xs
xsm
sm
md
lg

แผนอำพราง เป้าหมายชน“ฟ้า” !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นาทีนี้ไม่ต้องมาปิดบังซ่อนเร้นกันอีกต่อไป เพราะหากติดตามแกะรอยและลำดับเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้น ก็จะพบว่าเป้าหมายสูงสุดของ “คนเสื้อแดง” และหัวหน้าของคนเสื้อแดงคือนักโทษชายที่กำลังหลบหนีคดีต้องการพุ่งชนหรือโค่นล้ม คือ “ใคร” หากไม่ใช่ “ฟ้า” ที่อยู่สูงขึ้นไป มีแต่คนโง่ บ้า และไร้เดียงสาเท่านั้นที่มองเกมไม่ออก

การปรับยุทธวิธีที่มุ่งโจมตีสถาบันองคมนตรีโดยตรง ก็เพื่อลิดรอนสถาบันเบื้องสูง แยกให้โดดเดี่ยว เป็นการเน้นจัดการเพื่อเป้าหมาย “เฉพาะหน้า” ก่อน ทีละขั้น ทีละตอน เนื่องจากต้องการระดมมวลชนเข้ามาร่วมให้มากที่สุด ให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ทำสงครามปฏิวัติประชาชน ที่หัวหน้าคนเสื้อแดงเคยประกาศเอาไว้

หากสังเกตให้ดี ในระยะหลังนี้จะพบว่า ทั้งหัวหน้าและลูกน้อง ลิ่วล้อบนเวทีชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นที่หน้าทำเนียบรัฐบาล หรือตามต่างจังหวัดที่ไหนก็ตาม จะพยายามพูดเน้นในเรื่องความ“จงรักภักดี” แต่มุ่งโจมตีองคมนตรี ไล่เรียงไปตั้งแต่ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และล่าสุด พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ หลังจากก่อนหน้านี้ได้มุ่งทำลายเครดิตสถาบันศาล อย่างเสียหายมาแล้ว

แต่การมุ่งร้ายต่อองคมนตรีรุนแรง ต่อเนื่อง อีกด้านก็ได้เปิดเผยสิ่งซ่อนเร้นเอาไว้ให้สังคมได้เห็นพิรุธที่ผ่านวาทกรรมที่ประดิษฐ์ประดอยถ้อยคำสวยหรูของบรรดา “ฝ่ายซ้ายอกหัก” ที่วางแผนอยู่รอบกาย ที่บอกว่าต้องการขับไล่ “อำมาตยาธิปไตย” และล่าสุด ได้ขึ้นฉากหลังบนเวทีว่า “โค่นอำมาตย์” นั่นแหละ

เพราะเมื่อทำความเข้าใจโดยแยกคำว่า “อำมาตย์” ออกมาโดดๆ อยากตั้งคำถามกับสังคมทั่วไปรวมทั้งคนเสื้อแดงที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ทั้งหลายว่า มีความหมายเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างแนบแน่นหรือไม่ และไม่ว่าจะเป็นอำมาตย์ในยุคโบราณมาจนถึงองคมนตรีในปัจจุบัน ก็ต้องได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯโดยพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นพระราชวินิจฉัยส่วนพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งหรือให้พ้นจากตำแหน่ง

เมื่อบอกว่าต้องโค่น อำมาตย์ แล้วเป้าหมายสูงสุดที่ซ่อนอยู่หลังฉากกั้นอำพรางไว้จะหมายถึง “ใคร” ใช่ต้องการ “ชนฟ้า” ใช่หรือไม่

ขณะเดียวกันหากมองไปยังแกนนำคนเสื้อแดงที่ขึ้นเวที ไล่ไปตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันล้วนแล้วแต่มีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพติดตัวมากมาย มีพฤติกรรมจาบจ้วงให้ร้ายสถาบันเบื้องสูงทั้งสิ้น

ยกตัวอย่างเฉพาะที่พอมีชื่อ และสังคมจำได้ ไม่ว่าจะเป็น ดา ตอร์ปิโด ชูชีพ ชีวสุทธิ์ จักรภพ เพ็ญแข วีระ มุสิกพงศ์ ฯลฯ และยังรวมไปถึงนักวิชาการเสื้อแดงบางคนอย่าง “ใจ อึ้งภากรณ์” ที่เคยออกแถลงการณ์ “สยามแดง” โจมตีสถาบัน และต้องการเปลี่ยนแปลงเป็นระบอบประธานาธิบดี

ขณะที่บรรดาแกนนำและหัวหน้าม็อบคือ นช.ทักษิณ พร่ำท่องว่า ตัวเองจงรักภักดีอยู่นั้น ข้างล่างเวทีกลับมีคนสวมเสื้อแดงเดินแจกจ่ายใบปลิวโจมตี จวบจ้วงสถาบันฯ อย่างรุนแรง

กรณีใบปลิวที่เกิดขึ้นที่ “เมืองพล ขอนแก่น” ย่อมพิสูจน์ได้ดี หรือแม้กระทั่งในที่อื่นๆ เช่น แจกใบปลิวบนศาลากลางจังหวัดเชียงราย ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงไปให้กำลังใจอดีตผู้ว่าฯคนหนึ่ง หรือกรณีพ่นข้อความให้ร้าย จาบจ้วงโดยตรงที่ข้างกำแพงทำเนียบรัฐบาล กรณีงานศพ “น้องโบว์” น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ เป็นต้น

ที่สำคัญพฤติกรรมของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลายครั้ง เช่น กรณีทำบุญในวัดพระแก้ว ก็ได้ถูกระบุและยืนยันอย่างชัดเจนจาก พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรีว่า เป็นการ“หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” ซึ่ง พล.อ.พิจิตร คนเดียวกันนี้ เมื่อครั้งเป็นแม่ทัพภาค 1 เคยแจ้งความดำเนินคดีกับ วีระ มุสิกพงศ์ ในข้อหาเดียวกัน จนศาลพิพากษาจำคุกมาแล้ว

ดังนั้นไม่ว่ามองมุมไหน การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง และหัวหน้าม็อบเสื้อแดงเป้าหมายสูงสุดคือ “ฟ้า” แต่การพลิกเกมหันมาย้ำคำว่า“จงรักภักดี” แล้วมุ่งโจมตีสถาบันองคมนตรีอย่างหนักในปัจจุบัน ก็เป็นเพียงแค่แผนอำพราง เพื่อดึงมวลชนส่วนใหญ่ที่ยังไร้เดียงสา เท่านั้น

แต่หากปะติดปะต่อเชื่อมโยงพฤติกรรมตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง ทั้งหัวแถวยันปลายแถว ทั้งหัวหน้ามาจนถึงลูกน้อง ก็อ่านเกม มองออกได้ไม่ยาก

ที่สำคัญสังคมไทย ข้าราชการไทยที่บอกว่า “จงรักภักดี” จะเข้าใจหรือไม่ และถ้าเข้าใจแล้วจะทำอย่างไร !!
กำลังโหลดความคิดเห็น