xs
xsm
sm
md
lg

เฉลิมหักแกนนำพท.แอบดันซักฟอกรัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (10 ก.พ.) มีการประชุมพรรคเพื่อไทย ระหว่างการประชุมนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลง ว่า ที่ประชุมไม่ได้พิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคตามที่เป็นข่าว เพราะตามระเบียบ กกต.และพ.ร.บ.พรรคการเมืองนั้น การเลือกหัวหน้าพรรคต้องทำโดยเรียกประชุมใหญ่สมัยสามัญหรือสมัยวิสามัญของพรรค การเลือกตั้งหัวหน้าพรรค คงไม่เกิดขึ้นในเวลาอันใกล้นี้อย่างแน่นอน โดยบุคคลที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคนั้นต้องเป็นคนที่ประชาชนยอมรับ ศรัทธา และสามารถขึ้นเป็นนายกฯเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศชาติได้ ทั้งนี้แม้ไม่ได้เปลี่ยนหัวหน้าพรรค ฝ่ายค้านก็ยังสามารถยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้การยื่นอภิปรายรัฐบาลทั้งคณะต้องยื่นชื่อส.ส.ที่มีความเหมาะสมเสนอขึ้นเป็นนายกฯ ส่วนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ว้าวางใจนั้นจะยื่นในช่วงที่รัฐบาลไม่สามารถบริหารประเทศชาติได้ หรือมีเสียงเรียกร้องจากประชาชนให้เปลี่ยนแปลงรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และประธานส.ส.พรรค ระบุว่าจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 11-12 มี.ค. นายปลอดประสพ กล่าวว่า ในที่ประชุมไม่ได้หารือถึงเรื่องนี้ และขณะนี้ข้อมูลยังไม่มากเพียงพอที่จะยื่นญัตติอภิปรายได้ ส่วนภายในพรรคมีความขัดแย้งกันเรื่องนี้หรือไม่ นายปลอดประสพ กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะช่วงที่ลงมาแถลงข่าวนั้นได้ให้ร.ต.อ.เฉลิมทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมแทน ขอให้เชื่อตนในฐานะที่เป็นรองหัวหน้าพรรคที่เป็นผู้ที่มีอำนาจ ขอยืนยันว่าไม่มี แต่ความขัดแย้งจะนำไปสู่ความเห็นของคนส่วนใหญ่ และเราตั้งใจทำพรรคเพื่อไทยให้เป็นของทุกคน
ผู้สื่อข่าวถามว่ากำหนดวันเวลาที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือยัง นายปลอดประสพ กล่าวว่า ไม่ใช่โปรแกรมภาพยนตร์ ถ้าจะอภิปรายไม่ไว้วางใจจะต้องมีข้อเท็จจริงก่อนจึงขอมติที่ประชุมพรรค
ต่อมาเวลา 17.30 น. หลังการประชุมพรรรค ร.ต.อ.เฉลิม ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงที่นายปลอดประสพ ลงมาแถลงข่าวนั้น ตนได้เสนอต่อที่ประชุมให้พิจารณาถึงหลักฐานและพยานที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยที่ประชุมมีมติในหลักการ ให้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 11 มี.ค. และจะมีการยื่นถอดถอนนายอภิสิทธิ์ก่อนที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย ส่วนรองนายกฯและรัฐมนตรีคนอื่นนั้น ได้มอบหมายให้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูล
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะถอดถอนนายอภิสิทธิ์ในประเด็นร่ำรวยผิดปกติ มีพฤติกรรม ทุจริต หรือทำผิดกฎหมาย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไปบอกเขาร่ำรวยผิดปกติได้อย่างไร ส่วนจะเสนอชื่อใครเป็นนายกฯพร้อมกับการยื่นญัตติอภิปรายนายกฯนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ส.ส.ในพรรคมี 187 คน สามารถเป็นได้ทุกคน เมื่อถามว่า หวังผลแค่ไหนกับการอภิปรายครั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ต้องรอฟัง ตนจะเป็นคนเปิดอภิปรายและอภิปรายนายอภิสิทธิ์ สมมติว่าอภิปรายรัฐมนตรี 4 คนตนก็จะต้องอภิปรายถึงด้วย พูดไปเดี๋ยวหาว่าขู่ ไม่มีขู่ ทุบเลย ส่วนระยะเวลาอภิปรายนั้น เท่าที่คุยเอาสั้นๆ อาจไม่ถึงวัน ไม่พูดใช้โวหาร เพราะข้อมูลไม่โหลยโท่ย ข้อมูลดีกว่าสมัยอภิปรายสปก. 4-01 ด้วยซ้ำ
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า หลังจากร.ต.อ.เฉลิม นำเสนอข้อมูลและพยานที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรีแล้ว ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ที่จะยื่นอภิปรายนายกฯและรัฐมนตรีอีกหลายท่าน รวมถึงกรณี นายวิฑูรย์ นามบุตร อดีตรมว.พัฒนาสังคมฯ ในประเด็นปลากระป๋องเน่าด้วย แม้จะลาออกไปซึ่งดูเป็นการตัดตอนและส่อทุจริต แต่นายอิสสระ สมชัย รมว.พัฒนาสังคมฯ คนใหม่ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วย คาดว่าหลังยื่นญัตติแล้วจะได้อภิปรายในช่วงวันที่ 25-26 มี.ค.
รายงานข่าวแจ้งว่าหลักฐานที่ ร.ต.อ.เฉลิม เสนอต่อที่ประชุมเพื่อเปิดอภิปราย ไม่ไว้วางใจคือ กรณีที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้บริหารบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด บริจาคเงิน 250 ล้านบาทให้กับพรรคประชาธิปัตย์เมื่อปี 2547-2548 ซึ่งใช้วิธี โอนเงินผ่านบริษัท เมซไซอะบิซิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด โดยมีการโอนเงินครั้งละ 1.8-1.9 ล้านบาท เพื่อป้องกัน ปปง. ตรวจสอบ และบริษัทเมซไซอะบิซิเนสฯ ได้โอนเงินเข้าบัญชีญาติพี่น้องและคนใกล้ชิดของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์
สำหรับหลักฐานเด็ดที่ร.ต.อ. เฉลิมจะนำมาเป็นไม้ตาย โดยได้กล่าวกับสื่อมวลชนไว้ว่า กำลังรอเพียงเอกสารสำคัญใบเดียวนั้น น่าจะเป็นเอกสารทางราชการ ที่ระบุชัดเจนว่า กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์รับรู้หรือมีส่วนในการโอนเงินครั้งนี้ เมื่อรวมกับกรณีที่ส.ส.หญิงคนหนึ่งในพรรคประชาธิปัตย์ ไซฟ่อนเงินในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อนำเงินมาสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์นั้น น่าจะส่งผลให้มีการนำเรื่องนี้ขึ้น สู่ศาลรัฐธรรมนูญจนอาจจะส่งผลให้นำไปสู่การยุบพรรคประชาธิปัตย์ได้
ร.ต.อ.เฉลิม ระบุต่อที่ประชุมด้วยว่า เงินถูกโอนไปสู่ใครบ้าง ตอนนี้มีใบเสร็จ มีหลักฐานในมือเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลนี้มั่นใจกว่าข้อมูลสมัยอภิปรายสปก. 4-01 อีก ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่ยกมือสนับสนุน
กำลังโหลดความคิดเห็น