"สุเทพ"เพิ่งตื่นเรียกประชุม ครม.ด้านความมั่นคง รับมือม็อบเสื้อแดงหลัง แม้วโฟนอินปลุกระดมและโจมตี ป๋าเปรม องคมนตรี กระทบสถาบันไม่หยุด สั่ง มหาดไทย ชี้แจงประชาชนให้เข้าใจสิ่งที่ถูกต้อง พร้อมติดตามการเคลื่อนกำลังอย่างใกล้ชิด เทพเทือก ยันพร้อมคุย ทักษิณ ที่ไหนก็ได้ แต่ไม่รับข้อเสนอยุบสภา นิรโทษกรรม บุญจง คาดโทษผู้ว่าฯหากยังปล่อยเสื้อแดงยึดศาลากลางจังหวัด ระนองรักษ์ เตรียมถก กทช.สะกัดวิดีโอลิงค์ เทพเทือก-ประวิตร ยันไม่มีปฏิวัติ มาร์ค สายตรง สุเทพ ถามสถานการณ์ เชื่อไม่มีอะไรรุนแรง ม็อบเสื้อแดงดื้อแพ่งหลังศาลสั่งเปิดทางเข้าทำเนียบ โวยแหลก อ้างรัฐบาลตัดสัญญาณดีสเตชั่น ลั่นม็อบใหญ่แน่ 8 เม.ย. ด้าน แม้ว งดปลุกระดม 1 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (1 เม.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ได้เรียกรัฐมนตรีรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง และที่ดูแลการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเข้าหารือเพื่อรับมือสถานการณ์การชุมนุม โดยพล.อประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ นายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าประชาชนส่วนใหญ่เป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะที่มีการปราศรัยโค่นล้มระบอบอมาตยาธิปไตย รวมถึงการโฟนอินและการวิดีโอลิงค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ยุยงปลุกปั่นประชาชน ซึ่งมีเสียงบ่นว่ารัฐบาลไม่ทำอะไร จึงขอยืนยันว่า รัฐบาลได้ติดตามและประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา แต่การกระทำของรัฐบาลต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง ไม่บริหารประเทศบนข่าวลือ ต้องมีเหตุผล โดยจะยึดถือตามกฎหมายเป็นหลักในการแก้ไขปัญหา
สั่งรมต.เร่งจัดการในส่วนที่รับผิดชอบ
นายสุเทพ กล่าวว่าที่ประชุมได้มอบหมายให้แต่ละกระทรวงไปปฏิบัติหน้าที่ของตัวเอง เท่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจากวันนี้ไปรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ถูกพาดพิงจะต้องชี้แจงให้มากขึ้น เพราะถ้าไม่ชี้แจงประชาชนก็จะสงสัย เช่น กระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีต้องไปกำชับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และรายงานสถานการณ์จริงให้รัฐมนตรีทราบ และชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ
ส่วนกระทรวงไอซีที ได้รับมอบหมายให้ไปดู ว่าจะมีกฎหมายใดที่จะสามารถดำเนินการตัดสัญญาณ หรือการพูดผ่านวีดีโอลิงค์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้บ้าง ถ้ามีกฎหมายใดที่สามารถดำเนินการได้ ก็ให้ดำเนินการตัดสัญญาณทันที
เทพเทือกพร้อมคุยแม้วทุกแห่ง
นายสุเทพ ยอมรับว่ารัฐบาลอาจจะทำอะไรช้าไปบ้าง แต่ต้องทำตามกฎหมาย ส่วนประเทศต่างๆ ที่มีสนธิสัญญากับไทยก็ได้ประสานไปแล้วไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศ แต่ต้องเข้าใจว่าพ.ต.ท.ทักษิณ มีเครื่องบินส่วนตัว วันนี้นอนฮ่องกง พรุ่งนี้นอนดูไบ อีกวันนอนแอฟริกา ตนคงไม่สามารถให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และอัยการ ตามไปทุกที่ได้ทัน
ผมพร้อมพูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ทุกที่ทุกเวลา ที่ไหนก็ได้ ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณนัดหมายมา ผมพร้อมเจรจา เพื่อให้บ้านเมืองสงบ แต่จะไม่ทำตามข้อเรียกร้อง โดยเฉพาะการยุบสภาเพราะรัฐบาลจะไม่ยึดสภาแน่นอน
นายสุเทพ กล่าวว่า สำหรับร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ที่เสนอโดย ส.ส.พรรคเพื่อไทยนั้นตนได้พิจารณาแล้วเห็นว่าขัดหลักการการทำงานในระบอบประชาธิปไตย เพราะร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่เอาโทษคนทำความผิด ก็เหมือนกฎหมาย นิรโทษกรรม ดังนั้นถ้าเป็นเงื่อนไขในการเจรจารัฐบาลคงทำไม่ได้ เพราะการเจรจาต้องอยู่บนพื้นฐานนิติรัฐ
ส่วนจะเดินทางไปให้กำลังใจพล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษหรือไม่เพราะมีข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ประสานขอเข้าพบ นายสุเทพ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องของ ส.ส.ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล และไม่ใช่เรื่องของตน ส่วนการตัดสัญญาณวิดีโอลิงค์ของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พยายามให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบดูแลประเด็นของกฎหมาย ถ้าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการ ถ้าไม่เป็นเรื่องผิดกฎหมายจะดำเนินการอะไรไม่ได้
นายสุเทพ ยืนยันด้วยว่าตนสามารถ เข้าไปทำงานในทำเนียบได้ทุกวัน แต่ไม่อยาก ให้เกิดการปะทะ และที่ผ่านมาปลัดสำนายกรัฐมนตรี ได้ไปร้องต่อศาล เพื่อขอให้ คุ้มครองข้าราชการและรัฐมนตรีให้เข้าไปทำงานในทำเนียบฯ ซึ่งแกนนำ นปช.เป็นนักการเมือง ดังนั้นเมื่อมีคำสั่งศาลออกมา ก็ควรทำเป็นตัวอย่างในการปฏิบัติคำสั่ง
สุเทพการันตีไม่มีปฏวัติแน่นอน
ส่วนจะมีมาตรการอะไรเพื่อไม่ให้เกิดการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 8 เม.ย.นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า คงห้ามไม่ได้ เพราะเขาสามารถชุมนุมได้ แต่ต้องไม่ทำผิดกฎหมาย ถ้าทำลายทรัพย์สินราชการหรือทำร้ายใคร เราต้องมาดูกฎหมายเพื่อดำเนินการ เมื่อถามว่าจะรอให้สถานการณ์เกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยดำเนินการหรือ นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่รอถึงขนาดนั้น แต่ตนมีมาตรการอยู่ในใจคงจะบอกไม่ได้
สำหรับกระแสข่าวการปฏิวัตินั้น นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าตั้งคำถามอย่างนี้ ไม่มี ไม่ได้คิด ขอใช้ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงยืนยัน เมื่อผู้สื่อข่าวซักอีกว่า มีการระบุจากพีเน็ตว่าจะมีการซื้อทหารเพื่อทำการปฏิวัติ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่จริง ทหารไม่ใช่สินค้าที่จะซื้อขาย
ด้านพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทหารขณะนี้เป็นหนึ่งเดียว ความคิดที่แตกต่างมี แต่ไม่แตกแยก เพราะทหารมีระเบียบวินัย
ไอซีทีเพิ่งตื่นถกกทช.ตัดสัญญาณแม้ว
ด้านร.ต.หญิงระนองรักษ์ กล่าวว่า วันนี้ตนจะไปหารือกับ กทช.เพื่อดูข้อกฎหมาย เรื่องการตัดสัญญาณวิดีโอลิงค์ คาดว่าจะมีความชัดเจนขึ้น ทั้งนี้ต้องดูว่าดาวเทียมที่ยิงสัญญาณมาเป็นของไทยหรือต่างประเทศ เพราะหากเป็นของต่างประเทศคงจะเอาผิดได้ยาก ส่วนเรื่องเว็บไซต์ต่างๆ ต้องดูว่าเข้าข่ายหมิ่นหรือไม่ หากเข้าข่าย ก็สามารถจัดการได้ตามมาตรา 63 ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ทันที
มท.2คาดโทษผู้ว่าฯปล่อยเสื้อแดงล้อม
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงการจำกัดพื้นที่ให้ผู้ชุมนุมใน 42 จังหวัดที่จะเดินทางไปชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดในวันที่ 3 เม.ย.ว่า รับรองว่า ต้องลดน้อยลงในพื้นที่ทั้ง 42 จังหวัดอย่างแน่นอน ตนยืนยันว่าจะต้องไม่มี กลุ่มเสื้อแดงมาชุมนุมหน้าศาลากลาง เราจะไม่ให้มีการปิดล้อมสถานที่ราชการ ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมจะต้องย้ายการชุมนุมไปยังพื้นที่ที่จัดให้ เช่นสวนสาธารณะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการคาดโทษหรือไม่ หากยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงไปหน้าศาลากลางจังหวัด นายบุญจง กล่าวว่า ถ้ามี จะมีการคาดโทษทันที เพราะถือว่าเจ้าหน้าที่หย่อยยาน
มาร์คเชื่อม็อบไม่รุนแรง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ระหว่างร่วมประชุมสุดยอดลอนดอน ผู้นำกลุ่มประเทศ จี 20 ที่อังกฤษว่า ได้รับรายงานจากนายสุเทพ ว่า ศาลแพ่งได้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้กลุ่มคนเสื้อแดง เปิดถนนและประตูทางเข้า-ออกทำเนียบฯ ก็ขึ้นอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุมว่าเมื่อได้รับหมายแล้ว จะมีท่าทีอย่างไร ซึ่งจะประเมินสถานการณ์ต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าหนักใจกับสถานการณ์ขณะนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้บริหารจัดการให้ทุกอย่างอยู่ในขอบเขต เพราะไม่ต้องการให้เป็นอุปสรรค ต่อการทำงานของรัฐบาล เชื่อว่าหลังปิดหมายศาลเหตุการณ์จะไม่รุนแรง ทุกคนน่าจะยอมรับและเห็นความจำเป็นว่ารัฐบาลได้พยายามถึงที่สุดเพื่อรักษาบรรยากาศ ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็รักษาสิทธิของตัวเองด้วย ขอย้ำว่ารัฐบาลจะไม่ให้เกิดความรุนแรง ซึ่งได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายว่าอย่าทำอะไรที่นำไปสู่ความรุนแรง เพราะอาจเป็นความ ต้องการของคนกลุ่มน้อย แต่คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการความรุนแรงอยู่แล้ว
กษิตชี้ฮุนเซนแปลคำสัมภาษณ์ผิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการประชุม ครม.ฝ่ายความมั่นคง นัดพิเศษแล้ว นายสุเทพ ได้ใช้เวลาหารือกับนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ประมาณ 10 นาที แล้วลงมา ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายกษิต ถึงกรณีที่นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวหานายกษิต ดูแคลน โดยนายกษิต กล่าวว่า คุณ เข้าใจภาษาไทย หรือเปล่า คงไม่ต้องชี้แจงแล้ว เพราะเขารู้คำแปลว่าคืออะไร ส่วนปัญหาเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ทหารก็พูดจากันอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่ากระทรวงการต่างประเทศจะทำหนังสือชี้แจงไปยังนายฮุน เซนหรือไม่ นายกษิต กล่าวว่า พูดไปหมดแล้วเป็นการแปลคำผิด ตนชื่นชมท่านนายกฯ สมเด็จฮุนเซน เป็นอย่างยิ่ง จากนั้นนายกษิต ได้ขึ้นรถยนต์ส่วนตัวไปโดยบอกสั้นๆว่า จะยังไม่เข้ากระทรวงการต่างประเทศ
สุรยุทธ์ไม่กังวลพัลลภขึ้นเวทีแฉ
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรอง ผอ.กอ.รมน. จะขึ้นเวทีคนเสื้อแดง และนำเรื่องที่กล่าวหาอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติมาปราศรัยว่า เรื่องนี้เคยชี้แจงแล้ว ดังนั้นจะให้ประชาชนพิจารณาเองว่าเป็นอย่างไร และการชี้แจงคงทำเท่าที่จำเป็นเท่านั้น คงไม่สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง เหมือนกับการที่กลุ่มคนเสื้อแดงโจมตีผ่านเวทีปราศรัย และขณะนี้คงไม่มีอะไรชี้แจงเพิ่มเติม ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของการรัฐประหาร ถือเป็นสิทธิที่จะคิด หากได้รับข้อมูลอย่างไรก็คิดอย่างนั้น คงไม่สามารถไปห้ามความคิดได้
ผมไม่รู้สึกหนักใจที่มีการพุ่งเป้าโจมตีมาที่ พล.อ.เปรม และผม เพราะเคยพูดแล้วว่า ใครที่ทำสิ่งใด ก็ต้องได้รับสิ่งนั้นตอบสนอง ไม่ว่าจะเป็นในทางที่ดี หรือไม่ก็ตาม ส่วนที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เสนอแนวทางให้ศาลเป็นผู้ตัดสินเบื้องหลังการรัฐประหารนั้นผมมีข้อพิจารณา ของตนเอง ไม่น่าจะทำให้เป็นเรื่องยืดยาว เชื่อว่าประชาชนจะพิจารณาได้อยู่แล้ว
ส่วนจะมีแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างไรนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่สามารถที่จะเสนอแนะได้ แต่ต้องถามประชาชนว่าต้องการให้บ้านเมืองสงบ ลงในระยะเวลาสั้นๆ เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจหรือไม่ อย่างไรก็ตามในการประชุมทำเนียบองคมนตรีวานนี้ (31 มี.ค.) ไม่มีการพูดถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงโจมตีองคมนตรี
พัลลภปฏิเสธขึ้นเวทีเสื้อแดง
ด้าน พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ตนจะไม่ขึ้นเวทีกลุ่มคนเสื้อแดงแน่นอน เพราะไม่เคยพูดเป็นเพียงแต่การมัดตัว กดดันให้ตนไปปราศรัยบนเวที แต่ขอยืนยันอีกครั้งว่า ถ้าจะขึ้นเวทีต้องเป็นวันดีเดย์ถึงขั้นแตกหัก หรือวันเสียงปืนแตก ถ้าขึ้นตอนนี้จะเสียหาย ทั้งนี้แกนนำกลุ่ม นปช.ไม่เคยปรึกษาหารือตนเลย มีคนโทรฯ มาถามมาก ว่าจะขึ้นเวทีปราศรัยหรือไม่ ซึ่งมีคนตั้งใจจะไปฟัง ตนพูดข้อเท็จจริงจำนวนมาก แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ถึงเวลา
ส่วนที่กลุ่ม นปช.จะเคลื่อนตัวไปล้อมบ้านพล.อ.เปรม นั้นพล.อ.พัลลภ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความพยายามกดดัน แต่คงไม่สำเร็จ เพราะเป็นเรื่องยาก คงไปเย๊วๆ กันมากกว่าไม่มีประโยชน์อะไร
คนรักแผ่นดินฯจี้จัดการแม้ว-ลิ่วล้อ
ที่รัฐสภา วันเดียวกัน กลุ่มเครือข่ายคนรักแผ่นดินเกิด และกลุ่มสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย นำโดย นายสมโชค จันทร์ทอง เลขาธิการสมัชชาฯ เข้ายื่นหนังสือต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เพื่อคัดค้านการกระทำของ พ.ต.ท. ทักษิณ และพวก ที่ใช้วาจาจาบจ้วง ใสร้าย พล.อ.เปรม และสถาบันองคมนตรี ซึ่งเป็นการทำลายล้างคนอื่นเพื่อให้ตนกลับเข้าสู่อำนาจ โดยไม่สนใจว่าจะเกิดความเสียหาย แตกแยก ความล่มสลายที่จะเกิดขึ้นกับสังคมไทย กลุ่มเครือข่ายจึงขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และพวกยุติการกระทำดังกล่าว และให้รัฐบาลชี้แจงและให้ข้อมูลที่ถูกต้องต่อประชาชน และต้องเข้าไปจัดการและยุติการกระทำของบุคคลเหล่านี้ ถ้าปล่อยนิ่งเฉย กลุ่มคนรักแผ่นดินเกิดจะเข้าไปคัดค้านและตอบโต้เองทุกรูปแบบ และจะมีการเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้น
ส.ส.เพื่อไทยขึ้นเวทีเสื้อแดงคึกคัก
ผู้สื่อข่าาวรายงานจากเวทีผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่หน้าทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังจากที่ประชุมพรรคเพื่อไทยมีมติให้ส.ส.ของพรรคขึ้นเวทีปราศรัยของคนเสื้อแดง ปรากฏว่าเมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้ (1 เม.ย.) ได้มีกลุ่มส.ส.เพื่อไทยรวมทั้งอดีต ส.ส.ไทยรักไทยบ้านเลขที่ 111 ได้ขึ้นเวทีคนเสื้อแดงด้วย โดยเป็นลักษณะการสนทนาการเมือง โดยมีน.ส.วิสาระดี หรือ ยิ้ม เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่พิธีกรบนเวที โดยมีผู้ร่วมสนทนา อาทิ นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แฟนหนุ่ม น.ส.วิสาระดี ร่วมเวทีด้วย
นอกจากนี้ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และ อดีต รมว.ยุติธรรม ก็ได้ขึ้นปราศรัยบนเวที ในช่วงรายการเล่าข่าวด้วย
ณัฐวุฒิไม่เปิดทาง-จ่อดาวกระจาย
นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวบนเวทีว่า จะเปิดเกมรุกตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (2 เม.ย.) โดยจะมีการดาวกระจายไปที่กระทรวงการคลัง ที่จะมี พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ อดีต ส.ส.กำแพงเพชร พรรคไทยรักไทย นำขบวนผู้ชุมนุมไปยืดเส้นยืดสาย ย้ำจะดำเนินการต่อเนื่อง ไม่ใช่ 2-3 วัน
ส่วนการที่ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว และให้ผู้ชุมนุมเปิดการจราจร ถนนลูกหลวง และเปิดประตูทำเนียบ 6 และ 8 นั้น ยืนยันที่ผ่านมาไม่เคยปิดเส้นทาง และไม่เห็นความจำเป็นว่ารัฐมนตรีจะต้องเข้ามาทำงานในทำเนียบฯ และที่ผ่านมา การชุมนุมของพันธมิตรฯ เมื่อได้รับคำสั่งศาล หรือมีประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ยังไม่ออกจากพื้นที่ จึงเห็นว่าคนเสื้อแดงสามารถชุมนุมต่อได้ ซึ่งจะให้ทีมทนายไปยื่นอุทธรณ์ต่อไป
อำนวยนำปิดหมายเปิดทำเนียบฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเวลา12.00 น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พร้อมเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปราบจราจล (ปจ.) 15 นาย นำคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลแพ่ง ให้เปิดทางประตู 6 และ 8 ทางเข้าทำเนียบรัฐบาลให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และข้าราชการ สามารถเข้าปฏิบัติราชการในทำเนียบรับบาลได้ไปปิดประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงเปิดทาง
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวก่อนเดินทางออกไปว่า เพื่อให้ผลทางกฎหมายมีความชัดเจนก็จะส่งหมายให้จำเลยทั้ง 3 ซึ่งขณะนี้ทราบว่านายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายวีระ มุสิกพงศ์ สองแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่ที่เวทีชุมนุม ซึ่งเจ้าหน้าที่ศาลจะนำหมายไปมอบให้แกนนำ หากไม่พบเจ้าหน้าที่ก็จะนำหมายไปปิดที่ประตู 6 หรือ ประตู 8 ซึ่งเป็นประตูที่ศาลสั่งให้มีการเปิดเพื่อให้คณะรัฐมนตรีสามารถเข้าทำงานได้
การนำหมายไปมอบให้แกนนำ หรือปิดที่ประตูนั้น เป็นการดำเนินการ ให้มีผลทางกฎหมายอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดการโต้เถียง และจะดูว่ามีการปฏิบัติตามคำสั่งศาลหรือไม่ หากไม่ปฏิบัติตามก็จะเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะนำพยานหลักฐานไปยื่นร้องต่อศาล เพื่อให้ศาลออกคำบังคับคดี ให้เจ้าหน้าที่บังคับคดีดำเนินการตามคำสั่งศาล ส่วนการอุทธรณ์นั้นไม่เกี่ยวข้องกับคำสั่งศาล เพราะขณะนี้ศาลมีคำสั่งมาแล้ว ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลก่อน ส่วนผลการอุทธรณ์จะเป็นอย่างไรก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง
ทนาย นปช.อุทธรณ์ค้านคำสั่งศาล
ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นายคารม พลทะกลาง ทนายความของ นปช.หรือกลุ่มคนเสื่อแดง เข้ายื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ของศาลแพ่ง ที่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงเปิดถนนลูกหลวงตั้งแต่แยกเทวะกรรมจนถึงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ และให้เปิดประตูทำเนียบประตู ที่ 6 และ 8 ให้ข้าราชการ คณะรัฐมนตรี และผู้มามาติดต่อราชการได้นำรถยนต์เข้าออกได้สะดวก และให้ใช้เครื่องขยายเสียงในระดับที่ไม่รบกวนการทำงานภายในทำเนียบรัฐบาล ในเวลาทำการตั้งแต่เวลา 08.30 -16.30 น. ทุกวันราชการจันทร์-ศุกร์ ตามคำร้องของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
นายคารม กล่าวว่าการยื่นอุทธรณ์เพื่อเป็นการโต้แย้งในประเด็นที่ฝ่ายจำเลยคัดค้าน จากนั้นในวันที่ 2 เม.ย. เวลา 11.00 น. ตนจะมายื่นคำร้องขอยกเลิกคำสั่งคุ้มครองของศาลแพ่ง โดยเตรียมนำพยาน 4 ปาก คือ นายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ แกนนำ นปช. อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กับข้าราชการและอดีตข้าราชการ ในทำเนียบรัฐบาลอีก 3 คน ขึ้นไต่สวนเพื่อชี้ให้ศาลเห็นว่า คนเสื้อแดงชุมนุม ด้วยความสงบตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
เสื้อแดงโวยอ้างถูกตัดสัญญาณ
ต่อมาเวลา 17.00 น.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ร่วมกันแถลงโดยอ้างว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ตัดสัญญาณ การถ่ายทอดสดสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ดี เสตชั่น แล้วเมื่อสักครู่นี้ ขอตั้งคำถามกับรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กระทรวงไอซีที และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า จุดยืนของรัฐบาลคืออะไร เพราะรัฐบาลประกาศ ไม่แทรกแซงสื่อ ให้สิทธิเสรีภาพสื่อ และประชาชนในการแสดงออก แต่การตัดสัญญาณ ชัดเจนว่าสุดท้ายรัฐบาล ก็ไม่อาจสลัดคราบเผด็จการ ไม่มีหลักการประชาธิปไตย
ที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรฯ ใช้สถานีเอเอสทีวี โจมตีรัฐบาล ถ่ายทอดการ ยึดทำเนียบฯ และยึดสนามบิน ของกลุ่มพันธมิตรฯ แต่รัฐบาลในขณะนั้นก็ไม่ได้ตัดสัญญาณ อีกทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ยังแสดงท่าทีชัดเจนปกป้อง สถานีเอเอสทีวีหลายครั้ง แต่คนเสื้อแดงชุมนุมด้วยความสงบ ไม่ได้ทำลายทรัพย์สินราชการ ไม่ได้ละเมิดกฎหมาย แต่รัฐบาลกลับไม่ให้โอกาสการถ่ายทอดสด ตอนนี้ฝ่ายเทคนิคกำลังกู้สัญญาณ หากทำได้ ก็จะเป็นการตบหน้ารัฐบาลฉาดใหญ่ว่าจริงๆแล้วรัฐบาลไม่มีปัญญาสกัดกั้นการใช้สิทธิ์ของประชาชน ซึ่งเป้าหมายของรัฐบาลคือ การสกัดกั้นการถ่ายทอดวีดีโอลิงค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่จัดการไม่ได้ ก็เลยมาจัดการดีสเตชั่นแทน ฝากไปยังนายสาทิตย์ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ว่า กฎแห่งกรรมมีจริง การตัดสัญญาณมันทำให้นายสาทิตย์ตัวเตี้ยลง
นช.แม้วงดวีดีโอลิงก์-นัดม็อบใหญ่8เม.ย.
ด้านนายจตุพร กล่าวว่า เราจะเลื่อนเป้าหมายวันดีเดย์ จากวันที่ 9 เม.ย. มาเป็นวันที่ 8 เม.ย.แทน โดยต้องการปิดบัญชีก่อนวันสงกรานต์ มั่นใจว่าจะมีคนมาร่วมชุมนุม 3 แสนคน หางแถวจะอยู่ที่บ้านสี่เสาร์เทเวศน์ แต่ในวันนั้นประชาชนจะมาชุมนุมมากหรือน้อย มาเท่าใดก็เท่านั้น หากชนะก็จบ ไม่ชนะก็สู้ต่อไป ซึ่งวันนั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่นอน
นายจตุพร กล่าวว่า ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ บอกว่าพร้อมเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศชัดเจนแล้วว่านายสุเทพเป็นแค่ตัวเล็กๆ คนหนึ่งของอมาตยาธิปไตยเท่านั้น วันนี้คนเสื้อแดงจะไม่เจรจากับนายสุเทพ รัฐบาล หรือหัวหน้าอำมาตย์ เพราะคนเสื้อแดงมาขับไล่เท่านั้น พล.อ.เปรม หากไม่ต้องการ เป็นก้อนกรวดในรองพระบาทสร้างความระคายเคืองก็ควรลาอกไป
นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้ (1 เม.ย.) พ.ต.ท.ทักษิณ งดวิดีโอลิงก์ แต่ไม่ใข่เพราะถูกตัดสัญญาณดีสเตชั่น แต่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ จะมาพูดแทนบนเวที ประมาณเวลา 20.00 น. ส่วน พล.ต.พัลลภ นั้นกำลังประสานขอให้มาขึ้นเวที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (1 เม.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ได้เรียกรัฐมนตรีรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง และที่ดูแลการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเข้าหารือเพื่อรับมือสถานการณ์การชุมนุม โดยพล.อประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ นายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าประชาชนส่วนใหญ่เป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะที่มีการปราศรัยโค่นล้มระบอบอมาตยาธิปไตย รวมถึงการโฟนอินและการวิดีโอลิงค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ยุยงปลุกปั่นประชาชน ซึ่งมีเสียงบ่นว่ารัฐบาลไม่ทำอะไร จึงขอยืนยันว่า รัฐบาลได้ติดตามและประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา แต่การกระทำของรัฐบาลต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง ไม่บริหารประเทศบนข่าวลือ ต้องมีเหตุผล โดยจะยึดถือตามกฎหมายเป็นหลักในการแก้ไขปัญหา
สั่งรมต.เร่งจัดการในส่วนที่รับผิดชอบ
นายสุเทพ กล่าวว่าที่ประชุมได้มอบหมายให้แต่ละกระทรวงไปปฏิบัติหน้าที่ของตัวเอง เท่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจากวันนี้ไปรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ถูกพาดพิงจะต้องชี้แจงให้มากขึ้น เพราะถ้าไม่ชี้แจงประชาชนก็จะสงสัย เช่น กระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีต้องไปกำชับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และรายงานสถานการณ์จริงให้รัฐมนตรีทราบ และชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ
ส่วนกระทรวงไอซีที ได้รับมอบหมายให้ไปดู ว่าจะมีกฎหมายใดที่จะสามารถดำเนินการตัดสัญญาณ หรือการพูดผ่านวีดีโอลิงค์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้บ้าง ถ้ามีกฎหมายใดที่สามารถดำเนินการได้ ก็ให้ดำเนินการตัดสัญญาณทันที
เทพเทือกพร้อมคุยแม้วทุกแห่ง
นายสุเทพ ยอมรับว่ารัฐบาลอาจจะทำอะไรช้าไปบ้าง แต่ต้องทำตามกฎหมาย ส่วนประเทศต่างๆ ที่มีสนธิสัญญากับไทยก็ได้ประสานไปแล้วไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศ แต่ต้องเข้าใจว่าพ.ต.ท.ทักษิณ มีเครื่องบินส่วนตัว วันนี้นอนฮ่องกง พรุ่งนี้นอนดูไบ อีกวันนอนแอฟริกา ตนคงไม่สามารถให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และอัยการ ตามไปทุกที่ได้ทัน
ผมพร้อมพูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ทุกที่ทุกเวลา ที่ไหนก็ได้ ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณนัดหมายมา ผมพร้อมเจรจา เพื่อให้บ้านเมืองสงบ แต่จะไม่ทำตามข้อเรียกร้อง โดยเฉพาะการยุบสภาเพราะรัฐบาลจะไม่ยึดสภาแน่นอน
นายสุเทพ กล่าวว่า สำหรับร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ที่เสนอโดย ส.ส.พรรคเพื่อไทยนั้นตนได้พิจารณาแล้วเห็นว่าขัดหลักการการทำงานในระบอบประชาธิปไตย เพราะร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่เอาโทษคนทำความผิด ก็เหมือนกฎหมาย นิรโทษกรรม ดังนั้นถ้าเป็นเงื่อนไขในการเจรจารัฐบาลคงทำไม่ได้ เพราะการเจรจาต้องอยู่บนพื้นฐานนิติรัฐ
ส่วนจะเดินทางไปให้กำลังใจพล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษหรือไม่เพราะมีข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ประสานขอเข้าพบ นายสุเทพ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องของ ส.ส.ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล และไม่ใช่เรื่องของตน ส่วนการตัดสัญญาณวิดีโอลิงค์ของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พยายามให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบดูแลประเด็นของกฎหมาย ถ้าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการ ถ้าไม่เป็นเรื่องผิดกฎหมายจะดำเนินการอะไรไม่ได้
นายสุเทพ ยืนยันด้วยว่าตนสามารถ เข้าไปทำงานในทำเนียบได้ทุกวัน แต่ไม่อยาก ให้เกิดการปะทะ และที่ผ่านมาปลัดสำนายกรัฐมนตรี ได้ไปร้องต่อศาล เพื่อขอให้ คุ้มครองข้าราชการและรัฐมนตรีให้เข้าไปทำงานในทำเนียบฯ ซึ่งแกนนำ นปช.เป็นนักการเมือง ดังนั้นเมื่อมีคำสั่งศาลออกมา ก็ควรทำเป็นตัวอย่างในการปฏิบัติคำสั่ง
สุเทพการันตีไม่มีปฏวัติแน่นอน
ส่วนจะมีมาตรการอะไรเพื่อไม่ให้เกิดการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 8 เม.ย.นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า คงห้ามไม่ได้ เพราะเขาสามารถชุมนุมได้ แต่ต้องไม่ทำผิดกฎหมาย ถ้าทำลายทรัพย์สินราชการหรือทำร้ายใคร เราต้องมาดูกฎหมายเพื่อดำเนินการ เมื่อถามว่าจะรอให้สถานการณ์เกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยดำเนินการหรือ นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่รอถึงขนาดนั้น แต่ตนมีมาตรการอยู่ในใจคงจะบอกไม่ได้
สำหรับกระแสข่าวการปฏิวัตินั้น นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าตั้งคำถามอย่างนี้ ไม่มี ไม่ได้คิด ขอใช้ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงยืนยัน เมื่อผู้สื่อข่าวซักอีกว่า มีการระบุจากพีเน็ตว่าจะมีการซื้อทหารเพื่อทำการปฏิวัติ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่จริง ทหารไม่ใช่สินค้าที่จะซื้อขาย
ด้านพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทหารขณะนี้เป็นหนึ่งเดียว ความคิดที่แตกต่างมี แต่ไม่แตกแยก เพราะทหารมีระเบียบวินัย
ไอซีทีเพิ่งตื่นถกกทช.ตัดสัญญาณแม้ว
ด้านร.ต.หญิงระนองรักษ์ กล่าวว่า วันนี้ตนจะไปหารือกับ กทช.เพื่อดูข้อกฎหมาย เรื่องการตัดสัญญาณวิดีโอลิงค์ คาดว่าจะมีความชัดเจนขึ้น ทั้งนี้ต้องดูว่าดาวเทียมที่ยิงสัญญาณมาเป็นของไทยหรือต่างประเทศ เพราะหากเป็นของต่างประเทศคงจะเอาผิดได้ยาก ส่วนเรื่องเว็บไซต์ต่างๆ ต้องดูว่าเข้าข่ายหมิ่นหรือไม่ หากเข้าข่าย ก็สามารถจัดการได้ตามมาตรา 63 ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ทันที
มท.2คาดโทษผู้ว่าฯปล่อยเสื้อแดงล้อม
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงการจำกัดพื้นที่ให้ผู้ชุมนุมใน 42 จังหวัดที่จะเดินทางไปชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดในวันที่ 3 เม.ย.ว่า รับรองว่า ต้องลดน้อยลงในพื้นที่ทั้ง 42 จังหวัดอย่างแน่นอน ตนยืนยันว่าจะต้องไม่มี กลุ่มเสื้อแดงมาชุมนุมหน้าศาลากลาง เราจะไม่ให้มีการปิดล้อมสถานที่ราชการ ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมจะต้องย้ายการชุมนุมไปยังพื้นที่ที่จัดให้ เช่นสวนสาธารณะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการคาดโทษหรือไม่ หากยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงไปหน้าศาลากลางจังหวัด นายบุญจง กล่าวว่า ถ้ามี จะมีการคาดโทษทันที เพราะถือว่าเจ้าหน้าที่หย่อยยาน
มาร์คเชื่อม็อบไม่รุนแรง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ระหว่างร่วมประชุมสุดยอดลอนดอน ผู้นำกลุ่มประเทศ จี 20 ที่อังกฤษว่า ได้รับรายงานจากนายสุเทพ ว่า ศาลแพ่งได้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้กลุ่มคนเสื้อแดง เปิดถนนและประตูทางเข้า-ออกทำเนียบฯ ก็ขึ้นอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุมว่าเมื่อได้รับหมายแล้ว จะมีท่าทีอย่างไร ซึ่งจะประเมินสถานการณ์ต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าหนักใจกับสถานการณ์ขณะนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้บริหารจัดการให้ทุกอย่างอยู่ในขอบเขต เพราะไม่ต้องการให้เป็นอุปสรรค ต่อการทำงานของรัฐบาล เชื่อว่าหลังปิดหมายศาลเหตุการณ์จะไม่รุนแรง ทุกคนน่าจะยอมรับและเห็นความจำเป็นว่ารัฐบาลได้พยายามถึงที่สุดเพื่อรักษาบรรยากาศ ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็รักษาสิทธิของตัวเองด้วย ขอย้ำว่ารัฐบาลจะไม่ให้เกิดความรุนแรง ซึ่งได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายว่าอย่าทำอะไรที่นำไปสู่ความรุนแรง เพราะอาจเป็นความ ต้องการของคนกลุ่มน้อย แต่คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการความรุนแรงอยู่แล้ว
กษิตชี้ฮุนเซนแปลคำสัมภาษณ์ผิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการประชุม ครม.ฝ่ายความมั่นคง นัดพิเศษแล้ว นายสุเทพ ได้ใช้เวลาหารือกับนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ประมาณ 10 นาที แล้วลงมา ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายกษิต ถึงกรณีที่นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวหานายกษิต ดูแคลน โดยนายกษิต กล่าวว่า คุณ เข้าใจภาษาไทย หรือเปล่า คงไม่ต้องชี้แจงแล้ว เพราะเขารู้คำแปลว่าคืออะไร ส่วนปัญหาเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ทหารก็พูดจากันอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่ากระทรวงการต่างประเทศจะทำหนังสือชี้แจงไปยังนายฮุน เซนหรือไม่ นายกษิต กล่าวว่า พูดไปหมดแล้วเป็นการแปลคำผิด ตนชื่นชมท่านนายกฯ สมเด็จฮุนเซน เป็นอย่างยิ่ง จากนั้นนายกษิต ได้ขึ้นรถยนต์ส่วนตัวไปโดยบอกสั้นๆว่า จะยังไม่เข้ากระทรวงการต่างประเทศ
สุรยุทธ์ไม่กังวลพัลลภขึ้นเวทีแฉ
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรอง ผอ.กอ.รมน. จะขึ้นเวทีคนเสื้อแดง และนำเรื่องที่กล่าวหาอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติมาปราศรัยว่า เรื่องนี้เคยชี้แจงแล้ว ดังนั้นจะให้ประชาชนพิจารณาเองว่าเป็นอย่างไร และการชี้แจงคงทำเท่าที่จำเป็นเท่านั้น คงไม่สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง เหมือนกับการที่กลุ่มคนเสื้อแดงโจมตีผ่านเวทีปราศรัย และขณะนี้คงไม่มีอะไรชี้แจงเพิ่มเติม ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของการรัฐประหาร ถือเป็นสิทธิที่จะคิด หากได้รับข้อมูลอย่างไรก็คิดอย่างนั้น คงไม่สามารถไปห้ามความคิดได้
ผมไม่รู้สึกหนักใจที่มีการพุ่งเป้าโจมตีมาที่ พล.อ.เปรม และผม เพราะเคยพูดแล้วว่า ใครที่ทำสิ่งใด ก็ต้องได้รับสิ่งนั้นตอบสนอง ไม่ว่าจะเป็นในทางที่ดี หรือไม่ก็ตาม ส่วนที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เสนอแนวทางให้ศาลเป็นผู้ตัดสินเบื้องหลังการรัฐประหารนั้นผมมีข้อพิจารณา ของตนเอง ไม่น่าจะทำให้เป็นเรื่องยืดยาว เชื่อว่าประชาชนจะพิจารณาได้อยู่แล้ว
ส่วนจะมีแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างไรนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่สามารถที่จะเสนอแนะได้ แต่ต้องถามประชาชนว่าต้องการให้บ้านเมืองสงบ ลงในระยะเวลาสั้นๆ เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจหรือไม่ อย่างไรก็ตามในการประชุมทำเนียบองคมนตรีวานนี้ (31 มี.ค.) ไม่มีการพูดถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงโจมตีองคมนตรี
พัลลภปฏิเสธขึ้นเวทีเสื้อแดง
ด้าน พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ตนจะไม่ขึ้นเวทีกลุ่มคนเสื้อแดงแน่นอน เพราะไม่เคยพูดเป็นเพียงแต่การมัดตัว กดดันให้ตนไปปราศรัยบนเวที แต่ขอยืนยันอีกครั้งว่า ถ้าจะขึ้นเวทีต้องเป็นวันดีเดย์ถึงขั้นแตกหัก หรือวันเสียงปืนแตก ถ้าขึ้นตอนนี้จะเสียหาย ทั้งนี้แกนนำกลุ่ม นปช.ไม่เคยปรึกษาหารือตนเลย มีคนโทรฯ มาถามมาก ว่าจะขึ้นเวทีปราศรัยหรือไม่ ซึ่งมีคนตั้งใจจะไปฟัง ตนพูดข้อเท็จจริงจำนวนมาก แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ถึงเวลา
ส่วนที่กลุ่ม นปช.จะเคลื่อนตัวไปล้อมบ้านพล.อ.เปรม นั้นพล.อ.พัลลภ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความพยายามกดดัน แต่คงไม่สำเร็จ เพราะเป็นเรื่องยาก คงไปเย๊วๆ กันมากกว่าไม่มีประโยชน์อะไร
คนรักแผ่นดินฯจี้จัดการแม้ว-ลิ่วล้อ
ที่รัฐสภา วันเดียวกัน กลุ่มเครือข่ายคนรักแผ่นดินเกิด และกลุ่มสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย นำโดย นายสมโชค จันทร์ทอง เลขาธิการสมัชชาฯ เข้ายื่นหนังสือต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เพื่อคัดค้านการกระทำของ พ.ต.ท. ทักษิณ และพวก ที่ใช้วาจาจาบจ้วง ใสร้าย พล.อ.เปรม และสถาบันองคมนตรี ซึ่งเป็นการทำลายล้างคนอื่นเพื่อให้ตนกลับเข้าสู่อำนาจ โดยไม่สนใจว่าจะเกิดความเสียหาย แตกแยก ความล่มสลายที่จะเกิดขึ้นกับสังคมไทย กลุ่มเครือข่ายจึงขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และพวกยุติการกระทำดังกล่าว และให้รัฐบาลชี้แจงและให้ข้อมูลที่ถูกต้องต่อประชาชน และต้องเข้าไปจัดการและยุติการกระทำของบุคคลเหล่านี้ ถ้าปล่อยนิ่งเฉย กลุ่มคนรักแผ่นดินเกิดจะเข้าไปคัดค้านและตอบโต้เองทุกรูปแบบ และจะมีการเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้น
ส.ส.เพื่อไทยขึ้นเวทีเสื้อแดงคึกคัก
ผู้สื่อข่าาวรายงานจากเวทีผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่หน้าทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังจากที่ประชุมพรรคเพื่อไทยมีมติให้ส.ส.ของพรรคขึ้นเวทีปราศรัยของคนเสื้อแดง ปรากฏว่าเมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้ (1 เม.ย.) ได้มีกลุ่มส.ส.เพื่อไทยรวมทั้งอดีต ส.ส.ไทยรักไทยบ้านเลขที่ 111 ได้ขึ้นเวทีคนเสื้อแดงด้วย โดยเป็นลักษณะการสนทนาการเมือง โดยมีน.ส.วิสาระดี หรือ ยิ้ม เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่พิธีกรบนเวที โดยมีผู้ร่วมสนทนา อาทิ นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แฟนหนุ่ม น.ส.วิสาระดี ร่วมเวทีด้วย
นอกจากนี้ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และ อดีต รมว.ยุติธรรม ก็ได้ขึ้นปราศรัยบนเวที ในช่วงรายการเล่าข่าวด้วย
ณัฐวุฒิไม่เปิดทาง-จ่อดาวกระจาย
นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวบนเวทีว่า จะเปิดเกมรุกตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (2 เม.ย.) โดยจะมีการดาวกระจายไปที่กระทรวงการคลัง ที่จะมี พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ อดีต ส.ส.กำแพงเพชร พรรคไทยรักไทย นำขบวนผู้ชุมนุมไปยืดเส้นยืดสาย ย้ำจะดำเนินการต่อเนื่อง ไม่ใช่ 2-3 วัน
ส่วนการที่ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว และให้ผู้ชุมนุมเปิดการจราจร ถนนลูกหลวง และเปิดประตูทำเนียบ 6 และ 8 นั้น ยืนยันที่ผ่านมาไม่เคยปิดเส้นทาง และไม่เห็นความจำเป็นว่ารัฐมนตรีจะต้องเข้ามาทำงานในทำเนียบฯ และที่ผ่านมา การชุมนุมของพันธมิตรฯ เมื่อได้รับคำสั่งศาล หรือมีประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ยังไม่ออกจากพื้นที่ จึงเห็นว่าคนเสื้อแดงสามารถชุมนุมต่อได้ ซึ่งจะให้ทีมทนายไปยื่นอุทธรณ์ต่อไป
อำนวยนำปิดหมายเปิดทำเนียบฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเวลา12.00 น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พร้อมเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปราบจราจล (ปจ.) 15 นาย นำคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลแพ่ง ให้เปิดทางประตู 6 และ 8 ทางเข้าทำเนียบรัฐบาลให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และข้าราชการ สามารถเข้าปฏิบัติราชการในทำเนียบรับบาลได้ไปปิดประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงเปิดทาง
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวก่อนเดินทางออกไปว่า เพื่อให้ผลทางกฎหมายมีความชัดเจนก็จะส่งหมายให้จำเลยทั้ง 3 ซึ่งขณะนี้ทราบว่านายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายวีระ มุสิกพงศ์ สองแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่ที่เวทีชุมนุม ซึ่งเจ้าหน้าที่ศาลจะนำหมายไปมอบให้แกนนำ หากไม่พบเจ้าหน้าที่ก็จะนำหมายไปปิดที่ประตู 6 หรือ ประตู 8 ซึ่งเป็นประตูที่ศาลสั่งให้มีการเปิดเพื่อให้คณะรัฐมนตรีสามารถเข้าทำงานได้
การนำหมายไปมอบให้แกนนำ หรือปิดที่ประตูนั้น เป็นการดำเนินการ ให้มีผลทางกฎหมายอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดการโต้เถียง และจะดูว่ามีการปฏิบัติตามคำสั่งศาลหรือไม่ หากไม่ปฏิบัติตามก็จะเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะนำพยานหลักฐานไปยื่นร้องต่อศาล เพื่อให้ศาลออกคำบังคับคดี ให้เจ้าหน้าที่บังคับคดีดำเนินการตามคำสั่งศาล ส่วนการอุทธรณ์นั้นไม่เกี่ยวข้องกับคำสั่งศาล เพราะขณะนี้ศาลมีคำสั่งมาแล้ว ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลก่อน ส่วนผลการอุทธรณ์จะเป็นอย่างไรก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง
ทนาย นปช.อุทธรณ์ค้านคำสั่งศาล
ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นายคารม พลทะกลาง ทนายความของ นปช.หรือกลุ่มคนเสื่อแดง เข้ายื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ของศาลแพ่ง ที่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงเปิดถนนลูกหลวงตั้งแต่แยกเทวะกรรมจนถึงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ และให้เปิดประตูทำเนียบประตู ที่ 6 และ 8 ให้ข้าราชการ คณะรัฐมนตรี และผู้มามาติดต่อราชการได้นำรถยนต์เข้าออกได้สะดวก และให้ใช้เครื่องขยายเสียงในระดับที่ไม่รบกวนการทำงานภายในทำเนียบรัฐบาล ในเวลาทำการตั้งแต่เวลา 08.30 -16.30 น. ทุกวันราชการจันทร์-ศุกร์ ตามคำร้องของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
นายคารม กล่าวว่าการยื่นอุทธรณ์เพื่อเป็นการโต้แย้งในประเด็นที่ฝ่ายจำเลยคัดค้าน จากนั้นในวันที่ 2 เม.ย. เวลา 11.00 น. ตนจะมายื่นคำร้องขอยกเลิกคำสั่งคุ้มครองของศาลแพ่ง โดยเตรียมนำพยาน 4 ปาก คือ นายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ แกนนำ นปช. อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กับข้าราชการและอดีตข้าราชการ ในทำเนียบรัฐบาลอีก 3 คน ขึ้นไต่สวนเพื่อชี้ให้ศาลเห็นว่า คนเสื้อแดงชุมนุม ด้วยความสงบตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
เสื้อแดงโวยอ้างถูกตัดสัญญาณ
ต่อมาเวลา 17.00 น.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ร่วมกันแถลงโดยอ้างว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ตัดสัญญาณ การถ่ายทอดสดสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ดี เสตชั่น แล้วเมื่อสักครู่นี้ ขอตั้งคำถามกับรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กระทรวงไอซีที และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า จุดยืนของรัฐบาลคืออะไร เพราะรัฐบาลประกาศ ไม่แทรกแซงสื่อ ให้สิทธิเสรีภาพสื่อ และประชาชนในการแสดงออก แต่การตัดสัญญาณ ชัดเจนว่าสุดท้ายรัฐบาล ก็ไม่อาจสลัดคราบเผด็จการ ไม่มีหลักการประชาธิปไตย
ที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรฯ ใช้สถานีเอเอสทีวี โจมตีรัฐบาล ถ่ายทอดการ ยึดทำเนียบฯ และยึดสนามบิน ของกลุ่มพันธมิตรฯ แต่รัฐบาลในขณะนั้นก็ไม่ได้ตัดสัญญาณ อีกทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ยังแสดงท่าทีชัดเจนปกป้อง สถานีเอเอสทีวีหลายครั้ง แต่คนเสื้อแดงชุมนุมด้วยความสงบ ไม่ได้ทำลายทรัพย์สินราชการ ไม่ได้ละเมิดกฎหมาย แต่รัฐบาลกลับไม่ให้โอกาสการถ่ายทอดสด ตอนนี้ฝ่ายเทคนิคกำลังกู้สัญญาณ หากทำได้ ก็จะเป็นการตบหน้ารัฐบาลฉาดใหญ่ว่าจริงๆแล้วรัฐบาลไม่มีปัญญาสกัดกั้นการใช้สิทธิ์ของประชาชน ซึ่งเป้าหมายของรัฐบาลคือ การสกัดกั้นการถ่ายทอดวีดีโอลิงค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่จัดการไม่ได้ ก็เลยมาจัดการดีสเตชั่นแทน ฝากไปยังนายสาทิตย์ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ว่า กฎแห่งกรรมมีจริง การตัดสัญญาณมันทำให้นายสาทิตย์ตัวเตี้ยลง
นช.แม้วงดวีดีโอลิงก์-นัดม็อบใหญ่8เม.ย.
ด้านนายจตุพร กล่าวว่า เราจะเลื่อนเป้าหมายวันดีเดย์ จากวันที่ 9 เม.ย. มาเป็นวันที่ 8 เม.ย.แทน โดยต้องการปิดบัญชีก่อนวันสงกรานต์ มั่นใจว่าจะมีคนมาร่วมชุมนุม 3 แสนคน หางแถวจะอยู่ที่บ้านสี่เสาร์เทเวศน์ แต่ในวันนั้นประชาชนจะมาชุมนุมมากหรือน้อย มาเท่าใดก็เท่านั้น หากชนะก็จบ ไม่ชนะก็สู้ต่อไป ซึ่งวันนั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่นอน
นายจตุพร กล่าวว่า ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ บอกว่าพร้อมเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศชัดเจนแล้วว่านายสุเทพเป็นแค่ตัวเล็กๆ คนหนึ่งของอมาตยาธิปไตยเท่านั้น วันนี้คนเสื้อแดงจะไม่เจรจากับนายสุเทพ รัฐบาล หรือหัวหน้าอำมาตย์ เพราะคนเสื้อแดงมาขับไล่เท่านั้น พล.อ.เปรม หากไม่ต้องการ เป็นก้อนกรวดในรองพระบาทสร้างความระคายเคืองก็ควรลาอกไป
นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้ (1 เม.ย.) พ.ต.ท.ทักษิณ งดวิดีโอลิงก์ แต่ไม่ใข่เพราะถูกตัดสัญญาณดีสเตชั่น แต่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ จะมาพูดแทนบนเวที ประมาณเวลา 20.00 น. ส่วน พล.ต.พัลลภ นั้นกำลังประสานขอให้มาขึ้นเวที
