรียมแผนการสำรอง " เรา
ไม่มีแผน บี เราจะต้องทำเรื่องนี้ให้จบ เราต้องทำให้เสร็จสมบูรณ์ในการประชุมนี้ "