ASTVผู้จัดการรายวัน- ตำรวจจัดกำลังคุมเข้ม คุ้มครองงานวันเกิดพรรคประชาธิปัตย์ โฆษกปชป. แฉเอกสารค่าใช้จ่ายปลุกม็อบชุมนุมศาลากลาง- เข้ากรุงในวันที่ 8 เม.ย. จวก"นช.แม้ว" ตีปี๊ปอวดความร่ำรวย หวังหาแนวร่วม เตือนประชาชนอย่าหลงคารม ตกเป็นเครื่องมือ ขณะที่"นช.แม้ว" ยังพล่ามผ่านวิดีโอลิงก์ ปลุกระดมล้มอำมาตย์ เพ้อจะกลับมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (5 เม.ย.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. เข้ารายงานสถานการณ์การชุมนุม ของกลุ่ม นปช. ต่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยเปิดเผยว่าได้รายงานสถานการณ์การชุมนุมว่า ขณะนี้ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา ส่วนการกำหนดดาวกระจายไปที่หน้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ก็ยังคงเป็นเพียงกระแสข่าว แต่ได้เตรียมพร้อมหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ไว้รับมือแล้ว และที่กำหนดว่า จะมาชุมนุมที่พรรคประชาธิปัตย์ ในวันครบรอบ 63 ปี ในวันนี้ (6 เม.ย.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมความพร้อมรับมือไว้แล้วเช่นกัน
ส่วนการเปิดทางให้คณะรัฐมนตรี เข้าประชุมในทำเนียบฯ ขณะนี้เป็นหน้าที่ของกรมบังคับคดี ที่จะบังคับให้ผู้ชุมนุมเปิดทางให้ตามคำสั่งของศาล ตำรวจเป็นเพียงผู้สนับสนุนเท่านั้น ซึ่งเบื้องต้น ยังไม่ได้รับการประสานว่า จะขอกำลังจากหน่วยใด
แฉแม้วจ่ายเงินส.ส.เกณฑ์คน
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองในขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ มั่นใจว่า ประชาชนส่วนใหญ่จะแยกแยะได้ว่า การเคลื่อนไหวมวลชนที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่เบื้องหลัง มีวัตถุประสงค์ที่แท้จริงคือ ทำให้ตัวเองพ้นผิด ซึ่งการที่องคมนตรีหลานท่าน ออกมาพูดนั้น ก็เป็นการพูดเตือนสติ มิได้ออกมาพูดเพื่อรักษาสถานบันองคมนตรี ตามที่มีการกล่าวหาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเอกสารจำนวน 2 แผ่น เป็นเรื่องการเตรียมการเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัด และเดินทางเข้ามาชุมนุมในกรุงเทพฯ ในวันที่ 8 เม.ย.นี้ โดยได้มาจากจังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ มีการสรุปค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 289,000 บาท
อย่างไรก็ตามเข้าใจว่า มีประชาชนส่วนหนึ่งมาร่วมชุมนุมด้วยเจตนาบริสุทธิ์ สิ่งที่เป็นห่วงขณะนี้ คือ การแจกใบปลิว วันนี้ขยับไปถึงขั้นโจมตีพระราชกรณียกิจ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่จะไม่ขอลงรายละเอียด ดังนั้นขอฝากไปยังผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล จัดการอย่างเด็ดขาด
นพ.บุรณัชย์ กล่าวด้วยว่า ที่มีการระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปอยู่ที่กัมพูชานั้น เป็นเรื่องจริง โดยได้มีการสอบถามไปยังรัฐบาลกัมพูชาตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.แล้ว ส่วนขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเปลี่ยนแหล่งพักพิงหรือไม่ ทางกระทรวงการต่างประเทศคงจะออกมาชี้แจงความคืบหน้าให้ทราบต่อไป
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการรวมพลใหญ่ของกลุ่มคนเสิ้อแดงในวันที่ 8 เม.ย.นี้ โดยมีการจ่ายเงินให้กับสมาชิกพรรคเพื่อไทย คนละ 2 แสนบาท เป็นการชี้ให้เห็นว่า เป็นการวางบิล เมื่อครบรอบบัญชี และไม่ว่าใครก็ตามที่พยายามสร้างสถานการณืในวันที่ 8 เม.ย.นี้ สิ่งศักดิ์สิทธิที่ปกครองบ้านเมืองมีจริง ใครที่เคลื่อนไหวและสร้างสถานการณ์ร้ายมักจะมีอันเป็นไป
เตือนปชช.อย่าตกเป็นเครื่องมือ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงกล่าวโจมตี พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี อย่างรุนแรงด้วยถ้อยคำหยาบคาย กรณีที่ออกมาตำหนิพฤติกรรมของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าไม่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ว่า จะเห็นว่าองคมนตรีทุกคนที่ออกมาแสดงความเห็น จะถูกลิ่วล้อของพ.ต.ท.ทักษิณตำหนิอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นการพยายามทำลายความน่าเชื่อถือขององคมนตรี ทั้งที่องคมนตรีทั้ง 18 ท่าน เป็นบุคคลที่สังคมยอมรับ และเป็นกลางทางการเมือง คำพูดที่ออกมาจากปากของบุคคลเหล่านี้เชื่อถือได้ แต่กลุ่มคนเสื้อแดง พยายามแก้เกี้ยวโดยขู่ว่าจะฟ้องร้อง ซึ่งในทางกลับกันตอนตัวเองขึ้นเวทีพูดจา จาบจ้วง เสียดสี ก็ไม่เห็นองคมนตรีคนใดจะฟ้องรอง แต่พอตัวเองถูกพาดพิง ก็ข่มขู่โดยหยิบรื่องการฟ้องร้องขึ้นมา ซึ่งก็เป็นสิทธิที่จะฟ้องได้ เพราะองคมนตรีก็เป็นบุคคลธรรมดา ไม่มีอำนาจเหนือกฎหมาย และจะเป็นการพิสูจน์ในชั้นศาลว่า ข้อกล่าวหาขององคมนตรี ต่อพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นความจริง
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามแสดงให้เห็นว่าตนยังมีเงินทองมากพอที่จะสนับสนุนการเคลื่อนไหว ด้วยการโชว์เครื่องบินราคา 1,500 ล้านบาท ผ่านสื่อมวลชน รวมถึงการพูดถึงเหมืองทองหลายแสนล้าน ว่า คงเข้าใจว่ากลุ่มคนที่มาสนับสนุนตนเองเป็นคน 2 ประเภท คือ กลุ่มคนที่เคยได้ประโยชน์ และกลุ่มที่หวังจะได้ประโยชน์ จึงต้องตีปี๊ปเพื่อเรียกความจงรักภักดี เพราะรู้ดีว่าคนเหล่านี้เห็นเงินแล้วจะตาลุกวาว ดังนั้น อยากขอเตือนประชาชนว่าอย่าตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มคนเหล่านี้
จวกแม้วระบบอุปถัมภ์
ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามพูดว่ามีเป้าหมาย เพื่อล้มล้างระบอบอำมาตยาธิปไตยนั้น อยากให้สังคมกลับไปดูว่า ใครคืออำมาตยาธิไตยตัวจริง ระหว่างประธานองคมนตรี กับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งระบอบอำมาตยาธิปไตย คือระบบอุปถัมภ์ มีการแต่งตั้งข้าราชการ ในยุคที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯ มีการแต่งตั้งญาติพี่น้องจากทหารช่าง เป็น ผบ.ทบ. ตั้งน้องเมียเป็นรอง ผบ.ตร. ข้ามหัวคนอื่นหลายคน รวมถึงการแต่งตั้งหมอประจำตัวแม่ยาย มาเป็นรัฐมนตรี แทรกแซงสื่อ ซื้อสื่อ ซื้อองค์กรอิสระ ซื้อทุกองค์กร ทั้ง ส.ส. -ส.ว. ซึ่งเป็นพฤติกรรมของระบอบอำมาตยาธิปไตยตัวจริง แต่วันนี้กลับพยายามป้ายสีให้คนอื่น ว่าเป็นอำมาตยาธิปไตยแต่ตนเองเป็นนักประชาธิปไตย
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ปฏิเสธการเจรจากับรัฐบาล ว่า เป็นเพราะพ.ต.ท.ทักษิณทราบว่าคนในรัฐบาลถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐโดยตำแหน่ง หากมีการไปพบเพื่อเจรจากันบุคคลเหล่านั้น ก็มีสิทธิจับกุมตัวได้ เพราะถ้าปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ลอยนวลไปก็จะมีความผิดในมาตรา 157 ดังนั้น ถ้าจะมีการเจรจาก็ต้องไม่ใช่คนที่มีตำแหน่งในรัฐบาล ซึ่งก็ชอบแล้วที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่เจรจา
เสื้อแดงขู่ป่วนถกอาเซียน
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง กล่าวว่า ขณะนี้มีการแทรกแซงการกระจายเสียงวิทยุชุมชนในเครือข่ายของกลุ่มเสื้อแดง โดยเฉพาะวิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ โดยคาดว่าเป็นฝีมือของรัฐบาล จึงขอให้นาย สาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นลูกผู้ชาย ยอมรับและคืนเสรีภาพให้กับประชาชนเหมือนเดิม ซึ่งหากยังลิดรอนและปิดกั้นเสรีภาพของประชาชนเช่นนี้ ก็อย่าหวังว่า การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนบวก 3 ที่พัทยา จะทำได้สะดวก
ส่วนที่มีการระบุว่า กลุ่มคนเสื้อแดงต้องการโค่นล้มสถาบันฯ นั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ ไม่ได้มีเป้าหมายโค่นล้มสถาบันฯ แต่เป็นการโค่นล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย
สำหรับกรณี พล.อ. พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ระบุ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่จงรักภักดี ขณะนี้ทีมกฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ดำเนินการฟ้องร้องพล.อ.พิจิตรแล้ว
"อดิศร"ประกาศตัดขาด"เนวิน"
นายอดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย บ้านเลขที่ 111 กล่าวตอนหนึ่งบนเวที คนเสื้อแดง ที่ทำเนียบฯ โดยระบุถึง นายเนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน ว่า ในช่วงที่นายเนวิน อยู่ใกล้พ.ต.ท.ทักษิณ จนคนอย่างตนเข้าใกล้ไม่ได้ นายเนวิน สะพายยามเดินใกล้ๆแล้วก็พาไปนอนบ้านที่บุรีรัมย์ จนตนมองไม่ออกว่านายเนวิน จะแยกออกจากทักษิณได้อย่างไร และหลังวันที่ 19 ก.ย. นายเนวิน ก็ยังสู้อยู่ จนกระทั่งมีการเลือกตั้ง 23 ธ.ค. 50 และตนกับนายเนวิน ก็ได้ปราศัยด้วยกันที่บุรีรัมย์ นายเนวิน เล่าว่าช่วงปฏิวัติถูกจับตัวไป ถูกแก้ผ้า ทรมาน พูดไปร้องไห้ไป และยังพูดยืนยันว่า ทักษิณ ไม่ผิดอย่างนั้น ไม่ผิดอย่างนี้ แต่พอธรรมนูญยุบพรรค 3 พรรค ก็ได้ยินข่าวว่านายเนวิน ติดต่อกับนายสุเทพ ผมไม่เชื่อ แต่จนในที่สุดจึงรู้ว่าถูกหลอก พร้อมกับกล่าวประกาศตัดญาติขาดมิตรกับนายเนวิน และถ้าแน่จริง วันที่ 8 เม.ย. ให้มาเจอกับคนเสื้อแดง ที่ถนนราชดำเนินได้
คุยโอนเงิน 5 ล้านให้สมุนเข้ากรุง
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าว ถึงกรณี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี บอกว่าวันที่ 8 เม.ย.นี้ จะอยู่ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ก็ขอให้รักษาคำพูด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า พล.อ.เปรม จะไม่อยู่บ้านวันดังกล่าว พร้อมยืนยันว่า คนเสื้อแดงมีความพร้อมในการ ชุมนุมใหญ่ มีการโอนเงินที่ได้จากการบริจาคจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อเป็นค่ารถให้กับผู้ชุมนุมในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อเดินทางเข้า กทม.แล้ว
ส่วนที่กลุ่มคนรักป๋า จะมาชุมนุมที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ในวันที่ 8 เม.ย. ก็เป็นสิทธิ ถ้าสามารถต้านทานกลุ่มคนเสื้อแดง ที่จะมาร่วมชุมนุม 300,000 คนได้ ก็ไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตามถือเป็นการยั่วยุให้เกิดความรุนแรง และการนำคนมาเป็นเกราะกำบังแบบนี้ ไม่เหมาะสม ทั้งนี้ หากมีความวุ่นวายเกิดขึ้น รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ เพราะการชุมนุมของคนเสื้อแดง เน้นสันติวิธีมาตลอด หากมีการล้ำเส้น อาจเป็นสงครามกลางเมือง
"แม้ว"อัดอำมาตย์พาการเมืองย้อนยุค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.15 น. วานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้กล่าวผ่านระบบวีดีโอลิงก์ มายังเวทีคนเสื้อแดงที่ทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง โดยกล่าวว่า ตนไม่ได้อยู่ที่กัมพูชา เพราะหลังจากตีกอล์ฟกับนายกฮุนเซ็น เมื่อปีที่แล้วก็ไม่ได้มาที่กัมพูชาอีกเลย การที่คนของรัฐบาลบอกว่าตนอยู่ที่กัมพูชา แสดงว่าการข่าวของรัฐบาลนี้ใช้ไม่ได้
พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พยายามเน้นย้ำว่า ขอให้คนเสื้อแดงมารวมพลังกันในวันที่ 8 เม.ย.นี้ให้มาก เพราะขณะนี้มีแต่คนหัวเก่า ออกมาพูดเพื่อให้ประเทศถอยหลัง
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงการขึ้นเป็นนายกฯของพล.อ.เปรม ได้เป็นภายหลังการปฏิวัติ แม้ต่อมาจะมีการเลือกตั้งก็ตาม ส่วนพล.อ.สุรยุทธ์ ก็อยากเป็นนายกฯ แต่ต้องให้มีการปฏิวัติ ส่วน พล.อ.พิจิตร นั้นยังจำได้ไหมว่า 9 ก.ย. 28 เกิดเหตุการนัดแล้วไม่ตามนัด และความจริงท่านเป็นกบฏ แต่โชคดีที่ได้เป็นองคมนตรี ส่วนนายอานันท์ ปันยารชุน ก็เป็นนายกที่มาจากการปฏิวัติ
"เพราะฉะนั้น ท่านสังเกตุหรือไม่ว่า แนวคิดของเผด็จการ ของคนที่เป็นอำมาตย์ และคนมีพลังในสังคมไทยกลับเป็นความคิดที่ต้องการให้ประเทศย้อนยุค เพราะเขามองว่าการเมืองเป็นประชาธิปไตย ไม่มีคุณภาพ เพราะมีการซื้อเสียง เขาหารู้ไม่ว่า มีการเลือกตั้งแล้วมีปฏิวัติหนึ่ง ทำให้การเมืองไม่ต่อเนื่อง แต่การเมืองตอนไทยรักไทยเป็นรัฐบาล เราเสนอนโยบายชัดเจนแล้ว ประชาชนชอบนโยนบาย และไม่ได้ใช้เงิน โดยสมัยแรกพรรคไทยรักไทย ส่งสมัคร ส.ส.หน้าใหม่ ที่เราเรียกว่า นกแล เราใช้เงินไม่ถึงล้านบาท เอาชนะส.ส.รุ่นลายคราม อดีต รมต. กันเป็นแถว ที่ใช้เงิน 20-30 บาทได้"
ปลุกระดม 8 เม.ย.ล้มอำมาตย์
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวด้วยว่าประชาธิปัตย์ ยังเล่นการเมืองแบบเก่า ตั้งข้อกล่าวหาเรื่อล้มราชบัลลังก์ แล้ววันนี้ยังใช้กันอยู่ เพราะคิดว่าได้ผล เช่นเดียวกับ องคมนตรี ที่ผูกขาดความจงรักภักดี
"คนไทยทุกคนจงรักภักดีเหมือนกัน แม้อยู่ห่างไกล และไม่น้อยกว่าคนอยู่ใกล้ วันนี้ต้องเลิก โดยเฉพาะคนอยู่ใกล้เบื้องพระยุคลบาท อย่าอ้าง อย่ากล่าวหาใคร และวิธีการเดี๋ยวนี้มันเก่า การปิดข่าว การบิดข่าวเขาใช้ตอน พ.ค.ทมิฬ และที่ พ.ค.ทมิฬ คนออกมามาก เพราะมีการปิดข่าว ดังนั้นวันที่ 8 เม.ย. คนก็จะมามากเพราะคนถูกปิดข่าวเช่นกัน"
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวด้วยว่า วันนี้แนวคิดของรัฐบาล ของทหาร ยังเก่าอย่างเดิมมีการปิดข่าว บิดเบือนข่าว กล่าวหาเรื่องล้มราชบัลลังก์ ซึ่งมันหนีความจริงไม่ได้ จึงอยากจะเตือนผู้ที่โลภโกรธหลง ให้มีสมาธิหน่อย เพราะ โลภ โกรธ หลง ทำให้ปัญญาเสื่อม ถ้ามีสมาธิ จิตใจจะแจ่มใส เหมือนเสื้อแดง
" เราไม่มีความคิดแม้แต่นิดเดียวที่จะล้มล้างราชบัลลังก์ แต่ชัดๆ เราจะล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย เรา ต้องการเอาระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข"
เพ้อจะกลับมาแก้ปัญหาศก.
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกตอนหนึ่งว่า ขอย้ำว่าวันนี้เรากำลังเดินทางมาถึงทางแยกที่ประชาธิปไตยต้องตัดสินใจ ว่าเราจะถอยหลังหรือเดินหน้า ตัวอย่างของประชาธิปไตยที่เดินหน้าคือ ตัวอย่างของช่วงที่ตนเป็นายกฯ ที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง นำนโยบายเศรษฐกิจมาใช้กับประชาชน จนทำให้อยู่กันอย่างมีความสุข แต่เศรษฐกิจวันนี้น่าห่วง และตนไม่คิดว่าจะแก้ได้ง่ายภายใต้ระบอบการเมืองนี้ ภายใต้อำมาตยาธิปไตยแบบนี้ แต่จะแก้ได้ต้องเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
"ถ้าใครแก้ไม่ได้ ผมจะไปแก้ อย่างไรก็ตาม วันนี้ผมไม่ได้เรียกร้องให้ท่านทั้งหลายมาต่อสู้ให้ผม แต่ต้องต่อสู้เพื่ออนาคตของลูกหลานท่าน"
ส่วนที่มีการปล่อยข่าวว่า ตนมีเงินฝากแสนล้าน ที่เกาะเคแมน และที่ประเทศกัมพูชานั้น ขอท้าว่า ถ้าเจอ ตนจะให้รัฐบาลจากประชาธิปัตย์ ยืมฟรีๆ หรือแบ่งไปใช้เลยก็ได้ เพราะอย่างไรมันไม่มี ซึ่งเป็นการปล่อยข่าวกันแบบไม่มีสำนึก
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวโจมตี พล.อ.เปรม อีกว่า ในยุค พล.อ.เปรม เป็นนายก 8 ปี มีการปฏิวัติ 3 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ และมีการเลือกตั้ง 3 ครั้ง และพล.อ.เปรม ยังกลัวการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะหากยื่นเมื่อไร ก็ยุบสภาหนี และมีครั้งหนึ่ง มีคนเสนอยื่นอภิปรายฯ ท่านก็ช่วยให้ ส.ส.ถอนชื่อ คนที่ถอนคนสุดท้ายคือ นายชัย ชิดชอบ เพราะมีการตกลงพิเศษ เพราะฉะนั้นการเมืองเรื่องพวกนี้เกิดจากประชาธิปไตยอ่อนแอ เมื่ออ่อนแอเราจึงมีนักการเมืองอาชีพเยอะ ประชาธิปัตย์ ตั้งรัฐบาลได้นั้น ไม่ได้มาจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน แต่ได้เป็นรัฐบาล ซื้อส.ส.เข้าไปเพื่อให้ได้เป็นนายกฯ ทั้งนี้รัฐธรรมนูญ.50 เป็นฉบับที่ทำลายนักการเมืองและพรรคการเมือง แล้วพี่น้องจะปล่อยให้อยู่ได้อย่างไร
"ขอให้เรามาร่วมใจกัน วันที่ 8 เม.ย.ที่อยู่ใน กทม.และใกล้เคียง ขอให้มาแสดงพลัง พวกเราพวกลูกผู้ดี ไม่มีอะไร จิตใจสูง มาแสดงพลัง เพื่ออยากเห็นอนาคตประเทศ ไม่อยากให้ถอย หลัง และย้ำว่าผมไม่ได้เรียกร้องให้มาต่อสู้เพื่อตัวผม แต่พี่น้องต่อสู้เพื่อลูกหลานของท่าน"
องค์กรอิสระแทรกแซงการเมือง
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวโจมตีการทำงานขององค์กรอิสระ ว่า เป็นการเอาข้าราชการเกษียณ มามีอำนาจเหนือการเมือง
"โยนอำนาจกลับไปที่มือประชาชน เพราะฉะนั้นวันนี้รัฐบาลนี้ไม่มีความชอบธรรมเลย รัฐบาลของป๋า ท่านอาจคิดว่าจะได้รับเลือกอีกก็ได้ ผมมีรายละเอียดมากมายทั้งการแทรกแซงการทำงานรัฐบาล โดยอำมาตย์ ขอพี่น้อง 8 เม.ย. เป็นวันสำคัญของเรา พาลูกพาหลานออกมาให้หมด แสดงให้เห็นว่าเราต้องการหาอนาคตที่ดีกับเขา วันดังกล่าวอย่าขัดขวางประชาชนที่ต้องการแสดงออกตามสิทธิ ตามระบอบประชาธิปไตย"
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวในตอนท้ายว่า วันที่ 6 เม.ย. ขออนุญาตพัก 1วัน เพราะต้องเดินทาง แต่ไม่ใช่ไปเขมร แล้ววันที่ 7-8 เม.ย.พบกันใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (5 เม.ย.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. เข้ารายงานสถานการณ์การชุมนุม ของกลุ่ม นปช. ต่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยเปิดเผยว่าได้รายงานสถานการณ์การชุมนุมว่า ขณะนี้ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา ส่วนการกำหนดดาวกระจายไปที่หน้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ก็ยังคงเป็นเพียงกระแสข่าว แต่ได้เตรียมพร้อมหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ไว้รับมือแล้ว และที่กำหนดว่า จะมาชุมนุมที่พรรคประชาธิปัตย์ ในวันครบรอบ 63 ปี ในวันนี้ (6 เม.ย.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมความพร้อมรับมือไว้แล้วเช่นกัน
ส่วนการเปิดทางให้คณะรัฐมนตรี เข้าประชุมในทำเนียบฯ ขณะนี้เป็นหน้าที่ของกรมบังคับคดี ที่จะบังคับให้ผู้ชุมนุมเปิดทางให้ตามคำสั่งของศาล ตำรวจเป็นเพียงผู้สนับสนุนเท่านั้น ซึ่งเบื้องต้น ยังไม่ได้รับการประสานว่า จะขอกำลังจากหน่วยใด
แฉแม้วจ่ายเงินส.ส.เกณฑ์คน
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองในขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ มั่นใจว่า ประชาชนส่วนใหญ่จะแยกแยะได้ว่า การเคลื่อนไหวมวลชนที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่เบื้องหลัง มีวัตถุประสงค์ที่แท้จริงคือ ทำให้ตัวเองพ้นผิด ซึ่งการที่องคมนตรีหลานท่าน ออกมาพูดนั้น ก็เป็นการพูดเตือนสติ มิได้ออกมาพูดเพื่อรักษาสถานบันองคมนตรี ตามที่มีการกล่าวหาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเอกสารจำนวน 2 แผ่น เป็นเรื่องการเตรียมการเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัด และเดินทางเข้ามาชุมนุมในกรุงเทพฯ ในวันที่ 8 เม.ย.นี้ โดยได้มาจากจังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ มีการสรุปค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 289,000 บาท
อย่างไรก็ตามเข้าใจว่า มีประชาชนส่วนหนึ่งมาร่วมชุมนุมด้วยเจตนาบริสุทธิ์ สิ่งที่เป็นห่วงขณะนี้ คือ การแจกใบปลิว วันนี้ขยับไปถึงขั้นโจมตีพระราชกรณียกิจ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่จะไม่ขอลงรายละเอียด ดังนั้นขอฝากไปยังผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล จัดการอย่างเด็ดขาด
นพ.บุรณัชย์ กล่าวด้วยว่า ที่มีการระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปอยู่ที่กัมพูชานั้น เป็นเรื่องจริง โดยได้มีการสอบถามไปยังรัฐบาลกัมพูชาตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.แล้ว ส่วนขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเปลี่ยนแหล่งพักพิงหรือไม่ ทางกระทรวงการต่างประเทศคงจะออกมาชี้แจงความคืบหน้าให้ทราบต่อไป
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการรวมพลใหญ่ของกลุ่มคนเสิ้อแดงในวันที่ 8 เม.ย.นี้ โดยมีการจ่ายเงินให้กับสมาชิกพรรคเพื่อไทย คนละ 2 แสนบาท เป็นการชี้ให้เห็นว่า เป็นการวางบิล เมื่อครบรอบบัญชี และไม่ว่าใครก็ตามที่พยายามสร้างสถานการณืในวันที่ 8 เม.ย.นี้ สิ่งศักดิ์สิทธิที่ปกครองบ้านเมืองมีจริง ใครที่เคลื่อนไหวและสร้างสถานการณ์ร้ายมักจะมีอันเป็นไป
เตือนปชช.อย่าตกเป็นเครื่องมือ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงกล่าวโจมตี พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี อย่างรุนแรงด้วยถ้อยคำหยาบคาย กรณีที่ออกมาตำหนิพฤติกรรมของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าไม่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ว่า จะเห็นว่าองคมนตรีทุกคนที่ออกมาแสดงความเห็น จะถูกลิ่วล้อของพ.ต.ท.ทักษิณตำหนิอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นการพยายามทำลายความน่าเชื่อถือขององคมนตรี ทั้งที่องคมนตรีทั้ง 18 ท่าน เป็นบุคคลที่สังคมยอมรับ และเป็นกลางทางการเมือง คำพูดที่ออกมาจากปากของบุคคลเหล่านี้เชื่อถือได้ แต่กลุ่มคนเสื้อแดง พยายามแก้เกี้ยวโดยขู่ว่าจะฟ้องร้อง ซึ่งในทางกลับกันตอนตัวเองขึ้นเวทีพูดจา จาบจ้วง เสียดสี ก็ไม่เห็นองคมนตรีคนใดจะฟ้องรอง แต่พอตัวเองถูกพาดพิง ก็ข่มขู่โดยหยิบรื่องการฟ้องร้องขึ้นมา ซึ่งก็เป็นสิทธิที่จะฟ้องได้ เพราะองคมนตรีก็เป็นบุคคลธรรมดา ไม่มีอำนาจเหนือกฎหมาย และจะเป็นการพิสูจน์ในชั้นศาลว่า ข้อกล่าวหาขององคมนตรี ต่อพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นความจริง
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามแสดงให้เห็นว่าตนยังมีเงินทองมากพอที่จะสนับสนุนการเคลื่อนไหว ด้วยการโชว์เครื่องบินราคา 1,500 ล้านบาท ผ่านสื่อมวลชน รวมถึงการพูดถึงเหมืองทองหลายแสนล้าน ว่า คงเข้าใจว่ากลุ่มคนที่มาสนับสนุนตนเองเป็นคน 2 ประเภท คือ กลุ่มคนที่เคยได้ประโยชน์ และกลุ่มที่หวังจะได้ประโยชน์ จึงต้องตีปี๊ปเพื่อเรียกความจงรักภักดี เพราะรู้ดีว่าคนเหล่านี้เห็นเงินแล้วจะตาลุกวาว ดังนั้น อยากขอเตือนประชาชนว่าอย่าตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มคนเหล่านี้
จวกแม้วระบบอุปถัมภ์
ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามพูดว่ามีเป้าหมาย เพื่อล้มล้างระบอบอำมาตยาธิปไตยนั้น อยากให้สังคมกลับไปดูว่า ใครคืออำมาตยาธิไตยตัวจริง ระหว่างประธานองคมนตรี กับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งระบอบอำมาตยาธิปไตย คือระบบอุปถัมภ์ มีการแต่งตั้งข้าราชการ ในยุคที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯ มีการแต่งตั้งญาติพี่น้องจากทหารช่าง เป็น ผบ.ทบ. ตั้งน้องเมียเป็นรอง ผบ.ตร. ข้ามหัวคนอื่นหลายคน รวมถึงการแต่งตั้งหมอประจำตัวแม่ยาย มาเป็นรัฐมนตรี แทรกแซงสื่อ ซื้อสื่อ ซื้อองค์กรอิสระ ซื้อทุกองค์กร ทั้ง ส.ส. -ส.ว. ซึ่งเป็นพฤติกรรมของระบอบอำมาตยาธิปไตยตัวจริง แต่วันนี้กลับพยายามป้ายสีให้คนอื่น ว่าเป็นอำมาตยาธิปไตยแต่ตนเองเป็นนักประชาธิปไตย
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ปฏิเสธการเจรจากับรัฐบาล ว่า เป็นเพราะพ.ต.ท.ทักษิณทราบว่าคนในรัฐบาลถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐโดยตำแหน่ง หากมีการไปพบเพื่อเจรจากันบุคคลเหล่านั้น ก็มีสิทธิจับกุมตัวได้ เพราะถ้าปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ลอยนวลไปก็จะมีความผิดในมาตรา 157 ดังนั้น ถ้าจะมีการเจรจาก็ต้องไม่ใช่คนที่มีตำแหน่งในรัฐบาล ซึ่งก็ชอบแล้วที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่เจรจา
เสื้อแดงขู่ป่วนถกอาเซียน
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง กล่าวว่า ขณะนี้มีการแทรกแซงการกระจายเสียงวิทยุชุมชนในเครือข่ายของกลุ่มเสื้อแดง โดยเฉพาะวิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ โดยคาดว่าเป็นฝีมือของรัฐบาล จึงขอให้นาย สาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นลูกผู้ชาย ยอมรับและคืนเสรีภาพให้กับประชาชนเหมือนเดิม ซึ่งหากยังลิดรอนและปิดกั้นเสรีภาพของประชาชนเช่นนี้ ก็อย่าหวังว่า การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนบวก 3 ที่พัทยา จะทำได้สะดวก
ส่วนที่มีการระบุว่า กลุ่มคนเสื้อแดงต้องการโค่นล้มสถาบันฯ นั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ ไม่ได้มีเป้าหมายโค่นล้มสถาบันฯ แต่เป็นการโค่นล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย
สำหรับกรณี พล.อ. พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ระบุ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่จงรักภักดี ขณะนี้ทีมกฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ดำเนินการฟ้องร้องพล.อ.พิจิตรแล้ว
"อดิศร"ประกาศตัดขาด"เนวิน"
นายอดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย บ้านเลขที่ 111 กล่าวตอนหนึ่งบนเวที คนเสื้อแดง ที่ทำเนียบฯ โดยระบุถึง นายเนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน ว่า ในช่วงที่นายเนวิน อยู่ใกล้พ.ต.ท.ทักษิณ จนคนอย่างตนเข้าใกล้ไม่ได้ นายเนวิน สะพายยามเดินใกล้ๆแล้วก็พาไปนอนบ้านที่บุรีรัมย์ จนตนมองไม่ออกว่านายเนวิน จะแยกออกจากทักษิณได้อย่างไร และหลังวันที่ 19 ก.ย. นายเนวิน ก็ยังสู้อยู่ จนกระทั่งมีการเลือกตั้ง 23 ธ.ค. 50 และตนกับนายเนวิน ก็ได้ปราศัยด้วยกันที่บุรีรัมย์ นายเนวิน เล่าว่าช่วงปฏิวัติถูกจับตัวไป ถูกแก้ผ้า ทรมาน พูดไปร้องไห้ไป และยังพูดยืนยันว่า ทักษิณ ไม่ผิดอย่างนั้น ไม่ผิดอย่างนี้ แต่พอธรรมนูญยุบพรรค 3 พรรค ก็ได้ยินข่าวว่านายเนวิน ติดต่อกับนายสุเทพ ผมไม่เชื่อ แต่จนในที่สุดจึงรู้ว่าถูกหลอก พร้อมกับกล่าวประกาศตัดญาติขาดมิตรกับนายเนวิน และถ้าแน่จริง วันที่ 8 เม.ย. ให้มาเจอกับคนเสื้อแดง ที่ถนนราชดำเนินได้
คุยโอนเงิน 5 ล้านให้สมุนเข้ากรุง
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าว ถึงกรณี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี บอกว่าวันที่ 8 เม.ย.นี้ จะอยู่ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ก็ขอให้รักษาคำพูด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า พล.อ.เปรม จะไม่อยู่บ้านวันดังกล่าว พร้อมยืนยันว่า คนเสื้อแดงมีความพร้อมในการ ชุมนุมใหญ่ มีการโอนเงินที่ได้จากการบริจาคจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อเป็นค่ารถให้กับผู้ชุมนุมในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อเดินทางเข้า กทม.แล้ว
ส่วนที่กลุ่มคนรักป๋า จะมาชุมนุมที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ในวันที่ 8 เม.ย. ก็เป็นสิทธิ ถ้าสามารถต้านทานกลุ่มคนเสื้อแดง ที่จะมาร่วมชุมนุม 300,000 คนได้ ก็ไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตามถือเป็นการยั่วยุให้เกิดความรุนแรง และการนำคนมาเป็นเกราะกำบังแบบนี้ ไม่เหมาะสม ทั้งนี้ หากมีความวุ่นวายเกิดขึ้น รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ เพราะการชุมนุมของคนเสื้อแดง เน้นสันติวิธีมาตลอด หากมีการล้ำเส้น อาจเป็นสงครามกลางเมือง
"แม้ว"อัดอำมาตย์พาการเมืองย้อนยุค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.15 น. วานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้กล่าวผ่านระบบวีดีโอลิงก์ มายังเวทีคนเสื้อแดงที่ทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง โดยกล่าวว่า ตนไม่ได้อยู่ที่กัมพูชา เพราะหลังจากตีกอล์ฟกับนายกฮุนเซ็น เมื่อปีที่แล้วก็ไม่ได้มาที่กัมพูชาอีกเลย การที่คนของรัฐบาลบอกว่าตนอยู่ที่กัมพูชา แสดงว่าการข่าวของรัฐบาลนี้ใช้ไม่ได้
พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พยายามเน้นย้ำว่า ขอให้คนเสื้อแดงมารวมพลังกันในวันที่ 8 เม.ย.นี้ให้มาก เพราะขณะนี้มีแต่คนหัวเก่า ออกมาพูดเพื่อให้ประเทศถอยหลัง
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงการขึ้นเป็นนายกฯของพล.อ.เปรม ได้เป็นภายหลังการปฏิวัติ แม้ต่อมาจะมีการเลือกตั้งก็ตาม ส่วนพล.อ.สุรยุทธ์ ก็อยากเป็นนายกฯ แต่ต้องให้มีการปฏิวัติ ส่วน พล.อ.พิจิตร นั้นยังจำได้ไหมว่า 9 ก.ย. 28 เกิดเหตุการนัดแล้วไม่ตามนัด และความจริงท่านเป็นกบฏ แต่โชคดีที่ได้เป็นองคมนตรี ส่วนนายอานันท์ ปันยารชุน ก็เป็นนายกที่มาจากการปฏิวัติ
"เพราะฉะนั้น ท่านสังเกตุหรือไม่ว่า แนวคิดของเผด็จการ ของคนที่เป็นอำมาตย์ และคนมีพลังในสังคมไทยกลับเป็นความคิดที่ต้องการให้ประเทศย้อนยุค เพราะเขามองว่าการเมืองเป็นประชาธิปไตย ไม่มีคุณภาพ เพราะมีการซื้อเสียง เขาหารู้ไม่ว่า มีการเลือกตั้งแล้วมีปฏิวัติหนึ่ง ทำให้การเมืองไม่ต่อเนื่อง แต่การเมืองตอนไทยรักไทยเป็นรัฐบาล เราเสนอนโยบายชัดเจนแล้ว ประชาชนชอบนโยนบาย และไม่ได้ใช้เงิน โดยสมัยแรกพรรคไทยรักไทย ส่งสมัคร ส.ส.หน้าใหม่ ที่เราเรียกว่า นกแล เราใช้เงินไม่ถึงล้านบาท เอาชนะส.ส.รุ่นลายคราม อดีต รมต. กันเป็นแถว ที่ใช้เงิน 20-30 บาทได้"
ปลุกระดม 8 เม.ย.ล้มอำมาตย์
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวด้วยว่าประชาธิปัตย์ ยังเล่นการเมืองแบบเก่า ตั้งข้อกล่าวหาเรื่อล้มราชบัลลังก์ แล้ววันนี้ยังใช้กันอยู่ เพราะคิดว่าได้ผล เช่นเดียวกับ องคมนตรี ที่ผูกขาดความจงรักภักดี
"คนไทยทุกคนจงรักภักดีเหมือนกัน แม้อยู่ห่างไกล และไม่น้อยกว่าคนอยู่ใกล้ วันนี้ต้องเลิก โดยเฉพาะคนอยู่ใกล้เบื้องพระยุคลบาท อย่าอ้าง อย่ากล่าวหาใคร และวิธีการเดี๋ยวนี้มันเก่า การปิดข่าว การบิดข่าวเขาใช้ตอน พ.ค.ทมิฬ และที่ พ.ค.ทมิฬ คนออกมามาก เพราะมีการปิดข่าว ดังนั้นวันที่ 8 เม.ย. คนก็จะมามากเพราะคนถูกปิดข่าวเช่นกัน"
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวด้วยว่า วันนี้แนวคิดของรัฐบาล ของทหาร ยังเก่าอย่างเดิมมีการปิดข่าว บิดเบือนข่าว กล่าวหาเรื่องล้มราชบัลลังก์ ซึ่งมันหนีความจริงไม่ได้ จึงอยากจะเตือนผู้ที่โลภโกรธหลง ให้มีสมาธิหน่อย เพราะ โลภ โกรธ หลง ทำให้ปัญญาเสื่อม ถ้ามีสมาธิ จิตใจจะแจ่มใส เหมือนเสื้อแดง
" เราไม่มีความคิดแม้แต่นิดเดียวที่จะล้มล้างราชบัลลังก์ แต่ชัดๆ เราจะล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย เรา ต้องการเอาระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข"
เพ้อจะกลับมาแก้ปัญหาศก.
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกตอนหนึ่งว่า ขอย้ำว่าวันนี้เรากำลังเดินทางมาถึงทางแยกที่ประชาธิปไตยต้องตัดสินใจ ว่าเราจะถอยหลังหรือเดินหน้า ตัวอย่างของประชาธิปไตยที่เดินหน้าคือ ตัวอย่างของช่วงที่ตนเป็นายกฯ ที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง นำนโยบายเศรษฐกิจมาใช้กับประชาชน จนทำให้อยู่กันอย่างมีความสุข แต่เศรษฐกิจวันนี้น่าห่วง และตนไม่คิดว่าจะแก้ได้ง่ายภายใต้ระบอบการเมืองนี้ ภายใต้อำมาตยาธิปไตยแบบนี้ แต่จะแก้ได้ต้องเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
"ถ้าใครแก้ไม่ได้ ผมจะไปแก้ อย่างไรก็ตาม วันนี้ผมไม่ได้เรียกร้องให้ท่านทั้งหลายมาต่อสู้ให้ผม แต่ต้องต่อสู้เพื่ออนาคตของลูกหลานท่าน"
ส่วนที่มีการปล่อยข่าวว่า ตนมีเงินฝากแสนล้าน ที่เกาะเคแมน และที่ประเทศกัมพูชานั้น ขอท้าว่า ถ้าเจอ ตนจะให้รัฐบาลจากประชาธิปัตย์ ยืมฟรีๆ หรือแบ่งไปใช้เลยก็ได้ เพราะอย่างไรมันไม่มี ซึ่งเป็นการปล่อยข่าวกันแบบไม่มีสำนึก
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวโจมตี พล.อ.เปรม อีกว่า ในยุค พล.อ.เปรม เป็นนายก 8 ปี มีการปฏิวัติ 3 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ และมีการเลือกตั้ง 3 ครั้ง และพล.อ.เปรม ยังกลัวการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะหากยื่นเมื่อไร ก็ยุบสภาหนี และมีครั้งหนึ่ง มีคนเสนอยื่นอภิปรายฯ ท่านก็ช่วยให้ ส.ส.ถอนชื่อ คนที่ถอนคนสุดท้ายคือ นายชัย ชิดชอบ เพราะมีการตกลงพิเศษ เพราะฉะนั้นการเมืองเรื่องพวกนี้เกิดจากประชาธิปไตยอ่อนแอ เมื่ออ่อนแอเราจึงมีนักการเมืองอาชีพเยอะ ประชาธิปัตย์ ตั้งรัฐบาลได้นั้น ไม่ได้มาจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน แต่ได้เป็นรัฐบาล ซื้อส.ส.เข้าไปเพื่อให้ได้เป็นนายกฯ ทั้งนี้รัฐธรรมนูญ.50 เป็นฉบับที่ทำลายนักการเมืองและพรรคการเมือง แล้วพี่น้องจะปล่อยให้อยู่ได้อย่างไร
"ขอให้เรามาร่วมใจกัน วันที่ 8 เม.ย.ที่อยู่ใน กทม.และใกล้เคียง ขอให้มาแสดงพลัง พวกเราพวกลูกผู้ดี ไม่มีอะไร จิตใจสูง มาแสดงพลัง เพื่ออยากเห็นอนาคตประเทศ ไม่อยากให้ถอย หลัง และย้ำว่าผมไม่ได้เรียกร้องให้มาต่อสู้เพื่อตัวผม แต่พี่น้องต่อสู้เพื่อลูกหลานของท่าน"
องค์กรอิสระแทรกแซงการเมือง
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวโจมตีการทำงานขององค์กรอิสระ ว่า เป็นการเอาข้าราชการเกษียณ มามีอำนาจเหนือการเมือง
"โยนอำนาจกลับไปที่มือประชาชน เพราะฉะนั้นวันนี้รัฐบาลนี้ไม่มีความชอบธรรมเลย รัฐบาลของป๋า ท่านอาจคิดว่าจะได้รับเลือกอีกก็ได้ ผมมีรายละเอียดมากมายทั้งการแทรกแซงการทำงานรัฐบาล โดยอำมาตย์ ขอพี่น้อง 8 เม.ย. เป็นวันสำคัญของเรา พาลูกพาหลานออกมาให้หมด แสดงให้เห็นว่าเราต้องการหาอนาคตที่ดีกับเขา วันดังกล่าวอย่าขัดขวางประชาชนที่ต้องการแสดงออกตามสิทธิ ตามระบอบประชาธิปไตย"
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวในตอนท้ายว่า วันที่ 6 เม.ย. ขออนุญาตพัก 1วัน เพราะต้องเดินทาง แต่ไม่ใช่ไปเขมร แล้ววันที่ 7-8 เม.ย.พบกันใหม่