โฆษก บช.น.เผยคำสั่งศาลมีผลบังคับใช้ทันทีกลุ่มคนเสื้อแดงต้องปฏิบัติตาม หากไม่ปฏิบัติตาม สปน.ต้องร้องศาลให้ออกหมายบังคับคดี ด้านม็อบเสื้อแดงแหยงไม่กล้าฝืนคำสั่ง ปล่อยเจ้าหน้าที่ทำเนียบเข้าทำงานแล้ว แต่ยังดื้อส่งทนายอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่ง ยื่นขอไต่สวนฉุกเฉินพร้อมนำแกนนำขึ้นเบิกความเวลา 11.00 น.นี้
วันนี้ (1 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น.ในฐานะ โฆษก บช.น. กล่าวภายหลังประชุมนายตำรวจระดับรอง ผบช.น. ผบก.น.1-9 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่หน้าทำเนียบรัฐบาลว่า วันนี้มีการสรุปเกี่ยวกับกรณีศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้กลุ่มคนเสื้อแดงเปิดทางเข้าออกทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นหน้าที่ของคนเสื้อแดงที่จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลเนื่องจากคำสั่งศาลมีผลบังคับใช้ทันที
“ส่วนที่หากคนเสื้อแดงไม่ปฏิบัติตามก็ต้องเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่ต้องร้องขอต่อศาลให้ออกหมายบังคับคดี และเมื่อศาลออกหมายบังคับคดี ก็ต้องเป็นหน้าที่เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี ให้เป็นไปตามคำสั่งศาล และกรมบังคับคดีจะประสานตำรวจอีกครั้งตามขั้นตอน” โฆษก บช.น. กล่าว
พล.ต.ต.สุพร กล่าวต่อว่า ส่วนที่ว่าแกนนำจะมีการชุมนุมกดดันประธานองคมนตรีให้ลาออก ไม่เช่นนั้นจะปิดบ้านสี่เสาเทเวศร์ นั้น พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 จัดทำแผนควบคุมดูแลสถานการณ์หากมีการเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุมจริง ส่วนสถานการณ์การชุมนุมจะมีความรุนแรงหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถ แต่เจ้าหน้าที่ก็จะมีการประเมินสถานการณ์แบบชั่วโมงต่อชั่วโมง และมีแผนรองรับทุกขั้นตอนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้กลุ่มคนเสื้อแดงกระจายกำลังไปดักรอเจ้าหน้าที่จากกรมบังคับคดีที่บริเวณประตู 6 และประตู 8 ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยมีตำรวจและทหารคอยตรึงกำลังไว้ โดยขณะนี้ยังไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ขณะที่วันนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้เปิดทางให้ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เดินทางเข้ามาทำงานในทำเนียบรัฐบาลได้ปกติตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ส่วนเวทีกลุ่มคนเสื้อแดงวันนี้มีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ขึ้นเวทีปราศรัยด้วย
ด้าน นายคารม พลทะกลาง ทนายความแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า การยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่งที่สั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ม็อบเสื้อแดงเปิดทางให้ข้าราชการสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ถนนลูกหลวงถึงแยกเทวกรรม ถึงสะพานชมัยมรุเชฐ และกำชับห้ามใช้เครื่องขยายเสียงรบกวนการทำงานของข้าราชการในทำเนียบ ตั้งแต่ 08.30-16.30 น. ตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์ โดยสั่งให้มีผลทันทีตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวานที่ผ่านมาว่า ได้มีการหารือกับแกนนำ นปช.ว่าจะยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่ง โดยจะยื่นในเรื่องของอำนาจของศาลแพ่งว่ามีอำนาจสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ โดยจะต้องยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งแกนนำ นปช.ยืนยันว่าเป็นการใช้สิทธิชุมนุมตามกรอบของกฎหมาย และจะมีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่งวันนี้ เวลา 11.00 น. โดยจะยื่นขอไต่สวนฉุกเฉินด้วย พร้อมกับนำแกนนำ นปช.ขึ้นเบิกความต่อศาล
ล่าสุด พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 และคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 คันรถตู้ และ1 คันรถกระบะ รวมถึงเจ้าหน้าที่ศาลแพ่งได้เดินทางนำหมายศาลที่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวมานำส่งให้กับนายวีระ มุสิกพงษ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธ์ จำเลย 1-3 ซึ่งถูกสำนักงานปลัดสำนักนายกฯรัฐมนตรี (สปน.) ยื่นฟ้องเมื่อวานที่ผ่านมา เพื่อให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลโดยทันที แต่ทั้งนี้เนื่องจากแกนนำนปช.ทั้งสามไม่อยู่ในบริเวณเวทีปราศรัย คณะเจ้าหน้าที่ตำรวจและศาลแพ่ง จึงจะนำหมายศาลแพ่งดังกล่าวไปติดประกาศไว้ที่ประตูทางเข้าทำเนียบที่ 6 และ 8 แทน
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า มาส่งหมายให้กับแกนนำ แต่ไม่พบตัว ก็จะนำหมายดังกล่าวไปติดไว้ที่ประตูทางเข้าทำเนียบที่ 6 และ 8 ซึ่งจะถือว่าแกนนำนปช.ทั้ง 3 ได้ทราบคำส่งศาลตามขั้นตอนและวิธีทางกฎหมายแล้ว ซึ่งก็จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลต่อไป