xs
xsm
sm
md
lg

พท.อัดประชานิยมปชป.อ้างไม่สอดคล้องปัจจุบัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ที่โรงแรมกรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา วานนี้ (3 ก.พ.) มีการสัมมนาส.ส.พรรคเพื่อไทยเป็นวันที่ 2 หลังการสัมมนา ด้าน นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่าในการสัมมนาได้วางยุทธศาตร์ ยุทธวิธีการทำงาสของพรรคทั้งในฐานะฝ่ายค้านและเตรียมการเลือกตั้งสมัยหน้า โดยการสัมมนาจะจัดเป็นรูปเล่มก่อนแจกให้สมาชิก นำไปใช้ประโยชน์ และมีแถลงการณ์ เขาใหญ่ ซึ่งถือเป็นจุดยืนของพรรคเพื่อไทย 9 ข้อ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เห็นแถลงการณ์ดังกล่าวแล้วและได้ช่วยแก้ไขให้ด้วย โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับประชาชนในชนบท
สำหรับแถลงการณ์เขาใหญ่ 9 ข้อมีดังนี้ 1.พรรคเพื่อไทยเทอดทูนและธำรงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย 2.จะปกป้องระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 3.จะทำหน้าที่สถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็งเพื่อต่อสู้ให้ได้มาและรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่เคารพการตัดสินใจของประชาชน 4. จะยึดมั่นในนิติรัฐ หลักนิติธรรม ความเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด 5. จะต่อสู้เพื่อให้คนไทยทุกคนให้เข้าถึงและได้รับความยุติธรรมอย่างเสมอหน้ากัน
6. จะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเสรีที่เป็นธรรม และน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักชัย ทั้งนี้โดยตระหนักว่าประชาชนชาวชนบท หรือคนรากหญ้าสมควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ 7. จะยึดมั่นเอาความสุขของประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุด โดยมุ่งขจัดความยากจน โดยใช้หลักการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาสให้กับประชาชนเป็นธงนำในการทำงาน 8. จะทำให้คนไทยทุกคนมีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ และทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก และ9. จะใช้ระบบเศรษฐกิจ 2 แนวทางขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กัน กล่าวคือ การส่งเสริมและเร่งรัดการส่งออกที่แข่งขันได้ ดึงดูดการลงทุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจรากหญ้า หรือเศรษฐกิจชนบทให้เข้มแข็ง เพื่อเป็นฐานอันมั่นคงของระบบเศรษฐกิจในองค์รวม
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงในฐานะประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงว่าจากการสัมมนาของพรรคในประเด็นเรื่องเศรษฐกิจที่รัฐบาลนำแนวทางประชานิยมของรัฐบาลพรรคพรรคไทยรักไทยมาใช้พบว่าเป็นการแจกเงินให้กับประชาชน โดยไม่ได้เน้น การแจกงาน สร้างอาชีพ จนวันนี้รัฐบาลเองก็ไม่มั่นใจกับวิธีการของตัวเองว่าจะได้ผล เหมือนรัฐบาลในอดีตทำไว้หรือไม่ เช่นการกู้เงินแสนล้านเพื่อมาแจกให้คนสองแสนคน ทำให้ประชาชนเกิดหนี้ 2 พันบาทต่อคน และไม่คิดว่าประชาชนที่เหลือใน 63 ล้านคน จะได้รับความเดือดร้อน แสดงให้เห็นว่าการนำประชานิยมของพ.ต.ท.ทักษิณ มาใช้ อย่างผิดหลักการ
ส่วนการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตนั้น สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนทุกหมู่เหล่า ส่งผลให้สินค้าอุปโภค บริโภคแพงขึ้นโดยที่รัฐบาลไม่ลำดับความจำเป็นเร่งด่วน ไม่ดำเนินการแผนบริหารราชการให้สอดคล้องกับแผนบริหารพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 ที่ให้ยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง วิธีการที่รัฐบาลพยายามนำมาใช้นั้นสะเปะสะปะและเป็นไปอย่างฟุ่มเฟือย ไร้ทิศทาง
นอกจากนี้รัฐบาลยังบริหารราชการไม่เป็นไปตามประกาศไว้ในการยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือกรณีที่ครม.มีมติเห็นชอบ หลักการร่าง พ.ร.บ.ควบคุมความปลอดภัยสนามบิน ไม่อยากกล่าวหาว่า เป็นการ หาทางลงให้กลุ่มพันธมิตรฯที่บุกยึดสนามบิน ทำให้โทษเบาลง ซึ่งเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวก็เป็นไปอย่างไม่ถูกต้อง มีการใช้อำนาจเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานฯในลักษณะคล้ายเจ้าพนักงาน ทั้งที่ในความเป็นจริงไม่สามารถทำได้ จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า กฎหมายจะไม่ได้รับความเชื่อถือจากทั่วโลก เพราะขณะที่คนกระทำผิดเข้าข่าย การก่อการร้ายยังไม่ได้รับโทษตามที่สมควรจะเป็น
พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเห็นว่าเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในปีนี้และปีหน้า ประกอบกับภาวะเงินคงคลังที่เหลือเพียง 5 หมื่นกว่าล้านบาท รัฐบาลจำเป็นต้องใช้งบประมาณอย่างประหยัด มีประสิทธิภาพ พรรคเพื่อไทยเห็นว่านโยบายประชานิยมของรัฐบาลนั้นไม่มีประสิทธภาพและไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เกาไม่ถูกที่คัน ไม่มีการวางแผนที่ดี น่าจะนำงบประมาณไปสร้างวิธีลดรายจ่าย และ สร้างรายได้ให้ประชาชน ประคับประคองบริษัทห้างร้าน ทำให้ภาวะการว่างงานน้อยที่สุด รวมทั้งนำไปฟื้นฟูการท่องเที่ยวที่ทรุดตัวลงไป 30 % เรียกความเชื่อมั่นจากชาวต่างชาติกลับคืนมาดีกว่า วันนี้รัฐบาลต้องคิดถึงการหารายได้ให้เกิดสภาพคล่องด้วย
นายพร้องพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นโยบายแจกเงิน 2,000 บาทของรัฐบาลนั้น ไม่รู้ว่าจะได้เมื่อใด ซึ่งก็จะไม่ได้รับอย่างทั่วถึง ขณะที่การขึ้นภาษีน้ำมันของรัฐบาลนั้นประชาชนได้รับผลกระทบถ้วนหน้าทั้ง 63 ล้านคน ต้นทุนค่าขนส่งจะมีผลต่อราคาสินค้า ทั้งหมด เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของ ครม.วันนี้พรรคเพื่อไทยกำลังหาข้อมูล ในเชิงลึกเนื่องจากทราบว่าการขึ้นภาษีน้ำมันดังกล่าวมีวาระซ่อนเร้น ได้รับการผลักดันจากส.ส.ภาคใต้พรรคประชาธิปัตย์ อยู่แถบฝั่งอันดามัน สุราษฎร์ธานี และรอยต่อที่ติดกับประเทศมาเลเซีย
ด้านร.ต.ท.เชาวริน ลักธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการสัมมนาส.ส. อดีตส.ส. และว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรค มีการสรุปประเด็นปัญหาการเมือง เห็นว่าแผนบันได 4 ขั้นของคมช.สำเร็จลุล่วงไปแล้ว จนมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลที่นำโดยพรรคประชาธิปัตย์ และส่งผลกระทบต่อการเมืองในประเทศไทย ตัวจักรสำคัญอันหนึ่งก็คือรัฐธรรมนูญ ปี 2550 วันนี้ใครมาเป็นรัฐบาลก็บบริหารลำบาก ฉะนั้นในฐานะที่เป็นพรรคการเมือง ก็อยากจะเชิญชวนทุกพรรคการเมืองทั่วประเทศร่วมกันทำประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง โดยร่วมกันผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะทราบดีว่าลำพังพรรคเพื่อไทย พรรคเดียวคงจะทำเรื่องนี้ได้ยาก
พ.อ.อภิวันท์ กล่าวเสริมว่า แผนบันได 4 ขั้นของคมช.ที่ผลักดันจนทำให้ พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลได้สำเร็จนั้น มีต้นทุนมหาศาล ถึงขนาดที่ว่า การก่อการร้ายสากลกลายเป็นสิ่งดีงาม เกิดภาวะความขัดแย้งอย่างรุนแรง กลายเป็นกลุ่มคนเสื้อเหลืองเสื้อแดงทั้งๆที่เป็นคนไทยด้วยกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น