แก๊งความจริงวันนี้เลิกทำตัวเป็นอีแอบ ประกาศเป็นแกนนำ นปช.เคลื่อนไหวล้มรัฐบาลมาร์ค 1 มุกฝืกหยิบประเด็นหนีทหารขึ้นโจมตี ปักธงชุมนุมยืดเยื้อจนกว่ารัฐบาลยุบสภา ปลุกระดมคนเสื้อแดงเดินเกมป่วนบ้านเมือง ดีเดย์วันเปิดสภา ขี้แพ้ชวนตีโวยมั่วฟุตบอลไทยแพ้เพราะนายกฯ ไปดู
วันนี้ (25 ธ.ค.) ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว อดีตผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกอบด้วย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายกอบแก้ว พิกุลทอง แถลงข่าวยืนยันเดินหน้าชุมนุมเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ โดยนายวีระ กล่าวว่า การชุมนุมใหญ่ที่ท้องสนามหลวงวันที่ 28 ธันวาคม ภายใต้ชื่อ “ความจริงวันนี้ ความจริงประเทศไทย ไม่ไว้วางใจอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” จะเริ่มตั้งแต่เวลา 15.00 น. ได้เตรียมการไว้พร้อมแล้ว จึงขอเชิญประชาชนทุกสีเสื้อไปร่วมได้ และยืนยันไม่มีสัญญาณว่าจะมีความรุนแรงจากกลุ่มคนเสื้อแดงตามที่หลายฝ่ายมองว่าน่ากลัว และกระทรวงมหาดไทยสั่งจับตาความเคลื่อนไหวให้รายงานทุก 6 ชั่วโมง
นายวีระ กล่าวต่อว่า การชุมนุมของ นปช.เป็นไปตามสิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 69 ที่ระบุว่า บุคคลมีสิทธิต่อต้านโดยสันติวีธี โดยจะต่อต้านรัฐบาล เนื่องจากเห็นว่าคนที่ไม่ได้รับราชการทหารไม่ควรมาบริหารประเทศเนื่องจากขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 73 ที่ระบุว่าบุคคลมีหน้าที่รับราชการทหาร อีกทั้งในมาตรา 175 ที่เกี่ยวกับการถวายสัตย์ฯ ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะที่จะรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญทุกประการ ดังนั้น การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หนีทหารถือเป็นหนึ่งตัวอย่างที่ นปช.ไม่ไว้วางใจในการบริหารประเทศของรัฐบาล
ด้าน นายจตุพร กล่าวถึงข่าวที่มีความพยายามสกัดกั้นไม่ให้คนมาร่วมชุมนุมว่า ตนนึกถึงคำโบราณที่ว่า “กระจงหลงทาง” เพราะนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เคยเป็นคนเสื้อแดง แต่เมื่อจุดยืนประชาธิปไตยเปลี่ยน ความเป็นเสื้อแดงก็หมดไป ทั้งนี้เชื่อว่ากระบวนการสกัดกั้นไม่มีทางสำเร็จ
“ผมยืนยันจะไม่มีการขนคน และเห็นว่าทหารประเมินพลาด ที่บอกว่าจะมีผู้ชุมนุมเพียง 3,800 คน แม้จะเหลือผู้ชุมนุมเพียง 5 คนก็ยังจะชุมนุม และแม้ว่าบางกลุ่มที่เคยเป็นแนวร่วม นปช.จะประกาศว่าไม่มาเข้าร่วม แต่ก็จะยังมีการชุมนุมอย่างแน่นอน” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวต่อว่า การชี้แจงของคนในรัฐบาลเรื่องการหนีทหารของนายอภิสิทธิ์ ทั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรื่องดังกล่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ซึ่งจะมีการชำแหละเรื่องดังกล่าวในสภาออย่างละเอียด รวมถึงในการชุมนุมวันที่ 28 ธ.ค.ด้วย และท้าให้นายอภิสิทธิ์ชี้แจงในสภา
ส่วนเรื่องที่ฟุตบอลไทยแพ้เวียดนามเมื่อวานนี้ (24 ธ.ค.) เป็นเพราะนายกรัฐมนตรีใส่เสื้อสีเหลือง เบอร์ 27 ไปเชียร์ แพ้เพราะนายกฯ ไปเชียร์ และตนเห็นว่าการที่นายกรัฐมนตรีตั้งนายกษิต ภิรมย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และออกมาพูดเรื่องการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคนไทย และถือว่ามีความผิดที่ไปร่วมชุมนุมกับพันมิตรฯ และต่อให้ขอโทษ ความผิดก็ไม่มีทางหมด เพราะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ยังเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนด้วย
ด้านนายณัฐฒิ กล่าวว่า การชุมนุมเคลื่อนไหวครั้งนี้จะเข้มข้นขึ้นในรูปแบบใหม่ จะต่อสู้เข้มข้นเรื่อยๆ จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย คือรัฐบาลยุบสภา โดยไม่สนใจว่าหลังยุบสภาอำนาจจะอยู่ที่ใคร ส่วนจะชุมนุมยืดเยื้อหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และยังไม่ขอบอกว่าจะเดินขบวนไปปิดล้อมรัฐสภาหรือไม่ แต่มีแนวร่วมเสื้อแดงบางส่วนจะเดินทางไปที่รัฐสภาในวันแถลงนโยบายของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่ใช่วิธีเดียวกับที่พันธมิตรฯ เคยทำโดยเฉพาะความคิดในการบุกยึดทำเนียบรัฐบาล ขณะที่เนื้อหาการปราศรัยจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการหนีทหารของนายกรัฐมนตรี การแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และงบประมาณที่กลุ่มทุนสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเห็นว่าการดำเนินการของนายกรัฐมนตรีเห็นใจผู้ก่อการร้ายมากกว่าประชาชน
นอกจากนี้จะมีการจัดตั้งโครงสร้างของคนเสื้อแดง มีการตั้งทนายความเสื้อแดงเพื่อต่อสู้คดี แพทย์เสื้อแดงดูแลสวัสดิการของประชาชน นักวิชาการเสื้อแดง เป็นที่ปรึกษาแนะนำหลักวิชาการ ขณะที่ต้นปี 2552 จะมีการสร้างช่องทางการสื่อสาร มีเวทีให้คนเสื้อแดงทุกจังหวัด กระจายข่าวคนเสื้อแดงทั่วโลก โดยจะเคลื่อนไหวจนกว่าจะได้รับชัยชนะ ทั้งนี้ยังเรียกร้องให้ผู้บัญชาการทหารบกนำสีเขียวถอยออกจาการเมืองไทยเป็นอันดับแรก
“นายอภิสิทธิ์ไม่สามารถดำรงอยู่ในฐานะนายกฯ ได้เลย เพราะไม่มีความสง่างาม เป็นนายกฯ ที่ต้องเกรงใจกองทัพ คมช. และพันธมิตรฯ มีบารมีน้อยกว่านายเนวิน ชิดชอบ จึงฝากคำถามว่าจะบริหารประเทศได้อย่างไร จะยึดแต่เรื่องแหวนยายเนียมเป็นข้อผูกมัดตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้ นายกฯ ได้ฝาก 9 ข้อให้ ครม. โดยมีเรื่องให้ปฏิบัติตามกฎหมายเดียวกัน แต่ต้องถามว่านายกรัฐมนตรีอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องหนีทหาร” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวไม่ประทับใจหน้าตาคณะรัฐมนตรีใหม่ แต่ประทับใจการทำหน้าที่ของนายบุญจงที่ใช้อำนาจทันทีก่อนแถลงนโยบาย พร้อมเรียกร้องให้นายบุญจงแถลงข่าวความคืบหน้าทุก 6 ชั่วโมงว่ากดดันคนเสื้อแดงถึงไหน หลังจากที่ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรายงานความเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมทุก 6 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ตนขอรายงานนายบุญจงว่า ขณะนี้มีความพยายามโทรศัพท์กดดันชักชวนแกนนำประชาชน นักจัดรายการวิทยุ แนวร่วมคนเสื้อแดงให้ไปพักผ่อนที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. ซึ่งคนที่ดำเนินการชักจูงชื่อ ดิ่ง พร้อมขอให้นายบุญจงไปสอบถามรอบตัวว่ามีเรื่องดังกล่าวจริงหรือไม่