xs
xsm
sm
md
lg

มาร์ครู้ทันไม่เดินเข้ากับดัก แฉแม้วยื่นเงื่อนไขเลิกม็อบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - แฉ "แม้ว" สั่งปิดถนน ก่อนต่อสายถึง "อนุพงษ์" ยื่นเงื่อนไข 3 ข้อ บีบ "อภิสิทธิ์" ลาออก เลิกคดี ขอเงินที่ถูกอายัดคืน และขอฐานะเป็นผู้ลี้ภัย แต่อนุพงษ์บอกปัด อ้างไม่มีอำนาจ ขณะที่ "อภิสิทธิ์" รู้ทันแผนชั่ว ไม่เดินเข้าสู่กับดักความรุนแรง ยันใช้กฎหมายจัดการกับผู้ปิดถนน ก่อความวุ่นวาย ก่อนประกาศวันนี้ (10 เม.ย.) เป็นวันหยุดราชการ "ผบ.ทอ." ชี้เสื้อแดงเคลื่อนไหวตามแนวทางคอมมิวนิสต์

หลังจากที่กลุ่มเสื้อแดง ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ประกอบด้วย 1. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ต้องลาออกจากองคมนตรี 2.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องลาออกจากนายกรัฐมนตรี 3 .การบริหารราชการแผ่นดิน การปรับปรุงใดๆ ให้ดีขึ้นตามหลักสากล ต้องมีการปรึกษาหารือกัน ระหว่างนักประชาธิปไตยผู้มีประวัติและพฤติกรรม เชิดชูระบอบประชาธิปไตยเป็นที่ประจักษ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเมื่อวานนี้ มีการปฏิบัติการดาวกระจายไปปิดล้อมสถานที่หลายแห่ง อาทิ ที่พรรคประชาธิปัตย์ กระทรวงการต่างประเทศ ศาลรัฐธรรมนูญ และยื่นคำขาดให้นายกรัฐมนตรีลาออกก่อนเวลา 16.00 น. มิฉะนั้นจะยกระดับการชุมนุมไปสู่ความรุนแรงมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะถึงกำนดเส้นตายให้นายกฯลาออกนั้น เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. บรรดาแท็กซี่ ซึ่งเป็นกลุ่มเสื้อแดง ได้นำรถแท็กซี่ไปจอดปิดกันการจราจรบนถนนทุกสายที่มุ่งเข้าสู่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รวมทั้งทางด่วน ที่จะลงที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นอกจากนี้ยังมีการปิดกั้นถนนราชดำเนินกลางบริเวณสะพานผ่านฟ้า ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนักเป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่กลุ่มเสื้อแดง ทำการปิดกั้นการจราจรตามจุดต่างๆ จนทำให้การจราจรในกรุงเทพเป็นอำมพาตนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้โทรศัพท์มาหา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พร้อมกับยื่นเงื่อนไข 3 ข้อ เพื่อแลกกับการสั่งการให้กลุ่มเสื้อแดงสลายการชุมนุม โดย 1. บีบให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2. ให้ช่วยเคลียร์ดคี และทรัพย์สินบางส่วนที่ถูกอายัดไว้ และ 3 .ขอสถานะให้พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ลี้ภัย
อย่างไรก็ตาม พล.อ.อนุพงษ์ได้ปฏิเสธข้อเสนอของพ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากไม่มีอำนาจที่จะทำตามเงื่อนไขดังกล่าวได้ เพราะเป็นทหาร ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง

**แถลงไม่ยอมรับรัฐบาลมาร์ค
ต่อมาเมื่อเวลา17.00 น. นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำคนเสื้อแดง ได้ขึ้นเวทีอ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 ระบุว่า ตามที่มวลมหาประชาชนคนเสื้อแดงได้มาชุมนุมกันบริเวณรอบทำเนียบ ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ได้ออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 8 เม.ย. เรียกร้อง 3 ประการ เพื่อปูพื้นฐานประชาธิปไตยในประเทศชาติ แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับการตอบสนองแต่ประการใด บัดนี้ถึงเวลาสมควรที่ มหาชนคนเสื้อแดง จะยืนยันเจตจำนงอีกครั้ง
ด้วยการประกาศมาตรการต่อไปนี้ 1. ประชาชนจะไม่ยอมรับสถานะรัฐบาลที่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป ไม่ว่าด้านนิตินัย หรือพฤตินัย 2. การกระทำใดๆ ของมวลชนคนเสื้อแดงต่อไปนี้ ถือเป็นการทำหน้าที่ของพลเมือง ในการใช้สิทธิอันชอบธรรม ที่จะต่อต้านรัฐบาลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เฉกเช่นเจ้าของทรัพย์ มีสิทธิ์ต่อการปกป้องทรัพย์ทุกประการ และ 3. ข้อเรียกร้องตามแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ยังดำรงอยู่
**ผบ.เหล่าทัพตั้งวอร์รูมรับมือ
ส่วนที่กองทัพบก เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ได้มีกลุ่มเสื้อแดงได้เดินทางมาชุมนุมหน้ากองทัพบก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (ผอ.รมน.) และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบกในฐานะเลขาธิการรักษาความมั่นคงภายใน (ลธ.รมน.) กำลังประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่กอ.รมน. เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างกอ.รมน. จากนั้น พล.อ.อนุพงษ์ พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทางออกจากกองทัพบกไปหารือกับนายสุเทพ เทือกสุรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงษ์ ผบ.ทอ. พล.ร.อ. กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ที่ กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ โดยมีการตั้งเป็นวอร์รูมชั่วคราว ขึ้นภายในสโมสร กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 พัน 1 รอ.)
ส่วนพล.อ.เปรม ติณสุลานนท์ ประธานองคมนตรี ยังคงอยู่ในบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ท่ามกลางกำลังคุ้มกันจำนวน 4 กองร้อย จาก ร.1 พัน 1 รอ. ,ร. 1 พัน 2 รอ.,ร.1พัน 3 รอ., ม.พัน.4รอ. โดยไม่ได้เดินทางมาที่ ร.11 รอ. บางเขน ตามกระแสข่าวที่แพร่สะพัดมาตลอดทั้งวัน

**มาร์คตรวจความเรียบร้อยที่พัทยา
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากกรุงเทพฯ เมื่อเวลา 13.00น. เพื่อตรวจเยี่ยมความพร้อมในการประชุมอาเซียนซัมมิท และประเทศคู่เจรจา และร่วมประชุมครม.เศรษฐกิจ ท่ามกลางการอารักขาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้หลังจากนายกฯได้รับรายงานถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงทำการปิดถนนหลายจุดในกรุงเทพฯ ก็เดินทางออกจากโรงแรมรอยัลคลิฟบีช รีสอร์ท ซึ่งเป็นสถานที่ประชุม ไปยังค่ายนวมินทร์ กองบังคับการทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จ.ชลบุรี โดยมีสีหน้าที่เคร่งเครียด ไม่ตอบข้อซักถามใดๆ กับสื่อมวลชน
ต่อมาเวลา 17.15 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากค่ายนวมินทร์ฯ โดยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อกลับกรุงเทพฯ และเข้าหารือกับพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ผบ.เหล่าทัพ และนายทหารระดับสูงที่ ร.1 พัน1 รอ. และจะไปชี้แจงถึงสถานการณ์ให้ประชาชนรับทราบทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ (ช่อง 11 )
มีรายงานว่า ฝ่ายความมั่นคงได้เสนอให้นายกรัฐมนตรี ประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากมีรายงานในทางลึกว่า กลุ่มเสื้อแดงได้เตรียมกำลังไว้อีกจำนวนหนึ่ง สำหรับก่อเหตุ เพียงแต่ยังกบดานอยู่ ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ อย่างไรก็ตาม นายกฯยังเชื่อว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ไม่ให้บานปลายได้ จึงยังไม่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ทั้งนี้ เมื่อกลุ่มเสื้อแดงทราบว่านายกฯ จะไปออกรายการชี้แจงประชาชนที่สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ก็ได้เคลื่อนกำลังจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปปิดล้อมสถานีโทรทัศน์แห่งชาติในช่วงค่ำ

**มาร์คออกทีวีพูลชี้แจงประชาชน
ต่อมาเมื่อเวลา 21.15 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นากยรัฐมนตรี แถลงผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ถึงแนวทางการแก้ปัญหากลุ่มผู้ชุมนุมว่า ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมมีความสับสน และไม่นำไปสู่การพัฒนาประชาธิปไตย อีกทั้งเป็นข้อเรียกร้องที่ต้องการขยายความขัดแย้งไปสู่ผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง และกระทบกับความมั่นคงของประเทศ ซึ่งข้อเรียกร้องให้ยุบสภานั้น ไม่ส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทย ไปสู่แนวทางประชาธิปไตย แต่นำไปสุ่ภาพลักษณ์ของความวุ่นวาย และหากเกิดความรุนแรงขึ้นขณะเลือกตั้ง ก็จะทำให้ภาพลักษณ์ประชาธิปไตยของไทยยิ่งเลวร้ายลง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่าขณะนี้ผู้ชุมนุมร้อยละ70 ได้เดินทางกลับบ้านไปแล้ว เหลือผู้ชุมนุมเพียง ร้อยละ30 ที่ยังคงอยู่ อย่างไรก็ตาม ข้อเรียกร้องที่ประกาศบนเวทีนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย อีกทั้งการปิดถนนสายสำคัญต่างๆ ทำให้ประชาชนประสบกับความเดือดร้อน ซึ่งไม่มีนักประชาธิปไตยคนใด จะสนับสนุน แต่เป็นการกระทำของคนที่ไม่เชื่อในระบอบประชาธิปไตย และไม่เคารพสิทธิของผู้อื่น รัฐบาลต้องขออภัยประชาชนทุกคนที่ได้รับความเดือดร้อน
"รัฐบาลยืนยันว่าจะไม่ใช้ความรุนแรง แต่จะใช้มาตรการทางกฏหมาย โดยไม่ผลีผลาม และไม่ให้กระทบต่อประเทศ ผมยืนยันว่าการบังคับใช้กฏหมายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และกำลังดำเนินการอยู่ ดังนั้นขอให้ผู้ที่ถูกชักจูงให้หลงผิด ขอให้ไตร่ตรองให้ดี และขอให้ยืนอยู่กับผลประโยชน์ของประเทศชาติ ยืนอยู่ข้างคนส่วนใหญ่ และขอให้เดินทางกลับบ้าน เพราะขณะนี้เห็นว่ามีบางจุดที่รัฐบาลสามารถเข้าไปดำเนินการได้ และจะไม่เป็นเงื่อนไข นำไปเป็นข้ออ้างสู่ความรุนแรง ซึ่งจากสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น เราจะแยกแยะผู้ที่มาชุมนุมเพื่อประชาธิปไตย และคนที่ถูกชักจูงให้หลงผิด และคนที่ไม่ทราบว่ากำลังกระทำความผิดออกไป จึงขอให้ประชาชนเลิกการกระทำดังกล่าว ซึ่งจะเหลือเพียงผู้กระทำผิดกฏหมายอย่างจงใจ และชัดเจน และจะต้องถูกดำเนินคดี และถูกลงโทษต่อไป เพราะมีการบันทึกภาพและเสียงไว้เป็นหลักฐานอย่างชัดเจนแล้ว" นายอภิสิทธิ์กล่าว

**ประกาศวันนี้หยุดราชการ
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า เพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตได้สะดวก และกลับมาดำเนินชีวิตได้เหมือนเดิม ขอประกาศให้วันนี้ (10 เม.ย.) เป็นวันหยุดราชการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ของประชาชน และแยกแยะผู้กระทำผิดได้ รวมทั้งขอให้สถานีโทรทัศน์ทุกช่องรายงานสถานการณ์ให้กับประชาชนทราบตลอดเวลา โดยอาศัยกำลังพลจากทหาร ตำรวจ และเทศกิจ ดูแลพื้นที่สาธารณะต่างๆ ไม่ให้เหตุร้ายเกิดขึ้น ส่วนสถานที่ราชการถือเป็นภาระของหัวหน้าส่วนราชการนั้น และมั่นใจว่าจะสามารถรักษาสถานการณ์ให้กลับสู่สภาพปกติได้โดยเร็วที่สุด

**ปชป.ออกแถลงการณ์
ด้านพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกแถลงการณ์ หลังจากที่กลุ่มเสื้อแดงทำการปิดถนน โดยระบุว่าการชุมนุม ได้เกินเลยขอบเขตของกฎหมาย และเกิดความเสียหาย กระทบต่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชนโดยทั่วไป จึงขอเรียกร้องต่อกลุ่มฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องดังนี้
1. ขอให้เจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบใช้ความอดทน อดกลั้นในการคลี่คลายสถานการณ์ โดยให้เร่งรัดการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม และดำเนินการทางกฎหมาย กับผู้กระทำผิดอย่างทันท่วงที โดยตระหนักถึงความสงบสุขของสังคมส่วนใหญ่เป็นสำคัญ ทั้งนี้ ต้องไม่เป็นฝ่ายใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา
2. ขอให้แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ยุติการนำพามวลชนออกปฏิบัติการละเมิดต่อกฎหมาย หรือขัดต่อหลักการประชาธิปไตย โดยเฉพาะการใช้สิทธินอกรัฐธรรมนูญ ที่กำลังล่วงเกินไปกระทบต่อสิทธิของบุคคลอื่นอย่างร้ายแรง
3. ขอให้ผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการชุมนุมเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นแกนนำที่เปิดเผยตัว หรืออยู่เบื้องหลัง ตระหนักในกติกาประชาธิปไตย ที่จะช่วยกันควบคุมไม่ให้การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำผิดกฎหมาย อันจะฉุดรั้งให้สถานการณ์บ้านเมืองเลวร้ายลง กระทบต่อความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
4.ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติการปิดกั้นการจราจร ในเส้นทางที่ประชาชนสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณที่มีโรงพยาบาลตั้งอยู่ เนื่องจากเกิดความเดือดร้อนและกระทบต่อชีวิตของผู้ป่วย และผู้เกี่ยวข้องมากขึ้นทุกที
5. ขอเรียกร้องไปยังสื่อสารมวลชนทุกแขนง ให้ตระหนักในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ประเทศกำลังอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง และล่อแหลม อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และกติกาประชาธิปไตย ดังนั้นการนำเสนอข่าวสารใดๆ จึงต้องรอบคอบ ระมัดระวังไม่ให้เกิดความโน้มเอียง หรือตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดี ต่อระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ การนำเสนอข่าวสารที่มุ่งเน้นให้เกิดความสงบสุข และความเข้าใจอันดีในสังคมเป็นสิ่งที่ผู้เกี่ยวข้องในแวดวงสื่อสารมวลชนพึงให้ความสำคัญสูงสุด
6. ขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ร่วมกันติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด และร่วมกันระงับยับยั้ง ไม่ให้ผู้ใดก่อความรุนแรงใดๆ ขึ้นในประเทศของเรา
ทั้งนี้ ผู้บริหารของพรรคประชาธิปัตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านต่างๆ รวมถึงสมาชิกพรรคทั่วประเทศ พร้อมจะยืนอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ เพื่อธำรงความถูกต้อง ตามหลักนิติธรรม และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

**มท.3ลั่นจัดการม็อบปิดถนนตามกม.
นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ดาวกระจายปิดล้อมสถานที่ต่างๆ รวมทั้งอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินการตามกฎหมายจากเบาไปหาหนัก หากเป็นการกระทำผิดซึ่งหน้า ก็สามารถจับกุมได้ทันที โดยเฉพาะการปิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เจ้าหน้าที่ก็ต้องยกรถที่กีดขวางการจราจรออกจากถนน ส่วนการบุกล้อมศาลรัฐธรรมนูญ และพรรคประชาธิปัตย์นั้น เป็นสิทธิที่สามารถทำได้หากไม่ทำผิดกฎหมาย แต่หากผู้ชุมนุมบุกเข้าไปในสถานที่ ก็ต้องดำเนินการ เพราะไม่ใช่พื้นที่สาธารณะ
" ผมเห็นว่าการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ปลุกระดมให้ผู้ชุมนุมทำเช่นนี้ เป็นการกระทำที่ไม่รับผิดชอบต่อบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง ไม่นึกถึงข้าวแดงแกงร้อน ซึ่งการที่ตนเองร่ำรวยขึ้นมาได้ ก็เพราะประชาชนบริโภคสินค้าของตัวเอง แต่วันนี้กลับทำให้ประชาชนเดือดร้อน ที่สำคัญ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยถามหาความเป็นประชาธิปไตย จากกลุ่มพันธมิตรฯ แต่วันนี้พ.ต.ท.ทักษิณ กลับเป็นเสียเอง แถมยังรุนแรงกว่าด้วย" นายถาวรกล่าว
นายถาวร กล่าวว่าการกระทำของคนเสื้อแดง เข้าข่ายผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (2) พื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร ซึ่งเจ้าหน้าที่ควรจะบังคับใช้กฎหมาย และออกหมายเรียกแกนนำ แต่หากแกนนำไม่ยอมมาตามหมายเรียก ก็ต้องออกหมายจับ และหากยังไม่มามอบตัวอีก ก็จะต้องจับกุมตัวทันที

**"แม้ว"หมดมุก ร้องเพลงเบิร์ด
เวลา 20.25น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้วิดิโอลิงก์ มายังกลุ่มผู้ชุมนุม โดยเริ่มปราศรัยเป็น เสียงเพลง เล่าสู่กันฟัง ว่า "ฝนที่ตกทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้ จึงอยากได้ยินทุกเรื่องราว" วันนี้ทราบว่าโดนฝนเทียม เมื่อคืนก็นอนบนถนน ในชีวิตไม่สามารถนอนบนถนนกันได้ แต่เวลานี้ที่มานอนบนถนน ไม่ใช่ตกทุกข์ได้ยาก แต่กำลังเรียกร้องให้ลูกหลานของเรา คนจะไปนอนคฤหาสน์ใหญ่ยังไงก็แล้วแต่ ไม่มีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของประเทศไทย
"วันนี้ได้รับแจ้งว่า พี่น้องแท็กซี่ไปปิดการจราจรที่อนุสาวรีย์ฯ โดยที่ไม่มีใครสั่ง ต้องขออภัยคนที่ใช้รถ ใช้ถนนในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความไม่สะดวก แต่เพื่ออนาคตของลูกหลานวันข้างหน้า ทนอีกสักนิด เพื่ออนาคตที่ยาวกว่า เราทนสุกๆ ดิบๆ กับประชาธิปไตยมาหลายปี ทำไมจะทนกับความไม่สบาย ไม่สะดวก อีกไม่กี่วันนี้ไม่ได้" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว และได้แสดงความชื่นชมแท็กซี่ ที่ยอมทำผิดกฎหมาย เพื่อจะร่วมกันทำประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นจริง

**ปลุกเสื้อแดงแพ้ไม่ได้
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า การต่อสู้ครั้งนี้ เพื่อถอนรากถอนโคนปฏิวัติ 19 กันยา เพื่อให้เป็นการปฏิวัติครั้งสุดท้าย ของไทย เพื่อให้รธน.ปี 40 เป็นรธน.สุดท้ายที่ถูกฉีกโดยทหาร เป็นการถอนรากถอนโคนอำมาตย์ผู้อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ เพราะฉะนั้นต่อไปนี้การปฏิวัติต้องไม่เกิดขึ้น เพราะอำนาจของประชาชนสูงสุด ต้องไม่มีอำนาจอื่นใดอยู่เหนืออำนาจประชาชน วันนี้เราแพ้ไม่ได้ เราต้องชนะ ถ้าเราแพ้ ประเทศไทยแพ้ ประชาชนแพ้ อนาคตของประเทศและลูกหลานไม่มีความแน่นอน เราต้องต่อสู้ให้ชนะจะต่อสู้อย่างสันติ เรากีดขวางได้ แต่ไม่บุกรุกสถานที่ราชการ เพราะเราไม่มีเส้น ตอนที่ตนเป็นนายกฯ พวกสีเหลืองยึดทำเนียบฯ ตนทำอะไรไม่ได้ เพราะม็อบมีเส้น มีอำมาตย์ แอบหนุนหลังอยู่
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงเรียกร้องให้กลุ่มเสื้อแดงออกมาชุมนุมให้มาก เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้ นายอภิสิทธิ์ ยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่
"อภิสิทธิ์ อายุยังน้อย หากมีสปิริต ควรยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ไม่แน่เข้ามาอาจหล่อกว่านี้ ถ้ายังดื้อ เสียดายอนาคตเวลายังเหลืออีกเยอะ"
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ช่วงนี้หายไปไหน ไม่เห็นออกทีวี เพื่อบอกให้นายอภิสิทธิ์ ลาออก ทีช่วงที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ มาบอกให้นายสมชายลาออก อย่างนี้เรียกว่า อิทธิพลอำมาตย์เช่นกัน
"ได้ข่าวว่ามีทหารคนหนึ่งบอกว่า วิธีการที่เราทำอย่างนี้เป็นวิธีการคอมมิวนิสต์ ไอ้บ้าเอ้ย วันนี้คอมมิวนิสต์ มีแต่ชื่อ ดูอย่างประเทศจีน เขาเป็นทุนนิยมขนาดไหน คนที่สนับสนุนอำมาตย์ เป็นความคิดเก่าๆไม่ยอมเข้าใจว่า การเปลี่ยนแปลงของโลกไปถึงไหนแล้ว ไม่ยอมรับฟังเสียงส่วนใหญ่ ดูถูกเสียงชาวไร่ ชาวนา บอกว่าเป็นเสียงไม่มีคุณภาพ สู้เสียงอำมาตย์ไม่ได้ "
พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า อย่าปล่อยให้โอกาสเช่นนี้ หลุดมือไป ต่อไปนี้ มีแต่บุกไม่มีถอย หากมีการใช้กำลังปราบปรามก็ขอให้ประชาชนจากต่างจังหวัด เดินทางเข้ามากรุงเทพฯ เพื่อร่วมกันต่อสู้

**ชี้"แม้ว"ยึดแนวทางคอมมิวนิสต์
พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวถึงทางออกของปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้ว่า ขึ้นอยู่เงื่อนไขของแต่ละฝ่ายที่เขาจะพิจารณาว่า อยู่ในกรอบกฎหมายหรือไม่ ซึ่งอะไรก็แล้วแต่ ที่อยู่ในกรอบของกฎหมาย คงจะเจรจากันได้ แต่ถ้าอะไรที่อยู่นอกเหนือกฎหมาย คงจะเจรจาไม่ได้
เมื่อถามว่า การเรียกร้องให้ประธานองคมนตรี และองคมนตรี ลาออกเป็นข้อเรียกเกินไปหรือไม่ พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า คนที่เรียกร้องจะต้องไปคิดดูให้ดีว่า รัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทยทุกฉบับ เขียนไว้ และมีหมวดองคมนตรีตลอด ซึ่งองคมนตรีปฏิบัติหน้าที่ให้คำปรึกษากับพระมหากษัตริย์ อะไรก็แล้วแต่ที่จะไปเกี่ยวข้องอะไร ที่ไม่บังควร ต้องดูว่าเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งตนคิดว่าคนไทยจะต้องพิจารณาถึงสิ่งที่เขาเรียกร้อง
"ประเทศไทยเคยมีวิกฤตมาหลายครั้ง และเคยเสียกรุงครั้งแรกเมื่อปี 2112 จากนั้นประมาณปี 2310 ก็เสียกรุงครั้งที่สอง ซึ่งทั้งสองครั้งเกิดจากการที่คนไทยไม่มีความสามัคคี และตอนที่เสียกรุงคือ วันสงกรานต์ ของปี 2310 ดังนั้นคงจะต้องคิดให้ดี เพราะใกล้ช่วงสงกรานต์แล้ว หากเรายังมัวทะเลาะกันประเทศชาติคงมีปัญหาตลอด และคนที่สร้างเงื่อนไขอะไรต่าง ๆ คนไทยคงจะนึกถึงและย้อนไปในอดีตว่าศัพท์ที่พูดว่า วันเสียงปืนแตก หรือปฏิวัติประชาชน เป็นศัพท์ของคอมมิวนิสต์เก่าทั้งนั้น ซึ่งเหมือนเป็นขบวนการ หรืออุดมการณ์เก่าๆ ที่กำลังจะกลับมาใหม่ โดยใช้เงื่อนไข ที่มีผลประโยชน์สอดคล้องกัน ซึ่งวันเสียงปืนแตก เป็นวันที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่ได้ดำเนินการกองโจร ที่ดำเนินการจรยุทธ์ และหลังจากนั้นประเทศไทยก็เกิดปัญหาเกี่ยวกับการต่อสู้กับการก่อการร้าย ที่พยายามล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และต้องการเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์ ดังนั้น อยากฝากให้ประชาชนคิดให้ดีว่า สิ่งที่เขาเรียกร้องเพื่อผลประโยขน์ของประเทศหรือไม่ หรือว่าเพื่อกลุ่มใคร ผมพูดในฐานะคนไทยคนหนึ่งว่า เป็นห่วงประเทศชาติ" พล.อ.อ.อิทธพร กล่าว
เมื่อถามว่า กองทัพจะมีการดำเนินการดูแลเกี่ยวกับคอมมิวนิสต์ อย่างไร พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า กองทัพดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมาย อะไรที่ถูกต้องชอบธรรมเราจะไม่ลังเลในการปฏิบัติ
ทั้งนี้ คิดว่าทุกอย่างจะต้องดำเนินการด้วยการดูกฎหมาย ซึ่งการแก้ปัญหาอะไรต่างๆ ต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย ไปดูรัฐธรรมนูญ มาตรา 113 และ 68 ที่เขียนไว้ชัดเจนว่า เขาทำเกินขอบเขตหรือไม่ ต้องดูให้ดี และถ้าท่านทำเกินขอบเขตจะมาร้องเรียน หรือแก้ตัวทีหลังว่าทำอยู่ในกรอบของกฎหมาย ก็คงจะต้องไปต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม ปัจจุบันจะต้องให้กระบวนการยุติธรรม เป็นกระบวนที่ตัดสิน.
กำลังโหลดความคิดเห็น