นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการนครบาล (ผบช.น.)ระบุว่าจะมีเหตุที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้ นจากกลุ่มเสื้อแดงในวันแถลงนโยบาย( 28 ธ.ค.) ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เมื่อวานนี้ (24 ธ.ค.) ได้พูดคุยกันส่วนหนึ่ง เรียบร้อย ยืนยันว่า สถานการณ์ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่ ต้องการเห็นบ้านเมืองสงบและเดินไปข้างหน้าได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำให้ดีที่สุด
ส่วนที่ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรายงานสถานการณ์ทุก 6 ชั่วโมง เป็นมาตรการที่เข้มแข็งพอหรือยัง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราสามารถประเมินสถานการณ์ได้เป็นระยะๆ ฉะนั้นจากวันนี้ถึงวันที่ 28 ธ.ค. คงเห็นความเคลื่อนไหว และดูว่าจะต้องมีการปรับปรุงการปฏิบัติงานอย่างไร เชื่อว่าสถานการณ์ช่วงวันที่ 28 ธ.ค.และวันแถลงนโยบายรัฐบาล วันที่ 29-30 น่าจะผ่านไปได้อย่างราบรื่น เพราะเราได้ติดตามสถานการณ์ อยู่ขณะนี้ ได้ทำความเข้าใจว่า การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้น เป็นการเปลี่ยนแปลง ตามระบบ บ้านเมืองต้องการที่จะตั้งหลักเดินหน้าแก้ปัญหาประชาชน หวังว่าจะได้รับโอกาส
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวว่าที่สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศรายงานการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมทุก 6 ชั่วโมง เป็นการให้ผู้ว่าฯ สอดส่องในพื้นที่เกี่ยวกับประชาชนที่เดือดร้อนจากสินค้าการเกษตรแล้วออกมาชุมนุม กับเรื่องที่จะมีการมาชุมนุมในกรุงเทพฯ ในช่วงแถลงนโยบายของรรัฐบาลในวันที่ 29-30 ธ.ค.ซึ่งทราบว่ายังไม่มีการเคลื่อนไหวมากนัก ซึ่งหน่วยราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นติดตามสถานการณ์อยู่
ทั้งนี้ประเมินว่าจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯจะเคลื่อนไหวมากที่สุดในการมาชุมนุ ม เพราะเดินทางสะดวก จึงได้มีการกำชับให้ดูแลพื้นที่รอบกรุงเทพฯ ให้ละเอียดมากขึ้น ส่วนที่ จ.อุดรธานี หรือ จ.เชียงใหม่ ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม ในช่วงการเดินทางเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุม เป็นช่วงเดียวกับที่ประชาชน โดยทั่วไปจะเดินทางกลับภูมิลำเนา จึงจำเป็นที่จะต้องดูและเรื่องความปลอดภัยด้วย
เราคงไม่ไปสกัดกั้นไม่ให้ประชาชนเดินทางเข้ามา แต่ต้องเน้นการทำความ เข้าใจว่าสถานการณ์บ้านเมืองเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว และการแถลงนโยบายก็เป็นกระบวนการหนึ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการจึงจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ และก็เป็นประโยชน์กับประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีพื้นที่ไหนหรือไม่ที่ต้องส่งข้าราชการเข้าไปคุมเป็นพิเศษ นายบุญจง กล่าวว่า ทุกจังหวัดที่ใกล้กรุงเทพฯ อย่างไรก็ตามตนมีความมั่นใจถึงแม้จะมีการชุมนุมก็จะเป็นการชุมนุมแบบสงบไม่มีความรุนแรงแต่อย่างใด ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่ควรใช้ความรุนแรง
ด้าน นายวีระ มุสิกพงษ์นายจตุพร พรหมพันธ์ และนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ผู้ดำเนินรายการ ความจริงวันนี้ และเป็นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ร่วมกันแถลงข่าว
นายวีระ กล่าวว่า การชุมนุมใหญ่ที่ท้องสนามหลวง วันที่ 28 ธ.ค.ภายใต้ชื่อ ความจริงวันนี้ ความจริงประเทศไทย ไม่ไว้วางใจอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเริ่มตั้งแต่เวลา 15.00 น. ได้เตรียมการไว้พร้อมแล้ว ยืนยันไม่มีสัญญาณว่าจะมีความรุนแรง จากกลุ่มคนเสื้อแดง ตามที่หลายฝ่ายมองว่าน่ากลัว และกระทรวงมหาดไทยสั่งจับตาความเคลื่อนไหว ให้รายงานทุก 6 ชั่วโมง
นายวีระ กล่าวว่าการชุมนุมครั้งนี้เนื่องจากเห็นว่า นายอภิสิทธิ์ ซึ่งไม่ได้เกณฑ์ทหารไม่ควรมาบริหารประเทศเนื่องจากขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 73 ที่ระบุว่าบุคคลมีหน้าที่รับราชการทหาร อีกทั้งในมาตรา 175 ที่เกี่ยวกับการถวายสัตย์ ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะที่จะรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ทุกประการ ดังนั้นการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวหนีทหารถือเป็นหนึ่งตัวอย่างที่ นปช. ไม่ไว้วางใจในการบริหารประเทศของรัฐบาล
ด้านนายจตุพร กล่าวถึงข่าวที่มีความพยายามสกัดกั้นไม่ให้คนมาร่วมชุมนุม ว่า ตนนึกถึงคำโบราณที่ว่า “กระจงหลงทาง” เพราะนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมว. มหาดไทย เคยเป็นคนเสื้อแดง แต่เมื่อจุดยืนประชาธิปไตยเปลี่ยน ความเป็นเสื้อแดง ก็หมดไป ทั้งนี้เชื่อว่ากระบวนการสกัดกั้นไม่มีทางสำเร็จ
ผมยืนยันจะไม่มีการขนคน และเห็นว่าทหารประเมินพลาด ที่บอกว่าจะมีผู้ชุมนุมเพียง 3,800 คน และแม้ว่าบางกลุ่มที่เคยเป็นแนวร่วม นปช. จะประกาศว่าไม่มาเข้าร่วม แต่ก็จะยังมีการชุมนุมอย่างแน่นอน
ด้านนายณัฐุฒิ กล่าวว่า การชุมนุมเคลื่อนไหวครั้งนี้จะเข้มข้นขึ้น ในรูปแบบใหม่ จะต่อสู้เข้มข้นเรื่อยๆจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย คือรัฐบาลจะยุบสภาส่วนจะชุมนุมยืดเยื้อ หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และยังไม่ขอบอกว่าจะเดินขบวนไปปิดล้อมรัฐสภาหรือไม่ แต่มีแนวร่วมเสื้อแดงบางส่วนจะเดินทางไปที่รัฐสภาในวันแถลงนโยบายของรัฐบาล นอกจากนี้กลุ่มคนเสื้อแดง จะไม่ใช่วิธีเดียวกับที่พันธมิตรฯ เคยทำโดยเฉพาะความคิดในการบุกยึดทำเนียบรัฐบาล
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่าการชุมนุมจะมีการจัดตั้งโครงสร้างของคนเสื้อแดง มีการตั้งทนายความเสื้อแดง เพื่อต่อสู้คดี แพทย์เสื้อแดงดูแลสวัสดิการของประชาชน นักวิชาการเสื้อแดง เป็นที่ปรึกษาแนะนำหลักวิชาการ ขณะที่ต้นปี 2552 จะมีการสร้างช่องทางการสื่อสาร มีเวทีให้คนเสื้อแดงทุกจังหวัด กระจายข่าวคนเสื้อแดงทั่วโลก โดยจะเคลื่อนไหวจนกว่าจะได้รับชัยชนะ ทั้งนี้ยัง เรียกร้องให้ผู้บัญชาการทหารบกนำสีเขียวถอยออกจาการเมืองไทยเป็นอันดับแรก
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.กล่าวถึงมาตรการการรักษาความปลอดภัยในการที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเข้าแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29 ธ.ค.ว่า จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า กลุ่ม นปช. จะมีการนัดรวมตัวกันตั้งวันที่ 28-30 ธ.ค.ซึ่งยังไม่แน่ชัด ซึ่งตำรวจได้เตรียมกำลังไว้ทั่วบริเวณทั้งภายในรัฐสภาซึ่งมี 8 กองร้อย โดยรอบ 6 กองร้อย และรอบนอกตั้งตรวจ 5 กองร้อย รวม 2,850 นาย
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ทั้งนี้ ตำรวจได้กำหนดโซนชุมนุมให้กลุ่ม นปช. ซึ่งเป็นคนไทยด้วยกัน ไม่น่ามีปัญหา เพราะต่างก็หวังดีกับประเทศชาติ ตำรวจพยายาม พูดคุยเจรจากับแกนนำ ส่วนจะมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่หรือเวลาในการ แถลงนโยบายหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของรัฐบาล แต่หากหลีกเลี่ยงความรุนแรง อหรือเหตุปะทะได้ก็เป็นเรื่องที่ดี
ส่วนที่ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรายงานสถานการณ์ทุก 6 ชั่วโมง เป็นมาตรการที่เข้มแข็งพอหรือยัง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราสามารถประเมินสถานการณ์ได้เป็นระยะๆ ฉะนั้นจากวันนี้ถึงวันที่ 28 ธ.ค. คงเห็นความเคลื่อนไหว และดูว่าจะต้องมีการปรับปรุงการปฏิบัติงานอย่างไร เชื่อว่าสถานการณ์ช่วงวันที่ 28 ธ.ค.และวันแถลงนโยบายรัฐบาล วันที่ 29-30 น่าจะผ่านไปได้อย่างราบรื่น เพราะเราได้ติดตามสถานการณ์ อยู่ขณะนี้ ได้ทำความเข้าใจว่า การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้น เป็นการเปลี่ยนแปลง ตามระบบ บ้านเมืองต้องการที่จะตั้งหลักเดินหน้าแก้ปัญหาประชาชน หวังว่าจะได้รับโอกาส
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวว่าที่สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศรายงานการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมทุก 6 ชั่วโมง เป็นการให้ผู้ว่าฯ สอดส่องในพื้นที่เกี่ยวกับประชาชนที่เดือดร้อนจากสินค้าการเกษตรแล้วออกมาชุมนุม กับเรื่องที่จะมีการมาชุมนุมในกรุงเทพฯ ในช่วงแถลงนโยบายของรรัฐบาลในวันที่ 29-30 ธ.ค.ซึ่งทราบว่ายังไม่มีการเคลื่อนไหวมากนัก ซึ่งหน่วยราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นติดตามสถานการณ์อยู่
ทั้งนี้ประเมินว่าจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯจะเคลื่อนไหวมากที่สุดในการมาชุมนุ ม เพราะเดินทางสะดวก จึงได้มีการกำชับให้ดูแลพื้นที่รอบกรุงเทพฯ ให้ละเอียดมากขึ้น ส่วนที่ จ.อุดรธานี หรือ จ.เชียงใหม่ ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม ในช่วงการเดินทางเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุม เป็นช่วงเดียวกับที่ประชาชน โดยทั่วไปจะเดินทางกลับภูมิลำเนา จึงจำเป็นที่จะต้องดูและเรื่องความปลอดภัยด้วย
เราคงไม่ไปสกัดกั้นไม่ให้ประชาชนเดินทางเข้ามา แต่ต้องเน้นการทำความ เข้าใจว่าสถานการณ์บ้านเมืองเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว และการแถลงนโยบายก็เป็นกระบวนการหนึ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการจึงจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ และก็เป็นประโยชน์กับประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีพื้นที่ไหนหรือไม่ที่ต้องส่งข้าราชการเข้าไปคุมเป็นพิเศษ นายบุญจง กล่าวว่า ทุกจังหวัดที่ใกล้กรุงเทพฯ อย่างไรก็ตามตนมีความมั่นใจถึงแม้จะมีการชุมนุมก็จะเป็นการชุมนุมแบบสงบไม่มีความรุนแรงแต่อย่างใด ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่ควรใช้ความรุนแรง
ด้าน นายวีระ มุสิกพงษ์นายจตุพร พรหมพันธ์ และนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ผู้ดำเนินรายการ ความจริงวันนี้ และเป็นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ร่วมกันแถลงข่าว
นายวีระ กล่าวว่า การชุมนุมใหญ่ที่ท้องสนามหลวง วันที่ 28 ธ.ค.ภายใต้ชื่อ ความจริงวันนี้ ความจริงประเทศไทย ไม่ไว้วางใจอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเริ่มตั้งแต่เวลา 15.00 น. ได้เตรียมการไว้พร้อมแล้ว ยืนยันไม่มีสัญญาณว่าจะมีความรุนแรง จากกลุ่มคนเสื้อแดง ตามที่หลายฝ่ายมองว่าน่ากลัว และกระทรวงมหาดไทยสั่งจับตาความเคลื่อนไหว ให้รายงานทุก 6 ชั่วโมง
นายวีระ กล่าวว่าการชุมนุมครั้งนี้เนื่องจากเห็นว่า นายอภิสิทธิ์ ซึ่งไม่ได้เกณฑ์ทหารไม่ควรมาบริหารประเทศเนื่องจากขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 73 ที่ระบุว่าบุคคลมีหน้าที่รับราชการทหาร อีกทั้งในมาตรา 175 ที่เกี่ยวกับการถวายสัตย์ ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะที่จะรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ทุกประการ ดังนั้นการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวหนีทหารถือเป็นหนึ่งตัวอย่างที่ นปช. ไม่ไว้วางใจในการบริหารประเทศของรัฐบาล
ด้านนายจตุพร กล่าวถึงข่าวที่มีความพยายามสกัดกั้นไม่ให้คนมาร่วมชุมนุม ว่า ตนนึกถึงคำโบราณที่ว่า “กระจงหลงทาง” เพราะนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมว. มหาดไทย เคยเป็นคนเสื้อแดง แต่เมื่อจุดยืนประชาธิปไตยเปลี่ยน ความเป็นเสื้อแดง ก็หมดไป ทั้งนี้เชื่อว่ากระบวนการสกัดกั้นไม่มีทางสำเร็จ
ผมยืนยันจะไม่มีการขนคน และเห็นว่าทหารประเมินพลาด ที่บอกว่าจะมีผู้ชุมนุมเพียง 3,800 คน และแม้ว่าบางกลุ่มที่เคยเป็นแนวร่วม นปช. จะประกาศว่าไม่มาเข้าร่วม แต่ก็จะยังมีการชุมนุมอย่างแน่นอน
ด้านนายณัฐุฒิ กล่าวว่า การชุมนุมเคลื่อนไหวครั้งนี้จะเข้มข้นขึ้น ในรูปแบบใหม่ จะต่อสู้เข้มข้นเรื่อยๆจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย คือรัฐบาลจะยุบสภาส่วนจะชุมนุมยืดเยื้อ หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และยังไม่ขอบอกว่าจะเดินขบวนไปปิดล้อมรัฐสภาหรือไม่ แต่มีแนวร่วมเสื้อแดงบางส่วนจะเดินทางไปที่รัฐสภาในวันแถลงนโยบายของรัฐบาล นอกจากนี้กลุ่มคนเสื้อแดง จะไม่ใช่วิธีเดียวกับที่พันธมิตรฯ เคยทำโดยเฉพาะความคิดในการบุกยึดทำเนียบรัฐบาล
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่าการชุมนุมจะมีการจัดตั้งโครงสร้างของคนเสื้อแดง มีการตั้งทนายความเสื้อแดง เพื่อต่อสู้คดี แพทย์เสื้อแดงดูแลสวัสดิการของประชาชน นักวิชาการเสื้อแดง เป็นที่ปรึกษาแนะนำหลักวิชาการ ขณะที่ต้นปี 2552 จะมีการสร้างช่องทางการสื่อสาร มีเวทีให้คนเสื้อแดงทุกจังหวัด กระจายข่าวคนเสื้อแดงทั่วโลก โดยจะเคลื่อนไหวจนกว่าจะได้รับชัยชนะ ทั้งนี้ยัง เรียกร้องให้ผู้บัญชาการทหารบกนำสีเขียวถอยออกจาการเมืองไทยเป็นอันดับแรก
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.กล่าวถึงมาตรการการรักษาความปลอดภัยในการที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเข้าแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29 ธ.ค.ว่า จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า กลุ่ม นปช. จะมีการนัดรวมตัวกันตั้งวันที่ 28-30 ธ.ค.ซึ่งยังไม่แน่ชัด ซึ่งตำรวจได้เตรียมกำลังไว้ทั่วบริเวณทั้งภายในรัฐสภาซึ่งมี 8 กองร้อย โดยรอบ 6 กองร้อย และรอบนอกตั้งตรวจ 5 กองร้อย รวม 2,850 นาย
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ทั้งนี้ ตำรวจได้กำหนดโซนชุมนุมให้กลุ่ม นปช. ซึ่งเป็นคนไทยด้วยกัน ไม่น่ามีปัญหา เพราะต่างก็หวังดีกับประเทศชาติ ตำรวจพยายาม พูดคุยเจรจากับแกนนำ ส่วนจะมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่หรือเวลาในการ แถลงนโยบายหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของรัฐบาล แต่หากหลีกเลี่ยงความรุนแรง อหรือเหตุปะทะได้ก็เป็นเรื่องที่ดี