คนกรุงสดทน"แดงถ่อย" ที่จะไปปิดถนนย่านสาทร รวมตัวเข้าประชิด โห่ไล่ ขว้างปาขวดน้ำใส่ จนแตกกระเจิง ขณะที่ รพ.ย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ ยังวิกฤติ รพ.ราชวิถี ออกซิเจนหมด ต้องเจรจาขอเปิดทาง แต่พวกแดงจัญไรไม่เชื่อ ขณะที่ รพ.รามาฯ ต้องปิดคลีนิกพิเศษนอกเวลา ระบบการส่งต่อคนไข้ต้องชะงัก สร้างความเดือดร้อนอย่างหนัก ทัวร์กรุงเทพฯ ยกเลิกหมด สูญวันละ6 ล้าน "ประสงค์" ชี้ "แม้ว" กบฎตัวจริง จี้ตำรวจดำเนินคดีแท็กซี่ พร้อมแกนนำ ด้านผบช.น. ขอศึกษาข้อกฎหมายก่อนออกหมายจับ ล่าสุด อ้างหลังสงกรานต์จะระดมมาใหม่ "นช.แม้ว"ปากเก่ง ท้าให้รีบออกหมายจับ
หลังจากกลุ่มเสื้อแดง ปฏิบัติการดาวกระจายไปปิดล้อมสถานที่สำคัญ 3 แห่ง คือที่พรรคประชาธิปัตย์ กระทรวงการต่างประเทศ และศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนใช้ขบวนรถแท็กซี่ เข้าปิดล้อมอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในช่วงบ่ายวันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา ทำให้การจราจรถนนบริเวณโดยรอบติดขัดถึงขั้นเป็นอัมพาต สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สัญจรไปมา และผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลบริเวณดังกล่าว ต่างก่นด่า สาบแช่งกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ไม่มีจิตสำนึก ไร้มนุษยธรรม
กระทั่งเช้าวานนี้ (10 เม.ย.) กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปักหลักอยู่บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สร้างความเดือดร้อนให้กับคนไข้ตามโรงพยาบาลในย่านนั้น ขณะที่บางส่วนยังคงชุมนุมอยู่ที่สะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล
คนกรุงสุดทนไล่เสื้อแดงกระเจิง
ต่อมาในช่วงสาย กลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 40-50 คนได้นั่งรถแท็กซี่ และรถปิกอัพ ไปปิดแยกถนนสาทร ตัดกับถนนนราธิวาส ทำให้การจราจรในบริเวณดังกล่าวติดขัดอย่างหนัก พนักงานบริษัทบนอาคารสูงในย่านดังกล่าว เช่น ตึกเอ็มไพร์ ซิตี้แบงก์ สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ต่างไม่พอใจคนเสื้อแดง ออกมารวมตัวกัน ด่าทอ ปาขวดน้ำเข้าใส่ และบางคนลงมารุมล้อม เขย่ารถ เผาธงสัญญลักษณ์ของกลุ่มคนเสื้อแดง จนต้องหนีกระเจิงไป และสามารถเปิดการจราจรได้ตามปกติ
รามาฯปิดคลินิกพิเศษนอกเวลา
นพ.ธันย์ สุภัทรพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวถึงสถานการณ์ภายในโรงพยาบาลวานนี้(10 เม.ย.)ว่า มีผู้ป่วยเดินทางมารับการรักษาค่อนข้างน้อย โดยมีผู้ป่วยนอกประมาณ 600 คน ซึ่งแพทย์ได้ตรวจรักษาแล้วเสร็จก่อนเที่ยง สามารถเคลียร์พื้นที่ให้บริการผู้ป่วยนอกได้ 100% เพื่อรองรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ส่วนผู้ป่วยก็ได้รับรักษาได้และสามารถดินทางกลับบ้านได้ตามปกติ
ทั้งนี้ ยืนยันว่าโรงพยาบาลยังคงรับรักษาเป็นปกติ รวมทั้งยังมีการจ่ายยาให้ผู้ป่วยที่ต้องรับยาต่อเนื่องตามปกติ แต่ในส่วนของคลินิกนอกเวลา ทางโรงพยาบาลได้ปิดทำการ รวมทั้งวันนี้(11 เม.ย.) เนื่องจากยังไม่ทราบว่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปในทิศทางใด เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงต่อทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ
ด้านนพ.มัยธัช สามเสน ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา เปิดเผยว่า ได้รับผลกระทบจากการปิดเส้นทางจราจรของกลุ่มเสื้อแดง โดยงานที่จะต้องทำก็ไม่ได้ทำ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ป่วยที่มารักษาตัวที่สถาบันฯ มีไม่มากนัก โดยเฉลี่ย 700 คนต่อวัน ซึ่งวานนี้ (10 เม.ย.) คาดว่า จะมีผู้ป่วยมารับบริการประมาณ 100 คน เนื่องจากการเดินทางลำบาก ซึ่งแม้ว่าทางสถาบันฯ ถือเป็นวันหยุดราชการ แต่ในส่วนของการตรวจรักษายังดำเนินการตามปกติ
ราชวิถี วุ่นออกซิเจนคนป่วยหมด
พญ.วารุณี จินารัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า มีประชาชนมารักษาที่โรงพยาบาลค่อนข้างเบาบาง เพราะยังมีการปิดล้อมบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่งผลให้การเข้าออกโรงพยาบาลเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งขณะนี้โรงพยาบาลประสบปัญหาออกซิเจนใช้สำหรับช่วยหายใจของผู้ป่วยใกล้จะหมดคลังแล้ว เหลือเพียง 2 ถัง ซึ่งเป็นขนาดที่สามารถใช้ได้นานอีกถังละ 2 วัน และถังละ 4 วัน ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ป่วยที่อาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะไม่ปกติ จึงจำเป็นต้องมีการสำรองถังออกซิเจนเพิ่มอีกเท่าตัว แต่ไม่สามารถนำเข้ามาส่งที่โรงพยาบาลได้ เพราะไม่กล้าเข้ามาบริเวณชุมนุม เนื่องจากเกรงจะเกิดอันตราย
ทั้งนี้ โรงพยาบาลได้นัดให้มาส่งออซิเจนในวันที่ 11 เม.ย.นี้ ระหว่าง 23.00-01.00 น. โดยจะประสานบช.น. และผบก.สน.พญาไท และทำหนังสือถึงผู้นำการชุมนุมของม็อบเสื้อแดง เพื่อให้อำนวยความสะดวกในส่งออกซิเจนเหลวด้วย
พ.ญ.วารุณี กล่าวด้วยว่า เนื่องจากรถที่ขนส่งออกซิเจน เป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ และบรรทุกถังออกซิเจนมาเต็มคันรถ ซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อผู้ที่อยู่ใกล้เคียงได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของขนส่งจึงต้องมีรถตำรวจนำขบวน ซึ่งรถบรรทุกจะต้องขนส่งถังออกซิเจนให้กับโรงพยาบาลอื่นในสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขด้วย เช่น สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี สถาบันประสาท สถาบันมะเร็งแห่งชาติ เป็นต้น
ส่วนการที่กลุ่มเสื้อแดงไม่เชื่อว่าออกซิเจนหมดนั้น ขอยืนยันว่า หมดจริง เพราะปกติจะมีการนำส่งทุกวันศุร์ เมื่อมีการปิดการจราจรเช่นนี้ ก็ไม่สามารถนำเข้ามาส่งได้
นอกจากนี้ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นอื่นๆ ที่จำเป็นต้องขนส่งมายังโรงพยาบาลอีก ก็จะประสานไปยังแกนนำเสื้อแดงต่อไป ซึ่งขณะนี้ทางโรงพยาบาลก็ได้หารือกันเพื่อทบทวนมาตรการในการควบคุม และปฏิบัติภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ปกติ
ระบบส่งต่อผู้ป่วยเป็นอัมพาต
นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า การยึดพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่งผลกระทบกับโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียง โดยเฉพาะการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลตติยภูมิ รับผู้ป่วยที่ส่งต่อจากเขตปริมณฑล เช่น จ.สระบุรี อยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี ที่ขึ้นตรงกับกรมการแพทย์ เป็นไปด้วยความยากลำบากขึ้น เกิดการหยุดชะงัก
"การส่งต่อผู้ป่วยมีการวางโซนนิ่ง ตามพื้นที่ต่างๆ อยู่แล้ว หากไม่สามารถส่งต่อได้โรงพยาบาลก็จะต้องส่งต่อไปโรงพยาบาลอื่น ที่อยู่ใกล้เคียงที่สุด ซึ่งส่งผลให้เกิดการกระจุกตัวที่โรงพยาบาลอื่นที่มีความแออัดอยู่แล้ว จึงขอร้องให้กลุ่มคนเสื้อแดงอย่าสร้างปัญหา และภาระให้กับโรงพยาบาลเลย" นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว
ด้านนพ.พงษ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ เลขาธิการมูลนิธิแพทย์ชนบท กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเช่นนี้ เป็นการละเมิดสิทธิของผู้อื่น โดยเฉพาะการรักษาพยาบาล เจ็บป่วยเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ อย่างโรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแม่และเด็ก หากมีการฝากครรภ์ เจ็บท้องคนที่ใกล้คลอดจะเดินทางไปที่โรงพยาบาลได้อย่างไร ซึ่งส่งกระทบกับผู้ป่วยมากจริงๆ
ยกเลิกโปรแกรมทัวร์กรุงเทพ
นายอภิชาติ สังฆอารีย์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ผลจากการปิดถนนของกลุ่มเสื้อแดง ทำให้บริษัทนำเที่ยวต้องปรับเปลี่ยนโปรแกรมทัวร์ในกรุงเทพฯทั้งหมด บางรายถึงกับต้องยกเลิกไปเลย เพื่อป้องกันความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ทำให้ต้องสูญเสียรายได้จากการขายทัวร์วัน หรือ เดย์ทริปไปมากกว่า 6 ล้านบาทต่อวัน จากจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 5,000 คน เฉลี่ยคนละ 1,200 บาท ทั้งนี้ยังไม่รวมเงินที่นักท่องเที่ยวจะใช้จับจ่ายในแต่ละวันเพื่อเลือกซื้อสินค้า ของที่ระลึก ในการเดินทางไปเที่ยวชมในที่ต่างๆ เช่น พระบรมมหาราชวัง(วัดพระแก้ว)
"ปกตินักท่องเที่ยวจะเข้ามาเที่ยวกรุงเทพฯโดยเฉพาะรอบเกาะรัตนโกสินทร์ และวัดพระแก้ว วันละเป็นหมื่นคน แต่ขณะนี้เข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่น จึงมีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงราวครึ่งหนึ่ง แต่หากสถานการณ์ปิดถนน และการชุมนุมยังยืดเยื้อต่อไปอีก 1-2 วัน คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่กำลังจะเดินทางเข้าประเทศไทย ขอยกเลิกอีกจำนวนมาก โดยเมื่อวานนี้ ก็มีทัวร์จากประเทศจีนขอยกเลิกการเดินทางเข้ามาเพิ่มเติมอีก 2-3 ทริป คิดเป็นจำนวนกว่า 100 คน ซึ่งตอนนี้ทั้งเคาน์เตอร์ทัวร์ และ บริษัททัวร์ ต่างก็หยุดขายทัวร์วันแล้ว ก็รอดูว่าเมื่อใดสถานการณ์จะกลับสู่ปกติ แต่โปรแกรมทัวร์ต่างจังหวัดยังคงขายตามปกติ"
ททท.เรียกประชุมผู้บริหารรับมือ
นางสาวเพ็ญสุดา ไพรอร่าม รองผู้ว่าการด้านบริหาร และรักษาการผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การชุมนุมของม็อบเสื้อแดง ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในพื้นที่กรุงเทพ ส่วนในต่างจังหวัดไม่น่าจะมีผลกระทบ ล่าสุด ททท.ได้รียกประชุมคณะผู้บริหาร ททท.ด่วน เพื่อหาทางรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นหากเหตุการณ์บานปลายและยืดเยื้อไปมากกว่านี้
ด้านนายสุรัตน์ วงศ์ชาญศิลป์ นายกสมาคมผู้ประกอบการค้า ถนนข้าวสาร กล่าวว่า การชุมนุมที่ยืดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อกิจการร้านค้าที่ถนนข้าวสารอย่างแน่นอน เพราะเป็นย่านท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ และเป็นศูนย์กลางการเล่นสงกรานต์ในกรุงเทพฯด้วย โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม แบ็คแพ็ก จึงสามารถปรับเปลี่ยนที่พักและที่เที่ยวได้ทันที่ หากรู้ว่ามีเหตุการณ์ไม่สงบ ดังนั้นเมื่อเกิดการชุมนุม อาจทำให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเปลี่ยนไปเดินทางที่อื่นในต่างจังหวัด หรือบางรายอาจเปลี่ยนไปเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ล่าสุดการประชุมร่วมกันของผู้ประกอบการย่านข้าวสาร พบว่า ก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจองห้องพักช่วงสงกรานต์ 95% แต่ปีนี้ ณ วันที่ 10 เม.ย. 52 มียอดจองเข้าพักช่วงสงกรานต์เหลือเพียง 20% เท่านั้น ส่วนที่พักอยู่แล้วก็ทยอยเช็คเอาท์ออกไป
หากรัฐบาลยังปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อ จะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาถนนข้าวสารลดลงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ว่า จะมีราว 2 แสนคน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สร้างรายได้หมุนเวียน 300 ล้านบาท ก็จะลดลงเช่นกัน
ถอนกำลังจากอนุสาวรีย์ชัยฯ
ต่อมานายจตุพร พรหมพันธุ์ ปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล ว่าการต่อสู้ของเสื้อแดง ทำให้ได้วันหยุดเพิ่ม 1 วันและหลังเทศกาลสงกรานต์ จะมีการนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งเพื่อล้มรัฐบาลแบบแตกหัก ส่วนการชุมนุมที่ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ ถือเป็นจุดที่ไม่สำคัญแล้ว ดังนั้นภายในเวลา 17.00 น. จะสลายการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เพื่อไปสมทบที่ทำเนียบฯ
ขณะที่ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำเสื้อแดง ได้ปราศรัยบนเวทีชั่วคราวบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในช่วงบ่าย โดยได้ประกาศขอให้กลุ่มเสื้อแดงที่ชุมนุมอยู่ เคลื่อนย้ายไปสมทบกับกลุ่มเสื้อแดงที่พัทยา เพื่อขัดขวางการประชุมอาเซียน+3และ+6
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00น. กลุ่มเสื้อแดงที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้สลายตัว เดินกลับไปสมทบกันที่ทำเนียบรัฐบาล โดยทิ้งกองขยะจำนวนมากไว้ทั่วบริเวณ โดยเฉพาะที่เกาะกลางถนน ส่วนที่แยกสุทธิสาร สุขุมวิท 71 ก็มีการสลายตัวกลับมารวมที่ทำเนียบฯ เช่นกัน
ปาบึ้มปั๊มน้ำมันขู่เอเอสทีวีห่าง100ม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 9เม.ย. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ปั๊มน้ำมันปตท.ของบริษัท ขวัญดาวปิโตรเลียม จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับโค้งป้อมพระสุเมรุ ถ.พระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. ห่างจากสถานีโทรทัศน์ เอเอสทีวี และสำนักงานหนังสือพิมพ์เอเอสทีวี-ผู้จัดการ ประมาณ 100 เมตร
ส่วนมือปาระเบิดที่ก่อเหตุทราบว่า เป็นผู้ขับขี่รถแท็กซี่สีเขียว หมายเลขทะเบียน ทม-2454 กทม. ซึ่งขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยได้ขับรถติดตามไปจนถึงเชิงสะพานวันชาติ แต่จุดดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มคนเสื้อแดง ตั้งด่านตรวจตราความเรียบร้อย ซึ่งแม้ตำรวจจะจับกุมคนร้ายไว้ได้ แต่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงกดดัน สุดท้ายจึงต้องปล่อยตัวไป
ทั้งนี้ คาดว่า คนร้ายประสงค์จะปาระเบิดดังกล่าวใส่สถานีโทรทัศน์ เอเอสทีวี แต่ปรากฏว่ามีคนพลุกพล่าน ขณะเดียวกันมีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ทำให้คนร้ายเปลี่ยนใจไปปาระเบิดใส่ปั๊มน้ำมันแทน เพื่อหมายข่มขู่และสร้างความวุ่นวายขึ้น
ประณาม"นช.แม้ว"กบฏตัวจริง
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตสนช.กล่าวถึงการปืดถนน ของกลุ่มคนเสื้องแดงว่า เป็นเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจบกพร่องต่อหน้าที่ ปล่อยให้รถแท็กซี่เพียงไม่กี่คัน ปิดบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้อย่างไร ทั้งที่เป็นเส้นเลือดหลักของการจราจร ส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อน ทั้งที่การกระทำดังกล่าวถือว่าผิดกฏหมาย และยังละเว้นต่อปฏิบัติหน้าที่ ไม่ดำเนินการเคลียร์พื้นที่จราจร หรือดำเนินคดีกับพวกแท็กซึ่ จึงขอตำหนิเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในเรื่องงาน ด้านการข่าว และการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ จึงขอเสนอให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการสอบสวน ผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป รวมทั้งพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ความไม่เข้มแข็งต่อหน้าที่ของตำรวจ ปล่อยปละให้ผู้ชุมนุมขยายผลปิดช่องการจราจรทั่วกรุงเทพฯ และปล่อยเรื้อรังไปอย่างนี้เรื่อยๆ พวกเสื้อแดงอาจฮึกเหิม จนถึงขั้นเผาสถานที่ราชการได้ ซึ่งถือเป็นวันสุดท้ายของการชุมนุมตามที่ได้ประกาศไว้ แต่หากไม่มีสถานการณ์รุนแรงในวันสุดท้าย ก็อาจจะสลายตัวชั่วคราว และจะกลับมาใหม่หลังวันสงกรานต์ เพราะพวกเสื้อแดงไม่มีกฎเกณฑ์ ยึดถือผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง และพร้อมจะรับใช้ทันที หากหยิบยื่นผลประโยชน์ให้ ดังนั้นรัฐบาลจะประมาทไม่ได้
ส่วนการออกมาแถลงของนายกรัฐมนตรี เมื่อคืนวันที่ 9 เม.ย. ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบ รวมถึงมาตรการที่จะดำเนินการต่อจากนี้ พร้อมปฏิเสธข้อเรียกร้องของพวกเสื้อแดงที่เสนอให้รัฐบาลยุบสภา และนายกฯ ต้องลาออก ซึ่งถือว่าถูกต้อง เพราะเงื่อนไขเหล่านี้ไร้สาระ และขอให้รัฐบาลใช้อำนาจรัฐที่มีอยู่ในมือ ดำเนินการตามกฎหมายต่อกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างเด็ดขาด เพราะการปิดการจราจรถือว่าผิดกฏหมายทั้งสิ้น รวมไปถึงการหาช่องกฎหมายตัดสัญาณวิดีโอลิงก์ ของ นช.ทักษิณ เพราะเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า มีการปลุกระดมเพื่อล้มล้างสถาบันฯ และล้มล้างการปกครอง ซึ่งถือเป็นกบฎ รวมทั้งจับกุมแกนนำทั้งหมด และผู้ร่วมกระทำ เช่น พวกแท็กซี่จะต้องถูกจับกุม วันนี้นายอภิสิทธิ์ ต้องบัญชาการด้วยตัวเอง อย่าไปฝากความหวังไว้ที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง เพราะยิ่งนานวัน ธาตุแท้จะเผยออกมาให้เห็นเรื่อยๆ
ผบช.น.ขอศึกษากม.ก่อนขอหมายจับ
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. เรียกประชุมรอง ผบช.น. และ ผบก.น.1-9 เพื่อประเมินสถานการณ์ การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ตั้งแต่เวลา 06.30 น. โดยใช้เวลาหารือกว่า 4 ชั่วโมง
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้เปลี่ยนยุทธวิธีจากการปิดล้อมบริเวณบ้านสี่เสาเทเวศร์ ไปยังจุดต่างๆ ในกรุงเทพฯ ทำให้ต้องมีการปรับแผน กระจายกำลังไปยังจุดที่มีการปิดถนน และปรับกำลังบริเวณหน้าบ้านสี่เสาฯไปเสริมในส่วนอื่น แต่ยังคงไว้บางส่วน เพื่อป้องกันเหตุตลอดเวลา
ส่วนการดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มเสื้อแดงนั้น ให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายกฎหมาย ในการหาช่องทางเพื่อจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุม ส่วนกรณีการขออนุมัติหมายจับแกนนำ ก็กำลังดำเนินการอยู่เช่นกัน
ทั้งนี้ มีรายงานว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้สั่งการให้ทางตำรวจนครบาล เร่งดำเนินการในการออกหมายจับแกนนำกลุ่มเสื้อแดง ที่เป็นผู้สั่งการเคลื่อนไหว นอกเหนือจากข้อหากีดขวางการจราจร โดยคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 3 วัน ในการรวบรวมพยานหลักฐานในการขอหมายจับ
"เผยแผนก่อวินาศภัยทั้งไฟ-ระเบิด
พล.ต.ท.วรพงษ์ เปิดเผยอีกครั้งว่า จากการข่าว 70 % ว่าจะมีการวินาศภัยโดยจะใช้วิธีไฟเผาและระเบิด แต่ขอปกปิดเป้าหมายพื้นที่ ซึ่งได้ประสานขอกำลังจากทหาร เทศกิจ มาร่วมการปฎิบัติในครั้งนี้ ทั้งนี้ หากศาลอนุมัติหมายจับ แกนนำเสื้อแดง ทางตำรวจก็พร้อมปฎิบัติตาม แต่การปฎิบัติก็จะไม่ให้มีการสูญเสียเกิดขึ้น
เชื่อ"เสื้อแดง"แพ้"สงกรานต์"ฝ่อไปเอง
พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ส.(สันติบาล) กล่าวว่า อีกไม่นาน การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง จะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น แนวร่วมบางส่วนก็ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แล้ว ขณะเดียวกัน ฝ่ายรัฐบาลก็กำลังเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด กับผู้ชุมนุมที่กระทำผิด ส่วนการข่าวเฝ้าระวังกลุ่มบุคคลมือที่ 3 ที่อาจฉกฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวาย หลังมีกระแสข่าวจะมีการลงมือก่อเหตุนั้น ขอยืนยันว่าจากการตรวจสอบไม่พบตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ประมาท ยังคงมีการสั่งเฝ้าระวังติดตามความเคลื่อนไหว ประเมินด้านการข่าวอย่างต่อเนื่อง
"ชัยสิทธิ์"อ้างไปนอกทำธุระไม่ได้หนี
พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผบ.สส. ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ถึงกรณีที่ถูกวิจารณ์ว่า"ตระกูลชินวัตร" หนีออกนอกประเทศ เพื่อปัดความรับผิดชอบหากเกิดเหตุการณ์รุนแรงในการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า "ไอ้บ้า มันไม่มีอะไรเลย ผมมาต่างประเทศเพราะมาทำธุระ ไม่ได้หลบหนีตามที่ถูกกล่าวหา ผมเดินทางต่างประเทศไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ผมไม่กลัวมันด้วย ผมจะหนีออกมาทำไม ไม่มีเหตุผลที่จะต้องหนีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น"
พล.อ.ชัยสิทธิ์ ฝากถามไปถึงคนที่กล่าวหาว่า “ตระกูลชินวัตร” หลบหนีไปต่างประเทศเพราะเกรงสถานการณ์จะรุนแรงว่า "ผมเคยกลัวใครมั่ง ถามมันดู มากล่าวหาว่าผมหนีได้อย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นคนที่กล่าวหาคงเกิดความวิตกจริตกันไปเอง ทั้งๆ ที่ผมไม่มีอะไรเลย เพียงแต่มาทำธุระที่ต่างประเทศเท่านั้น"
ชี้แผนดาวกระจายล้มเหลว
นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว สรรหา กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ในขณะนี้ว่า จากการเปลี่ยนจากการชุมนุมโดยสงบของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่กลับมาปิดการจราจรจนกลายเป็นจลาจล จนเลยไปถึงการเข้าไปป่วนการประชุมอาเซียน ที่พัทยา แสดงว่าการต่อสู้ที่ผ่านมาได้พ่ายแพ้แล้ว เนื่องจากไม่สามารถกดดันรัฐบาลตามข้อเรียกร้องได้ จะเห็นได้จากการไปยกระดับการชุมนุม โดยดาวกระจายไปสถานที่สำคัญต่างๆ ถือว่าล้มเหลว จึงเปลี่ยนมาใช้วิธีละเมิดกฎหมายบ้านเมือง ทำให้ประชาชนที่เดินทางมารับการรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี ไม่ได้รับความสะดวก การกระทำของกลุ่มเสื้อแดงที่กระทำเช่นนี้เหมือนเอาชีวิตของคนไข้มาเป็นเดิมพัน ในข้อเรียกร้องที่ไร้สติ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผู้นำของกลุ่มคนเสื้อแดง สามารถที่จะประทุอารมณ์ได้ตลอดเวลา จนกลายไปสู่ความรุนแรงได้ ดังนั้นจึงเห็นด้วยที่นายกฯ ประกาศบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งคัด เพื่อรักษานิติรัฐ ให้คงอยู่คู่สังคมไทย
"แม้ว"ท้าให้รีบออกหมายจับ
ด้านนช.ทักษิณ ชินวัตร ยังปราศรัยผ่านวิดิโอลิงก์ มาที่ทำเนียบรัฐบาลโดยกล่าวถึงกรณีกลุ่มเสื้อแดง ที่ไปขัดขวางการประชุมอาเซียน+3 และ+6 ที่พัทยา เกิดการประทะกับกลุ่มเสื้อน้ำเงิน ว่า พี่น้องเสื้อแดงเจ็บ ตนก็เจ็บด้วย และขอให้ระดมคนไปที่พัทยาอีกเพื่อช่วยเหลือกัน
ส่วนที่รัฐบาลเตรียมออกหมายจับแกนนำกลุ่มเสื้อแดง ที่ให้แท็กซี่ไปปิดถนน รวมทั้งตนเองด้วยนั้น ก็ขอให้รีบออกมาเถอะ จะได้เป็นการเรียกกลุ่มเสื้อแดงให้ออกมากันเยอะๆ
นช.ทักษิณ ยังคงกล่าวโจมตีองคมนตรี ว่าอยู่เบื้องหลังรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และเป็นตัวการให้เกิดระบบสองมาตรฐาน พร้อมยกพระราชดำรัสในหลวง รัชกาลที่ 7 ที่ว่า "ข้าพระเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่เดิม ให้กับราษฏรทั่วไป แต่ไม่ยอมยกอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าให้กับคณะใด เพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิขาด และไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของราษฏร" มาโจมตีด้วย
นช.ทักษิณ ยังกล่าวเรียกความสงสารจากกลุ่มคนเสื้อแดง ว่านอกจากจะมีการออกหมายจับตน มีการตามล่าเพื่อเอาตัวไปลงโทษแล้ว ยังมีการส่งคนอีกชุดหนึ่งมาตามฆ่าตนด้วย
"มาถึงขนาดนี้แล้ว ไม่มีใครกลัวใครหรอกครับ ผมแพ้ไม่ได้ ถ้าแพ้พี่น้องประชาชนแพ้ อนาคตลูกหลานแพ้ ประเทศไทยแพ้ มันไม่ใช่เพื่อผม ผมเป็นคนนำการต่อสู้ ผมมาจากประชาชนมีเสียงมากมาย แต่ถูกโค่นล้มจากการวางแผนของอำมาตย์ ผมยอมตอนนี้ก็แสดงว่าประชาชนไม่มีทางต่อสู้แล้ว คนจนก็จนต่อไป ลูกหลานคนจนจะถูกสาบ จนต่อไป เพราะรัฐบาลเอาใจอำมาตย์อย่างเดียว"
นช.ทักษิณ ยังกล่าวให้ความหวังกับคนเสื้อแดงว่า หากตนมีโอกาสกลับมาบริหารประเทศ จะพักหนี้พี่น้องให้หมด ปัญหาของแท็กซี่ ตนจะกลับไปจะแก้ไขให้เอง ทหารที่ถูกตัดเบี้ยหวัดก็จะกลับมาเพิ่มให้
"กำนันผู้ใหญ่บ้านถูกสั่งให้จับคนใส่เสื้อน้ำเงินมา เพราะพวกแดงกำลังล้มสถาบันฯ มึงเอาอะไรมาพูด พวกกูต้องการประชาธิปไตย สังคมที่ยุติธรรม ฟังให้ชัดนะ พวกกูต้องการเสรีภาพ ความเสมอภาค ภราดรภาพ สังคมยุติธรรม ระบบของพวกกู มีพระมหากษัตรยิ์ ทรงเป็นประมุข พี่น้องทหารได้ข่าวถูกตัดเบี้ยหวัดไม่เป็นไร กลับไปเพิ่มให้ใหม่ แถวหนึ่งถูกจับ แถวสองลุกขึ้น เราจะยอมไม่ได้ พี่น้องต่างจังหวัดมาเล่นสงกานต์ที่กรุงเทพดีไหม" กล่าว
หลังจากกลุ่มเสื้อแดง ปฏิบัติการดาวกระจายไปปิดล้อมสถานที่สำคัญ 3 แห่ง คือที่พรรคประชาธิปัตย์ กระทรวงการต่างประเทศ และศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนใช้ขบวนรถแท็กซี่ เข้าปิดล้อมอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในช่วงบ่ายวันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา ทำให้การจราจรถนนบริเวณโดยรอบติดขัดถึงขั้นเป็นอัมพาต สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สัญจรไปมา และผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลบริเวณดังกล่าว ต่างก่นด่า สาบแช่งกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ไม่มีจิตสำนึก ไร้มนุษยธรรม
กระทั่งเช้าวานนี้ (10 เม.ย.) กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปักหลักอยู่บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สร้างความเดือดร้อนให้กับคนไข้ตามโรงพยาบาลในย่านนั้น ขณะที่บางส่วนยังคงชุมนุมอยู่ที่สะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล
คนกรุงสุดทนไล่เสื้อแดงกระเจิง
ต่อมาในช่วงสาย กลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 40-50 คนได้นั่งรถแท็กซี่ และรถปิกอัพ ไปปิดแยกถนนสาทร ตัดกับถนนนราธิวาส ทำให้การจราจรในบริเวณดังกล่าวติดขัดอย่างหนัก พนักงานบริษัทบนอาคารสูงในย่านดังกล่าว เช่น ตึกเอ็มไพร์ ซิตี้แบงก์ สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ต่างไม่พอใจคนเสื้อแดง ออกมารวมตัวกัน ด่าทอ ปาขวดน้ำเข้าใส่ และบางคนลงมารุมล้อม เขย่ารถ เผาธงสัญญลักษณ์ของกลุ่มคนเสื้อแดง จนต้องหนีกระเจิงไป และสามารถเปิดการจราจรได้ตามปกติ
รามาฯปิดคลินิกพิเศษนอกเวลา
นพ.ธันย์ สุภัทรพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวถึงสถานการณ์ภายในโรงพยาบาลวานนี้(10 เม.ย.)ว่า มีผู้ป่วยเดินทางมารับการรักษาค่อนข้างน้อย โดยมีผู้ป่วยนอกประมาณ 600 คน ซึ่งแพทย์ได้ตรวจรักษาแล้วเสร็จก่อนเที่ยง สามารถเคลียร์พื้นที่ให้บริการผู้ป่วยนอกได้ 100% เพื่อรองรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ส่วนผู้ป่วยก็ได้รับรักษาได้และสามารถดินทางกลับบ้านได้ตามปกติ
ทั้งนี้ ยืนยันว่าโรงพยาบาลยังคงรับรักษาเป็นปกติ รวมทั้งยังมีการจ่ายยาให้ผู้ป่วยที่ต้องรับยาต่อเนื่องตามปกติ แต่ในส่วนของคลินิกนอกเวลา ทางโรงพยาบาลได้ปิดทำการ รวมทั้งวันนี้(11 เม.ย.) เนื่องจากยังไม่ทราบว่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปในทิศทางใด เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงต่อทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ
ด้านนพ.มัยธัช สามเสน ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา เปิดเผยว่า ได้รับผลกระทบจากการปิดเส้นทางจราจรของกลุ่มเสื้อแดง โดยงานที่จะต้องทำก็ไม่ได้ทำ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ป่วยที่มารักษาตัวที่สถาบันฯ มีไม่มากนัก โดยเฉลี่ย 700 คนต่อวัน ซึ่งวานนี้ (10 เม.ย.) คาดว่า จะมีผู้ป่วยมารับบริการประมาณ 100 คน เนื่องจากการเดินทางลำบาก ซึ่งแม้ว่าทางสถาบันฯ ถือเป็นวันหยุดราชการ แต่ในส่วนของการตรวจรักษายังดำเนินการตามปกติ
ราชวิถี วุ่นออกซิเจนคนป่วยหมด
พญ.วารุณี จินารัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า มีประชาชนมารักษาที่โรงพยาบาลค่อนข้างเบาบาง เพราะยังมีการปิดล้อมบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่งผลให้การเข้าออกโรงพยาบาลเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งขณะนี้โรงพยาบาลประสบปัญหาออกซิเจนใช้สำหรับช่วยหายใจของผู้ป่วยใกล้จะหมดคลังแล้ว เหลือเพียง 2 ถัง ซึ่งเป็นขนาดที่สามารถใช้ได้นานอีกถังละ 2 วัน และถังละ 4 วัน ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ป่วยที่อาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะไม่ปกติ จึงจำเป็นต้องมีการสำรองถังออกซิเจนเพิ่มอีกเท่าตัว แต่ไม่สามารถนำเข้ามาส่งที่โรงพยาบาลได้ เพราะไม่กล้าเข้ามาบริเวณชุมนุม เนื่องจากเกรงจะเกิดอันตราย
ทั้งนี้ โรงพยาบาลได้นัดให้มาส่งออซิเจนในวันที่ 11 เม.ย.นี้ ระหว่าง 23.00-01.00 น. โดยจะประสานบช.น. และผบก.สน.พญาไท และทำหนังสือถึงผู้นำการชุมนุมของม็อบเสื้อแดง เพื่อให้อำนวยความสะดวกในส่งออกซิเจนเหลวด้วย
พ.ญ.วารุณี กล่าวด้วยว่า เนื่องจากรถที่ขนส่งออกซิเจน เป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ และบรรทุกถังออกซิเจนมาเต็มคันรถ ซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อผู้ที่อยู่ใกล้เคียงได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของขนส่งจึงต้องมีรถตำรวจนำขบวน ซึ่งรถบรรทุกจะต้องขนส่งถังออกซิเจนให้กับโรงพยาบาลอื่นในสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขด้วย เช่น สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี สถาบันประสาท สถาบันมะเร็งแห่งชาติ เป็นต้น
ส่วนการที่กลุ่มเสื้อแดงไม่เชื่อว่าออกซิเจนหมดนั้น ขอยืนยันว่า หมดจริง เพราะปกติจะมีการนำส่งทุกวันศุร์ เมื่อมีการปิดการจราจรเช่นนี้ ก็ไม่สามารถนำเข้ามาส่งได้
นอกจากนี้ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นอื่นๆ ที่จำเป็นต้องขนส่งมายังโรงพยาบาลอีก ก็จะประสานไปยังแกนนำเสื้อแดงต่อไป ซึ่งขณะนี้ทางโรงพยาบาลก็ได้หารือกันเพื่อทบทวนมาตรการในการควบคุม และปฏิบัติภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ปกติ
ระบบส่งต่อผู้ป่วยเป็นอัมพาต
นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า การยึดพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่งผลกระทบกับโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียง โดยเฉพาะการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลตติยภูมิ รับผู้ป่วยที่ส่งต่อจากเขตปริมณฑล เช่น จ.สระบุรี อยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี ที่ขึ้นตรงกับกรมการแพทย์ เป็นไปด้วยความยากลำบากขึ้น เกิดการหยุดชะงัก
"การส่งต่อผู้ป่วยมีการวางโซนนิ่ง ตามพื้นที่ต่างๆ อยู่แล้ว หากไม่สามารถส่งต่อได้โรงพยาบาลก็จะต้องส่งต่อไปโรงพยาบาลอื่น ที่อยู่ใกล้เคียงที่สุด ซึ่งส่งผลให้เกิดการกระจุกตัวที่โรงพยาบาลอื่นที่มีความแออัดอยู่แล้ว จึงขอร้องให้กลุ่มคนเสื้อแดงอย่าสร้างปัญหา และภาระให้กับโรงพยาบาลเลย" นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว
ด้านนพ.พงษ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ เลขาธิการมูลนิธิแพทย์ชนบท กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเช่นนี้ เป็นการละเมิดสิทธิของผู้อื่น โดยเฉพาะการรักษาพยาบาล เจ็บป่วยเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ อย่างโรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแม่และเด็ก หากมีการฝากครรภ์ เจ็บท้องคนที่ใกล้คลอดจะเดินทางไปที่โรงพยาบาลได้อย่างไร ซึ่งส่งกระทบกับผู้ป่วยมากจริงๆ
ยกเลิกโปรแกรมทัวร์กรุงเทพ
นายอภิชาติ สังฆอารีย์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ผลจากการปิดถนนของกลุ่มเสื้อแดง ทำให้บริษัทนำเที่ยวต้องปรับเปลี่ยนโปรแกรมทัวร์ในกรุงเทพฯทั้งหมด บางรายถึงกับต้องยกเลิกไปเลย เพื่อป้องกันความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ทำให้ต้องสูญเสียรายได้จากการขายทัวร์วัน หรือ เดย์ทริปไปมากกว่า 6 ล้านบาทต่อวัน จากจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 5,000 คน เฉลี่ยคนละ 1,200 บาท ทั้งนี้ยังไม่รวมเงินที่นักท่องเที่ยวจะใช้จับจ่ายในแต่ละวันเพื่อเลือกซื้อสินค้า ของที่ระลึก ในการเดินทางไปเที่ยวชมในที่ต่างๆ เช่น พระบรมมหาราชวัง(วัดพระแก้ว)
"ปกตินักท่องเที่ยวจะเข้ามาเที่ยวกรุงเทพฯโดยเฉพาะรอบเกาะรัตนโกสินทร์ และวัดพระแก้ว วันละเป็นหมื่นคน แต่ขณะนี้เข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่น จึงมีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงราวครึ่งหนึ่ง แต่หากสถานการณ์ปิดถนน และการชุมนุมยังยืดเยื้อต่อไปอีก 1-2 วัน คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่กำลังจะเดินทางเข้าประเทศไทย ขอยกเลิกอีกจำนวนมาก โดยเมื่อวานนี้ ก็มีทัวร์จากประเทศจีนขอยกเลิกการเดินทางเข้ามาเพิ่มเติมอีก 2-3 ทริป คิดเป็นจำนวนกว่า 100 คน ซึ่งตอนนี้ทั้งเคาน์เตอร์ทัวร์ และ บริษัททัวร์ ต่างก็หยุดขายทัวร์วันแล้ว ก็รอดูว่าเมื่อใดสถานการณ์จะกลับสู่ปกติ แต่โปรแกรมทัวร์ต่างจังหวัดยังคงขายตามปกติ"
ททท.เรียกประชุมผู้บริหารรับมือ
นางสาวเพ็ญสุดา ไพรอร่าม รองผู้ว่าการด้านบริหาร และรักษาการผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การชุมนุมของม็อบเสื้อแดง ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในพื้นที่กรุงเทพ ส่วนในต่างจังหวัดไม่น่าจะมีผลกระทบ ล่าสุด ททท.ได้รียกประชุมคณะผู้บริหาร ททท.ด่วน เพื่อหาทางรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นหากเหตุการณ์บานปลายและยืดเยื้อไปมากกว่านี้
ด้านนายสุรัตน์ วงศ์ชาญศิลป์ นายกสมาคมผู้ประกอบการค้า ถนนข้าวสาร กล่าวว่า การชุมนุมที่ยืดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อกิจการร้านค้าที่ถนนข้าวสารอย่างแน่นอน เพราะเป็นย่านท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ และเป็นศูนย์กลางการเล่นสงกรานต์ในกรุงเทพฯด้วย โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม แบ็คแพ็ก จึงสามารถปรับเปลี่ยนที่พักและที่เที่ยวได้ทันที่ หากรู้ว่ามีเหตุการณ์ไม่สงบ ดังนั้นเมื่อเกิดการชุมนุม อาจทำให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเปลี่ยนไปเดินทางที่อื่นในต่างจังหวัด หรือบางรายอาจเปลี่ยนไปเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ล่าสุดการประชุมร่วมกันของผู้ประกอบการย่านข้าวสาร พบว่า ก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจองห้องพักช่วงสงกรานต์ 95% แต่ปีนี้ ณ วันที่ 10 เม.ย. 52 มียอดจองเข้าพักช่วงสงกรานต์เหลือเพียง 20% เท่านั้น ส่วนที่พักอยู่แล้วก็ทยอยเช็คเอาท์ออกไป
หากรัฐบาลยังปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อ จะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาถนนข้าวสารลดลงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ว่า จะมีราว 2 แสนคน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สร้างรายได้หมุนเวียน 300 ล้านบาท ก็จะลดลงเช่นกัน
ถอนกำลังจากอนุสาวรีย์ชัยฯ
ต่อมานายจตุพร พรหมพันธุ์ ปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล ว่าการต่อสู้ของเสื้อแดง ทำให้ได้วันหยุดเพิ่ม 1 วันและหลังเทศกาลสงกรานต์ จะมีการนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งเพื่อล้มรัฐบาลแบบแตกหัก ส่วนการชุมนุมที่ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ ถือเป็นจุดที่ไม่สำคัญแล้ว ดังนั้นภายในเวลา 17.00 น. จะสลายการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เพื่อไปสมทบที่ทำเนียบฯ
ขณะที่ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำเสื้อแดง ได้ปราศรัยบนเวทีชั่วคราวบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในช่วงบ่าย โดยได้ประกาศขอให้กลุ่มเสื้อแดงที่ชุมนุมอยู่ เคลื่อนย้ายไปสมทบกับกลุ่มเสื้อแดงที่พัทยา เพื่อขัดขวางการประชุมอาเซียน+3และ+6
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00น. กลุ่มเสื้อแดงที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้สลายตัว เดินกลับไปสมทบกันที่ทำเนียบรัฐบาล โดยทิ้งกองขยะจำนวนมากไว้ทั่วบริเวณ โดยเฉพาะที่เกาะกลางถนน ส่วนที่แยกสุทธิสาร สุขุมวิท 71 ก็มีการสลายตัวกลับมารวมที่ทำเนียบฯ เช่นกัน
ปาบึ้มปั๊มน้ำมันขู่เอเอสทีวีห่าง100ม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 9เม.ย. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ปั๊มน้ำมันปตท.ของบริษัท ขวัญดาวปิโตรเลียม จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับโค้งป้อมพระสุเมรุ ถ.พระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. ห่างจากสถานีโทรทัศน์ เอเอสทีวี และสำนักงานหนังสือพิมพ์เอเอสทีวี-ผู้จัดการ ประมาณ 100 เมตร
ส่วนมือปาระเบิดที่ก่อเหตุทราบว่า เป็นผู้ขับขี่รถแท็กซี่สีเขียว หมายเลขทะเบียน ทม-2454 กทม. ซึ่งขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยได้ขับรถติดตามไปจนถึงเชิงสะพานวันชาติ แต่จุดดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มคนเสื้อแดง ตั้งด่านตรวจตราความเรียบร้อย ซึ่งแม้ตำรวจจะจับกุมคนร้ายไว้ได้ แต่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงกดดัน สุดท้ายจึงต้องปล่อยตัวไป
ทั้งนี้ คาดว่า คนร้ายประสงค์จะปาระเบิดดังกล่าวใส่สถานีโทรทัศน์ เอเอสทีวี แต่ปรากฏว่ามีคนพลุกพล่าน ขณะเดียวกันมีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ทำให้คนร้ายเปลี่ยนใจไปปาระเบิดใส่ปั๊มน้ำมันแทน เพื่อหมายข่มขู่และสร้างความวุ่นวายขึ้น
ประณาม"นช.แม้ว"กบฏตัวจริง
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตสนช.กล่าวถึงการปืดถนน ของกลุ่มคนเสื้องแดงว่า เป็นเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจบกพร่องต่อหน้าที่ ปล่อยให้รถแท็กซี่เพียงไม่กี่คัน ปิดบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้อย่างไร ทั้งที่เป็นเส้นเลือดหลักของการจราจร ส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อน ทั้งที่การกระทำดังกล่าวถือว่าผิดกฏหมาย และยังละเว้นต่อปฏิบัติหน้าที่ ไม่ดำเนินการเคลียร์พื้นที่จราจร หรือดำเนินคดีกับพวกแท็กซึ่ จึงขอตำหนิเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในเรื่องงาน ด้านการข่าว และการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ จึงขอเสนอให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการสอบสวน ผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป รวมทั้งพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ความไม่เข้มแข็งต่อหน้าที่ของตำรวจ ปล่อยปละให้ผู้ชุมนุมขยายผลปิดช่องการจราจรทั่วกรุงเทพฯ และปล่อยเรื้อรังไปอย่างนี้เรื่อยๆ พวกเสื้อแดงอาจฮึกเหิม จนถึงขั้นเผาสถานที่ราชการได้ ซึ่งถือเป็นวันสุดท้ายของการชุมนุมตามที่ได้ประกาศไว้ แต่หากไม่มีสถานการณ์รุนแรงในวันสุดท้าย ก็อาจจะสลายตัวชั่วคราว และจะกลับมาใหม่หลังวันสงกรานต์ เพราะพวกเสื้อแดงไม่มีกฎเกณฑ์ ยึดถือผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง และพร้อมจะรับใช้ทันที หากหยิบยื่นผลประโยชน์ให้ ดังนั้นรัฐบาลจะประมาทไม่ได้
ส่วนการออกมาแถลงของนายกรัฐมนตรี เมื่อคืนวันที่ 9 เม.ย. ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบ รวมถึงมาตรการที่จะดำเนินการต่อจากนี้ พร้อมปฏิเสธข้อเรียกร้องของพวกเสื้อแดงที่เสนอให้รัฐบาลยุบสภา และนายกฯ ต้องลาออก ซึ่งถือว่าถูกต้อง เพราะเงื่อนไขเหล่านี้ไร้สาระ และขอให้รัฐบาลใช้อำนาจรัฐที่มีอยู่ในมือ ดำเนินการตามกฎหมายต่อกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างเด็ดขาด เพราะการปิดการจราจรถือว่าผิดกฏหมายทั้งสิ้น รวมไปถึงการหาช่องกฎหมายตัดสัญาณวิดีโอลิงก์ ของ นช.ทักษิณ เพราะเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า มีการปลุกระดมเพื่อล้มล้างสถาบันฯ และล้มล้างการปกครอง ซึ่งถือเป็นกบฎ รวมทั้งจับกุมแกนนำทั้งหมด และผู้ร่วมกระทำ เช่น พวกแท็กซี่จะต้องถูกจับกุม วันนี้นายอภิสิทธิ์ ต้องบัญชาการด้วยตัวเอง อย่าไปฝากความหวังไว้ที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง เพราะยิ่งนานวัน ธาตุแท้จะเผยออกมาให้เห็นเรื่อยๆ
ผบช.น.ขอศึกษากม.ก่อนขอหมายจับ
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. เรียกประชุมรอง ผบช.น. และ ผบก.น.1-9 เพื่อประเมินสถานการณ์ การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ตั้งแต่เวลา 06.30 น. โดยใช้เวลาหารือกว่า 4 ชั่วโมง
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้เปลี่ยนยุทธวิธีจากการปิดล้อมบริเวณบ้านสี่เสาเทเวศร์ ไปยังจุดต่างๆ ในกรุงเทพฯ ทำให้ต้องมีการปรับแผน กระจายกำลังไปยังจุดที่มีการปิดถนน และปรับกำลังบริเวณหน้าบ้านสี่เสาฯไปเสริมในส่วนอื่น แต่ยังคงไว้บางส่วน เพื่อป้องกันเหตุตลอดเวลา
ส่วนการดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มเสื้อแดงนั้น ให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายกฎหมาย ในการหาช่องทางเพื่อจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุม ส่วนกรณีการขออนุมัติหมายจับแกนนำ ก็กำลังดำเนินการอยู่เช่นกัน
ทั้งนี้ มีรายงานว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้สั่งการให้ทางตำรวจนครบาล เร่งดำเนินการในการออกหมายจับแกนนำกลุ่มเสื้อแดง ที่เป็นผู้สั่งการเคลื่อนไหว นอกเหนือจากข้อหากีดขวางการจราจร โดยคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 3 วัน ในการรวบรวมพยานหลักฐานในการขอหมายจับ
"เผยแผนก่อวินาศภัยทั้งไฟ-ระเบิด
พล.ต.ท.วรพงษ์ เปิดเผยอีกครั้งว่า จากการข่าว 70 % ว่าจะมีการวินาศภัยโดยจะใช้วิธีไฟเผาและระเบิด แต่ขอปกปิดเป้าหมายพื้นที่ ซึ่งได้ประสานขอกำลังจากทหาร เทศกิจ มาร่วมการปฎิบัติในครั้งนี้ ทั้งนี้ หากศาลอนุมัติหมายจับ แกนนำเสื้อแดง ทางตำรวจก็พร้อมปฎิบัติตาม แต่การปฎิบัติก็จะไม่ให้มีการสูญเสียเกิดขึ้น
เชื่อ"เสื้อแดง"แพ้"สงกรานต์"ฝ่อไปเอง
พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ส.(สันติบาล) กล่าวว่า อีกไม่นาน การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง จะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น แนวร่วมบางส่วนก็ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แล้ว ขณะเดียวกัน ฝ่ายรัฐบาลก็กำลังเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด กับผู้ชุมนุมที่กระทำผิด ส่วนการข่าวเฝ้าระวังกลุ่มบุคคลมือที่ 3 ที่อาจฉกฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวาย หลังมีกระแสข่าวจะมีการลงมือก่อเหตุนั้น ขอยืนยันว่าจากการตรวจสอบไม่พบตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ประมาท ยังคงมีการสั่งเฝ้าระวังติดตามความเคลื่อนไหว ประเมินด้านการข่าวอย่างต่อเนื่อง
"ชัยสิทธิ์"อ้างไปนอกทำธุระไม่ได้หนี
พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผบ.สส. ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ถึงกรณีที่ถูกวิจารณ์ว่า"ตระกูลชินวัตร" หนีออกนอกประเทศ เพื่อปัดความรับผิดชอบหากเกิดเหตุการณ์รุนแรงในการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า "ไอ้บ้า มันไม่มีอะไรเลย ผมมาต่างประเทศเพราะมาทำธุระ ไม่ได้หลบหนีตามที่ถูกกล่าวหา ผมเดินทางต่างประเทศไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ผมไม่กลัวมันด้วย ผมจะหนีออกมาทำไม ไม่มีเหตุผลที่จะต้องหนีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น"
พล.อ.ชัยสิทธิ์ ฝากถามไปถึงคนที่กล่าวหาว่า “ตระกูลชินวัตร” หลบหนีไปต่างประเทศเพราะเกรงสถานการณ์จะรุนแรงว่า "ผมเคยกลัวใครมั่ง ถามมันดู มากล่าวหาว่าผมหนีได้อย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นคนที่กล่าวหาคงเกิดความวิตกจริตกันไปเอง ทั้งๆ ที่ผมไม่มีอะไรเลย เพียงแต่มาทำธุระที่ต่างประเทศเท่านั้น"
ชี้แผนดาวกระจายล้มเหลว
นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว สรรหา กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ในขณะนี้ว่า จากการเปลี่ยนจากการชุมนุมโดยสงบของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่กลับมาปิดการจราจรจนกลายเป็นจลาจล จนเลยไปถึงการเข้าไปป่วนการประชุมอาเซียน ที่พัทยา แสดงว่าการต่อสู้ที่ผ่านมาได้พ่ายแพ้แล้ว เนื่องจากไม่สามารถกดดันรัฐบาลตามข้อเรียกร้องได้ จะเห็นได้จากการไปยกระดับการชุมนุม โดยดาวกระจายไปสถานที่สำคัญต่างๆ ถือว่าล้มเหลว จึงเปลี่ยนมาใช้วิธีละเมิดกฎหมายบ้านเมือง ทำให้ประชาชนที่เดินทางมารับการรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี ไม่ได้รับความสะดวก การกระทำของกลุ่มเสื้อแดงที่กระทำเช่นนี้เหมือนเอาชีวิตของคนไข้มาเป็นเดิมพัน ในข้อเรียกร้องที่ไร้สติ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผู้นำของกลุ่มคนเสื้อแดง สามารถที่จะประทุอารมณ์ได้ตลอดเวลา จนกลายไปสู่ความรุนแรงได้ ดังนั้นจึงเห็นด้วยที่นายกฯ ประกาศบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งคัด เพื่อรักษานิติรัฐ ให้คงอยู่คู่สังคมไทย
"แม้ว"ท้าให้รีบออกหมายจับ
ด้านนช.ทักษิณ ชินวัตร ยังปราศรัยผ่านวิดิโอลิงก์ มาที่ทำเนียบรัฐบาลโดยกล่าวถึงกรณีกลุ่มเสื้อแดง ที่ไปขัดขวางการประชุมอาเซียน+3 และ+6 ที่พัทยา เกิดการประทะกับกลุ่มเสื้อน้ำเงิน ว่า พี่น้องเสื้อแดงเจ็บ ตนก็เจ็บด้วย และขอให้ระดมคนไปที่พัทยาอีกเพื่อช่วยเหลือกัน
ส่วนที่รัฐบาลเตรียมออกหมายจับแกนนำกลุ่มเสื้อแดง ที่ให้แท็กซี่ไปปิดถนน รวมทั้งตนเองด้วยนั้น ก็ขอให้รีบออกมาเถอะ จะได้เป็นการเรียกกลุ่มเสื้อแดงให้ออกมากันเยอะๆ
นช.ทักษิณ ยังคงกล่าวโจมตีองคมนตรี ว่าอยู่เบื้องหลังรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และเป็นตัวการให้เกิดระบบสองมาตรฐาน พร้อมยกพระราชดำรัสในหลวง รัชกาลที่ 7 ที่ว่า "ข้าพระเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่เดิม ให้กับราษฏรทั่วไป แต่ไม่ยอมยกอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าให้กับคณะใด เพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิขาด และไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของราษฏร" มาโจมตีด้วย
นช.ทักษิณ ยังกล่าวเรียกความสงสารจากกลุ่มคนเสื้อแดง ว่านอกจากจะมีการออกหมายจับตน มีการตามล่าเพื่อเอาตัวไปลงโทษแล้ว ยังมีการส่งคนอีกชุดหนึ่งมาตามฆ่าตนด้วย
"มาถึงขนาดนี้แล้ว ไม่มีใครกลัวใครหรอกครับ ผมแพ้ไม่ได้ ถ้าแพ้พี่น้องประชาชนแพ้ อนาคตลูกหลานแพ้ ประเทศไทยแพ้ มันไม่ใช่เพื่อผม ผมเป็นคนนำการต่อสู้ ผมมาจากประชาชนมีเสียงมากมาย แต่ถูกโค่นล้มจากการวางแผนของอำมาตย์ ผมยอมตอนนี้ก็แสดงว่าประชาชนไม่มีทางต่อสู้แล้ว คนจนก็จนต่อไป ลูกหลานคนจนจะถูกสาบ จนต่อไป เพราะรัฐบาลเอาใจอำมาตย์อย่างเดียว"
นช.ทักษิณ ยังกล่าวให้ความหวังกับคนเสื้อแดงว่า หากตนมีโอกาสกลับมาบริหารประเทศ จะพักหนี้พี่น้องให้หมด ปัญหาของแท็กซี่ ตนจะกลับไปจะแก้ไขให้เอง ทหารที่ถูกตัดเบี้ยหวัดก็จะกลับมาเพิ่มให้
"กำนันผู้ใหญ่บ้านถูกสั่งให้จับคนใส่เสื้อน้ำเงินมา เพราะพวกแดงกำลังล้มสถาบันฯ มึงเอาอะไรมาพูด พวกกูต้องการประชาธิปไตย สังคมที่ยุติธรรม ฟังให้ชัดนะ พวกกูต้องการเสรีภาพ ความเสมอภาค ภราดรภาพ สังคมยุติธรรม ระบบของพวกกู มีพระมหากษัตรยิ์ ทรงเป็นประมุข พี่น้องทหารได้ข่าวถูกตัดเบี้ยหวัดไม่เป็นไร กลับไปเพิ่มให้ใหม่ แถวหนึ่งถูกจับ แถวสองลุกขึ้น เราจะยอมไม่ได้ พี่น้องต่างจังหวัดมาเล่นสงกานต์ที่กรุงเทพดีไหม" กล่าว