xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ทอ.ท้าแม้วกลับไทย"มติชน"ขายโฆษณานช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “อภิสิทธิ์” ยังควง รมต.ลงพื้นที่พบประชาชนแม้แก๊งเสื้อแดงป่วน ”เทพเทือก” ใช้ปากแก้ปัญหาฉะ "เพื่อไทย" สมคบเสื้อแดงทำลายชาติ ลูกพรรค ปชป.เปิดประชุมวอร์รูม ใช้วิธีคิดเดิมๆ “แม้ว” โฟนอินถี่สะท้อนความอ่อนแอของพรรคเพื่อไทย สื่อแม้วในคราบ ”มติชน” เปิด 1 หน้าเต็มรับโฆษณา นช.แม้วจ้อผ่านดีทีวี ผบ.ทอ.ท้า “ทักษิณ” ถ้าคิดว่าตัวเองบริสุทธิให้กลับมาสู้คดีในประเทศไทย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปาประทัดยักษ์ใส่ขบวนรถ ของนายสุเทพ เทือกสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ลงพื้นที่ตรวจราชการที่จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ว่า การดำเนินการไม่ได้เจาะจงว่าใครอยู่ฝ่ายไหน ใครก็ตาม ทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ
นายอภิสิทธิ์ ปฏิเสธข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านที่ระบุว่ารัฐบาลลงพื้นที่ตามจังหวัดต่างๆ เพื่อยั่วยุ แต่ไปดูแลความเดือดร้อนของประชาชน และจะมีการประเมินผลและจะดูจังหวะเวลาที่เหมาะว่าจะลงพื้นที่รอบสองเมื่อใด แต่ช่วงเดือน เม.ย.มีวันหยุดมากและมีการประชุมที่ต่างประเทศค่อนข้างเยอะ อาจจะลงพื้นที่อีกครั้งหลังจากนั้น ส่วนในวันที่ 21 มี.ค.นี้ยังยืนยันที่จะไปจ.ชลบุรีเหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่นายกฯบอกว่าลงพื้นที่ เพื่อติดตามนโยบายจะแยกการเมือง ออกมาจากการบริหารได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ไม่ยุ่งการเมือง พวกตนเป็นนักการเมือง อย่างที่ไปจ.ลพบุรีก็ไปเรื่องนโยบายรัฐบาล ไม่ได้พูดเรื่องการเมืองเลย ดังนั้นก็ต้องยืนยันว่าถ้าใครบอกว่ารัฐบาลทำแบบนี้ ไปยั่วยุก็ไม่ใช่ มันเป็นเรื่องการทำงานให้คนทั้งประเทศ ไม่ได้ไปพูดจาหาเสียงหรือไปวิพากษ์วิจารณ์ใครอะไรเลย

*** “มาร์ค”ปิดปากหยุดโต้ “แม้ว”
สำหรับการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปลุกระดมกลุ่มคนเสื้อแดง ให้มาชุมนุมที่ถนนราชดำเนินในวันที่ 29 มี.ค.นั้น นายอภิสิทธิ์ นิ่งสักครู่ก่อนจะกล่าวว่า มีคำถามอื่นไหม เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าที่ไม่ตอบเพราะไม่กังวลหรือไม่สนใจใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ย้ำคำเดิมว่า มีคำถามอื่นอีกไหม
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรี จะหยุดตอบข้อซักถามเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปอีกนานหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีคำถามอื่นอีกไหมครับ
ผู้สื่อข่าวถามถามถึงกรณีที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไปหารือจุดยืนของกลุ่มและจุดยืนสถานการณ์การเมืองที่แอลเอ สหรัฐอเมริกา ในขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาเคลื่อนไหวต่อเนื่อง จะมีผลกระทบต่อการบริหารงานของรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีจุดยืนของตัวเองและสามารถที่จะแสดงออกได้ ตราบเท่าที่ทุกคนใช้สิทธิเสรีภาพอยู่ในขอบเขตก็ไม่เป็นปัญหาอะไร

** คนโยนประทัดยักษ์ไม่ใช่คนรัฐบาล
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องที่ตำรวจ สามารถจับกุม 4 มือปาไข่และขวดน้ำขบวนรถระหว่างเดินทางไปตรวจราชการ ที่จ.ปทุมธานี แต่ได้กำชับกับเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่าหากมีการทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการ ตนจะไม่ไปแทรกแซง
ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่ากรณีการปาประทัดยักษ์เป็นฝีมือของมือที่สามนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่ามีมือที่สาม ส่วนที่นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่ม นปช. อ้างว่าข้าราชการในกระทรวงมหาดไทยเป็นคนทำนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะข้าราชการหญิงที่นายจตุพร ระบุถึงนั้นถูกทำร้ายร่างกายและถูกแย่งกล้องถ่ายรูปไปและยังมีการชกต่อยด้วย

***เสื้อแดงป่วนกลัวลูกพี่หมดโอกาสกลับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการระบุว่าฝ่ายตรงข้ามวางแผนที่จะเผด็จศึกรัฐบาลข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบต้องไปถามคนให้ข่าว แต่เท่าที่สังเกตุพฤติกรรมของพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงพบว่า มีเจตนาที่จะสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง เพื่อต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล เพราะกลัวว่า หากประชาชนและรัฐบาลได้พบกัน ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้นเขาก็ยิ่งจะสูญเสียโอกาสที่จะกลับมามีอำนาจ
“การแสดงออกหรือการชุมนุมทางการเมืองรัฐบาลจะไม่ขัดขวาง แต่ถ้าทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ”
ผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายเสื้อแดงจะใช้มาตรการที่ว่าดิบ ถ่อย เถื่อน ตรงนี้จะทำให้ภาครัฐต้องเตรียมรับมือให้มากกว่าที่เป็นอยู่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เราก็ทำได้ในกรอบของกฎหมายเท่านั้น มันจะดิบ ถ่อย เถื่อนขนาดไหนประชาชนก็คงจะเห็น อย่างที่จ.ปทุมธานี ก็เห็นได้ชัดเจนว่าเขาพยายามยั่วยุ พยายามจะทำให้สถานการณ์มันรุนแรงขึ้น

*** “สุเทพ”โวเป็นเป้าเพราะตั้งรัฐบาลได้
ส่วนนายสุเทพ ถือเป็นเป้าหมายหลักของกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เขาคงเสียใจที่ผมเป็นผู้ประสานงานในการจัดรัฐบาลได้ และช่วยดูแล ประคับประคองให้รัฐบาลได้ดำเนินการต่อไป เขาก็เลยไม่ค่อยชอบใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่ากำลังจะประชุมอาเซียนบวก 3 บวก 6 เดือนหน้า สิ่งที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศและความเชื่อมั่นของต่างชาติที่จะมาร่วมประชุมหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลก็พยายามจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพราะการประชุมอาเซียนก็เป็นประโยชน์กับประเทศไทย ซึ่งกลุ่มเสื้อแดงเขาก็พยายามขัดขวางครั้งที่แล้ว เราก็แก้ปัญหามาได้

*** เชื่อแม้วโฟนอินถี่สะท้อน พท.อ่อนแอ
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณกับเคลื่อนไหวกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ต่างๆ มีเป้าหมายทำสิ่งที่เรียกว่า แอร์วอร์ คือ การสงครามกลางอากาศ สื่อสารข้อมูลผ่านทางข่าว สื่อสารมวลชน ซึ่งเป็นวิธีถนัดที่พ.ต.ท.ทักษิณใช้มาโดยตลอด
ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ต้องใช้พื้นที่สื่อในการชี้แจงอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนเห็นว่า ปัญหาของประเทศวันนี้ ไม่ใช่ปัญหาการเมือง หรือปัญหาความขัดแย้งระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณ กับรัฐบาล แต่เป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องสู้กับวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งตนก็สงสัยว่า ทำไมสื่อมวลชน จึงยังให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณมากนัก แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าคิดว่า เมื่อพ.ต.ท.ทักษิณ เคลื่อนไหวมาก กลับชี้ให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทย หรือฝ่ายค้าน ยิ่งอ่อนแอลงมากยิ่งขึ้นด้วย จนต้องไปอาศัยให้พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาตรวจสอบ แสดงความคิดเห็นวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ผมก็ต้องถามเหมือนกันว่า หลังจากที่ คุณใจ อึ้งภากรณ์ ไปเคลื่อนไหวที่อังกฤษแล้ว ต้องถามว่าคุณทักษิณ กับคุณใจ มีอะไรเชื่อมโยงกันหรือไม่
ส่วนที่ผลโพลระบุว่าประชาชน 70% ติดตามความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า ไม่น่าตกใจ เพราะสื่อมวลชนก็เสนอข่าวอยู่ทุกวัน แล้วในที่สุดข่าวของฝ่ายค้านเองก็หายไป เหลือแต่ข่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ

*** “เทพไท”งัดผลโพลโต้
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามพูดทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลโดยเล็งไปที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและนายกรณ์ จาติกวณิชย์ รมว.คลัง โดยย้ำว่าเด็ก 2 คนและรัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ โดยโฆษณาชวนเชื่อว่าตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้นที่จะแก้ปัญหาได้ แต่ผลสำรวจเอแบคโพลระบุออกมาแล้วว่า ประชาชนไม่เชื่อว่า แม้พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาก็ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ มีเจตนาดีต่อบ้านเมืองตามที่ระบุไว้ก็น่าที่จะยุติพฤติกรรมการทำตัวให้เป็นปัญหาของชาติตั้งแต่บัดนี้
”ถ้าติดตามการโฟนอินของทักษิณที่ จ.จันทบุรีจะเห็นว่ามีการประกาศสู้ทุกรูปแบบ ชาวบ้านเรียกว่าพฤติกรรมของคนเลือดเข้าตา หรือหมาจนตรอก”
นายเทพไท กล่าวว่า สิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณพูดเมื่อคืนวันที่ 15 มี.ค. พยายาม ทวงบุญคุณกับคนทุกกลุ่ม ทั้งข้าราชการที่ตัวเองแต่งตั้งและไม่ปฏิบัติตาม ไม่จงรักภักดีหรือไม่เห็นด้วยกับตัวเองก็ออกมาเปิดโปงที่มาของตำแหน่งข้าราชการบางคน รวมถึงการทวงบุญคุณจากประชาชน
นายเทพไท กล่าวว่าการจัดชุมนุมของคนเสื้อแดง เป็นแผนหนึ่งในแผนตากสิน เพราะมีการจัดเตรียมขั้นตอนการเคลื่อนไหวเป็นแบบแผน ขั้นตอน เช่น มีนายวีระ มุสิกพงษ์ แกนนำ นปช.ทำตัวเป็นคนเชียร์แขก โดยพยายามรายงานสถานการณ์ ให้พ.ต.ท.ทักษิณทราบให้เกิดจินตนาการเห็นว่ามีคนมาร่วมฟังจำนวนมาก ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณหลงใหลเหมือนเอาภาพวาดไปขายคนตาบอดแล้วก็บอกว่า ภาพสวยน่าซื้อ พวกคนเชียร์แขกเหล่านี้จะบอกว่ามีคนมาฟังมาก มีคนคลั่งไคล้มาก ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณลำพองและภูมิใจ จึงสนับสนุนการนัดชุมนุมขึ้นมาอีก

***ปชป.ถกด่วนรับมือแผนตากสิน
รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งว่า วันนี้ (17 มี.ค.) เวลา 10.00 น. คณะกรรมการปฏิบัติการทางการเมือง (วอร์รูม) ที่มีนายชำนิ ศักดิ์เศรษฐ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานฯ เตรียมประชุมเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์การเมือง ในช่วงที่ผ่านมา โดยจะเชิญนายบัญญัติ บรรทัดฐาน รองประธานสภาที่ปรึกษา พรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมเพื่อหารือจะวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ทางการเมือง และความเคลื่อนไหว การขับเคลื่อนทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประกาศแผนใช้แผนตากสิน เพื่อกลับคืนสู่อำนาจตามที่ได้ประกาศอย่างชัดเจนในคืนวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ในการโฟนอินที่สนามกีฬาสามเหลี่ยมทุ่งนาเชย จ.จันทบุรี โดยจะใช้ทุกวิถีทางที่ขับเคลื่อนเพื่อล้มรัฐบาล ทั้งผ่าน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ขับเคลื่อนในสภา และส.ส.พรรคเพื่อไทย บางส่วน รวมถึงแกนนำ นปช.และมวลชนกลุ่มเสื้อแดง ที่มีการเคลื่อนไหวในนอกนอกสภาไปในระนาบเดียวกัน
ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณจะเคลื่อนไหวระดับอินเตอร์โดยซื้อสื่อ และใช้สื่อต่างชาติ ให้ข่าวด้านลบกับประเทศไทยและดิสเครดิตนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีและรัฐบาลในภาพรวม โดยการให้ข่าวตีสองหน้า คือ ให้ข่าวในต่างประเทศมุมหนึ่ง และมาแก้ข่าวต่อสื่อผ่านคนใกล้ชิดและส.ส.พรรคเพื่อไทยอีกมุมหนึ่ง อาทิกรณี ให้ข่าวผ่านหนังสือพิมพ์เจแปน ไทม์ ที่ตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเรื่องการทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษ แต่กลับมาให้โฆษกส่วนตัวแก้ข่าวในประเทศว่า เป็นการเข้าใจผิดของสื่อประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีการตรวจสอบโดยตรงไปยังหนังสือพิมพ์ เจแปน ไทม์แล้ว โดยผู้สื่อข่าวที่สัมภาษณ์กับพ.ต.ท.ทักษิณในเรื่องนี้ได้ยืนยันมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้กล่าวเรื่องนี้ตรง ซึ่งนักข่าวผู้เขียนเรื่องนี้ก็ใช้เครื่องหมายคำพูด ถอดคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณลงตีพิมพ์ตามที่พูด

***มติชนลงโฆษณาให้ทักษิณ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน้าหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน หน้าที่ 21 ฉบับวันที่ 16 มีนาคม 2552 เปิดพื้นที่โฆษณาเต็มหน้าให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างหลบหนีความผิดคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ที่ถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี
โดยหน้าหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ได้เปิดพื้นที่โฆษณาให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ในการปาฐกถาในหัวข้อ วิกฤตเศรษฐกิจโลก ทำไมจึงไม่ใช่เป็นเพียงแค่วิกฤตการเงิน แต่เป็นวิกฤตทางปัญญา โดย ดร.ทักษิณ ชินวัตร ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ สถานีประชาธิปไตย หรือ ดีสเตชั่น
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงเป็นบุคคลที่รัฐบาลต้องการนำตัวมาดำเนินคดี ซึ่งถึงขณะนี้ยังอยู่ในฐานะนักโทษหนีคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ถือเป็นการเหมาะสมหรือไม่ที่สื่อจะเปิดพื้นที่ให้โฆษณาได้

**คนโฆษณาชี้ไม่เหมาะสม
แหล่งข่าววงการโฆษณาให้ความเห็นว่า กรณีนี้น่าจะเป็นการซื้อสื่อโดยตรงของกลุ่มคนระบอบทักษิณ เพราะว่าคงไม่มีเอเจนซี่รายใดที่จะกล้าเข้ามารับงานแบบนี้ เพราะจะถุกโยงไปเป็นปัญหาการเมืองทั้งหมด น่าจะเป็นการซื้อตรงเองของทีมงานมากกว่า แต่ถ้าถามว่าการลงโฆษณาแบบนี้โดยเอา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งยังอยยู่ในฐานะผู้กระทำความผิดตามคำสั่งศาลมาลงโฆษณา ก็ถือว่าเป็นการทำที่ไม่เหมาะสม แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับมุมมองอีกว่าจะมองทางด้านไหน

***ผบ.ทอ.เรียกแม้วกลับไทย
พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. กล่าวว่า การโฟนอินแสดงความคิดเห็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่เราคนไทยคงอยากเห็นว่า ถ้าเสนอแนะเป็นประโยชน์ต่อประเทศเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าการแสดงความคิดเห็นก่อให้เกิดความแตกแยกก็เป็นเรื่องน่าเป็นห่วง
ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินโจมตีพล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข อดีตผบ.ทอ. ในเรื่อง การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า การจัดหาอาวุธต่างๆเป็นการจัดหาทดแทน ไม่ได้จัดหามาให้พิเศษ ทั้งนี้เราต้องปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจที่กองทัพต้องเตรียมกำลัง
พล.อ.อ.อิทธิพร กล่าวว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณควรทำคือกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ถ้าคิดว่าท่านมีความบริสุทธิ์ ท่านควรกลับมาใช้กระบวนการยุติธรรม เพราะกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยเป็นที่เชื่อถือในต่างประเทศ
พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โฟนอินวิจารณ์การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพว่า เราพิจารณา อย่างดีแล้ว เพราะเรามีเจ้าหน้าที่ที่จะพิจารณาตามขั้นตอนและทำตามระเบียบทางราชการ.
กำลังโหลดความคิดเห็น