xs
xsm
sm
md
lg

“ทนง” สุมหัวแก๊งไข่แม้วถล่ม ปชป.โชว์โวหารอัดมาตรการกระตุ้น ศก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ทนง” กัดแหลก! หลังบิ๊ก ปชป.เขี่ยทิ้ง หมดโอกาสคัมแบ็ก “ปธ.การบินไทย” ร่วมสุมหัว “แก๊งไข่แม้ว” เปิดเวทีใหญ่เป่าหูปลุกระดมรากหญ้า เปิดฉากถล่มรัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ออก เพราะผูกปมจากการฆ่าคนอื่นจนต้องฆ่าตัวเอง อัดประชานิยม ปชป.สุดโต่ง-เกาไม่ถูกที่คัน เพราะเป็นช่วง ศก.ขาลง ต่างจากยุคเทวดาแม้ว ทำนายอีก 4 ปี อาจต้องเผชิญวิกฤตหนัก พร้อมคาด ศก.ไตรมาสแรกปีนี้ติดลบ

นายทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่างการสัมมนาของพรรคเพื่อไทย วันนี้ ในหัวข้อ “อุดมการณ์และแนวทางสู่ความสำเร็จของพรรคด้านเศรษฐกิจ” โดยแสดงความเป็นห่วงต่อการดำเนินนโยบายประชานิยมของพรรคประชาธิปัตย์ มองว่า เป็นการแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด เพราะเป็นการนำนโยบายประชานิยมของรัฐบาลชุดที่แล้วมาใช้ในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากปัจจุบันไทยอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจขาลง ไม่ใช่ขาขึ้นเหมือนรัฐบาลชุดก่อน

นายทนง กล่าวเสริมว่า รัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ออก ผูกปมจากการฆ่าคนอื่นจนต้องฆ่าตัวเอง เศรษฐกิจไทยมีความผิดพลาดหลายด้าน โดยมองว่าการใช้ประชานิยมสุดขั้ววันนี้เป็นการเกาไม่ถูกที่คัน เพราะถ้าไม่มีกลยุทธ์แก้ปัญหาแบบองค์รวมแล้วรัฐบาลคงเหนื่อยถ้าเศรษฐกิจไม่ฟื้น และการใช้ประชานิยมในช่วงเศรษฐกิจขาลงคงไม่ได้ผล

“เริ่มต้นรัฐบาลนี้ก็บอกว่า เบิ้ลประชานิยมไปเลย แต่ไม่ได้คิดว่าทำอย่างไรถึงจะต้องเบิ้ล ขอให้เข้าใจว่า จุดที่เสียหายจากเศรษฐกิจมันมาจากนอกประเทศ กระทบต่อตลาดทุน และการส่งออกของเรา ความสามารถในการบริโภคของเราลดลงหรือไม่ มันยังไม่ได้ลด เงินเดือนของเรายังเท่าเดิม การไปเบิ้ลเฉยๆ ไม่ช่วยอะไร มันแย่มากๆ ทำไมให้เขา เชื่อว่าชาวบ้านไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไรแน่ ประชานิยมขาลงตอนนี้มันเพิ่มผลผลิตไม่ได้ เพราะผลผลิตยังเหลืออยู่”

นายทนง ยังมองว่า เศรษฐกิจไทยอาจจะติดลบไปตลอดทั้ง 2 ไตรมาสของปีนี้ และครึ่งหลังอาจจะโตเพียง 1-2% ซึ่งทั้งปีจีดีพีโตได้ 1% ก็ถือว่าดีแล้ว ในภาวะที่การลงทุนไม่มีเช่นนี้ เพราะเศรษฐกิจไทยในช่วงขาลงที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย การส่งออก การนำเข้า สภาพคล่องที่หดหาย การว่างงานเพิ่มขึ้น ดังนั้น หากจะหวังกระตุ้นการลงทุนก็ยังไม่มั่นใจนัก ขณะที่เศรษฐกิจต่างประเทศต่างเป็นขาลงเช่นกัน การที่ไทยจะเข้าไปแย่งตลาดอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย

“เศรษฐกิจคงติดลบอีก 2 ไตรมาส โงหัวไม่ขึ้น ครึ่งปีหลังคงไม่ติดลบ หมายความว่า ขึ้นไม่มาก แค่ 1-2% ไตรมาสสุดท้ายอาจ 3% สุดท้ายทั้งปีโต 1% ก็เก่งแล้ว การลงทุนไม่มี การอัดฉีดรัฐบาลก็ไม่ใช่หาเงินง่ายๆ ใส่ไป 1 แสน 1 หมื่นล้าน เงินคงคลังหายไปอีก ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะหาเงินเป็นหรือไม่”

ด้าน นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต แสดงความเห็นว่า นโยบายประชานิยมที่แต่ละพรรคการเมืองต้องการดำเนินการเพื่อเอาใจประชาชน ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง เว้นแต่จะมีการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ด้วยการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในภาคการผลิต

นายอนุสรณ์ กล่าวเสริมว่า วิกฤตคลังในปี 2553-2554 มีโอกาสเกิดขึ้นสูง และไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคเพื่อไทย มาบริหารประเทศขณะนี้ก็จะเผชิญปัญหา ดังนั้น การดำเนินนโยบายประชานิยม ไม่ใช่เพียงแต่แจกเงินอย่างเดียว แต่ต้องให้ความรู้ด้วย เพราะประชานิยมที่ดี คือ การเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงปัจจัยการผลิต และการบริการของรัฐ

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ในการสัมมนาครั้งนี้ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เดินทางเข้าร่วมด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น