ผบช.ส.ห่วง "แม้ว"โฟนอินแรงขึ้น เพื่อให้ตัวเองได้กลับประเทศ ระบุถ้าปล่อยไว้ประเทศพังแน่ หลังจากอดีตนายกฯ นักโทษหนีคดีใช้กลยุทธโฟนอินรายวันปลูกม็อบรากหญ้า ใช้มุกเดิมอ้างห่วงคนไทยประสบภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำลงเรื่อยๆ อ้อนถูกใส่ร้ายจนต้องออกมาตะเวนต่างแดนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้กลับประเทศ
ที่วัดบำเพ็ญเหนือ ย่านมีนบุรี วันที่ 15 มี.ค. พรรคเพื่อไทยจัดงาน เพื่อไทยพบประชาชน โดยมีแกนนำ อาทิ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. เข้าร่วม ซึ่งงานนี้ได้เปิดให้ประชาชนสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมจัดโต๊ะรับสมาชิกพรรค และจัดจำหน่ายสินค้าราคาถูก โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางมาร่วมงานพอสมควร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างแกนนำพรรคร่วมกันแถลงถึงงานดังกล่าว ปรากฏว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้โฟนอินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ นายวิชาญ ประมาณ 5 นาที โดยกล่าว ขอบคุณชาวมีนบุรี คลองสามวา ที่ยังรักษา ส.ส. 2 คนของพรรคเอาไว้ แต่ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ก็เป็นห่วงประเทศไทยมาก ตนอยู่ต่างประเทศเห็นเศรษฐกิจ ไม่ดีและกำลังรุกลามอีกไม่นานก็คงเข้าเอเชีย
"ตอนนี้ผมก็ยังตระเวนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้กลับบ้าน ก็ไม่รู้ว่าพี่น้องจะว่าอย่างไร แต่ตอนนี้ความจริงได้ปรากฎแล้วว่าพวกเราเป็นแค่คนที่อยู่บนหลักความเป็ยธรรม หลักความยุติธรรม หลักประชาธิปไตยและหลักของการทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนในกรุงเทพฯและทั่วประเทศ แต่ว่าบางทีพวกเราก็อาจจะได้รับการกระทำอย่างรุนแรงที่ผ่านมาทั้งๆ ที่พวกเราทำงานหนักและได้รับความนิยมสูง จนผมเองได้รับการใส่ร้ายป้ายมีอย่างมากมาย แต่เราท้อถอยไม่ได้ เพราะไม่อย่างนั้นประเทศจะถอยหลัง
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวขอขอบคุณ ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกคน ที่ยังยืนหยัดอยู่กับพรรคและไม่ทิ้งตน และคอยดูแลพี่น้องประชาชนต่อเพื่อให้ตนได้มีโอกาสกลับมารับใช้พี่น้องอีกครั้ง ซึ่งคิดว่าแกนนำพรรคเพื่อไทยและพี่น้องประชาชนจะสนับสนุน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ต่อไป เพราะคนเหล่านี้เป็นคนที่จะต่อสู้เพื่อให้ตนได้รับความยุติธรรมและให้ประชาชนได้อยู่ในกรอบของประชาธิปไตยที่แท้จริง เพื่อที่จะให้นักการเมืองเป็นนักการเมืองที่รับใช้ประชาชนอย่างแท้จริงก็ขอฝากพรรคเพื่อไทย และพรรคพวกทุกคนที่ไม่ทิ้งตนและพี่น้องประชาชน
นายวิชาญ อ้างว่า ไม่ได้เตรียมการมาก่อนในเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะโฟนอินเข้ามา แต่หลายวันก่อนได้โทรศัพท์ไปหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงแนวทาง การทำงานที่เป็นประโยชน์กับประชาชน และบังเอิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ทราบว่าจะมีการจัดงานขึ้น จึงขอโทรศัพท์เข้ามาพูดคุยกับประชาชน
วันเดียวกัน กลุ่มเสื้อแดงเมืองจันทร์รักษ์ประชาธิปไตย นำโดยนายสำเริง ประจำเรือ สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานกลุ่มฯ จัดงานชุมนุมคนเสื้อแดง โดยมี นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช. นายจตุพร พรหมพันธ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจักรภพ เพ็ญแข เข้าร่วม ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โฟนอินเข้ามาพูดคุยกับผู้ชุมนุมด้วย
พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) กล่าวว่า
จากการประเมินพบว่ากลุ่ม นปช.หรือคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวเข้มข้นขึ้น ในการปลุกเร้าประชาชน ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังโฟนอินถี่ขึ้น และรุนแรงขึ้น โดยเนื้อหาจะหยิบยกเรื่องเศรษฐกิจมาเป็นประเด็นโจมตีรัฐบาลเพื่อลดความเชื่อมั่นพร้อมทั้งกระตุ้นให้ประชาชนที่ประสบปัญหาให้เข้าใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้
พล.ต.ท.ธีระเดช กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจสันติบาล ได้ดำเนินการคือ ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลการชุมนุม และดูแลเนื้อหาการปราศรัยและการโฟนอินแล้วนำมาวิเคราะห์ว่าเข้าข่ายหมิ่นสถาบันหรือไม่ หากมีการละเมิดก็ต้องดำเนินคดี
"สถานการณ์ในขณะนี้ผมเป็นห่วงเพราะฝ่ายอดีตนายกฯพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้กลับมาประเทศไทย หากปล่อยให้เหตุการณ์เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศ ทั้งนี้เห็นว่าทุกฝ่ายน่าจะพยายามลดเงื่อนไข ที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง โดยเฉพาะในส่วนของแกนนำซึ่งถือว่าเป็นจุดสำคัญในการ ปลุกระดม โดยน่าจะคำนึงถึงผลประโยชน์และอนาคตของประเทศชาติเป็นหลัก"
