xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” ท้าแกนนำเสื้อแดง ฟ้อง “องคมนตรี” พิสูจน์ความจริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์
โฆษกประจำตัว หน.ปชป.ท้าแกนนำ นปช.ฟ้ององคมนตรี เพื่อพิสูจน์องคมนตรีพูดเป็นความจริงหรือไม่ “นช.แม้ว” ระบุ “แม้ว” อวดรวยเพื่อหวังตีปี๊บดึงแนวร่วมอยู่เคียงข้าง เตือน ปชช.อย่าตกเป็นเครื่องมือกลุ่มหาผลประโยชน์ส่วนตัว อัด “อ๋อย” เสนอสอบเบื้องหลังปฏิวัติแค่หวังประโยชน์ทางการเมือง เชื่อ “แม้ว” คลั่งเดือดแตกหัก 8 เม.ย.ก่อนขอเจรจา


วันนี้ (5 เม.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงกล่าวโจมตี พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี อย่างรุนแรงด้วยถ้อยคำหยาบคาย กรณีที่ออกมาตำหนิพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าไม่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ว่า จะเห็นว่าองคมนตรีทุกคนที่ออกมาแสดงความเห็นที่พาดพิงไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะถูกสมุนลิ่วล้อของ พ.ต.ท.ทักษิณตำหนิอย่างรุนแรง ดูถูกเหยียดหยามตามที่คาดเอาไว้ ซึ่งเป็นเรื่องที่พยายามทำลายความน่าเชื่อถือขององคมนตรีทั้งที่องคมนตรีทั้ง 18 ท่านเป็นบุคคลที่สังคมยอมรับ และเป็นกลางทางการเมือง คำพูดที่ออกมาจากปากของบุคคลเหล่านี้เชื่อถือได้ แต่กลุ่มคนเสื้อแดงพยายามแก้เกี้ยวโดยขู่ว่าจะฟ้องร้อง ในทางกลับกัน ตอนตัวเองขึ้นเวทีพูดจาเสียดสีอย่างเมามันก็ไม่เห็นองคมนตรีคนใดจะฟ้องร้อง แต่พอตัวเองถูกพาดพิงและพูดความจริงที่เกิดขึ้นก็พยายามข่มขู่โดยหยิบรื่องการฟ้องร้องขึ้นมา ซึ่งก็เป็นสิทธิที่จะฟ้องได้ เพราะองคมนตรีก็เป็นบุคคลธรรมดา ไม่มีอำนาจเหนือกฎหมาย ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์ในชั้นศาลว่าข้อกล่าวหาขององคมนตรีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นความจริง

นายเทพไทกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามแสดงให้เห็นว่าตนยังมีศักยภาพให้คนเสื้อแดงเห็นว่ายังมีเงินทองมากพอที่จะสนับสนุนการเคลื่อนไหวด้วยการโชว์เครื่องบินราคา 1,500 ล้านบาท ผ่านสื่อมวลชน รวมถึงการพูดถึงเหมืองทองหลายแสนล้านว่า คงเข้าใจว่ากลุ่มคนที่มาสนับสนุนตนเองเป็นคน 2 ประเภท คือ กลุ่มคนที่เคยได้ประโยชน์จากตนเอง และกลุ่มที่หวังจะได้ประโยชน์จึงต้องตีปี๊บเพื่อเรียกความจงรักภักดี และการสนับสนุนมายังตนเอง เพราะรู้ดีว่าคนเหล่านี้เห็นเงินแล้วจะตาลุกวาวเป็นประกาย ดังนั้น อยากขอเตือนประชาชนว่าอย่าตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มคนเหล่านี้ อย่าเอาความลำบากตากแดดตากฝนมาเป็นฐานให้แกนนำคนเสื้อแดงเหยียบขึ้นไป สร้างความสำเร็จให้กับตนเอง อย่าให้แกนนำเสื้อแดงหากินบนหลังคน

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณพยายามปลุกระดมว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมเป็นหลักแสนเพื่อทำลายสถิติ 14 ตุลา และ 17 พฤษภาคม ตนคิดว่าจำนวนจะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับการจัดการและการโฆษณาชวนเชื่อ เป็นเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณถนัดในเรื่องการทำการตลาดอยู่แล้ว แต่จะมาเท่าไหร่ก็ตามถ้าชุมนุมด้วยความสงบอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายก็จะไม่เป็นปัญหาในการควบคุมความสงบของรัฐบาล ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณพยายามพูดว่าเป้าหมายเพื่อล้มล้างระบอบอำมาตยาธิปไตยนั้น อยากให้สังคมกลับไปดูว่าใครคืออำมาตยาธิไตยตัวจริง ระหว่างประธานองคมนตรี กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งระบอบอำมาตยาธิปไตยคือระบบอุปถัมป์มีการแต่งตั้งข้าราชการ ในยุคที่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ มีการแต่งตั้งญาติพี่น้องจากทหารช่างเป็น ผบ.ทบ. ตั้งน้องเมียเป็นรอง ผบ.ตร.ข้ามหัวคนอื่นหลายคน รวมถึงการแต่งตั้งหมอประจำตัวแม่ยายมาเป็นรัฐมนตรี แทรกแซงสื่อ ซื้อสื่อ ซื้อองค์กรอิสระ ซื้อทุกองค์กร ทั้ง ส.ส. ส.ว. ซึ่งเป็นพฤติกรรมของระบอบอำมาตยาธิปไตยตัวจริง แต่วันนี้กลับพยายามป้ายสีให้คนอื่นว่าเป็นอำมาตยาธิปไตยแต่ตนเองเป็นนักประชาธิปไตย

ส่วนกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง เสนอตั้งคณะกรรมการสอบเบื้องหลังเหตุการปฏิวัติ 19 ก.ย. นายเทพไทกล่าวว่า อยากทราบว่าข้อเสนอดังกล่าวมีวัตถุประสงค์อะไร มีวาระซ่อนเร้นหรือไม่ และหวังผลทางการเมืองอย่างไร เพราะจะไม่มีผลทางกฎหมาย และไม่มีหน่วยงานใดมาตั้งกรรมการสอบกลุ่มคนเหล่านี้ได้ เพราะถูกคุ้มครองโดยรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับปี 49 และ50 มาตรา 309 ดังนั้น หากจะหวังผลในทางปฏิบัติคงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าจะหวังผลทางการเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และข้อเสนอที่ให้มีการเจรจาระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงกับรัฐบาลหลังเทศการสงกรานต์นั้น ตนสงสัยว่าจะมีผลดีต่อประเทศชาติอย่างไร เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณได้ประกาศแตกหักกับรัฐบาล สถาบันองคมนตรี และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคมไทยในวันที่ 8 เม.ย.นี้

“ผมคิดว่าข้อเสนอเรื่องนี้เป็นเพียงให้เห็นว่าคนเหล่านี้ต้องการให้บ้านเมืองพังพินาศก่อนแล้วค่อยมาเจรจากัน ซึ่งตรงกับเป้าหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ต้องการเห็นความรุนแรงเกิดขึ้น แล้วมีคนมาหย่าศึกเพื่อให้ทุกอย่างยุติ คนเหล่านี้มีความกระหายเลือด อยากเห็นเลือดนองแผ่นดิน เพื่อผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น” นายเทพไทกล่าว

นายเทพไทกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณปฏิเสธการเจรจากับรัฐบาลว่า เป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณทราบว่าคนในรัฐบาลถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐโดยตำแหน่ง หากมีการไปพบเพื่อเจรจากันบุคคลเหล่านั้นก็มีสิทธิจับกุมตัว พ.ต.ท.ทักษิณได้ เพราะถ้าปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณลอยนวลไปก็จะมีความผิดในมาตรา 157 ดังนั้น ถ้าจะมีการเจรจาก็ต้องไม่ใช่คนที่มีตำแหน่งในรัฐบาล ซึ่งก็ชอบแล้วที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่เจรจา เพราะถือว่าเป็นสิทธิแต่ก็ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลพยายามหาทางออกด้วยการปรองดองไม่ต้องการความรุนแรง แต่ พ.ต.ท.ทักษิณต่างหากที่ต้องการความรุนแรง

ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช.เรียกร้องให้แสดงหลักฐานว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในประเทศกัมพูชานั้น นายเทพไทกล่าวว่า ถ้านายจตุพรอยากดูร่องรอยให้ไปดูรอยล้อที่สนามบินกรุงพนมเปญว่ามีจริงหรือไม่ ตนไม่สามารถหาร่องรอยอื่นมายืนยันได้ แต่ที่ชัดเจน คือ พ.ต.ท.ทักษิณมาที่กัมพูชาจริง เพียงแต่มาชั่วคราว และสังเกตว่าปกติในช่วงค่ำจะมีการวีดีโอลิ้งค์มายังการชุมนุมที่ทำเนียบ แต่คืนที่ผ่านมากลับงดการวิดีโอลิงก์ที่ทำเนียบ แต่กลับไปโฟนอินที่ จ.อุดรธานีแทน แสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่บนเครื่องบิน และใช้โทรศัพท์มือถือโฟนอินเข้ามา ซึ่งสามารถทำได้ จึงชี้ให้เห็นชัดเจนว่ากำลังเดินทางออกจากกัมพูชาในช่วงเวลานั้นหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น