xs
xsm
sm
md
lg

"คำนูณ"จวก"ทักษิณ"ไร้ค่า หนีสภา หนีศาล หนีคุก ยังมีหน้ามาด่า"ป๋า"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (8 เม.ย.) นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการศึกษาการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการในการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา กล่าวว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวในวิดีโอลิงก์เปรียบเปรยให้คนฟังเข้าใจว่าพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นคนไม่ดี เมื่อเปรียบเทียบกับตน และการที่กลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวกดดันพล.อ.เปรม มาตลอด 2 ปีที่ผ่านมานั้น เป็นการไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง เพราะแม้จะเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่ต้องเข้าใจว่า พล.อ.เปรม เป็นผู้ใหญ่ที่สังคมไทยให้ความเคารพนับถือมายาวนาน มีถึง 4 ฐานภาพอยู่ในตัวท่านคนเดียว คือ เป็นประธานองคมนตรี เป็นรัฐบุรุษ เป็นสามัญชนคนที่ 3 นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2475 ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณราชประเพณี นพรัตนราชวราภรณ์ และเป็นคนที่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดีชั้น 1 เสนางคบดี ซึ่งเปรียบเสมือนเหรียญกล้าหาญชั้นสูงสุดของประเทศไทย
"ท่านเป็นนายกฯ คนเดียวที่อยู่ในตำแหน่งแบบรวดเดียวติดต่อกันนานที่สุดตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.23 ถึงวันที่ 7 ส.ค.31 ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกฯรวม 5 สมัย และการขึ้นมาดำรงตำแหน่งของท่าน ก็ไม่ได้มาจากการรัฐประหารอย่างที่คนเสื้อแดงบางคนกล่าวโจมตีผิดๆ ตรงกันข้าม ท่านยังต่อต้านการรัฐประหาร รักษารัฐธรรมนูญไว้ได้ถึง 2 ครั้งในปี2524 และ2528"
นายคำนูณให้ข้อมูลประกอบต่อไปว่าหลังประกาศไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียง 2 สัปดาห์ พล.อ.เปรม ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรี เมื่อวันที่ 23 ส.ค.31 และในวันเดียวกันนั้น ยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณราชประเพณีนพรัตนราชวราภรณ์ ซึ่งเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์สูงสุด ลำดับที่ 3 ถัดจากราชมิตราภรณ์ และมหาจักรีบรมราชวงศ์ เป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ลำดับชั้นที่สูงกว่าปฐมจุลจอมเกล้า ก่อนหน้านี้นับตั้งแต่ปี 2475 มีสามัญชนเพียง 2 คนเท่านั้น ที่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลนี้ คือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้รับพระราชทานเมื่อปี 2484 และจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้รับพระราชทานเมื่อปี 2502
"แต่ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณยิ่งกว่า 2 จอมพลในอดีตคือไม่กี่วันถัดมา เมื่อวันที่ 29 ส.ค.31 ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯให้ยกย่อง พล.อ.เปรม ไว้ในฐานะรัฐบุรุษ คนรุ่นหลังอาจจะไม่เข้าใจว่า การที่เราเรียกท่านว่ารัฐบุรุษนั้นไม่ใช่สังคมยกย่องกันเอง แต่เป็นประกาศพระบรมราชโองการ"
ประกาศพระบรมราชโองการดังกล่าว ตีพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษ หน้า 1 เล่มที่ 105 ตอนที่ 141 ระบุสาเหตุที่ให้ยกย่องพล.อ.เปรม ไว้ในฐานะรัฐบุรุษก็เพราะท่านเคยรับราชการสนองพระเดชพระคุณในตำแหน่งที่สำคัญๆ ทั้งด้านการทหาร และการบริหารราชการแผ่นดิน ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งต่างๆ ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จนเป็นที่ประจักษ์ในความปรีชาสามารถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติ และความเป็นอยู่ของชาวชนบทให้มั่นคง อันเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติเป็นอเนกประการ จึงทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ยกย่อง เพื่อเป็นเกียรติประวัติ และตัวอย่างอันดีงามต่อไป
นายคำนูณ กล่าวต่อไปว่า ตำแหน่งหน้าที่เกียรติยศ และเกียรติศักดิ์ ที่พล.อ.เปรมฯ มีอยู่ในทุกวันนี้ ล้วนได้มาจากพระบรมราชโองการทั้งสิ้น การจาบจ้วงล่วงเกินท่านที่ดำรงอยู่มาตลอด 2 ปี และหนักหนาสาหัสที่สุดในขณะนี้ แม้จะเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่ก็หมิ่นเหม่ต่อการเข้าข่ายละเมิดพระราชอำนาจ และลบหลู่พระบรมราชโองการ องค์วันที่ 29 ส.ค.31 หากยังมีความจงรักภักดีอย่างที่ปากอ้างจริง สมควรหยุดการกระทำลักษณะนี้ในทันที อย่างที่นายเนวิน ชิดชอบ ร้องขอพ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา แล้วปล่อยให้ประการทั้งปวงเป็นไปตามพระราชอัธยาศัย ที่จะทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย หรือหากมีการใดที่เห็นว่าพล.อ.เปรม ทำผิดกฎหมายหรือผิดรัฐธรรมนูญ ก็ชอบที่จะดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม
"ประชาชนคนไทยควรจะมีความทรงจำที่ยาว และควรเปรียบเทียบได้ว่า คนไทยทิ้งแผ่นดินบางคนที่ทำตัวเป็น 3 หนี คือ หนีญัตติอภิปรายทั่วไปในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาโดยชิงยุบสภา, หนีกระบวนการพิจารณาคดีในศาลยุติธรรม และหนีการถูกจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลยุติธรรม มีคุณค่า มีศักดิ์ศรีเพียงพอหรือไม่ที่จะมาด่าประณามคนที่มีประกาศพระบรมราชโองการให้ยกย่องเพื่อเป็นเกียรติเป็นตัวอย่างในความดีแก่คนไทยโดยทั่วไป" นายคำนูณกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น